มีบัตรเครดิตหลายใบ ซื้อบ้านได้ ไหม

หลายๆ ท่านมักกู้เงินไม่ผ่านเพราะปัญหาจากบัตรเครดิต ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการใช้บัตรเครดิตโดยตรง ถึงแม้จะจ่ายตรงเวลา แต่ในการขอกู้บ้าน ทางธนาคารจะวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมในการใช้จ่ายเงินของคุณตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และแนวโน้มการใช้ในอนาคต ว่ามีความสามารถเพียงพอหรือไม่ หากจ่ายค่าบ้านที่เป็นก้อนใหญ่ และระยะเวลาหลายสิบปี เราจึงขอแนะนำเทคนิคการใช้บัตรเครดิตให้สามารถ “กู้ซื้อบ้าน” ให้ผ่านได้ง่ายขึ้น

  • เทคนิคการใช้บัตรเครดิต
  • เทคนิคใช้บัตรเครดิตให้ฉลาดและคุ้มค่าที่สุด
  • สรุป

เทคนิคการใช้บัตรเครดิต

บัตรเครดิตก็เหมือนเป็นตัวแทนเงินสด ที่หากใช้ดีก็รับสิทธิประโยชน์ไปเต็มๆ แต่หากควบคุมไม่เพียงพอก็เกิดปัญหาในภายหลังได้โดยเฉพาะการขอสินเชื่อกู้บ้าน

1. ชำระหนี้ตรงเวลา

มาเริ่มที่วิธีพื้นฐานอย่างการชำระบัตรเครดิตให้ตรงตามกำหนดเวลา เพื่อบ่งบอกว่าคุณมีวินัยในการชำระหรือเปล่า เช่น จ่ายตรงตามเวลา ไม่มีผัดวันประกันพรุ่ง เนื่องจากหากเลยวันที่กำหนดไว้ จะต้องมีเรื่องการทวงถามเกิดขึ้น และหากเป็นบ้าน อาจจะมีค่าใช้จ่ายของทีมงานในการทวงถามหากผิดนัดเกินเวลานานเกินไป ความตรงต่อเวลาจึงเป็นสิ่งที่ธนาคารวิเคราะห์ประเด็นแรกๆ

2. ไม่ใช้บัตรแบบเกินตัว

การมีบัตรเครดิตหลายใบ แสดงถึงความเสี่ยงในการเกิดหนี้ก้อนโต ซึ่งหนี้สินตรงนี้อาจส่งผลถึงจำนวนเงินในการผ่อนชำระในอนาคต ว่ามีความสามารถเพียงพอหรือเปล่า บางครั้งในช่วงยื่นกู้ผู้กู้ยังไม่มีหนี้สิน ทำให้ผ่านการกู้บ้านได้ง่าย แต่อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ซึ่งบัตรเครดิตคือปัญหาหลักที่ทำให้ความสามารถในการชำระลดลง เพราะต้องนำเงินไปจ่ายบัตรเครดิตก่อน แนะนำว่ามีบัตรเครดิตประมาณ 1 – 3 ใบกำลังพอดี (ขึ้นอยู่กับวงเงินแต่ละใบ) 

3. ไม่มีภาระผ่อนสินค้า

ถึงแม้การผ่อน 0% จะดีต่อการซื้อสินค้าแต่หากทำเรื่องกู้บ้านแล้ว ก้อนเต็มที่ต้องผ่อนหรือจำนวนผ่อนต่อเดือนจะถูกนับเป็นหนี้สินส่วนหนึ่งในแต่ละเดือนที่คุณต้องจ่าย แสดงว่าจำนวนเงินที่จะผ่อนบ้านได้ต่อเดือนจะถูกลดลง และจำนวนยอดเงินที่ชำระไม่หมดจะถูกบันทึกไว้ในเครดิตบูโร ฉะนั้นก่อนกู้ควรจัดการเรื่องสินค้าที่ผ่อนให้ครบยอดก่อน เพื่อเพิ่มโอกาสในการขอกู้บ้านให้ผ่านได้

4. ปิดบัตรเครดิตที่ไม่จำเป็น

บัตรเครดิตแต่ละใบจะมีขั้นต่ำที่ต้องใช้ต่อปี เมื่อใช้ตามกำหนดจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ไม่ต้องเสียค่าบริการรายปี หรือส่วนลด แต่การถือบัตรอยู่ก็อาจเกิดการใช้ในอนาคตได้ แสดงว่าเกิดหนี้สินในอนาคตได้เช่นกัน ฉะนั้นบัตรไหนที่ไม่จำเป็นหรือไม่ใช้แล้วแนะนำให้ปิดก่อนจะยื่นกู้ดีกว่า เพราะธนาคารจะมองว่ายิ่งมีบัตรหลายใบก็ยิ่งมีโอกาสสร้างหนี้สินก้อนโตในอนาคต

5. ชำระหนี้บัตรก่อนเริ่มกู้

ประเด็นสุดท้ายที่ทำให้หลายท่านพลาดท่ายื่นกู้บ้านไม่ผ่านคือเรื่องของหนี้สินบัตรเครดิต หากยังมียอดค้างอยู่ ธนาคารจะมองว่าคุณยังไม่มีความสามารถพอในการผ่อน รวมถึงวินัยในการใช้เงินที่ใช้จ่ายเกินตัวจนไม่สามารถชำระหนี้สินก้อนนี้ได้ จนทำให้ยื่นกู้บ้านไม่ผ่าน และการขอกู้อีกครั้งอาจต้องเว้นช่วงสักพักใหญ่ (เวลาขึ้นอยู่กับธนาคาร)

