อัพเดทความรู้ธุรกิจตรงถึงอีเมล อัพเดทผ่าน LINE หรือปรึกษาเราเรื่องธุรกิจ ติดตาม Facebook กด See First ด้วยนะครับ 2021 และต่อจากนี้ คือ โลกการทำงานแห่งการเชื่อมโยงกันระหว่างผู้คนหลากหลายประเภท
หลากหลายที่ว่านี้เป็นได้ตั้งแต่ความคิดที่หลากหลาย ภาษาที่หลากหลาย หรือ ภูมิหลังของแต่ละคนที่ต่างกัน เนื่องจากอินเตอร์เน็ตที่เข้าถึงง่าย และ Software ต่างๆ ที่เข้ามาอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อคนจากทั่วโลก.. เมื่อคนหลากหลายประเภทมาทำงานร่วมกันแน่นอนว่าปัญหาในการบริหารทีมย่อมเกิดขึ้นได้เป็นปกติ การทำงานเป็นทีม จึงเป็นสิ่งสำคัญ และบทความนี้เราจะมาแชร์กันว่า การทํางานเป็นทีมให้ประสบความสําเร็จ มีขั้นตอนอย่างไร บทความนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับวิธีที่จะทำให้สมาชิกในทีมที่มีความหลากหลายสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข
ผ่านการมีสิ่งที่เรียกว่า Teamwork คำง่ายๆ ที่ทุกคนค้นเคย แต่จะสร้าง Teamwork ให้เวิร์คมีอะไรมากกว่านั้น ก่อนจะเข้าเรื่องบทบาทของผู้บริหาร และ Manager ในการสร้าง Teamwork และเทคนิคในการสร้าง Teamwork เพื่อการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ เราขอย้อนไปทำความรู้จักก่อนว่า Teamwork จริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่ เพราะบางคนอาจมีความเข้าใจผิดอยู่ ซึ่งหากเข้าใจผิด จะส่งผลให้เกิด Attitude ในการบริหารทีมที่ผิด ในการทำงานภายในทีม หรือกลุ่ม
สิ่งที่สำคัญมากและขาดไม่ได้เพื่อที่จะทำให้งานสำเร็จตามที่ความคาดหวัง คือ การมีสิ่งที่เรียกว่า “Teamwork” หรือ “ความร่วมมือร่วมใจภายในทีม” ซึ่งการมี Teamwork นั้น ไม่ใช่เพียงแค่การรวมตัวกันของกลุ่มคนเพื่อมาทำงาน.. การทำงานเป็นทีม หรือ Teamwork คือ การทำงานที่สมาชิกแต่ละคนกำหนดเป้าหมายร่วมกันอย่างชัดเจน มองเห็นทิศทางการทำงานเดียวกัน ร่วมกันวางแผนงาน ตลอดจนวางระบบการทำงานที่ดี ทุกคนรู้ภาระหน้าที่ของตนเอง มีการร่วมมือกัน ช่วยเหลือกัน และที่สำคัญคือสามารถให้ Feedback เพื่อการประเมินผลและแก้ไขปัญหาให้ทีมได้ ท้ายที่สุดแล้วทุกคนทำเพื่อผลสำเร็จเดียวกันที่เป็นภาพรวมของทีม ความสำคัญของการทำงานเป็นทีม (Teamwork)ถ้าทีมพัง ทุกอย่างก็จะไปสามารถเดินหน้าต่อได้.. หนักกว่านั้น ถ้าในทีมกลายเป็น Toxic Workplace บรรยากาศการทำงานจะแย่ลงทันที.. Teamwork จึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากและขาดไม่ได้ในการทำงานเป็นทีม เนื่องจากการมีทีมที่ดีจะส่งผลทั้งต่อตัวงานและต่อตัวคน งานที่ดีย่อมเกิดมาจากการทำงานทีมีการวางแผนงานอย่างเป็นระบบ สมาชิกทุกคนในทีมรู้หน้าที่ตนเอง ทำงานด้วยความตั้งใจอย่างเต็มที่.. และถ้าทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน เห็นภาพปลายทางภาพเดียวกัน ก็จะยิ่งให้การบริหารงานในทีมมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งถ้าทุกคนได้แชร์เป้าหมายเดียวกัน การร่วมมือกันทำงานก็จะเกิดขึ้น เช่น หากมีใครคนใดคนหนึ่งติดปัญหา คนอื่นๆ ก็จะเข้ามาช่วยโดยที่ไม่ต้องขอ หรือไม่ต้องเอาข้อแลกเปลี่ยนอื่นมาแลกเพื่อเข้าไปช่วย ซึ่งแต่ละคนก็จะต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการสอดส่องจุดบกพร่อง