พญาเสือโคร่ง ปลูกภาคอีสานได้ไหม

ทั่วไป

แห่ชม! พญาเสือโคร่ง ออกดอกผิดฤดูหนึ่งเดียวของจังหวัด

04 เม.ย. 2565 เวลา 17:49 น.343

แห่ชม! พญาเสือโคร่ง ออกดอกผิดฤดู จากฤดูหนาว เป็นฤดูร้อน 1 เดียวของจังหวัดพะเยา

เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุดร วงค์ลคร อายุ 47 ปี ผู้ดูแลไร่ใบธง ได้พาผู้สื่อข่าว เดินชมต้นพญาเสือโคร่ง ออกดอก ภายในบริเวณสวนไร่ใบธง ต.ต๊ำ อ.เมือง จ.พะเยา จนเป็นที่ฮือฮาและแปลกผิดธรรมชาติ ที่ต้นพญาเสือโคร่ง เริ่มผลิใบออกดอกไปทั่วบริเวณไร่ใบธง กว่า 100 ต้น ซึ่งเป็นการออกดอกของพญาเสือโคร่งที่ผิดฤดู ซึ่งโดยปกติจะออกดอกในฤดูหนาว เท่านั้น แต่ต้นพญาเสือโคร่งภายในบริเวณไร่ใบธงนั้น กลับไม่ออกดอกช่วงฤดูหนาวแต่จะออกดอกผลิใบในช่วงฤดูร้อน หรือเดือน เม.ย.ของทุกปี ผ่านมาแล้วถึง 7 ปี จนเป็นที่ฮือฮากันว่าต้นพญาเสือโคร่งในไร่ใบธง ออกดอกผิดฤดูที่มีเพียงแห่งเดียวในจังหวัด

นายอุดร กล่าวว่า ปลูกต้นพญาเสือโคร่งตัว 200 ต้น ในไร่ใบธงปัจจุบันเหลือเพียงประมาณ 100 ต้น ที่เริ่มออกดอกผลิใบ สำหรับต้นพญาเสือโคร่งที่ปลูกในไร่โดยตรงนั้นจะมีความแปลกจากต้นพญาเสือโคร่ง ที่อื่นเพราะว่าต้องพญาเสือโคร่งของร่างทรงนี้จะออกดอกในช่วงฤดูร้อนเพียงเท่านั้น ส่วนในฤดูหนาวจะไม่ออกดอกแต่อย่างใด ไม่ได้ออกดอกในช่วงฤดูร้อนหรือช่วงเดือน เม.ย. มาแล้วถึง 7 ปี นับว่าก็เป็นความแปลกอย่างอื่นของต้นพญาเสือโคร่ง ที่โดยส่วนมากจะออกดอกในช่วงฤดูหนาวเพียงเท่านั้น แต่ภายในบริเวณได้โดยตรงจะออกดอกในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น

เผยแพร่: 3 มี.ค. 2564 18:15   ปรับปรุง: 3 มี.ค. 2564 18:15   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ฉะเชิงเทรา -​ เปิดภาพดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งตลอดถนน 304 สายฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี สั่งลาช่วงเวลาแห่งความงดงามก่อนถูกโค่นทิ้งรับโครงการขยายเส้นทางในพื้นที่ EEC จาก 4 ช่องจราจรเป็น 8 ช่องจราจร

วันนี้ (3 มี.ค.)​ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเก็บภาพความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่กำลังบานสะพรั่งชูช่อกลีบดอกสีม่วงสดสลับขาวสะอาดตาตลอดสองข้างทางริมถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ช่วงสามแยกหนองปลาตะเพียน มุ่งหน้า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา รวมระยะทางเกือบ 10 กิโลเมตร

 สร้างความสบายตาแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนบนเส้นทางดังกล่าวตั้งแต่ช่วงปลายฤดูหนาวจนใกล้สิ้นสุดกาลเวลาแห่งความงดงามตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา

โดยต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย เป็นไม้ยืนต้นตระกูล Prunus ที่ถูกนำมาปลูกไว้บนถนนสายดังกล่าวกำลังจะกลายเป็นตำนานที่ถูกพูดถึง

 
เพราะในปีนี้ กรมทางหลวงจะมีโครงการขยายเส้นทางสัญจรเพื่อรองรับภาคการขนส่งสินค้า และการสัญจรเชื่อมโยงโครงข่ายในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ไปยังชายแดนประเทศเพื่อนบ้านทั้งในเขตภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย 