เทคนิคใช้บัตรเครดิตให้ฉลาดและคุ้มค่าที่สุด

มีบัตรเครดิตหลายใบ ซื้อบ้านได้ ไหม

บัตรเครดิตก็เหมือนกับเครื่องการเงินที่ช่วยให้ชีวิตการใช้เงินของคุณได้สิทธิประโยชน์มากขึ้น รวมถึงช่วยให้การซื้อสินทรัพย์เล็กและใหญ่ในอนาคตเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากเช่นกัน ซึ่งพฤติกรรมการใช้จ่ายนี้จะแสดงบนเครดิตบูโร ทำให้พฤติกรรมการใช้บัตรเครดิตเป็นสิ่งที่บอกได้ชัดที่สุดว่าความสามารถในการจ่ายเงิน

ของคุณมีมากน้อยแค่ไหน เพียงพอต่อการซื้อบ้านราคาหลักล้านได้หรือไม่ โดยเทคนิคการใช้บัตรเครดิตให้คุ้มค่ามีดังนี้

  • ใช้บัตรเครดิตหลังวันสรุปยอดบัญชี 

วันสรุปยอดกับวันชำระแต่ละท่านจะไม่เหมือนกัน วันสรุปยอดจะสรุปว่าต้องเสียดอกเบี้ยเท่าไหร่จากยอดการใช้เดือนที่ผ่านมา และรอวันชำระซึ่งส่วนใหญ่จะห่างกันประมาณ 10 – 15 วัน (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละธนาคาร) แสดงว่าหากเริ่มใช้บัตรเครดิตหลังวันสรุปยอด จะมีเวลาเกือบ 20 วันขึ้นไปที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูที่เงื่อนไขของบัตรแต่ละประเภทของแต่ละธนาคารเพราะจะมีเงื่อนไขวันต่างกัน

  • ใช้แทนเงินสดเพื่อรับแต้ม

ประโยชน์ของแต้มสะสมคะแนนมีมากกว่าที่คิด เพราะนอกจากจะนำไปแลกเป็นเงินแล้วความคุ้มค่าในการแลกสินค้าอื่นจะยิ่งมากกว่า เช่น แลกไมล์ในการบินไปต่างประเทศ แลกรับส่วนลด แลกรับสินค้าและบริการพรีเมียมอีกมากมาย

ปี 2019 ธนาคารได้ใช้กลยุทธ์กระตุ้นการใช้บัตรเครดิตตั้งแต่เริ่มเปิดบัตร เช่น ใช้เท่านี้ได้รับที่พักรีสอร์ทสุดหรู ผู้ที่ใช้บัตรเครดิตเป็นประจำและมีวินัยในการควบคุมเงินได้ดี จึงรับสิทธิประโยชน์ส่วนนี้ไปเต็มๆ 

  • ใช้คะแนนสะสมเท่ายอดซื้อ

การช้อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าตอนนี้ หากใช้แต้มเท่ากับราคาเต็มจะสามารถแลกส่วนลดเงินสดได้  เช่น ซื้อสินค้า 5,000 บาท หากใช้แต้ม 5,000 แต้มจะได้รับส่วนลดเพิ่มจากเดิม 10% หรือ ส่วนลดเงินสด สิทธิประโยชน์นี้เป็นเหตุผลที่ทำไมจึงต้องใช้บัตรเครดิตแทนเงินสดเพราะทุกการใช้เงิน

จะยิ่งได้เงินกลับมา (ส่วนใหญ่ 25 บาท = 1 แต้ม)

  • ดูยอด Cashback

ปีนี้กลยุทธ์หลักของบัตรเครดิตส่วนใหญ่คือการได้รับ Cashback กลับเข้ามาในระบบ โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ จะมีช่องของ Cashback บอกไว้อย่างละเอียดว่าจะได้รับกลับมากี่% และคิดเป็นกี่บาท หากวางแผนการเงินดีจะพบว่าสามารถได้ Cashback กลับมาเป็นพันบาทต่อเดือนได้

  • เช็คสิทธิประโยชน์สม่ำเสมอ

ทุกบัตรจะมีสิทธิประโยชน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น ส่วนลดอาหารและร้านค้าต่างๆ เช่น รับโดนัทฟรี 1 ชิ้น หากซื้อ 5 ชิ้นรับเพิ่มอีก 3 ชิ้นฟรี หรือซื้อ 1 แถม 1 หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตใบนี้ หรือตั๋วหนังฟรีทุกเดือน หากใครมีบัตรหลายใบแนะนำใช้แอพ Uchoose ที่ช่วยบริหารบัตรเครดิตหลายใบให้สะดวกขึ้นไม่สับสนและยังแจ้งเตือนทุกครั้งหากมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเข้ามา

สรุป

บัตรเครดิตคือเครื่องมือที่ช่วยให้ประสิทธิในการใช้เงินคุ้มค่ามากขึ้น และเป็นเครื่องมือหลักที่ธนาคารใช้ประเมินในการขอสินเชื่อซื้อบ้าน ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาการเงินตามมาทีหลัง ก่อนมีบัตรเครดิตจึงต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อมว่าใช้จ่ายยังไงถึงได้สิทธิประโยชน์มากที่สุด รวมถึงเทคนิคการใช้บัตรเครดิตเพราะจะทำให้ทุกการใช้เงินมีคุณค่ามากขึ้นด้วย