วิธีปิด firewall windows 7

Windows comes with its own inbuilt firewall known as Windows Defender. This firewall is considered enough and necessary for each lightweight computer user who does light browsing on the internet. Furthermore, it works seamlessly with the Windows OS making it easy to operate and work in the background without ever needing monitoring or customization. However, there are instances when it becomes a nuisance rather than an asset. Here are some of the reasons when you might want to disable firewall in Windows.

สารบัญ Show

Steps to Disable Firewall in Windows 7, 8 and 10
Comodo Firewall
ปิดการใช้งานไฟร์วอลล์ใน Windows 10, 8 และ 7
ปิดการใช้งานไฟร์วอลล์ใน Windows Vista

i. Blocking crucial programs

Sometimes the nature of work you do and the type of programs you run may get detected as malicious by Windows especially torrents and such programs. This might leave you frustrated and necessitate the need to disable your Windows Defender for a while until you're done with the program. However, doing such may leave you at risk of getting attacked by cyber-criminals, so it should always be a last resort.

ii. Installing a third-party firewall software

Granted, Windows Defender works just fine for a light browser. However, there are times when you need more functionality than just intrusion prevention. For example, you might need malware detection and prevention, rootkits protection, antibots, and much more. In such a scenario, installing a third-party is your best bet to getting maximum protection. However, when you install a third-party firewall software, your windows firewall may misbehave and try to override your newly installed firewall. However, by default, Windows Defender will turn itself off when a new firewall is installed. If this doesn’t happen, then you have to learn how to disable firewall in Windows manually.

iii. If your computer is connected to a large organization's firewall

Sometimes we might take our computers to work and get connected to the organization's firewall. In such a scenario, the organization's firewall will be more extensive and enough to protect your computer. You, therefore, can free up some resources on your computer by disabling your Windows firewall. However, only do this if you're sure that you're protected entirely and remember to enable it once you leave the organization's firewall.

Steps to Disable Firewall in Windows 7, 8 and 10

Open Control Panel. You can search it or use the Start Menu in Windows.

On the Control Panel, select System and Security for Windows 7 or go directly to Windows Defender for Windows 8 and above.

In Windows Defender, select "Turn Windows Defender Firewall on or Off.

There are two options. For Private Networks and for Public Networks. You can turn off for both Networks or one of them. Note that Windows will tell you it’s not recommended. If you're sure about that, you can ignore the caution.

Open Control Panel. You can search it or use the Start Menu in Windows.
On the Control Panel, select System and Security for Windows 7 or go directly to Windows Defender for Windows 8 and above.
In Windows Defender, select "Turn Windows Disable Firewall on or Off."
IV. There are two options. For Private Networks and for Public Networks. You can turn off for both Networks or one of them. Note that Windows will tell you it’s not recommended. If you're sure about that, you can ignore the caution.

Comodo Firewall

Comodo Firewall is a third-party firewall that will work seamlessly with your Windows computer and offer more security and functionality than the Windows Defender. It has won multiple prestigious awards in the AV-Test 2019 owing to its functionality and usability. With its host intrusion prevention system, application sandboxing, website filtering, dynamic process analyzing and scanning, kill switch to stop or block problematic processes, your internet security is guaranteed. What's more? It's simple to use for beginners and can also be customized to fit each individual's needs. Get it for $29.99 a year and get an extensive solution to your cybersecurity.

Windows Firewall ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าถึงไฟล์และทรัพยากรบนคอมพิวเตอร์ของคุณ ไฟร์วอลล์เป็นสิ่งที่ต้องมีหากคุณกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ของคุณ

น่าเสียดายที่ Windows Firewall ยังไม่สมบูรณ์แบบและบางครั้งอาจก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าผลดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการติดตั้งโปรแกรมไฟร์วอลล์อื่น

อย่าปิดการใช้งาน Windows Firewall เว้นแต่คุณจะมีเหตุผลที่ดี แต่ถ้าคุณมีโปรแกรมรักษาความปลอดภัยอื่นที่ทำหน้าที่เหมือนกันได้

Theresa Chiechi / Lifewire

เวลาที่ต้องการ: การปิดไฟร์วอลล์ Windows ทำได้ง่ายและโดยปกติจะใช้เวลาน้อยกว่า 10 นาที

มีคำแนะนำแยกต่างหากด้านล่างสำหรับ Windows 10, Windows 8, Windows 7, Windows Vista และ Windows XP ดูว่าฉันมี Windows เวอร์ชันใด หากคุณไม่แน่ใจว่าควรทำตามขั้นตอนใด

ปิดการใช้งานไฟร์วอลล์ใน Windows 10, 8 และ 7

ขั้นตอนในการปิด Windows Firewall ใน Windows 7 และ Windows เวอร์ชันที่ใหม่กว่านั้นจะเหมือนกันโดยทั่วไป

ภาพหน้าจอในส่วนนี้ใช้กับ Windows 10 เท่านั้น หน้าจอของคุณจะดูแตกต่างกันเล็กน้อยหากคุณใช้ Windows 8 หรือ Windows 7

