ออก จาก งาน มา ขาย ของ

ออก จาก งาน มา ขาย ของ

เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Nadol_K สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          มนุษย์เงินเดือนที่ทำงานหนักมาเนิ่นนาน มีหลายคนที่ถึงจุดอิ่มตัวและรู้สึกอยากจะออกไปตามหาฝันด้วยการทำกิจการของตัวเอง ถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นความฝันอันดับต้น ๆ ของมนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย แต่ด้วยความเสี่ยงที่มี ความไม่มั่นใจ และไม่กล้าพอที่จะลงทุน ทำหลายคนยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปและปล่อยความฝันเอาไว้อย่างนั้น

          ซึ่งวันนี้ คุณ Nadol_K สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ยินดีที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวของการตามหาฝัน เขาตัดสินใจโบกมือลาชีวิตมนุษย์เงินเดือน และก้าวเข้าสู่เจ้าของกิจการร้านเสื้อผ้าอย่างเต็มตัว โดยใช้เงินลงทุนจากเงินเดือนเดือนสุดท้าย เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันค่ะ

ลาออกจากชีวิตมนุษย์เงินเดือน มาเปิดร้านของตัวเอง ด้วยเงินเดือน เดือนสุดท้าย โดย คุณ Nadol_K

          สวัสดีครับ ตอนนี้ผมเปิดร้านขายเสื้อผ้ามาได้ 1 ปีแล้ว แค่อยากมาเล่าให้ฟังว่า 1 ปีที่ผ่านมาผมทำอะไรไปบ้าง เผื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่อยากมีร้านเป็นของตัวเองนะครับ

          ผมเป็นคนนึงที่มีความใฝ่ฝันที่อยากจะมีร้านเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง มีแบรนด์เป็นของตัวเอง พยายามจะเปิดร้านเล็ก ๆ หลายครั้งกับเพื่อน แต่ ล้มเหลวทุกที ผมไม่ว่างบ้าง เพื่อนไม่ว่างบ้าง เนื่องจากต่างคนต่างมีงานประจำเป็นของตัวเอง

          อ้อ ผมลืมบอกไปว่า ผมจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง งั้นเริ่มเล่าตั้งแต่ เพิ่งจบมาเลยแล้วกันนะครับ

          ผมจบมายังไม่ได้ทันทำเรื่องจบเสร็จ ก็ได้งานทำทันที เป็นงานด้านเขียนโปรแกรม ซึ่งเป็นงานที่ตรงสายกับผมมาก ผมเรียนมาทางด้านนี้โดยตรง เงินเดือนที่ทำตอนจบมาใหม่ ๆ ได้ประมาณ 18,XXX บาท ผมทำงานมาเกือบ 1 ปี เงินเดือนผมขึ้นมาเป็น 21,XXX บาท ก็ถือว่าขึ้นไวนะ แต่ตลอดเวลาที่ผมทำงานอยู่ ผมคิดเสมอว่าอยากเปิดร้านเสื้อผ้าเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง เป็นงานอดิเรก พยายามหาแนวร่วม ชวนเพื่อนมาทำ เพราะผมคนเดียว ไม่มีเงินทุนแน่ ๆ

          หลังจากที่ผมทำงานมาได้ประมาน 1 ปีกว่า ๆ ผมก็ตัดสินใจลาออก ด้วยเหตุผลที่ผมคิดว่างานที่ผมทำอยู่ไม่เหมาะกับผม จริง ๆ แล้ว ผมเป็นคนที่แต่งตัวในระดับ 1 ไม่ได้จัดอะไรมาก แต่ก็ถือว่าชอบแต่งตัว แต่ 1 ปีที่ผ่านมา ผมว่าผมอยู่แต่หน้าคอม นั่งเขียนโค้ดทั้งวันทั้งคืน มันเริ่มไม่ใช่ผมละ เลยตัดสินใจออกมาเพื่อเปิดร้าน แต่ประเด็นคือ ไม่มีเงิน

          ตอนลาออกมาโดนด่ากระจาย ทุกคนถามเหมือนกัน คำถามเดิม ๆ ว่า ลาออกทำไม ทำงานประจำก็ดีอยู่แล้ว บลา ๆ ๆ เยอะมากกกก เบื่อตอบคำถามมาก ระหว่างรอเวลาถึงสิ้นเดือนที่เราจะต้องออกจากบริษัท ผมก็หาร้าน ทำเลที่คิดว่ามันโอเคกับผม คือไม่ต้องเก็บร้านเยอะ ใกล้บ้าน ผมเลยได้มาเปิดที่เอเชียทีค เพราะใกล้บ้านสุดละ ป.ล.บ้านผมอยู่ฝั่งธนฯ