เพราะหากโปรเจคนั้นไม่สำเร็จ มันจะกระทบกับคนทั้งทีม ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง ซึ่งความคิดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย.. เพราะหลายๆ ครั้งเวลาโปรเจคไม่สำเร็จ คนส่วนใหญ่ชอบชี้ไปที่คนใดคนหนึ่ง และโทษว่าเป็นความผิดคนนั้น นั่นหมายความว่า คนเหล่านี้ยังมีความคิดว่า Teamwork คือการทำงานแบบต่างคนต่างทำ แล้วเอางานมารวมกัน ซึ่งถ้าใครทำดีที่สุดในทีมหัวหน้าน่าจะชอบ.. แบบนี้คือความคิดที่พัง! พังมากๆ และจะทำให้ทีมพังกันไปทั้งหมด
การสร้าง Teamwork ให้เกิดขึ้นในทีม นอกจากจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิกในทีม ยังส่งผลไปถึงระดับแผนก และองค์กร เพราะการมี Teamwork คือการให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และความสุขในการทำงานของคนในทีม ระบบการทำงานที่ดีจะทำให้พนักงานในองค์กรทุกคนย่อมอยากที่จะพัฒนาตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่ให้งานถัดไปบรรลุผลสำเร็จต่อไป การที่พนักงานทุกคนมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เติบโตไปด้วยกัน องค์กรก็จะเติบโตไปเรื่อยๆ อีกหนึ่งเคล็ดลับในการสร้างทีมคือต้องดูตั้งแต่ตอนสมัครเลยว่าคนๆ นั้นมี Entrepreneurial Mindset หรือเปล่า บทบาทของหัวหน้าทีมในฐานะ Manager หรือ ผู้บริหารManager และผู้บริหาร ถือได้ว่าเป็นตัวแปรที่ สำคัญที่สุด ในการสร้างทีมที่ดี 70% ของความหลากหลายในการร่วมมือของทีมเกิดการตัดสินใจของหัวหน้า อาจกล่าวได้ว่า ความสำเร็จของ Teamwork ต้องย้อนกลับไปที่ว่าหัวหน้าทีมเป็นอย่างไร ในการทำงาน หัวหน้าทีมควรสร้าง Team Standard และ Team Expectation เพื่อให้สมาชิกภายในทีมเห็นภาพความสำเร็จร่วมกันและเห็นภาพคำว่า “ทีมที่ดี” ร่วมกัน เมื่อสร้างข้อตกลงร่วมกันดังนี้ ทุกคนในทีมจะเข้าใจตรงกันอย่างเป็นรูปธรรมว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญอีกอย่าง คือหัวหน้าทีมไม่ควรเดาไปก่อนว่าลูกน้องรู้หรือไม่รู้อะไร แต่ควรมีการสื่อสารให้เข้าใจตรงกันอยู่เสมอระหว่างหัวหน้ากับสมาชิก และสมาชิกกับสมาชิก ถัดมา ในเรื่องของการแบ่งงาน หัวหน้าควรรู้จักลูกน้องของตัวเองดี ว่าใครถนัด และไม่ถนัดอะไร เพื่อแจกจ่ายงานที่จะได้เข้ากับความสามารถของสมาชิกในทีมมากที่สุด Related Postsอย่างไรก็ตาม หัวหน้าเองก็ไม่ควรลืมที่จะถามความสมัครใจของสมาชิกทุกครั้งเมื่อมอบหมายงาน รวมถึงถามด้วยว่าสามารถไหม ไหวหรือเปล่า เพื่อให้ได้ทราบว่าลูกทีมยังต้องการความช่วยเหลือ หรือ Support ในส่วนไหนบ้าง และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในฐานะหัวหน้าของทีม คือ การคอยสอดส่องและเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมเสมอ คอยถามและดูแลความเรียบร้อยภายในทีม เพราะหัวหน้าคือผู้ที่เห็นทีมและงานในภาพใหญ่ ดังนั้น ผู้ที่คอยไกด์ให้ทีมเดินไปในทิศทางตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ก็คือหัวหน้าทีม 5 เทคนิคการสร้างทีมและ Teamwork1. ตั้ง Goal, Team Standard และ Team Expectationรากฐานที่สำคัญของการมี Teamwork คือการที่สมาชิกภายในทีมเห็นภาพเดียวกันและเข้าใจการปฏิบัติ และการดำเนินงานแบบเดียวกันอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสามารถสร้างได้ผ่านสามหัวข้อ ดังนี้