ซึ่งจะทำให้ถนนสาย 304 ตั้งแต่บริเวณสี่แยก อ.พนมสารคาม ไปจนถึง ต.เขาหินซ้อน ก่อนสิ้นสุดเขต จ.ฉะเชิงเทรา เข้าสู่ จ.ปราจีนบุรี จะถูกปรับพื้นที่เพื่อทำการก่อสร้างขยายเส้นทางตลอดทั้งสาย 

และสิ่งที่จะตามมาคือ ภาพความงดงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่เคยปรากฏให้เห็นตลอดสองข้างทางต้องมีอันสลายไป และในปีนี้จึงเป็นปีสุดท้ายที่ต้นพญาเสือโคร่งจะได้ออกดอกบานสะพรั่งโชว์ความสวยงามแก่ผู้พบเห็น

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

นางพญาเสือโคร่ง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Prunus cerasoides)[3] เป็นพืชดอกในสกุล Prunus ออกดอกช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ พบทั่วไปบนภูเขาตั้งแต่ความสูง 1,200-2,400เมตรจากระดับน้ำทะเล เช่น ภูลมโล จังหวัดเลย, ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย, ดอยเวียงแหง ดอยอ่างขาง ขุนช่างเคี่ยน ขุนแม่ยะ จังหวัดเชียงใหม่, ขุนสถาน ดอยวาว ดอยภูคา ดอยมณีพฤกษ์ จังหวัดน่าน, ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์, ภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก ฯลฯ โดยเป็นดอกไม้ประจำอำเภอเวียงแหง นางพญาเสือโคร่ง เป็นพรรณไม้ที่มีการกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติอยู่ที่ตอนเหนือของประเทศไทย

ในต่างประเทศ พบในประเทศพม่า รัฐชานและรัฐกะชีน, ประเทศอินเดียพบบนเทือกเขาหิมาลัย ในรัฐอรุณาจัลประเทศยาวไปจนถึงรัฐหิมาจัลประเทศทางตอนเหนือของอินเดีย หรือที่เรียกว่าHimalayas, ประเทศภูฏาน, ประเทศเนปาล และประเทศจีนพบในมณฑลยูนนาน

นางพญาเสือโคร่งถูกนิยมเรียกว่า "ซากูระเมืองไทย" เพราะมีลักษณะคล้ายซากูระในประเทศญี่ปุ่น แม้จะเป็นคนละชนิดกันก็ตาม

ชื่อท้องถิ่น[แก้]

ชื่อท้องถิ่นของนางพญาเสือโคร่ง เช่น ฉวีวรรณ, ชมพูภูพิงค์ (เหนือ) เส่คาแว่, เส่แผ่, แส่ลาแหล (กะเหรี่ยง เชียงใหม่) ซากูระดอย (เชียงใหม่) และได้รับฉายาว่า "ซากูระเมืองไทย" ในประเทศญี่ปุ่นจะเรียกดอกไม้พันธุ์นี้ว่า ヒマラヤザクラ (หิมาลายาซากูระ) หมายถึงซากูระจากหิมาลัย

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์[แก้]

พญาเสือโคร่ง ปลูกภาคอีสานได้ไหม

นางพญาเสือโคร่งเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ ขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 10-15 เมตร ใบ เป็นชนิดใบเดี่ยว ลักษณะรูปรีแบบไข่ หรือไข่กลับ ออกสลับกัน ใบมีความกว้าง 3-5 เซนติเมตร ยาว 5 -12 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบกลมหรือสอบแคบ ขอบจักปลายก้านใบมีต่อม 2-4 ต่อม หูใบแตกแขนงคล้ายเขากวาง ใบร่วงง่าย ดอก สีขาว ชมพู หรือแดง ออกเป็นช่อกระจุกใกล้ปลายกิ่ง ก้านดอกยาว 0.7-2 เซนติเมตร ขอบริ้วประดับจักไม่เป็นระเบียบ กลีบเลี้ยงติดกันเป็นรูปกรวย กลีบดอกมี 5 กลีบ เมื่อบานขนาดโตเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 เซนติเมตร ผล รูปไข่หรือกลม ยาว 1-1.5 เซนติเมตร เมื่อสุกสีแดง ระยะเวลาออกดอกระหว่างเดือนธันวาคมจนถึงกุมภาพันธ์ โดยจะทิ้งใบก่อนออกดอก