          ผมมีเงินก้อนสุดท้ายคือเงินเดือน 21,XXX บาท ตอนนี้เครียดมากจะเอาเงินจากไหนมาเปิดร้าน ไม่บ้านี่ทำไม่ได้จริง ๆ นะ ลาออกมาลอยคอตัวเอง แต่ให้กลับไปทำงานก็ไม่เอาแล้ว ก็เลยเริ่มจากหยิบยืม จากคนที่รู้จักที่จะพอช่วยเราได้ รวม ๆ ได้ประมา 5 หมื่น รวมของผมไปก็ 7 หมื่น ถือเป็นทุนเปิดร้านที่โคตรน้อยอะ

          ตอนนั้นผมเช่าช่วงร้านต่อจากพี่อีกคนนึงที่ผมติดต่อไว้ในราคา 15,000 บาท ตอนไปคุย จะจ่ายเงิน ขอต่อ พี่เขาเหลือ 12,000 บาท

          ผมต้องเอาเงิน จ่ายค่ามัดจำ 2 เดือน และ ล่วงหน้า 1 เดือน รวม 36,000 บาท

          เท่ากับผมเหลือเงิน 70,000 - 36,000 = 34,000 บาท

          ผมโชคดีมากที่ร้านเดิมเค้าปูพื้นไว้ให้ดี และมีชั้นมาให้ สีผนังก้เป็นสีขาวพื้น ๆ สะอาดตา ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเลย ลดตั้นทุนในการตกแต่งร้านไป

ออก จาก งาน มา ขาย ของ

ออก จาก งาน มา ขาย ของ

         

ออก จาก งาน มา ขาย ของ
 ร้านวันแรกที่มาทำความสะอาด

ออก จาก งาน มา ขาย ของ

          

ออก จาก งาน มา ขาย ของ
 ผมทำทุกอย่างเองหมด ทั้งทาสีเจาะผนัง ทุกอย่างไม่ได้ข้างช่างเลย มีแต่เพื่อน ๆ พี่ ๆ มาช่วยกัน

ออก จาก งาน มา ขาย ของ

ออก จาก งาน มา ขาย ของ

          

ออก จาก งาน มา ขาย ของ
 เงินที่เหลือก็เอาไปซื้อเสื้อผ้ามาขาย นี่คือภาพร้านวันแรกที่มีของมาลง

ออก จาก งาน มา ขาย ของ

          

ออก จาก งาน มา ขาย ของ
 ผมทำป้ายร้านเองด้วยนะ ทาสีเอง ถ้ามาดูใกล้ ๆ นี่ จะเป็น เป็น texture สีที่ไม่มีความเท่ากันโดยสิ้นเชิงเลย 555

ออก จาก งาน มา ขาย ของ

          

ออก จาก งาน มา ขาย ของ
 ผมซื้อมาขายไป ช่วงแรก ๆ ช่วงนี้ผมใช้เงินแบบประหยัดมากกกกก เพราะไม่เคยค้าขาย ไม่รู้จะต้องเก็บเงินแบ่งยังไง อะไรยังไง พอขายได้ก็เอาเงินไปซื้อของมาเพิ่ม ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ  ซื้อของมาขายเพิ่มบ้างซื้อของมาตกแต่งบ้าง เงินเหลือก็ทำแต่ร้าน ปรับร้านไปเรื่อย ๆ ผมเป็นคนชอบทำ เปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่

          ผมทยอยใช้หนี้ที่ยืมมา จนหมดในเวลาไม่กี่เดือน หลังจากนั้นก็ชิลละ แต่อย่างเหนื่อยอ่ะ ผมเป็นคนเพื่อนเยอะ พอเพื่อน ๆ รู้ว่าเปิดร้านอยู่ที่นี่ ก็มาหากันเกือบทุกวัน มีสังสรรค์ในร้านบ้าง (ถึงร้านจะเล็ก ๆ ก็เถอะ ) แต่ก็เฮฮาไปขายไป ช่วงนั้นขายสนุกมาก (ปีที่แล้ว) ส่วนใหญ่ที่นี่มีแต่ลูกค้าต่างชาติทั้งนั้นเลย คุยกันสนุกดี ฝึกภาษาด้วย