2. สร้างบรรยากาศการทำงานที่เป็นมิตรสำหรับสมาชิกในทีม การกลัว หรือ ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น ไม่มั่นใจในความคิดของตัวเองเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติ สิ่งที่เกิดขึ้นในการทำงานเป็นทีมหลายครั้งคือสมาชิกในทีมโดยเฉพาะสมาชิกใหม่ สมาชิกที่อายุน้อย หรือ สมาชิกที่ตำแหน่งไม่สูงอาจไม่กล้าออกความเห็น หลายคนกังวลว่าความเห็นตนอาจไม่ดีพอ หลายคนกลัวการถูกตำหนิและถูกตัดสินจากคนรอบข้าง ดังนั้น ในฐานะหัวหน้าทีม สิ่งที่สำคัญที่ต้องปฏิบัติอยู่เสมอคือการพยายามสร้างบรรยากาศในทีมที่เป็นมิตร สร้างความรู้สึก Safe-To-Fail เพื่อให้สมาชิกกล้าที่จะแสดงความเห็นมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจทำได้ผ่านวิธีง่าย ๆ เช่น การพูดให้กำลังใจ หรือส่งต่อทัศนคติดี ๆ ให้สมาชิกอยู่เสมอ หรืออาจจะตั้ง No Idea = Bad Idea เป็นหนึ่งใน Team Standard เลยก็ได้ 3. สร้างความ Inclusiveความสุขและความรู้สึกอยากในการทำงาน มักเกิดจากความสุขและความรู้สึกที่ได้มาจากทีม หนึ่งในความรู้สึกที่สำคัญคือ ความ Inclusive หรือ ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความรู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของงาน ความรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำมีผลกับงาน ความรู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของทีม ความรู้สึกว่าเสียงของเราได้รับการได้ยิน หากทำให้ความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้นภายในทีม ก็จะช่วยเป็นตัวกระตุ้นให้สมาชิกปฏิบัติงานอย่างตั้งใจ ใส่ใจ ระมัดระวัง คอยช่วยเหลือกัน และปฏิบัติงานด้วยความรู้สึกจากข้างในจริงๆ มากกว่าแค่เพราะว่าต้องทำ ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพของงานที่ตามมา หนึ่งแนวทางในการสร้างความรู้สึกนี้คือ การกำหนดรูปแบบการสื่อสารภายในทีม คำนึงเสมอว่าทีมมีพื้นที่ที่ให้สมาชิกสามารถพูดในสิ่งที่ต้องการพูดได้อย่างสบายใจและทำให้มั่นใจว่าไม่มีใครถูก Left Out ในการสนทนา ไม่ว่าจะในช่วงการทำงาน หรือนอกเวลาทำงาน เช่น ตอนออกไปกินข้าวด้วยกัน ซึ่งอีกเทคนิคหนึ่งที่จำช่วยให้คนในทีมสนิทกัน คือการหากิจกรรมทำด้วยกันนอกเวลางาน เพื่อให้คนในทีมได้คุยกันเรื่องอื่นนอกเหนือจากงาน ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น ว่าใครเป็นยังไง ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร นอกจากนี้ จำนวนสมาชิกในทีมก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ทีมไม่ควรใหญ่จนเกินไปเพราะนั่นอาจจะทำให้ความรู้สึกนี้เกิดได้ไม่ทั่วถึง กฎที่สำคัญที่บริษัท Amazon คือ ทีมจะต้องไม่ใหญ่ไปกว่าจำนวนของพิซซ่า 2 ถาดที่สามารถแบ่งกันกินได้อิ่มพอดี 4. ประเมิน ติดตามผล แก้ไขความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ไม่มีสูตรสำเร็จ แม้จะวางแผนเพื่อสร้างทีมที่ดีไว้ยังไงแต่ก็อาจเกิดข้อผิดพลาดหรือสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นได้เสมอ วิธีที่ใช้รับมือกับเหตุการณ์แบบนี้คือการคอยหมั่นเช็คติดตามอัพเดทคนในทีมเสมอ ซึ่งอาจทำได้ผ่านการพูดคุยรับฟัง Feedback ของกันและกัน ร่วมกันแชร์ว่า Best Practice ที่อยากให้ทุกคนปฏิบัติต่อคืออะไร และอะไรคือสิ่งที่อยากให้แต่ละคนปรับปรุงเพิ่มเพื่อให้ทีมเดินไปข้างหน้า นอกจากนี้ อย่าลืมที่จะกล่าวคำชมหากลูกทีมคุณปฏิบัติงานได้ดีเพราะคำพูดเล็กๆ สามารถกลายเป็นแรงผลักดันและความรู้สึกดีๆ ที่ยิ่งใหญ่ให้กับหลายๆ คนได้ แต่เรื่องที่ไม่ดี หรือต้องปรับปรุง ก็ต้องพูดกันตรงๆ ซึ่งไว้เป็นหนึ่งใน Team Expectation เลยก็ได้ ว่าทุกคนในทีมจะ Feedback กันตรงๆ เพื่อให้ทุกคนได้รู้ และเข้าใจว่าในเรื่องงานจะพูดกันตรงๆ และไม่ติดอะไรค้างคาใจ 5. ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเป็นประจำการสร้างทีมไม่ใช่สิ่งที่จะมาพูดกันครั้งเดียวแล้วจะเวิร์ค แต่ต้องมีการนำมาปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ และเคร่งครัด โดยหัวหน้าทีมต้องทำตัวเป็น Role Model เพราะหากตัวเองทำไม่ได้แล้วใครจะทำตาม การ Walk the Talk จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ขั้นตอนการปรฎิบัติ ประเมิน ติดตามผล แก้ไข จึงเป็น Loop สำคัญสำหรับหัวหน้าทีม และที่สำคัญกว่านั้นคือต้องควบคุมให้ทีมงาน และตัวเองให้ปฏิบัติตาม Team Stadard ด้วยเช่นกัน References: gallup, businessnewsdaily, hrnote.asia Teamwork การทำงานเป็นทีม ผู้บริหาร
HardcoreCEOบทความ เรื่องราว ความรู้ ธุรกิจ การตลาด เทคโนโลยี ที่เป็นประโยชน์ต่อการ ปรับ เปลี่ยน และ เรียนรู้ เพื่อพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล การทํางานเป็นทีม คืออะไร มีลักษณะอย่างไรการทำงานเป็นทีม หมายถึง การร่วมกันทำงานของสมาชิกที่มากกว่า 1 คน โดยที่สมาชิกทุกคนนั้นจะต้องมีเป้าหมายเดียวกันจะทำ อะไรแล้วทุกคนต้องยอมรับร่วมกัน มีการวางแผนการทำงานร่วมกัน การทำงานเป็นทีมมีความสำคัญในทุกองค์กรการทำงานเป็นทีมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการบริหารงานการทำงานเป็น
ได้อะไรจากการทํางานเป็นทีมการทำงานเป็นทีมนั้นทรงพลังกว่าการทำงานร่วมกันหรือการทำงานเป็นกลุ่ม การทำงานเป็นทีมสามารถทำให้งานสำเร็จลุล่วงได้ดีขึ้นหากทุกคนในทีมมีแนวคิดทัศนคติไปในทางเดียวกัน ตั้งเป้าหมายร่วมกัน รู้หน้าที่มีระบบการทำงานที่ชัดเจน รู้จักกันและกันอย่างลึกซึ้ง มีความสัมพันธ์อันดีในทีม สนับสนุน สามัคคี แบ่งปันความรู้ ร่วมสำเร็จไปด้วยกัน ...
ทีมเวิร์ค สําคัญอย่างไรประโยชน์ของทีมเวิร์ค
ทำให้งานทุกงานสมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะแบ่งงานตามความถนัดจึงทำได้ดี ทุกคนมีไฟในการทำงานของตัวเอง แต่เป็นไฟที่ส่งต่อให้คนรอบข้าง จึงเป็นงานที่มีความสนุกและท้าทาย มีมิตรภาพและกำลังใจระหว่างงาน ได้สร้างสรรค์และพัฒนางานให้ก้าวหน้าขึ้น เพราะมีการระดมความคิด ไอเดีย จากทีมเวิร์ค
ลักษณะการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างไรมีระบบการทำงานที่ชัดเจน ทุกคนรู้หน้าที่ ปฎิบัติภาระกิจให้ดีที่สุด สามัคคี ให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือเกื้อกูล ผลักดันกันและกัน ชื่นชมความสำเร็จร่วมกัน ร่วมภาคภูมิใจด้วยกัน
|