ผลของนางพญาเสือโคร่งสามารถนำมารับประทานได้ มีรสเปรี้ยว ส่วนเนื้อไม้และการใช้ประโยชน์ ด้านอื่นยังไม่มีการบันทึกข้อมูลไว้ นอกจากการนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ เนื่องจากมีดอกสวยงาม

การปลูกเลี้ยง ได้มีการปลูกนางพญาเสือโคร่งบนพื้นที่ต้นน้ำลำธารมาเป็นเวลา 10 ปี แล้วปรากฏว่าได้ผลดี เป็นไม้ที่มีความเหมาะสมในการที่จะขึ้นอยู่ในพื้นที่ผ่านการทำไร่เลื่อนลอย บนพื้นที่สูงแต่ไม่ควรปลูกบนพื้นที่ซึ่งมีลมพัดจะทำให้กิ่งก้านหักได้ง่าย ขยายพันธุ์โดยเมล็ด[4]

นางพญาเสือโคร่งและซากูระ[แก้]

พญาเสือโคร่ง ปลูกภาคอีสานได้ไหม

พญาเสือโคร่ง ปลูกภาคอีสานได้ไหม

คำว่า ซากูระกล่าวถึงพืชที่อยู่ในสกุล Prunus โดยนางพญาเสือโคร่งเป็นหนึ่งในสกุลนั้น โดยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Prunus cerasoides[3] ขณะที่ในประเทศญี่ปุ่นมีซากูระอยู่หลากหลายพันธุ์ โดยพันธุ์ที่พบมากสุดคือ โซะเมโยะชิโนะ (ญี่ปุ่น: 染井吉野; โรมาจิ: somei-yoshino) ในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Prunus × yedoensis

นางพญาเสือโคร่งแตกต่างจากซะกุระญี่ปุ่นคือมีช่วงเวลาการออกดอกต่างกันคือ นางพญาเสือโคร่งออกดอกในเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว ส่วนซากูระในญี่ปุ่นออกดอกช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น และมีการสันนิษฐานว่า นางพญาเสือโคร่งและซากูระมีบรรพบุรุษร่วมกันทางตอนใต้ของจีน และวิวัฒนาการออกไปจนมีสายพันธุ์มากมาย มีสีที่หลากหลาย

การจำแนกสายพันธุ์อย่างกว้าง นางพญาเสือโคร่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Wild Himalayan Cherry หมายถึงPrunusที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียทางตอนใต้ ตั้งแต่ประเทศไทยไปจนถึงเทือกเขาหิมาลัยในประเทศอินเดีย ส่วนซากูระถูกจำแนกเป็น Cherry blossom หมายถึง Prunusที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียทางตอนเหนือ ตั้งแต่ประเทศจีน, เกาหลี ไปจนถึงประเทศญี่ปุ่นและรัสเซียในเขตไซบีเรีย

รูปภาพ[แก้]

  • พญาเสือโคร่ง ปลูกภาคอีสานได้ไหม

    นางพญาเสือโคร่ง ดอกสีชมพู (ขุนช่างเคี่ยน เชียงใหม่)

  • พญาเสือโคร่ง ปลูกภาคอีสานได้ไหม

    นางพญาเสือโคร่ง ดอกสีขาว (ขุนช่างเคี่ยน เชียงใหม่)

อ้างอิง[แก้]

  1. "Plant Name Details for Prunus cerasoides D.Don". IPNI . สืบค้นเมื่อ September 16, 2009.{{cite web}}: CS1 maint: extra punctuation (ลิงก์)
  2. GRIN (May 29, 2007). "Prunus puddum information from NPGS/GRIN". Taxonomy for Plants. National Germplasm Resources Laboratory, Beltsville, Maryland: USDA, ARS, National Genetic Resources Program. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-06. สืบค้นเมื่อ September 16, 2009.
  3. ↑ 3.0 3.1 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, นางพญาเสือโคร่ง Archived 2009-06-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, สืบค้นวันที่ 21 ก.ย. 2552
  4. "พญาเสือโคร่ง" ซากูระเมืองไทยเบ่งบานที่ขุนช่างเคี่ยน