ถ้า ต้องการ ทราบว่าใคร เข้า มา แก้ไขไฟล์ที่แชร์จาก onedrive ต้อง เข้า เมนู ใด

ส่วนใหญ่แล้ว คุณคงจะต้องการบันทึกเวิร์กบุ๊กในรูปแบบไฟล์ปัจจุบัน (.xlsx) แต่บางครั้ง คุณอาจจะต้องบันทึกเวิร์กบุ๊กของคุณในรูปแบบไฟล์อื่น เช่น รูปแบบไฟล์ของ Excel เวอร์ชันก่อนหน้า ไฟล์ข้อความ หรือไฟล์ PDF หรือ XPS แต่อย่าลืมว่าเมื่อใดก็ตามที่คุณบันทึกเวิร์กบุ๊กในรูปแบบไฟล์อื่น การจัดรูปแบบ ข้อมูล และฟีเจอร์บางอย่างของไฟล์นั้นอาจจะไม่ได้ถูกบันทึกด้วยสำหรับรายการของรูปแบบไฟล์ (หรือที่เรียกอีกอย่างว่า ชนิดไฟล์) ที่คุณสามารถ (และไม่สามารถ) เปิดหรือบันทึกใน Excel 2013 ให้ดูที่ รูปแบบไฟล์ที่ได้รับการสนับสนุนใน Excel ที่ส่วนท้ายของบทความนี้

เปิดเวิร์กบุ๊กที่คุณต้องการบันทึก
คลิก ไฟล์ > บันทึกเป็น

สารบัญ Show

แปลงเวิร์กบุ๊ก Excel 97-2003 เป็นรูปแบบไฟล์ปัจจุบัน
รูปแบบไฟล์ Excel
รูปแบบไฟล์ข้อความ
รูปแบบไฟล์อื่นๆ
รูปแบบไฟล์ที่ใช้คลิปบอร์ด
รูปแบบไฟล์ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนใน Excel 2013
บันทึกเวิร์กบุ๊ก Excel 2016 เพื่อความเข้ากันได้กับ Excel เวอร์ชันก่อนหน้า
บันทึกไฟล์ในรูปแบบ .xls และตรวจทานปัญหาจากตัวตรวจสอบความเข้ากัน
เรียกใช้ตัวตรวจสอบความเข้ากันได้กับ Excel 2013, 2010 และ 2007
เมื่อต้องการเริ่มต้นใช้งาน ให้จัดเก็บเอกสารของคุณบน OneDrive OneDrive
ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน Word Online
ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน Excel Online
ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน PowerPoint Online
ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน OneNote Online
การบันทึกเป็น PDF
Access (ตารางและรายงาน)
การบันทึกเป็น PDF
Access (ตารางและรายงาน)
ทำงานร่วมกันในเอกสาร Office ใน OneDrive
เมื่อต้องการเริ่มต้นใช้งาน ให้จัดเก็บเอกสารของคุณบน OneDrive OneDrive
ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน Word Online
ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน Excel Online
ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน PowerPoint Online
ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน OneNote Online
ใช้เวิร์กบุ๊กที่แชร์เพื่อทำงานร่วมกันใน Excel 2016 สำหรับ Windows
แชร์เวิร์กบุ๊ก
ผสานการเปลี่ยนแปลง
แก้ไขการเปลี่ยนแปลงที่ขัดแย้งในเวิร์กบุ๊กที่แชร์
แก้ไขเวิร์กบุ๊กที่แชร์
เปิดเวิร์กบุ๊กที่แชร์
แก้ไขเวิร์กบุ๊ก
เอาผู้ใช้ออกจากเวิร์กบุ๊กที่แชร์
หยุดการแชร์เวิร์กบุ๊ก
คัดลอกข้อมูลประวัติการเปลี่ยนแปลง
หยุดการแชร์เวิร์กบุ๊ก
ฟีเจอร์ที่การแชร์เวิร์กบุ๊กไม่สนับสนุน

ภายใต้ สถานที่ ให้เลือกตำแหน่งที่คุณต้องการจะบันทึกเวิร์กบุ๊ก ตัวอย่างเช่น เลือก OneDrive เพื่อบันทึกไฟล์ไปยังตำแหน่งที่ตั้งบนเว็บ หรือ คอมพิวเตอร์ เพื่อบันทึกไฟล์ในโฟลเดอร์ในเครื่อง เช่น เอกสาร ของคุณ

ในกล่องโต้ตอบ บันทึกเป็น ให้นำทางไปยังตำแหน่งที่ตั้งที่คุณต้องการ

ในรายการ บันทึกเป็นชนิด ให้คลิกรูปแบบไฟล์ที่คุณต้องการ คลิกที่ลูกศรเพื่อเลื่อนไปยังรูปแบบไฟล์ที่ไม่ปรากฏในรายการ
หมายเหตุ: รูปแบบไฟล์ที่คุณเห็นจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับชนิดของแผ่นงานที่ใช้งานอยู่ในเวิร์กบุ๊ก (เวิร์กชีต แผ่นงานแผนภูมิ หรือชนิดแผ่นงานอื่น)
ในกล่อง ชื่อไฟล์ ให้ยอมรับชื่อที่แนะนำหรือพิมพ์ชื่อใหม่สำหรับเวิร์กบุ๊ก

แปลงเวิร์กบุ๊ก Excel 97-2003 เป็นรูปแบบไฟล์ปัจจุบัน

ถ้าคุณเปิดเวิร์กบุ๊ก Excel 97-2003 แต่คุณไม่ต้องการให้เก็บเวิร์กบุ๊กอยู่ในรูปแบบไฟล์นั้น คุณเพียงแค่แปลงให้เป็นรูปแบบไฟล์ปัจจุบัน (.xlsx)

คลิก ไฟล์ > ข้อมูล
คลิก แปลง

รูปแบบไฟล์ Excel

รูปแบบ	นามสกุล	คำอธิบาย
เวิร์กบุ๊กของ Excel	.xlsx	รูปแบบไฟล์เริ่มต้นที่ใช้ XML สำหรับ Excel 2007-2013 ไม่สามารถเก็บโค้ดของแมโคร Microsoft Visual Basic for Applications (VBA) หรือแผ่นงานแมโคร Microsoft Office Excel 4.0 (.xlm) ได้
Strict Open XML Spreadsheet	.xlsx	รูปแบบไฟล์เวิร์กบุ๊ก Excel (.xlsx) เวอร์ชันจำกัด ISO
เวิร์กบุ๊กของ Excel (โค้ด)	.xlsm	รูปแบบไฟล์ที่ใช้ XML และแบบเปิดใช้แมโครสำหรับ Excel 2007-2013 เก็บโค้ดแมโคร VBA หรือแผ่นงานแมโคร Excel 4.0 (.xlm)
เวิร์กบุ๊กไบนารี Excel	.xlsb	รูปแบบไฟล์ไบนารี (BIFF12) สำหรับ Excel 2007-2013
เทมเพลต	.xltx	รูปแบบไฟล์เริ่มต้นสำหรับเทมเพลต Excel สำหรับ Excel 2007-2013 ไม่สามารถเก็บโค้ดแมโคร VBA หรือแผ่นงานแมโคร Excel 4.0 (.xlm) ได้
เทมเพลต (โค้ด)	.xltm	รูปแบบไฟล์แบบเปิดใช้แมโครสำหรับเทมเพลต Excel ใน Excel 2007-2013 เก็บโค้ดแมโคร VBA หรือแผ่นงานแมโคร Excel 4.0 (.xlm)
เวิร์กบุ๊ก Excel 97- Excel 2003	.xls	รูปแบบไฟล์ไบนารี Excel 97 – Excel 2003 (BIFF8)
เทมเพลต Excel 97- Excel 2003	.xlt	รูปแบบไฟล์ไบนารี Excel 97 – Excel 2003 (BIFF8) สำหรับเทมเพลต Excel
เวิร์กบุ๊ก Microsoft Excel 5.0/95	.xls	รูปแบบไฟล์ไบนารี Excel 5.0/95 (BIFF5)
XML Spreadsheet 2003	.xml	รูปแบบไฟล์ XML Spreadsheet 2003 (XMLSS)
ข้อมูลแบบ XML	.xml	รูปแบบข้อมูลแบบ XML
Add-In ของ Excel	.xlam	รูปแบบ Add-in ที่ใช้ XML และที่เปิดใช้งานแมโครสำหรับ Excel 2007-2013 Add-In คือโปรแกรมเสริมที่ถูกออกแบบมาเพื่อเรียกใช้โค้ดเพิ่มเติม สนับสนุนการใช้ของโครงการ VBA และแผ่นงานแมโคร Excel 4.0 (.xlm)
Add-in ของ Excel 97-2003	.xla	Add-In ของ Excel 97-2003 คือโปรแกรมเสริมที่ถูกออกแบบมาเพื่อเรียกใช้โค้ดเพิ่มเติม สนับสนุนการใช้ของโครงการ VBA
เวิร์กบุ๊ก Excel 4.0	.xlw	รูปแบบไฟล์ Excel 4.0 ที่จะบันทึกเฉพาะเวิร์กชีต แผ่นงานแผนภูมิ และแผ่นงานแมโครเท่านั้น คุณสามารถเปิดเวิร์กบุ๊กในรูปแบบไฟล์นี้ใน Excel 2013 แต่คุณไม่สามารถบันทึกไฟล์ Excel เป็นรูปแบบไฟล์นี้ได้

