เช็ค เงินผู้ สูงอายุ ธ ก ส ล่าสุด

เช็คเงินผู้สูงอายุ เดือนตุลาคม 2565 เงินผู้สูงอายุเข้าบัญชีวันไหน ผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่จะเข้าทุกวันที่ 10 ของเดือน และเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยกรมบัญชีกลางจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารให้แก่ผู้มีสิทธิรับเงินโดยตรงแทนกรมกิจการผู้สูงอายุ เช็คเงินผู้สูงอายุล่าสุด โอนเงินอะไรบ้าง 

เงินเข้าผู้สูงอายุ เดือนตุลาคม 2565

วันที่ 10 ตุลาคม  2565 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

  • อายุ 60-69 ปี ได้ 600 บาท
  • อายุ 70-79 ปี ได้ 700 บาท
  • อายุ 80-89 ปี ได้ 800 บาท
  • อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้ 1,000 บาท

โดยเงินผู้สูงอายุ ทางภาครัฐ จะจ่ายให้ทุกวันที่ 10 ของทุกเดือน ซึ่งถ้าหากวันที่ 10 ของเดือนนั้น ๆ ตรงกับวันหยุด รัฐจะเลื่อนเวลาการจ่ายเงิน สามารถกดเป็นเงินสดมาใช้ได้เลยจากธนาคารกรุงไทย

วันที่ 15 ตุลาคม 2565 เงินผู้สูงอายุ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

เงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เข้าสามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้

  • เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 50/100 บาทต่อเดือน (ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิตั้งแต่ ต.ค. 64 - ก.ค. 65 จะได้รับเงินเข้าบัตรฯ ในเดือน เม.ย. - ก.ย. 65)

ข้อมูล กรมบัญชีกลาง

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.

คลิกเลย >>> TrueID Community <<<

ผู้สูงอายุทุกท่านเตรียม เช็กสิทธิรับเงินเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2565 จากกรณีที่มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีการปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือ ชื่อวาระเป็นทางการคือ เพิ่มสวัสดิการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

สำหรับตารางการปรับเพิ่มเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2565 เป็นเวลา 6 เดือน เมษายน – กันยายน 2565 ในอัตราที่แบ่งกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี ถึงกลุ่มผู้สูงอายุ 90 ปีขึ้นไป ให้ได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษ โดยข้อมูลการเพิ่มวงเงินมาจาก สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(ครม.) พบว่า ครม. มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอดังนี้โดยมีรายละเอียดต่อไปนี้...

    • กลุ่มผู้สูงอายุ 60 – 69 ปี ให้ได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษ จำนวน 100 บาทต่อคนต่อเดือน
    • กลุ่มผู้สูงอายุ 70 – 79 ปี ให้ได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษ จำนวน 150 บาทต่อคนต่อเดือน
    • กลุ่มผู้สูงอายุ 80 – 89 ปี ให้ได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษ จำนวน 200 บาทต่อคนต่อเดือน
    • กลุ่มผู้สูงอายุ 90 ปีขึ้นไป ให้ได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษ จำนวน 250 บาทต่อคนต่อเดือน

รายละเอียดเบี้ยยังชีพรายเดือนแบบใหม่สำหรับผู้สูงอายุ

    • อายุ 60 - 69 ปี รับเดือนละ 700 บาท จากเดิมรับ 600 บาท
    • อายุ 70 - 79 ปี รับเดือนละ 850 บาท จากเดิมรับ 700 บาท
    • อายุ 80 - 89 ปี รับเดือนละ 1,000 บาท จากเดิมรับ 800 บาท
    • อายุ 90 ปีขึ้นไป รับเตือนละ 1,250 บาท จากเดิมรับ 1,000 บาท

เงื่อนไขการรับเบี้ยยังชีพย้อนหลัง

1.ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับความช่วยเหลือ 100 บาทต่อเดือน

2. ผู้สูงอายุที่มีรายได้เกิน 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับความช่วยเหลือ 50 บาทต่อเดือน โดยจะจ่ายย้อนหลัง ดังนี้

    • ปีงบบประมาณ พ.ศ. 2563 จ่าย 4 เดือน (มิถุนายน - กันยายน 2563)
    • ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จ่าย 6 เดือน แบบเดือนเว้นเดือน (ตุลาคม และธันวาคม 2563 กุมภาพันธ์ เมษายน มิถุนายน และสิงหาคม 2564)

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กรมบัญชีกลาง โทร.022706400 หรือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร.02 1092345 ในวัน เวลาราชการ

สำหรับช่องทางการขอรับสิทธิ์นั้น ท่านผู้สูงอายุที่ขอรับสิทธิท่านจะต้องไม่เคยได้รับสิทธิสวัสดิการอื่นๆ จากรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ได้แก่จำพวกเงินบำนาญต่างๆ โดยท่านสามารถยืนคำขอรับสิทธิได้ด้วยตัวเองที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ได้แก่

    • สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร
    • สำนักงานเทศบาล
    • องค์การบริหารส่วนตำบล

โดยช่องทางในการรับเงินผู้สูงอายุนี้มีด้วยกัน 4 ช่องทาง ได้แก่

    1. รับเป็นเงินสดด้วยตัวเอง
    2. ให้ผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจรับแทน
    3. โอนเข้าบัญชีของผู้สูงอายุ
    4. โอนเข้าบัญชีธนาคารของผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้สูงอายุ

ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปี65

สำหรับการขึ้นทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ 2565 ท่านผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์  ที่ยังไม่เคยลงทะเบียน ขอเรียนเชิญให้ผู้สูงอายุมาขอรับเบี้ยยังชีพในปีงบประมาณ 2565 นับจนถึงวันที่ 1 กันยายน 2565 (เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2505) ที่มีคุณสมบัติดังนี้ได้แก่มีภูมิลำเนาในเขตพื้นที่ในประเทศไทย แต่ยังไม่ได้ไปลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ได้ย้ายทะเบียนบ้านมาใหม่ก่อนสิ้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี หรือผู้สูงอายุที่ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ณ วันที่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพที่ประสงค์จะรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ให้ท่านผู้สูงอายุไปลงทะเบียนและยื่นคำขอเพื่อแสดงความจำนงขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563-เดือนพฤศจิกายน 2563 และเดือนมกราคม 2564 – เดือน กันยายน 2565 ด้วยตนเอง หรือท่านผู้สูงอายุท่านไหนที่ไม่สามารถมาได้ท่านสามารถมอบหมายให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทนได้ โดยเพียงแค่ให้คนที่ได้รับมอบอำนาจรับสิทธิ์แทนเตรียมหลักฐานตามที่ราชการกำหนด ณ สำนักเทศบาลในจังหวัดนั้นๆ ตั้งแต่ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. (ในวันและเวลาราชการเท่านั้น) เพื่อจะได้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพ

คุณสมบัติ สำหรับ ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปี65

    • ผู้สมัครต้องเป็นผู้สูงอายุรายใหม่ ที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
    • ผู้สมัครต้องยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน
    • ผู้สมัครต้องเป็นผู้ที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ 2565 โดยนับอายุจนถึงวันที่ 1 กันยายน 2565 (เกิดก่อน 2 กันยายน 2505)

เอกสารหลักฐานในการขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

    • บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย
    • ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
    • สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร สำหรับกรณีที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุประสงค์ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร

สำหรับผู้สูงอายุที่สนใจลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพปี 2565 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามภูมิลำเนาของผู้มีสิทธิ สำหรับปีนี้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2563  ปีหน้าเริ่มเปิดลงทะเบียนตั้งแต่ เดือนมกราคม - กันยายน 2564

เพราะอะไรจึงต้องเพิ่มวงเงิน

ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย (Ageing Society) มาตั้งแต่ปี 2548 โดยมีผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) มากกว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งประเทศ และคาดว่าในปี 2565 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Complete Aged Society) คือ มีผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) มากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ  อีกทั้งในปี 2576 คาดว่าจะเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super Aged Society) คือ มีผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) มากกว่าร้อยละ 28 ของประชากรทั้งประเทศ ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรทั้งหมด 66,171,440 คน เป็นผู้สูงอายุ จำนวน 11,906,511 คน (คิดเป็นร้อยละ 17.90 ของประชากรทั้งประเทศ)

โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 มีผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนเพื่อรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จำนวน 10,896,444 ราย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ผู้สูงอายุได้รับผลกระทบทางรายได้คิดเป็นร้อยละ 50.7 ของผู้สูงอายุทั้งหมด และรายได้ของผู้สูงอายุที่มาจากการทำงานมีสัดส่วนลดลงจากร้อยละ 40 เหลือเพียงร้อยละ 22  โดยผู้สูงอายุยังได้รับเงินจากบุตรหลานน้อยลง เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจึงกลายเป็นแหล่งรายได้หลักของผู้สูงอายุ ดังนั้น เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางและต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม และยังเป็นการคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมและพึ่งพาตนเองได้ต่อไป

พม. จึงเสนอมาตรการการเพิ่มสวัสดิการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุฯ (เพิ่มตามช่วงอายุ) เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน - กันยายน 2565 โดยคาดว่าจะต้องจ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพจำนวน 10,896,444 คน (ตามจำนวนผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565) เป็นเงินจำนวน 8,348,160,000 บาท  โดยมีรายละเอียด ดังนี้ซึ่งมีหน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จำนวน 4 หน่วยงาน ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดหน่วยงานผู้มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองการส่งเสริม การสนับสนุนผู้สูงอายุในด้านต่าง ๆ ตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561

ในช่วงภาวะวิกฤตไวรัสโคโรนาแบบนี้  MoneyGuru ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพและเป็นกำลังใจให้เราผ่านช่วงนี้ไปด้วยกัน ส่วนใครที่มองหาตัวช่วยในการจับจ่ายใช้สอยที่ง่าย สะดวก และทำได้ที่บ้าน เรายังมีบัตรเครดิตอื่นๆ ให้เลือกใช้ เข้ามาเปรียบเทียบบัตรเครดิตได้ทุกวันป MoneyGuru ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพและเป็นกำลังใจให้เราผ่านช่วงนี้ไปด้วยกัน ส่วนใครที่มองหาตัวช่วยในการจับจ่ายใช้สอยที่ง่าย สะดวก และทำได้ที่บ้าน เรายังมีบัตรเครดิตอื่นๆ ให้เลือกใช้ เข้ามาเปรียบเทียบบัตรเครดิตได้ทุกวัน นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อได้ทางช่องทาง LINE @MoneyGuruThailand รับรองว่าคุณจะได้คำแนะนำราคาเบี้ยประกันที่ดีที่สุดจากเรา