          ผมซื้อมาขายไปจนมีเงินอยู่จำนวนหนึ่ง เลยอยากทำเสื้อผ้าที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มหาช่างที่ไหน ก็เริ่มจากคนที่รู้จักกันก่อน แนะนำบ้าง ผมหาในอินเทอร์เน็ตบ้าง จนได้ช่างที่ตัดเย็บ ผมก็จ้างเขาตัดเย็บมาตลอด แต่เขาก็จะเกี่ยงงานผม เพราะงานผมน้อย เพราะไม่ได้ทำเยอะเป็นพัน ๆ ตัว ทำทีก็แค่ร้อยกว่าตัว คละแบบอีกต่างหาก บางงาน ดองไว้ครึ่งปีกว่าจะเสร็จ แต่ก็อดทนเอา เราทุนน้อย เสื้อผ้าก็แนวใส่ทำงานใส่เล่นอ่ะครับ เน้นเอาผมชอบ ใส่ได้ ก็น่าจะมีคนชอบ 555 ลอง ๆ ตลาดไปเรื่อย ๆ

ออก จาก งาน มา ขาย ของ

          

ออก จาก งาน มา ขาย ของ
 ผมใส่บ้าง เพื่อนใส่บ้าง น้องใส่บ้าง ขายกับพี่กับน้อง กับเพื่อนก่อน ช่วย ๆ กันรีวิว แต่ก็สนุกดีนะครับ 

ออก จาก งาน มา ขาย ของ

ออก จาก งาน มา ขาย ของ

          

ออก จาก งาน มา ขาย ของ
 เวลาผมไปบ้านช่าง ก็ชอบถามเขา เวลาเขาเย็บ แบบโน้นแบบนี้ มันเลยเป็นแรงบันดาลใจให้ผม ซื้อจักรตัวแรก ตัวเล็ก ๆ ซื้อในห้าง ตัวไม่กี่พันบาท ซื้อมาโดยใช้ไม่เป็นด้วยซ้ำ ซื้อมาตั้งไว้เฉย ๆ ลองไปซื้อผ้ามาเย็บเล่น ๆ ค่อย ๆ ฝึก ค่อย ๆ ลองใช้

ออก จาก งาน มา ขาย ของ

ออก จาก งาน มา ขาย ของ


ออก จาก งาน มา ขาย ของ

          

ออก จาก งาน มา ขาย ของ
 แรก ๆ ลองเย็บกระเป๋าผ้า ง่อยมาก ออกมาแบบไม่สวยเลย ฝึกเย็บไปแจกคนโน้นทีคนนี้ที ยังไม่ได้เอามาขาย พอเริ่มจับทางได้แล้วก็เริ่มเย็บมาขายหน้าร้าน ขายได้ด้วย ก็หัดเย็บมาเรื่อย ๆ จากใส่ซับในไม่เป็น ก็เริ่มฝึกจาก Youtube เนี่ยแหละครับ ฝึกใส่ซิบ แซกรักดุม ฯลฯ ตอนนี้เย็บกระเป๋ามาขายได้หลายแบบเลย แต่ถ้าให้ให้เย็บเสื้อผ้า ผมต้องฝึกอีกเยอะ

ออก จาก งาน มา ขาย ของ

ออก จาก งาน มา ขาย ของ


ออก จาก งาน มา ขาย ของ

         

ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นต่างชาติ น่ารักดีนะ เขาไปรีวิวให้เอง แล้วมีกลับบมาซื้ออีกก็มีนะ บางคนก็แนะนำเพื่อนมาซื้อร้านเราถ้ามาเที่ยวที่เอเชียทีค

          1 ปีที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนเลยที่ผมรู้สึกเบื่อ ผมสนุกกับร้านผมมาก ผมไม่ได้สนับสนุนให้ทุกคนลาออกมาเปิดร้านนะ เพราะมันเหนื่อยมาก การเป็นเจ้านายตัวเองมันไม่ได้ง่ายเลย แต่ผมอยากลงมาทำแบบจริงจังดู พอลงตัวแล้วผมอาจจะกลับไปหางานประจำทำ แต่อาจจะเกี่ยวกับเสื้อผ้า แฟชั่น

ออก จาก งาน มา ขาย ของ

          

ออก จาก งาน มา ขาย ของ
 ผมว่ากว่าจะมาถึงตอนนี้ได้มันต้องใช้ทั้ง พรสวรรค์ พรแสวง แล้วก็โอกาส โอกาสนี่สำคัญมาก ผมว่ามันมาเมื่อไรอยากให้คุณรีบคว้าเอาไว้เลย ตอนนี้ผมก็ถือว่าผมยังไม่ประสบความสำเร็จนะ แต่ทำได้ถึงเท่านี้ก็ภูมิใจแล้ว 

ออก จาก งาน มา ขาย ของ

          

ออก จาก งาน มา ขาย ของ
 นี่ร้านปัจจุบันครับ อยู่ที่เอเชียทีค โกดัง 7 ตรอก 4 ร้านเล็ก ๆ ของผม ใครว่าง ๆ แวะเข้ามาคุยเล่นได้นะครับ ^^