รูปแบบไฟล์ข้อความ

รูปแบบ	นามสกุล	คำอธิบาย
ข้อความที่จัดรูปแบบ (คั่นด้วยการเว้นวรรค)	.prn	รูปแบบที่คั่นด้วยการเว้นวรรคของ Lotus บันทึกเฉพาะแผ่นงานที่ใช้งานอยู่
ข้อความ (คั่นด้วยแท็บ)	.txt	บันทึกเวิร์กบุ๊กเป็นไฟล์ข้อความที่คั่นด้วยแท็บสำหรับใช้บนระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows อีกระบบหนึ่ง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าอักขระแท็บ ตัวแบ่งบรรทัด และอักขระอื่นๆ ถูกแปลความอย่างถูกต้อง บันทึกเฉพาะแผ่นงานที่ใช้งานอยู่
ข้อความ (Macintosh)	.txt	บันทึกเวิร์กบุ๊กเป็นไฟล์ข้อความที่คั่นด้วยแท็บสำหรับใช้บนระบบปฏิบัติการ Macintosh และตรวจสอบให้แน่ใจว่าอักขระแท็บ ตัวแบ่งบรรทัด และอักขระอื่นๆ ถูกแปลความอย่างถูกต้อง บันทึกเฉพาะแผ่นงานที่ใช้งานอยู่
ข้อความ (MS-DOS)	.txt	บันทึกเวิร์กบุ๊กเป็นไฟล์ข้อความที่คั่นด้วยแท็บสำหรับใช้บนระบบปฏิบัติการ MS-DOS และตรวจสอบให้แน่ใจว่าอักขระแท็บ ตัวแบ่งบรรทัด และอักขระอื่นๆ ถูกแปลความอย่างถูกต้อง บันทึกเฉพาะแผ่นงานที่ใช้งานอยู่
ข้อความ Unicode	.txt	บันทึกเวิร์กบุ๊กเป็นข้อความ Unicode ซึ่งเป็นมาตรฐานการเข้ารหัสอักขระที่พัฒนาขึ้นโดย Unicode Consortium
CSV (คั่นด้วยจุลภาค)	.csv	บันทึกเวิร์กบุ๊กเป็นไฟล์ข้อความที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคสำหรับใช้บนระบบปฏิบัติการ Windows อีกระบบหนึ่งและตรวจสอบให้แน่ใจว่าอักขระแท็บ ตัวแบ่งบรรทัด และอักขระอื่นๆ ถูกแปลความอย่างถูกต้อง บันทึกเฉพาะแผ่นงานที่ใช้งานอยู่
CSV (Macintosh)	.csv	บันทึกเวิร์กบุ๊กเป็นไฟล์ข้อความที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคสำหรับใช้บนระบบปฏิบัติการ Macintosh และตรวจสอบให้แน่ใจว่าอักขระแท็บ ตัวแบ่งบรรทัด และอักขระอื่นๆ ถูกแปลความอย่างถูกต้อง บันทึกเฉพาะแผ่นงานที่ใช้งานอยู่
CSV (MS-DOS)	.csv	บันทึกเวิร์กบุ๊กเป็นไฟล์ข้อความที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคสำหรับการใช้บนระบบปฏิบัติการ MS-DOS และตรวจสอบให้แน่ใจว่าอักขระแท็บ ตัวแบ่งบรรทัด และอักขระอื่นๆ ถูกแปลความอย่างถูกต้อง บันทึกเฉพาะแผ่นงานที่ใช้งานอยู่
DIF	.dif	รูปแบบ Data Interchange Format บันทึกเฉพาะแผ่นงานที่ใช้งานอยู่
SYLK	.slk	รูปแบบ Symbolic Link Format บันทึกเฉพาะแผ่นงานที่ใช้งานอยู่

หมายเหตุ: ถ้าคุณบันทึกเวิร์กบุ๊กในรูปแบบข้อความใดๆ การจัดรูปแบบทั้งหมดจะสูญหายไป

รูปแบบไฟล์อื่นๆ

รูปแบบ	นามสกุล	คำอธิบาย
DBF 3, DBF 4	.dbf	dBase III และ IV คุณสามารถเปิดรูปแบบไฟล์เหล่านี้ได้ใน Excel แต่คุณไม่สามารถบันทึกไฟล์ Excel เป็นรูปแบบ dBase ได้
OpenDocument Spreadsheet	.ods	OpenDocument Spreadsheet คุณสามารถบันทึกไฟล์ Excel 2010 เพื่อให้เปิดในแอปพลิเคชันสเปรดชีตที่ใช้รูปแบบ OpenDocument Spreadsheet เช่น Google Docs และ OpenOffice.org Calc ได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเปิดสเปรดชีตในรูปแบบ .ods ใน Excel 2010 ได้ด้วย การจัดรูปแบบอาจสูญหายไปเมื่อมีการบันทึกและเปิดไฟล์ .ods
PDF	.pdf	รูปแบบ Portable Document Format (PDF) รูปแบบไฟล์นี้จะรักษาการจัดรูปแบบเอกสารและทำให้สามารถแชร์ไฟล์ได้ เมื่อไฟล์รูปแบบ PDF แสดงแบบออนไลน์หรือถูกพิมพ์ออกมา ไฟล์จะรักษารูปแบบที่คุณต้องการไว้ ข้อมูลในไฟล์ดังกล่าวจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยง่าย นอกจากนี้ รูปแบบ PDF ยังมีประโยชน์สำหรับเอกสารที่จะผลิตซ้ำโดยใช้วิธีการพิมพ์เชิงพาณิชย์ได้อีกด้วย
เอกสาร XPS	.xps	XML Paper Specification (XPS) รูปแบบไฟล์นี้จะรักษาการจัดรูปแบบเอกสารและทำให้สามารถแชร์ไฟล์ได้ เมื่อไฟล์ XPS แสดงแบบออนไลน์หรือได้รับการพิมพ์ออกมา ไฟล์จะรักษารูปแบบที่คุณต้องการไว้อย่างครบถ้วน และจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลในไฟล์นั้นได้โดยง่าย

รูปแบบไฟล์ที่ใช้คลิปบอร์ด

ถ้าคุณคัดลอกข้อมูลไปยังคลิปบอร์ดด้วยหนึ่งในรูปแบบไฟล์ต่อไปนี้ คุณสามารถวางข้อมูลลงใน Excel โดยใช้คำสั่ง วาง หรือ วางแบบพิเศษ(หน้าแรก > คลิปบอร์ด > วาง)