เปิดแผงควบคุม
คุณสามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่ง่ายที่สุดคือผ่านเมนู Power User หรือเมนู Start ใน Windows 7
เลือก ระบบและความปลอดภัย.
ลิงก์นั้นจะมองเห็นได้ก็ต่อเมื่อคุณตั้งค่าตัวเลือก "ดูตาม:" เป็น "หมวดหมู่" หากคุณกำลังดูแอพเพล็ตแผงควบคุมในมุมมองไอคอนให้ข้ามไปขั้นตอนถัดไป
เลือก Windows Firewall.
ขึ้นอยู่กับวิธีการตั้งค่าคอมพิวเตอร์ของคุณคอมพิวเตอร์อาจถูกเรียกแทน Windows Defender Firewall. ในกรณีนี้ให้ปฏิบัติต่อทุกอินสแตนซ์ของ "Windows Firewall" ด้านล่างราวกับว่ามันอ่าน "Windows Defender Firewall"
เลือก เปิดหรือปิด Windows Firewall ที่ด้านซ้ายของหน้าจอ
วิธีที่รวดเร็วในการเข้าสู่หน้าจอนี้คือผ่านทางไฟล์ ควบคุม firewall.cpl คำสั่งบรรทัดคำสั่งซึ่งคุณสามารถดำเนินการใน Command Prompt หรือกล่องโต้ตอบ Run
เลือกฟองข้างๆ ปิดไฟร์วอลล์ Windows (ไม่แนะนำ).
คุณสามารถปิดใช้งาน Windows Firewall สำหรับเครือข่ายส่วนตัวเท่านั้นเฉพาะสำหรับเครือข่ายสาธารณะหรือทั้งสองอย่าง หากต้องการปิดใช้งาน Windows Firewall สำหรับเครือข่ายทั้งสองประเภทคุณต้องแน่ใจว่าได้เลือก ปิดไฟร์วอลล์ Windows (ไม่แนะนำ) ทั้งในส่วนส่วนตัวและส่วนสาธารณะ
เลือก OK เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

เมื่อปิดใช้งาน Windows Firewall แล้วให้ทำซ้ำขั้นตอนที่ทำให้เกิดปัญหาของคุณเพื่อดูว่าการปิดใช้งานตัวเลือกนี้ช่วยแก้ปัญหาได้หรือไม่

ปิดการใช้งานไฟร์วอลล์ใน Windows Vista

สามารถปิดไฟร์วอลล์ Windows ใน Windows Vista ผ่านแผงควบคุมได้เช่นเดียวกับที่ทำใน Windows เวอร์ชันอื่น ๆ

เปิดแผงควบคุมโดยเลือก แผงควบคุม จากเมนู Start
เลือก ความปลอดภัย จากรายการหมวดหมู่
หากคุณอยู่ใน "มุมมองคลาสสิก" ของแผงควบคุมให้ข้ามไปขั้นตอนถัดไป
เลือก Windows Firewall.
เลือก เปิดหรือปิด Windows Firewall ทางด้านซ้ายของหน้าต่าง
หากหน้าต่าง User Account Control ปรากฏขึ้นให้คลิก / แตะผ่านหน้าต่างนั้นโดยป้อนรหัสผ่านผู้ดูแลระบบหรือเลือก ต่อ.
หากคุณต้องการเข้าถึงหน้าต่างนี้อีกครั้งอย่างรวดเร็วในอนาคตคุณสามารถใช้ไฟล์ ควบคุม firewall.cpl คำสั่งในกล่องโต้ตอบเรียกใช้
เปิด General แล้วเลือกฟองที่อยู่ถัดจาก ปิด (ไม่แนะนำ).
เลือก OK เพื่อใช้การเปลี่ยนแปลง

คำแนะนำในการปิดไฟร์วอลล์ Windows XP นั้นแตกต่างจาก Windows รุ่นใหม่ ๆ อย่างมาก แต่ก็ยังค่อนข้างง่าย

เปิดแผงควบคุมโดยเลือก เริ่มต้น แล้วก็ แผงควบคุม.
เลือก การเชื่อมต่อเครือข่ายและอินเทอร์เน็ต.
หากคุณกำลังดู "มุมมองแบบคลาสสิก" ของแผงควบคุมให้เปิด เชื่อมต่อเครือข่าย และข้ามไปยังขั้นตอนที่ 4
เลือก เชื่อมต่อเครือข่าย ภายใต้ หรือเลือกไอคอนแผงควบคุม มาตรา.
คลิกขวาหรือแตะการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณค้างไว้แล้วเลือก อสังหาริมทรัพย์
.
หากคุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต "ความเร็วสูง" เช่นเคเบิลหรือ DSL หรืออยู่ในเครือข่ายบางประเภทการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณจะมีชื่อว่า เชื่อมต่อภายในพื้นที่.
เปิด ระดับสูง และเลือก การตั้งค่า.
เลือก ปิด (ไม่แนะนำ) ปุ่มวิทยุ
นอกจากนี้ยังสามารถเปิดการตั้งค่า Windows Firewall ด้วยทางลัดง่ายๆผ่านกล่องโต้ตอบ Run หรือ Command Prompt เพียงป้อนคำสั่งนี้: ควบคุม firewall.cpl.
เลือก OK ในหน้าต่างนี้แล้ว OK อีกครั้งในหน้าต่างคุณสมบัติของการเชื่อมต่อเครือข่ายของคุณ คุณยังสามารถปิดหน้าต่างการเชื่อมต่อเครือข่าย