รูปแบบ	นามสกุล	ตัวระบุชนิดคลิปบอร์ด
รูปภาพ	.wmf หรือ .emf	รูปภาพในรูปแบบ Windows Metafile Format (WMF) หรือ Windows Enhanced Metafile Format (EMF) หมายเหตุ: ถ้าคุณคัดลอกรูปภาพ Windows Metafile (WMF) มาจากอีกโปรแกรมหนึ่ง Excel จะวางรูปภาพนี้เป็นแบบ enhanced metafile (EMF)
บิตแมป (Bitmap)	.bmp	รูปภาพที่จัดเก็บในรูปแบบบิตแมป (BMP)
รูปแบบไฟล์ Microsoft Excel	.xls	รูปแบบไฟล์ไบนารีสำหรับ Excel เวอร์ชัน 5.0/95 (BIFF5), Excel 97-2003 (BIFF8) และ Excel 2013 (BIFF12)
SYLK	.slk	รูปแบบ Symbolic Link Format
DIF	.dif	รูปแบบ Data Interchange Format
ข้อความ (คั่นด้วยแท็บ)	.txt	รูปแบบข้อความที่คั่นด้วยแท็บ
CSV (คั่นด้วยจุลภาค)	.csv	รูปแบบค่าที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค
ข้อความที่จัดรูปแบบ (คั่นด้วยการเว้นวรรค)	.rtf	รูปแบบ Rich Text Format (RTF) เฉพาะจาก Excel เท่านั้น
วัตถุฝังตัว	.gif, .jpg, .doc, .xls หรือ .bmp	วัตถุ Microsoft Excel, วัตถุจากโปรแกรมที่ลงทะเบียนไว้อย่างถูกต้องซึ่งสนับสนุน OLE 2.0 (OwnerLink) และรูปภาพหรือรูปแบบงานนำเสนอแบบอื่น
วัตถุที่ลิงก์	.gif, .jpg, .doc, .xls หรือ .bmp	OwnerLink, ObjectLink, ลิงก์, รูปภาพ หรือรูปแบบอื่น
วัตถุรูปวาด Office	.emf	รูปแบบวัตถุรูปวาด Office หรือรูปภาพ (Windows enhanced metafile format, EMF)
ข้อความ	.txt	ข้อความที่ใช้แสดง, ข้อความ OEM
Single File Web Page	.mht, .mhtml	Single File Web Page (MHT หรือ MHTML) รูปแบบไฟล์นี้จะรวมกราฟิกภายใน แอปเพล็ต เอกสารที่ลิงก์ และรายการที่สนับสนุนอื่นๆ ซึ่งมีการอ้างอิงอยู่ในเอกสาร
เว็บเพจ	.htm, .html	Hypertext Markup Language (HTML) หมายเหตุ: เมื่อคุณคัดลอกข้อความจากโปรแกรมอื่น Excel จะวางข้อความในรูปแบบ HTML ไม่ว่ารูปแบบของข้อความเดิมจะเป็นอย่างไรก็ตาม

รูปแบบไฟล์ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนใน Excel 2013

รูปแบบไฟล์ต่อไปนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนอีกต่อไป คุณไม่สามารถเปิดหรือบันทึกไฟล์ในรูปแบบไฟล์เหล่านี้ได้

เมื่อต้องการทำงานกับข้อมูลเวิร์กบุ๊กของคุณในโปรแกรมที่ไม่ได้รับการสนับสนุนแล้ว ให้ลองทำดังนี้

ค้นหาในเว็บเพื่อหาบริษัทที่สร้างตัวแปลงรูปแบบไฟล์สำหรับรูปแบบไฟล์ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนใน Excel
บันทึกเวิร์กบุ๊กของคุณเป็นรูปแบบไฟล์อื่นที่สามารถเปิดในโปรแกรมอื่นได้ ตัวอย่างเช่น บันทึกเป็นสเปรดชีต XML หรือรูปแบบไฟล์ข้อความที่โปรแกรมนั้นอาจสนับสนุน

รูปแบบ	นามสกุล	ตัวระบุชนิดคลิปบอร์ด
แผนภูมิ Excel	.xlc	รูปแบบไฟล์ Excel 2.0, 3.0 และ 2.x
WK1, FMT, WK2, WK3, FM3, WK4	.wk1, .wk2, .wk3, .wk4, .wks	รูปแบบไฟล์ Lotus 1-2-3 (ทุกเวอร์ชัน)
Microsoft Works	.wks	รูปแบบไฟล์ Microsoft Works (ทุกเวอร์ชัน)
DBF 2	.dbf	รูปแบบไฟล์ DBASE II
WQ1	.wq1	Quattro Pro สำหรับรูปแบบไฟล์ MS-DOS
WB1, WB3	.wb1, .wb3	Quattro Pro 5.0 และ 7.0 สำหรับ Windows

บันทึกเวิร์กบุ๊ก Excel 2016 เพื่อความเข้ากันได้กับ Excel เวอร์ชันก่อนหน้า

ตัวตรวจสอบความเข้ากันได้จะทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อคุณบันทึกเวิร์กบุ๊กเป็นรูปแบบ Excel 97-2003 (*.xls) คุณสามารถเรียกใช้ตัวตรวจสอบความเข้ากันได้ด้วยตนเองได้ด้วย ถ้าคุณกำลังแชร์ไฟล์กับบุคคลที่ใช้ Excel 2013, 2010 หรือ 2007

บันทึกไฟล์ในรูปแบบ .xls และตรวจทานปัญหาจากตัวตรวจสอบความเข้ากัน

คลิก ไฟล์ > ส่งออก
ภายใต้ ส่งออก ให้คลิก เปลี่ยนชนิดไฟล์
ภายใต้ ชนิดไฟล์ของเวิร์กบุ๊ก ให้ดับเบิลคลิกที่ Excel 97-2003 Workbook (*.xls)
ในกล่องโต้ตอบ บันทึกเป็น ให้เลือกตำแหน่งที่ตั้งสำหรับเวิร์กบุ๊ก
ในกล่อง ชื่อไฟล์ ให้พิมพ์ชื่อไฟล์ใหม่หรือใช้ชื่อที่มีอยู่แล้ว
ให้คลิก บันทึก
ถ้า ตัวตรวจสอบความเข้ากันได้ ปรากฏขึ้น ให้ตรวจดูปัญหาความเข้ากันได้ที่พบ
ลิงก์ ค้นหา จะนำคุณไปที่นั้นในเวิร์กชีต ลิงก์ วิธีใช้ จะนำคุณไปที่ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาและการแก้ไขปัญหาที่เป็นไปได้

หมายเหตุ:

ใน Excel 2016 เวิร์กบุ๊กที่คุณเพิ่งบันทึกในรูปแบบ .xls จะเปิดขึ้นใน โหมดความเข้ากันได้ ให้ทำงานในโหมดนี้ต่อไป ถ้าคุณวางแผนที่จะส่งและรับเวิร์กบุ๊กนี้กับผู้ใช้ที่เปิดเวิร์กบุ๊กใน Excel เวอร์ชันก่อนหน้า
เมื่อคุณดำเนินการเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับเวอร์ชันก่อนหน้าเสร็จแล้ว ให้คลิก ไฟล์ > ข้อมูล > แปลง เพื่อแปลงเวิร์กบุ๊กเป็นรูปแบบไฟล์ปัจจุบันเพื่อให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ใหม่ของ Excel 2016 ได้

เรียกใช้ตัวตรวจสอบความเข้ากันได้กับ Excel 2013, 2010 และ 2007

เมื่อต้องการตรวจสอบว่าเวิร์กบุ๊กเข้ากันได้กับ Excel 2013, 2010 หรือ 2007 หรือไม่ ให้เรียกใช้ตัวตรวจสอบความเข้ากันได้ด้วยตนเองในครั้งแรกที่คุณบันทึกเวิร์กบุ๊กของคุณ จากนั้นตั้งค่าตัวตรวจสอบความเข้ากันได้ให้ทำงานโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่คุณบันทึกเวิร์กบุ๊กนั้น

คลิก ไฟล์ > ข้อมูล > ตรวจหาปัญหา
เลือก ตรวจสอบความเข้ากันได้
ด้วย Office Online เป็นเรื่องง่ายที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่น เนื่องจากคุณสามารถส่งลิงก์ไปยังเอกสารแทนที่จะส่งไฟล์เป็นสิ่งที่แนบมา ซึ่งจะบันทึกในที่จัดเก็บอีเมลและทำให้คุณไม่สามารถปรับเอกสารเดียวกันที่มีหลายเวอร์ชันให้เข้ากันได้

เมื่อต้องการส่งลิงก์ ให้คลิก แชร์ ที่ด้านบนของหน้าต่างโปรแกรม Office Online ไม่ว่าคุณกำลังดู:

หรือกำลังแก้ไขเอกสารของคุณ

เมื่อเพื่อนของคุณคลิกลิงก์ที่คุณส่ง เอกสารจะเปิดขึ้นในเบราว์เซอร์ของพวกเขา

เมื่อต้องการแก้ไข พวกเขาก็จะคลิกที่คำสั่งสำหรับการแก้ไขในโปรแกรม Office Online (ถ้าคุณส่งลิงก์อีเมล พวกเขาจะต้องลงชื่อเข้าใช้ก่อน)

เมื่อต้องการเริ่มต้นใช้งาน ให้จัดเก็บเอกสารของคุณบน OneDrive OneDrive

อัปโหลดเอกสารของคุณไปยัง OneDrive จากนั้นแชร์เอกสารเหล่านั้น

หมายเหตุ: ถ้าคุณกำลังใช้ Office Online สำหรับใช้งานในโรงเรียนหรือทำงาน นี่คือข้อมูลเฉพาะสำหรับไลบรารีทีมและ OneDrive for Business

ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน Word Online

เมื่อคุณกำลังแก้ไขเอกสารใน Word Online คุณอาจเห็นการแจ้งให้ทราบว่ามีผู้อื่นกำลังทำงานในเอกสารนั้นเช่นกัน ไม่ต้องมีโหมดพิเศษสำหรับการเขียนร่วมและคำสั่งพิเศษใดๆ ในการเริ่มการทำงานบนเอกสารร่วมกัน คุณแก้ไขเอกสารใน Word Online เหมือนที่คุณทำตามปกติ และถ้ามีผู้อื่นกำลังแก้ไขเอกสารอยู่ Word Online จะแจ้งให้คุณทราบถึงพวกเขา และแสดงให้คุณเห็นย่อหน้าที่พวกเขากำลังทำงานอยู่

บุคคลอื่นสามารถทำงานใน Word Online, Word 2010 หรือเวอร์ชันที่ใหม่กว่า หรือ Word for Mac 2011 ได้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ ทำงานร่วมกันบนเอกสารใน Word Online

ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน Excel Online

ถ้าคุณกำหนดให้ผู้อื่นสามารถแก้ไขเวิร์กบุ๊กของคุณได้ เพื่อนของคุณจะสามารถทำงานบนเวิร์กบุ๊กนั้นพร้อมกับคุณได้ ซึ่งเหมาะสำหรับเวิร์กบุ๊กที่คุณกำลังรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มบุคคล เช่น รายการข้อมูลหรือโครงการกลุ่ม ไม่ต้องส่งอีเมลรายการหลายๆ ครั้งอีกต่อไป

ขณะที่คุณกำลังแก้ไขเวิร์กบุ๊ก Excel Online จะแสดงให้คุณเห็นว่ามีผู้อื่นกำลังทำงานอยู่ที่ส่วนใดในเวิร์กบุ๊ก

หมายเหตุ:

ทุกคนต้องทำงานใน Excel Online ถ้ามีบางคนเปิดเวิร์กบุ๊กในแอปพลิเคชัน Excel บนเดสก์ท็อป เวิร์กบุ๊กจะไม่สามารถแก้ไขได้ใน Excel Online จนกว่าจะปิดเวิร์กบุ๊กใน Excel บนเดสก์ท็อปก่อน
เนื่องจาก Excel Online จะบันทึกการเปลี่ยนแปลงของทุกคนโดยอัตโนมัติ คำสั่งเลิกทำและทำซ้ำอาจไม่ทำงานตามที่คุณคาดไว้
นอกจากนี้ เมื่อมีคนเปลี่ยนแปลงลำดับการจัดเรียงข้อมูลหรือการกรองข้อมูล มุมมองของทุกคนที่กำลังแก้ไขเวิร์กบุ๊กจะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น ให้ระมัดระวังมากขึ้นในการเรียงลำดับและการกรองในขณะที่ผู้อื่นกำลังทำงานอยู่ในเวิร์กบุ๊ก

ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน PowerPoint Online

งานนำเสนอและโครงงานของทีม: คุณสามารถทำงานกับเอกสารเหล่านั้นร่วมกันได้ใน PowerPoint Online เมื่อมีบุคคลมากกว่าหนึ่งคนกำลังแก้ไขงานนำเสนอในเวลาเดียวกัน คุณจะเห็นชื่อของพวกเขาที่ด้านบนของหน้าต่าง PowerPoint Online

คุณและผู้ร่วมงานของคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของแต่ละคนได้ทันที และ PowerPoint Online จะบันทึกงานนำเสนอโดยอัตโนมัติ

ผู้อื่นสามารถทำงานใน PowerPoint Online, PowerPoint 2010 หรือเวอร์ชันที่ใหม่กว่า หรือ PowerPoint for Mac 2011 ได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เราขอแนะนำให้ทุกคนทำงานใน PowerPoint Online (ซึ่งการเปลี่ยนแปลงใดๆ จะถูกบันทึกโดยอัตโนมัติ) หรือแอปพลิเคชัน PowerPoint บนเดสก์ท็อป (ซึ่งทุกคนจะบันทึกงานนำเสนอเป็นระยะๆ)

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ ทำงานร่วมกับผู้อื่นบนงานนำเสนอ

ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน OneNote Online

ถ้าคุณกำหนดให้ผู้อื่นสามารถแก้ไขสมุดบันทึกของคุณได้ เพื่อนของคุณจะสามารถทำงานบนสมุดบันทึกนั้นพร้อมกับคุณได้ ซึ่งจะใช้ได้ดีสำหรับสมุดบันทึกที่คุณกำลังรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มบุคคล เช่น เซสชันการระดมความคิดหรือโครงการกลุ่ม สมุดบันทึกนั้นทำงานเหมือนกับ Wiki ซึ่งทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ คุณสามารถดูว่าใครทำอะไร และคุณสามารถแปลงหน้าให้กลับไปยังเวอร์ชันก่อนหน้าได้ถ้าต้องการ

การบันทึกเป็น PDF

คุณสามารถใช้โปรแกรม Office เพื่อบันทึกไฟล์ของคุณเป็น PDF เพื่อให้คุณสามารถแชร์ไฟล์หรือพิมพ์ไฟล์ของคุณที่โรงพิมพ์ได้ และคุณไม่จำเป็นใช้ซอฟต์แวร์หรือ Add-in อื่นๆ

สิ่งสำคัญ: หลังจากที่คุณบันทึกเอกสารเป็นไฟล์ PDF แล้ว คุณจะไม่สามารถแปลงไฟล์นั้นกลับเป็นรูปแบบไฟล์ Office ได้ถ้าไม่มีซอฟต์แวร์เฉพาะทางหรือ Add-in ของบริษัทอื่น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ส่วน ทำการเปลี่ยนแปลงไฟล์ PDF ในบทความนี้

Access (ตารางและรายงาน)

เปิดตารางหรือรายงานที่คุณต้องการจัดพิมพ์เป็น PDF
บนแท็บ ข้อมูลภายนอก ในกลุ่ม ส่งออก ให้คลิก PDF หรือ XPS
ในเขตข้อมูล ชื่อไฟล์ ให้พิมพ์หรือเลือกชื่อของเอกสาร
ในรายการ บันทึกเป็นชนิด ให้คลิก PDF (*.pdf)
- ถ้าเอกสารจำเป็นต้องพิมพ์ด้วยคุณภาพสูง ให้คลิก มาตรฐาน (การประกาศออนไลน์และการพิมพ์)
- ถ้าขนาดไฟล์มีความสำคัญมากกว่าคุณภาพการพิมพ์ ให้คลิก ขนาดเล็กสุด (การประกาศออนไลน์)
คลิก ตัวเลือก เพื่อตั้งค่าหน้าที่จะพิมพ์ เพื่อเลือกว่าจะพิมพ์มาร์กอัปหรือไม่ และเพื่อเลือกตัวเลือกผลลัพธ์ คลิก ตกลง
คลิก ประกาศเมื่อต้องการตรวจสอบความเข้ากันได้โดยอัตโนมัติจากนี้เป็นต้นไป ให้เลือกกล่อง ตรวจสอบความเข้ากันได้เมื่อบันทึกเวิร์กบุ๊กนี้
เคล็ดลับ: คุณสามารถระบุเวอร์ชันของ Excel ที่คุณต้องการรวมไว้เมื่อคุณตรวจสอบความเข้ากันได้ เวอร์ชันทั้งหมดจะถูกเลือกโดยค่าเริ่มต้น ดังนั้นแค่ยกเลิกการเลือกเวอร์ชันที่คุณไม่ต้องการ
การบันทึกเป็น PDF
คุณสามารถใช้โปรแกรม Office เพื่อบันทึกไฟล์ของคุณเป็น PDF เพื่อให้คุณสามารถแชร์ไฟล์หรือพิมพ์ไฟล์ของคุณที่โรงพิมพ์ได้ และคุณไม่จำเป็นใช้ซอฟต์แวร์หรือ Add-in อื่นๆ
สิ่งสำคัญ: หลังจากที่คุณบันทึกเอกสารเป็นไฟล์ PDF แล้ว คุณจะไม่สามารถแปลงไฟล์นั้นกลับเป็นรูปแบบไฟล์ Office ได้ถ้าไม่มีซอฟต์แวร์เฉพาะทางหรือ Add-in ของบริษัทอื่น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ส่วน ทำการเปลี่ยนแปลงไฟล์ PDF ในบทความนี้
Access (ตารางและรายงาน)
1. เปิดตารางหรือรายงานที่คุณต้องการจัดพิมพ์เป็น PDF
2. บนแท็บ ข้อมูลภายนอก ในกลุ่ม ส่งออก ให้คลิก PDF หรือ XPS
3. ในเขตข้อมูล ชื่อไฟล์ ให้พิมพ์หรือเลือกชื่อของเอกสาร
4. ในรายการ บันทึกเป็นชนิด ให้คลิก PDF (*.pdf)
  - ถ้าเอกสารจำเป็นต้องพิมพ์ด้วยคุณภาพสูง ให้คลิก มาตรฐาน (การประกาศออนไลน์และการพิมพ์)
  - ถ้าขนาดไฟล์มีความสำคัญมากกว่าคุณภาพการพิมพ์ ให้คลิก ขนาดเล็กสุด (การประกาศออนไลน์)
5. คลิก ตัวเลือก เพื่อตั้งค่าหน้าที่จะพิมพ์ เพื่อเลือกว่าจะพิมพ์มาร์กอัปหรือไม่ และเพื่อเลือกตัวเลือกผลลัพธ์ คลิก ตกลง
6. คลิก ประกาศ
Excel
ข้อมูลนี้ยังใช้ได้กับ Microsoft Excel Starter 2010 ด้วย
หมายเหตุ: คุณไม่สามารถบันทึกแผ่นงาน Power View เป็นไฟล์ PDF ได้
1. คลิกแท็บ ไฟล์
2. คลิก บันทึกเป็น
  เมื่อต้องการดูกล่องโต้ตอบ บันทึกเป็น ใน Excel 2013 หรือ Excel 2016 คุณจะต้องเลือกตำแหน่งที่ตั้งและโฟลเดอร์
3. ในช่อง ชื่อไฟล์ ให้ใส่ชื่อไฟล์ หากคุณยังไม่ได้ใส่ชื่อให้กับไฟล์
4. ในรายการ บันทึกเป็นชนิด ให้คลิก PDF (*.pdf)
  - ถ้าคุณต้องการให้ไฟล์เปิดขึ้นในรูปแบบที่เลือกหลังจากบันทึก ให้เลือกกล่องกาเครื่องหมาย เปิดไฟล์หลังจากจัดพิมพ์
  - ถ้าเอกสารจำเป็นต้องพิมพ์ด้วยคุณภาพสูง ให้คลิก มาตรฐาน (การประกาศออนไลน์และการพิมพ์)
  - ถ้าขนาดไฟล์มีความสำคัญมากกว่าคุณภาพการพิมพ์ ให้คลิก ขนาดเล็กสุด (การประกาศออนไลน์)
5. คลิก ตัวเลือก เพื่อตั้งค่าหน้าที่จะพิมพ์ เพื่อเลือกว่าจะพิมพ์มาร์กอัปหรือไม่ และเพื่อเลือกตัวเลือกผลลัพธ์ คลิก ตกลง เมื่อเสร็จสิ้น
6. คลิก บันทึก
  ทำงานร่วมกันในเอกสาร Office ใน OneDrive
  ด้วย Office Online เป็นเรื่องง่ายที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่น เนื่องจากคุณสามารถส่งลิงก์ไปยังเอกสารแทนที่จะส่งไฟล์เป็นสิ่งที่แนบมา ซึ่งจะบันทึกในที่จัดเก็บอีเมลและทำให้คุณไม่สามารถปรับเอกสารเดียวกันที่มีหลายเวอร์ชันให้เข้ากันได้

หรือกำลังแก้ไขเอกสารของคุณ

เมื่อต้องการเริ่มต้นใช้งาน ให้จัดเก็บเอกสารของคุณบน OneDrive OneDrive

อัปโหลดเอกสารของคุณไปยัง OneDrive จากนั้นแชร์เอกสารเหล่านั้น

ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน Word Online

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ ทำงานร่วมกันบนเอกสารใน Word Online

ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน Excel Online

หมายเหตุ:

ทุกคนต้องทำงานใน Excel Online ถ้ามีบางคนเปิดเวิร์กบุ๊กในแอปพลิเคชัน Excel บนเดสก์ท็อป เวิร์กบุ๊กจะไม่สามารถแก้ไขได้ใน Excel Online จนกว่าจะปิดเวิร์กบุ๊กใน Excel บนเดสก์ท็อปก่อน
เนื่องจาก Excel Online จะบันทึกการเปลี่ยนแปลงของทุกคนโดยอัตโนมัติ คำสั่งเลิกทำและทำซ้ำอาจไม่ทำงานตามที่คุณคาดไว้
นอกจากนี้ เมื่อมีคนเปลี่ยนแปลงลำดับการจัดเรียงข้อมูลหรือการกรองข้อมูล มุมมองของทุกคนที่กำลังแก้ไขเวิร์กบุ๊กจะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น ให้ระมัดระวังมากขึ้นในการเรียงลำดับและการกรองในขณะที่ผู้อื่นกำลังทำงานอยู่ในเวิร์กบุ๊ก

ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน PowerPoint Online

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดูที่ ทำงานร่วมกับผู้อื่นบนงานนำเสนอ

ทำงานร่วมกับผู้อื่นใน OneNote Online

ถ้าคุณหรือบุคคลอื่นมี OneNote 2010 หรือเวอร์ชันที่ใหม่กว่า คุณสามารถทำงานในแอปพลิเคชัน OneNote บนเดสก์ท็อปและบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ในขณะที่บุคคลอื่นกำลังทำงานอยู่บนสมุดบันทึกเดียวกันใน OneNote Online คุณสามารถแชร์สมุดบันทึกใน OneDrive ได้เช่นเดียวกับเอกสาร Excel, Word และ PowerPoint และคุณยังสามารถแชร์สมุดบันทึกใน OneNote 2010 หรือเวอร์ชันที่ใหม่กว่าได้ด้วย

คลิกแท็บ ไฟล์ และบนแท็บ ข้อมูล ให้คลิก เชิญบุคคลมาใช้สมุดบันทึกนี้ ภายใต้ชื่อของสมุดบันทึก
ใช้เวิร์กบุ๊กที่แชร์เพื่อทำงานร่วมกันใน Excel 2016 สำหรับ Windows
เมื่อคุณแชร์เวิร์กบุ๊ก ผู้ใช้หลายคนจะสามารถดูเวิร์กบุ๊กได้ แต่จะไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงไฟล์พร้อมกันได้ แต่การเปลี่ยนแปลงที่ทำในสำเนาของเวิร์กบุ๊กอย่างน้อยหนึ่งสำเนาจะถูกผสานเข้าไปในไฟล์ที่คุณแชร์
กระบวนการจะทำงานดังนี้ เมื่อคุณแชร์เวิร์กบุ๊ก คุณก็บันทึกเวิร์กบุ๊กเป็นส่วนหนึ่งของการแชร์ด้วย จากนั้นคนอื่นจะคัดลอกเวิร์กบุ๊กที่แชร์ไปเช่นกันและจะเพิ่มข้อมูลของพวกเขาลงไปในสำเนาของเวิร์กบุ๊ก เมื่อพวกเขาทำเสร็จแล้ว คุณก็จะผสานข้อมูลจากสำเนากลับไปยังไฟล์ต้นฉบับ

หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการแชร์เวิร์กบุ๊กคือการวางเวิร์กบุ๊กไว้บนตำแหน่งบนเครือข่ายหรือโฟลเดอร์ OneDrive ซึ่งช่วยให้ผู้อื่นสามารถเข้าถึงเวิร์กบุ๊ก คัดลอก และเพิ่มการเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่ายดาย

แชร์เวิร์กบุ๊ก

สร้างเวิร์กบุ๊กใหม่หรือเปิดเวิร์กบุ๊กที่มีอยู่แล้วซึ่งคุณต้องการทำให้เป็นเวิร์กบุ๊กที่แชร์
บนแท็บ รีวิว ในกลุ่ม การเปลี่ยนแปลง ให้คลิก การแชร์เวิร์กบุ๊ก
ในกล่องโต้ตอบ แชร์เวิร์กบุ๊ก บนแท็บ การแก้ไข ให้เลือกกล่องกาเครื่องหมาย อนุญาตให้ผู้ใช้มากกว่าหนึ่งคนทำการเปลี่ยนแปลงในขณะเดียวกัน และรวมถึงการผสานเวิร์กบุ๊ก
บนแท็บ ขั้นสูง ให้เลือกตัวเลือกที่คุณต้องการใช้เพื่อติดตามและอัปเดตการเปลี่ยนแปลง แล้วคลิก ตกลง
ในกล่องโต้ตอบ บันทึกเป็น ใส่ตำแหน่งบนเครือข่ายลงใน แถบที่อยู่
เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
- ถ้าเป็นเวิร์กบุ๊กใหม่ ให้พิมพ์ชื่อลงในกล่อง ชื่อไฟล์ จากนั้นให้คลิก บันทึก
- ถ้าเป็นเวิร์กบุ๊กที่มีอยู่แล้ว ให้คลิก บันทึก
ส่งอีเมลให้คนที่จะแชร์เวิร์กบุ๊ก ในข้อความให้ระบุตำแหน่งที่ตั้งของไฟล์และขอให้พวกเขาสร้างสำเนาของเวิร์กบุ๊กสำหรับการใช้งานและเก็บสำเนาทั้งหมดลงในโฟลเดอร์ที่มีต้นฉบับ

ผสานการเปลี่ยนแปลง

หลังจากที่เพื่อนร่วมงานของคุณเพิ่มข้อมูลของตัวเองไปยังสำเนาของเวิร์กบุ๊ก คุณสามารถผสานการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเข้าด้วยกันได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะเริ่มต้น คุณจะต้องเพิ่มคำสั่งลงในแถบเครื่องมือด่วนที่มุมบนซ้ายของหน้าจอ Excel

เพิ่มคำสั่ง

คลิกลูกศรลงที่ด้านขวาของแถบเครื่องมือด่วน แล้วคลิก คำสั่งเพิ่มเติม
ในกล่องโต้ตอบ ตัวเลือก Excel ในรายการ เลือกคำสั่งจาก ให้เลือก คำสั่งทั้งหมด
เลื่อนรายการลง แล้วเลือก เปรียบเทียบและผสานเวิร์กบุ๊ก จากนั้นคลิก เพิ่ม
คลิก ตกลง เพื่อปิดกล่องโต้ตอบ ตัวเลือกของ Excelคำสั่ง เปรียบเทียบและผสานเวิร์กบุ๊ก จะปรากฏขึ้นบนแถบเครื่องมือด่วน

ผสานการเปลี่ยนแปลง

เปิดสำเนาของเวิร์กบุ๊กที่แชร์ที่คุณต้องการผสานการเปลี่ยนแปลง
บน แถบเครื่องมือด่วน ให้คลิก เปรียบเทียบและผสาน
ถ้าถูกพร้อมท์ ให้บันทึกเวิร์กบุ๊ก
ในกล่องโต้ตอบ เลือกไฟล์เพื่อผสานเข้าไปในเวิร์กบุ๊กปัจจุบัน คลิกสำเนาของเวิร์กบุ๊กที่มีการเปลี่ยนแปลงที่คุณต้องการผสาน จากนั้นคลิก ตกลง
เคล็ดลับ:
- เมื่อต้องการผสานเวิร์กบุ๊กกับสำเนาของเวิร์กบุ๊กที่แชร์หลายสำเนาพร้อมๆ กัน ให้กดแป้น CTRL หรือ SHIFT ค้างไว้ แล้วคลิกชื่อไฟล์ จากนั้นคลิก ตกลง
- ถ้าคุณเห็นข้อความที่ระบุว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่จะผสานให้คลิก ตกลง

แก้ไขการเปลี่ยนแปลงที่ขัดแย้งในเวิร์กบุ๊กที่แชร์

ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้สองคนพยายามที่จะบันทึกการเปลี่ยนแปลงลงในเซลล์เดียวกัน ในเซลล์ดังกล่าว Excel จะสามารถเก็บการเปลี่ยนแปลงจากผู้ใช้ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น เมื่อผู้ใช้คนที่สองบันทึกเวิร์กบุ๊ก Excel จะแสดงกล่องโต้ตอบ การแก้ไขความขัดแย้ง ต่อผู้ใช้คนนั้น

ในกล่องโต้ตอบ การแก้ไขความขัดแย้ง ให้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแต่ละค่าและการเปลี่ยนแปลงที่ขัดแย้งที่ทำโดยผู้ใช้อื่น
เมื่อต้องการเก็บการเปลี่ยนแปลงของคุณหรือการเปลี่ยนแปลงของผู้ใช้อื่น และเมื่อต้องการไปยังการเปลี่ยนแปลงที่ขัดแย้งกันถัดไป ให้คลิก ยอมรับของฉัน หรือ ยอมรับของผู้อื่น
เมื่อต้องการเก็บการเปลี่ยนแปลงที่เหลืออยู่ทั้งหมดของคุณหรือการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของผู้ใช้คนอื่น ให้คลิก ยอมรับของฉันทั้งหมดหรือ ยอมรับของผู้อื่นทั้งหมด
เมื่อต้องการให้การเปลี่ยนแปลงของคุณแทนที่การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ทั้งหมดโดยไม่ต้องแสดงกล่องโต้ตอบ การแก้ไขความขัดแย้ง อีก ให้ทำดังต่อไปนี้
1. บนแท็บ รีวิว ในกลุ่ม การเปลี่ยนแปลง ให้คลิก การแชร์เวิร์กบุ๊ก
2. บนแท็บ ขั้นสูง ภายใต้ การเปลี่ยนแปลงที่ขัดแย้งกันระหว่างผู้ใช้ ให้คลิก ใช้การเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะถูกบันทึก แล้วคลิก ตกลง
เมื่อต้องการดูว่าคุณหรือผู้ใช้รายอื่นแก้ไขข้อขัดแย้งที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง ให้ทำดังต่อไปนี้
1. บนแท็บ รีวิว ในกลุ่ม การเปลี่ยนแปลง ให้คลิก ติดตามการเปลี่ยนแปลง แล้วคลิก การเน้นสิ่งที่เปลี่ยนแปลง
2. ในรายการ เมื่อ ให้เลือก ทั้งหมด
3. ล้างกล่องกาเครื่องหมาย โดยใคร และ ที่
4. เลือกกล่องกาเครื่องหมาย ทำรายการการเปลี่ยนแปลงบนแผ่นงานใหม่ แล้วคลิก ตกลง
5. บน เวิร์กชีตประวัติ ให้เลื่อนไปที่ด้านขวาเพื่อดูคอลัมน์ ชนิดของการกระทำ และ การกระทำที่ไม่ถูกเลือกไปใช้การเปลี่ยนแปลงที่ขัดแย้งที่ถูกเก็บรักษาไว้จะได้ค่า ที่เลือกใช้ สำหรับ ชนิดของการกระทำ หมายเลขแถวในคอลัมน์ การกระทำที่ไม่ถูกเลือกไปใช้ จะระบุแถวที่มีข้อมูลการเปลี่ยนแปลงที่ขัดแย้งที่ไม่ได้ถูกเก็บไว้ รวมถึงข้อมูลที่ถูกลบ
  เคล็ดลับ เมื่อต้องการบันทึกสำเนาของเวิร์กบุ๊กที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของคุณ ให้คลิก ยกเลิก ในกล่องโต้ตอบ แก้ไขความขัดแย้ง จากนั้นให้บันทึกสำเนาไฟล์ใหม่ ซึ่งคุณจำเป็นต้องพิมพ์ชื่อใหม่ให้แก่ไฟล์

แก้ไขเวิร์กบุ๊กที่แชร์

หลังจากเปิดเวิร์กบุ๊กที่แชร์ คุณสามารถใส่และเปลี่ยนแปลงข้อมูลเช่นเดียวกับที่คุณทำในเวิร์กบุ๊กบนคอมพิวเตอร์ของคุณ

เปิดเวิร์กบุ๊กที่แชร์

คลิก ไฟล์ แล้วคลิก เปิด จากนั้นดับเบิลคลิกที่เวิร์กบุ๊กที่แชร์ของคุณนอกจากนี้ คุณยังสามารถไปที่โฟลเดอร์เครือข่ายที่มีไฟล์ของคุณได้โดยตรง แล้วดับเบิลคลิกที่ไฟล์เพื่อเริ่มต้นโปรแกรม Excel และเปิดไฟล์
ถ้านี่เป็นครั้งแรกที่คุณเปิดเวิร์กบุ๊ก บนแท็บ ไฟล์ ให้คลิก ตัวเลือก
ในประเภท ทั่วไป ภายใต้ ปรับเปลี่ยนโปรแกรม Microsoft Office ในแบบที่คุณต้องการ ในกล่อง ชื่อผู้ใช้ ให้ใส่ชื่อผู้ใช้ที่คุณต้องการใช้ระบุงานของคุณในเวิร์กบุ๊กที่แชร์ แล้วคลิก ตกลง

แก้ไขเวิร์กบุ๊ก

ใส่ข้อมูลและแก้ไขข้อมูลในเวิร์กชีตตามปกติโปรดทราบว่า คุณไม่สามารถเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบบางอย่าง รวมทั้งเซลล์ที่ผสานแล้วและไฮเปอร์ลิงก์ได้
เพิ่มตัวกรองและตั้งค่าการพิมพ์ที่คุณต้องการสำหรับการใช้งานส่วนบุคคลของคุณคุณยังสามารถใช้ตัวกรองหรือการตั้งค่าการพิมพ์ที่เพิ่มไว้โดยเจ้าของเวิร์กบุ๊กได้ Excel จะบันทึกการตั้งค่าของผู้ใช้เป็นรายบุคคล

ใช้การตั้งค่าตัวกรองและการตั้งค่าการพิมพ์ดั้งเดิม

บนแท็บ รีวิว ในกลุ่ม การเปลี่ยนแปลง ให้คลิก การแชร์เวิร์กบุ๊ก
บนแท็บ ขั้นสูง ภายใต้ สิ่งที่รวมไว้ในมุมมองส่วนบุคคล ให้ล้างกล่องกาเครื่องหมาย การตั้งค่าการพิมพ์ หรือกล่องกาเครื่องหมาย การตั้งค่าตัวกรอง แล้วคลิก ตกลง
เมื่อต้องการบันทึกการเปลี่ยนแปลงของคุณไปยังเวิร์กบุ๊กและดูการเปลี่ยนแปลงที่ผู้ใช้คนอื่นบันทึกไว้หลังจากที่คุณบันทึกครั้งล่าสุด ให้คลิก บันทึก
บนแถบเครื่องมือด่วน หรือกดแป้น Ctrl+S
ถ้ากล่องโต้ตอบ การแก้ไขความขัดแย้ง ปรากฏอยู่ ให้แก้ไขข้อขัดแย้งสำหรับความช่วยเหลือ ให้ดูที่ส่วน แก้ไขการเปลี่ยนแปลงที่ขัดแย้งกันในเวิร์กบุ๊กที่แชร์ ในบทความนี้

หมายเหตุ

คุณสามารถมองเห็นว่าใครเปิดเวิร์กบุ๊กไว้บ้างบนแท็บ การแก้ไข ของกล่องโต้ตอบ การแชร์เวิร์กบุ๊ก (แท็บ รีวิว, กลุ่ม การเปลี่ยนแปลง, ปุ่มการแชร์เวิร์กบุ๊ก)
คุณสามารถเลือกรับการอัปเดตอัตโนมัติของการเปลี่ยนแปลงของผู้ใช้รายอื่นได้เป็นระยะๆ โดยจะบันทึกหรือไม่บันทึกก็ได้ ภายใต้ อัปเดตการเปลี่ยนแปลง บนแท็บ ขั้นสูง ของกล่องโต้ตอบ การแชร์เวิร์กบุ๊ก

เอาผู้ใช้ออกจากเวิร์กบุ๊กที่แชร์

ถ้าจำเป็น คุณสามารถยกเลิกการเชื่อมต่อผู้ใช้จากเวิร์กบุ๊กที่แชร์ได้

สิ่งสำคัญ ก่อนที่คุณจะยกเลิกการเชื่อมต่อผู้ใช้ ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาใช้เวิร์กบุ๊กเสร็จแล้ว ถ้าคุณลบผู้ใช้ที่กำลังใช้งานอยู่ งานใดๆ ที่ยังไม่ได้บันทึกจะหาย

บนแท็บ รีวิว ในกลุ่ม การเปลี่ยนแปลง ให้คลิก การแชร์เวิร์กบุ๊ก
บนแท็บ การแก้ไข ในรายการ ผู้ที่เปิดเวิร์กบุ๊กขณะนี้ ให้รีวิวชื่อผู้ใช้
เลือกชื่อผู้ใช้ที่คุณต้องการยกเลิกการเชื่อมต่อ แล้วคลิก เอาผู้ใช้ออกบันทึกย่อ การกระทำเช่นนี้เป็นการยกเลิกการเชื่อมต่อผู้ใช้จากเวิร์กบุ๊กที่แชร์ แต่ไม่ใช่วิธีป้องกันไม่ให้ผู้ใช้กลับไปแก้ไขเวิร์กบุ๊กที่แชร์อีกครั้ง
เมื่อต้องการลบการตั้งค่ามุมมองส่วนตัวของผู้ใช้ ให้ทำดังนี้
1. คลิก มุมมอง ในกลุ่ม มุมมองเวิร์กบุ๊ก คลิก มุมมองแบบกำหนดเอง
2. ในรายการ มุมมอง ให้เลือกมุมมองที่คุณต้องการเอาออก แล้วคลิก ลบ

หยุดการแชร์เวิร์กบุ๊ก

ก่อนที่คุณจะหยุดการแชร์เวิร์กบุ๊กร่วมกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ผู้ใช้คนอื่นทั้งหมดใช้เวิร์กบุ๊กเสร็จแล้ว เพราะการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่ยังไม่ได้บันทึกจะหายไป เปลี่ยนประวัติ ก็จะถูกลบด้วย ดังนั้นคุณอาจต้องการพิมพ์หรือคัดลอกประวัติการเปลี่ยนแปลงไปยังเวิร์กบุ๊กอื่นก่อน

คัดลอกข้อมูลประวัติการเปลี่ยนแปลง

บนแท็บ รีวิว ในกลุ่ม การเปลี่ยนแปลง ให้คลิก ติดตามการเปลี่ยนแปลง แล้วคลิก การเน้นสิ่งที่เปลี่ยนแปลง
ในรายการ เมื่อ ให้เลือก ทั้งหมด
ล้างกล่องกาเครื่องหมาย โดยใคร และ ที่
เลือกกล่องกาเครื่องหมาย ทำรายการการเปลี่ยนแปลงบนแผ่นงานใหม่ แล้วคลิก ตกลง
เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างต่อไปนี้
- พิมพ์เวิร์กชีตประวัติ
- คัดลอกประวัติไปยังเวิร์กบุ๊กอื่น เลือกเซลล์ที่คุณต้องการคัดลอก กด CTRL+C แล้วสลับไปยังเวิร์กบุ๊กอื่น จากนั้นคลิกตำแหน่งที่คุณต้องการวางข้อมูลที่คัดลอก แล้วกด CTRL+V

คุณอาจจะต้องการบันทึกหรือพิมพ์เวิร์กบุ๊กเวอร์ชันปัจจุบัน เพราะประวัตินี้อาจไม่สามารถใช้กับเวิร์กบุ๊กเวอร์ชันใหม่กว่านั้นได้ ตัวอย่างเช่น ตำแหน่งที่ตั้งของเซลล์ รวมถึงจำนวนแถว ในประวัติที่คัดลอกไปอาจจะไม่ใช่รุ่นปัจจุบันอีกต่อไป

หยุดการแชร์เวิร์กบุ๊ก

ในเวิร์กบุ๊กที่แชร์ บนแท็บ รีวิว ในกลุ่ม การเปลี่ยนแปลง ให้คลิก การแชร์เวิร์กบุ๊ก
บนแท็บ การแก้ไข ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเป็นผู้เดียวที่แสดงอยู่ในรายการ ผู้ที่เปิดเวิร์กบุ๊กขณะนี้
เคล็ดลับ: เมื่อต้องการเอาผู้ใช้ออกเพิ่มเติม ให้ดูที่ ลบผู้ใช้ออกจากเวิร์กบุ๊กที่แชร์
ล้างกล่องกาเครื่องหมาย อนุญาตให้ผู้ใช้มากกว่าหนึ่งคนทำการเปลี่ยนแปลงในขณะเดียวกัน และรวมถึงการผสานเวิร์กบุ๊กบันทึกย่อ ถ้ากล่องกาเครื่องหมายนี้ไม่สามารถใช้งานได้ คุณต้องยกเลิกการป้องกันเวิร์กบุ๊กเสียก่อน เมื่อต้องการลบการป้องกันเวิร์กบุ๊กที่แชร์ออก ให้ทำดังนี้
1. คลิก ตกลง เพื่อปิดกล่องโต้ตอบ การแชร์เวิร์กบุ๊ก
2. บนแท็บ รีวิว ในกลุ่ม การเปลี่ยนแปลง ให้คลิก ยกเลิกการป้องกันเวิร์กบุ๊กที่แชร์
3. ถ้าคุณได้รับพร้อมท์ ให้ใส่รหัสผ่าน แล้วคลิก ตกลง
4. บนแท็บ รีวิว ในกลุ่ม การเปลี่ยนแปลง ให้คลิก การแชร์เวิร์กบุ๊ก
5. บนแท็บ การแก้ไข ให้ล้างกล่องกาเครื่องหมาย อนุญาตให้ผู้ใช้มากกว่าหนึ่งคนทำการเปลี่ยนแปลงในขณะเดียวกัน และรวมถึงการผสานเวิร์กบุ๊ก
6. เมื่อได้รับพร้อมท์เกี่ยวกับผลกระทบต่อผู้ใช้อื่น ให้คลิก ใช่

ฟีเจอร์ที่การแชร์เวิร์กบุ๊กไม่สนับสนุน

เวิร์กบุ๊กที่แชร์ไม่สนับสนุนฟีเจอร์ใน Excel บางอย่าง ถ้าคุณต้องการที่จะรวมฟีเจอร์ดังต่อไปนี้ ให้คุณเพิ่มฟีเจอร์นั้นๆ ก่อนที่คุณจะบันทึกเวิร์กบุ๊กเป็นเวิร์กบุ๊กที่แชร์ คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงฟีเจอร์นั้นได้อีกหลังจากที่คุณแชร์เวิร์กบุ๊กแล้ว

ในเวิร์กบุ๊กที่แชร์ คุณไม่สามารถทำสิ่งต่อไปนี้	แต่สามารถใช้หน้าที่การใช้งานนี้ได้
สร้างตาราง Excel
แทรกหรือลบกลุ่มเซลล์	คุณสามารถแทรกทั้งแถวหรือทั้งคอลัมน์ได้
ลบเวิร์กชีต
ผสานเซลล์หรือแยกเซลล์ที่ถูกผสาน
เรียงหรือกรองด้วยการจัดรูปแบบ	คุณสามารถเรียงลำดับหรือกรองด้วยตัวเลข ข้อความ หรือวันที่ โดยใช้ตัวกรองที่มีอยู่แล้วและกรองโดยใช้กล่อง ค้นหา
เพิ่มหรือเปลี่ยนการจัดรูปแบบตามเงื่อนไข	คุณสามารถใช้การจัดรูปแบบตามเงื่อนไขที่มีอยู่ได้เมื่อค่าในเซลล์เปลี่ยนแปลง
เพิ่มหรือเปลี่ยนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล	คุณสามารถใช้การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้เมื่อคุณพิมพ์ค่าใหม่
สร้างหรือเปลี่ยนแผนภูมิหรือรายงาน PivotChart	คุณสามารถดูแผนภูมิและรายงานที่มีอยู่แล้วได้
แทรกหรือเปลี่ยนรูปภาพหรือวัตถุอื่นๆ	คุณสามารถดูรูปภาพและวัตถุที่มีอยู่แล้วได้
แทรกหรือเปลี่ยนไฮเปอร์ลิงก์	คุณสามารถใช้ไฮเปอร์ลิงก์ที่มีอยู่ได้
ใช้เครื่องมือการวาด	คุณสามารถดูรูปวาดและกราฟิกที่มีอยู่แล้วได้
กำหนด เปลี่ยน หรือเอารหัสผ่านออก	คุณสามารถใช้รหัสผ่านที่มีอยู่ได้
ป้องกันหรือยกเลิกการป้องกันเวิร์กชีตหรือเวิร์กบุ๊ก	คุณสามารถใช้การป้องกันที่มีอยู่ได้
สร้าง เปลี่ยน หรือดูสถานการณ์สมมติ
ใช้คำสั่ง ข้อความเป็นคอลัมน์
จัดกลุ่มหรือกำหนดเค้าร่างข้อมูล	คุณสามารถใช้เค้าร่างที่มีอยู่ได้
แทรกผลรวมย่อยอัตโนมัติ	คุณสามารถดูผลรวมย่อยที่มีอยู่ได้
สร้างตารางข้อมูล	คุณสามารถดูตารางข้อมูลที่มีอยู่ได้
สร้างหรือเปลี่ยนรายงาน PivotTable	คุณสามารถดูรายงานที่มีอยู่ได้
สร้างหรือนำตัวแบ่งส่วนข้อมูลไปใช้	ตัวแบ่งส่วนข้อมูลที่มีอยู่ในเวิร์กบุ๊กจะสามารถมองเห็นได้หลังจากตั้งให้เวิร์กบุ๊กเป็นเวิร์กบุ๊กที่แชร์ แต่จะไม่สามารถเปลี่ยนเป็นตัวแบ่งส่วนข้อมูลแบบสแตนด์อโลน หรือนำไปใช้อีกครั้งกับข้อมูล PivotTable หรือฟังก์ชันคิวป์ได้ ตัวกรองที่ถูกนำไปใช้กับตัวแบ่งจะยังคงอยู่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นตัวแบ่งแบบสแตนด์อโลน หรือที่ถูกใช้โดยข้อมูล PivotTable หรือฟังก์ชั่นคิวป์ในเวิร์กบุ๊กที่แชร์
สร้างหรือปรับเปลี่ยนเส้นแบบประกายไฟ	เส้นแบบประกายไฟที่มีอยู่แล้วในเวิร์กบุ๊กจะแสดงหลังจากตั้งให้เวิร์กบุ๊กเป็นเวิร์กบุ๊กที่แชร์ และจะเปลี่ยนแปลงไปตามข้อมูลที่อัปเดต อย่างไรก็ตาม คุณไม่สามารถสร้างเส้นแบบประกายไฟใหม่ เปลี่ยนแปลงแหล่งข้อมูลหรือปรับเปลี่ยนคุณสมบัติของเส้นแบบประกายไฟได้
เขียน บันทึก เปลี่ยน ดู หรือกำหนดแมโคร	คุณสามารถเรียกใช้แมโครที่มีอยู่ที่ไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ที่ไม่พร้อมให้ใช้งาน นอกจากนี้คุณยังสามารถบันทึกการดำเนินการต่างๆ ในการใช้เวิร์กบุ๊กที่แชร์ ลงในแมโครที่เก็บไว้ในเวิร์กบุ๊กอื่นที่ไม่ได้ถูกแชร์ได้
เพิ่ม หรือเปลี่ยนแผ่นกล่องโต้ตอบของ Microsoft Excel 4
เปลี่ยนหรือลบสูตรอาร์เรย์	Excel จะคำนวณสูตรอาร์เรย์ที่มีอยู่ได้อย่างถูกต้อง
ทำงานกับข้อมูลแบบ XML รวมทั้ง นำเข้า รีเฟรช และส่งออกข้อมูลแบบ XML เพิ่ม เปลี่ยนชื่อ หรือลบแมป XML แมปเซลล์กับองค์ประกอบ XML ใช้บานหน้าต่างงาน, แหล่ง XML, แถบเครื่องมือ XML, หรือคำสั่ง XML บนเมนูข้อมูล
ใช้ฟอร์มข้อมูลเพื่อเพิ่มข้อมูลใหม่	คุณสามารถใช้ฟอร์มข้อมูลเพื่อค้นหาระเบียนได้

เจ้านายของคุณต้องการให้คุณป้องกันเวิร์กบุ๊ก และเธอต้องการเปลี่ยนแปลงเซลล์บางเซลล์หลังจากที่คุณทำงานเสร็จแล้วด้วย ดังนั้น ก่อนที่คุณจะป้องกันเวิร์กบุ๊ก (หรือเวิร์กชีต) ด้วยรหัสผ่าน คุณควรปลดล็อกเซลล์บางเซลล์ก่อน เมื่อเจ้านายของคุณเปลี่ยนแปลงเซลล์เสร็จแล้ว คุณสามารถล็อกเซลล์ได้

เลือกเซลล์ที่คุณต้องการล็อก
บนแท็บ หน้าแรก ในกลุ่ม การจัดแนว ให้เลือกลูกศรขนาดเล็กเพื่อเปิดกล่องโต้ตอบ จัดรูปแบบเซลล์
บนแท็บ การป้องกัน ให้เลือกกล่องกาเครื่องหมาย ล็อก แล้วคลิก ตกลงถ้าคุณลองทำขั้นตอนเหล่านี้บนเวิร์กบุ๊กหรือเวิร์กชีตที่คุณไม่ได้ป้องกันเอาไว้ คุณจะเห็นว่าเซลล์ถูกล็อกไว้แล้ว นั่นหมายความว่า เซลล์นั้นพร้อมจะถูกล็อกเมื่อคุณป้องกันเวิร์กบุ๊กหรือเวิร์กชีต
บนแท็บ รีวิว ใน Ribbon ในกลุ่ม การเปลี่ยนแปลง ให้เลือก ป้องกันแผ่นงาน หรือ ป้องกันเวิร์กบุ๊ก แล้วนำการป้องกันไปใช้อีกครั้ง
เคล็ดลับ: แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด คือให้ปลดล็อกเซลล์ใดๆ ที่คุณอาจต้องการเปลี่ยนแปลงก่อนที่คุณจะป้องกันเวิร์กชีตหรือเวิร์กบุ๊ก แต่คุณสามารถปลดล็อกเซลล์เหล่านี้หลังจากที่คุณนำการป้องกันไปใช้ได้เช่นกัน เมื่อต้องการทำเช่นนั้น ให้คุณเอาการป้องกันออกโดยการเอารหัสผ่านออก