กาพย์สุรางคนางค์ เป็นกาพย์ชนิดหนึ่งที่กวีนิยมแต่งในวรรณกรรมไทย แบ่งเป็น 3 ชนิด คือ กาพย์สุรางคนางค์ 28 กาพย์สุรางค์นางค์ 32
(กาพย์ธนัญชยางค์) และกาพย์สุรางคนางค์ 36 (กาพย์ขับไม้)
ประวัติ
กาพย์สุรางคนางค์ มีหลักฐานควรเชื่อว่าได้ชื่อมาจากคาถาภาษาบาลีที่ยกเป็นตัวอย่างฉันท์ในจินดามณี[1] คือ วิสาลวิกฉันท์ ที่มิได้กำหนดครุและลหุ ยกตัวอย่างว่า
๏ สุราคณา สุโสภณา รปิรโก สมานสิ ภิวันทโน สเรนโก รัตินทิวัง ฯ ๒๘ ฯ
๏ สรวมชีพถวาย บังคมโดยหมาย ภักดีภิรมย์ เสร็จจำนองฉันท จำแนกนิยม วิธีนุกรม เพื่อให้แจ้งแจง
๏ ซึ่งเสด็จโดยไนย ในวุตโตไทย คณสำแดง ยัตติยุตติ สัญญากรแถลง กำหนดอย่าแคลง นิพันธ์ฉันทา
๏ ถวายตัวประดิพัทธ์ ปราโมทย์มานัส รัดรึงปรีดา ลอองธุลี พระบาทภูวนา ยกนารถมหา คุณุประการ ฯ
ฉันทลักษณ์
กาพย์สุรางคนางค์ 28
บทหนึ่งมี 28 คำ แบ่งเป็น 7 วรรค วรรคละ 4 คำ ลักษณะการส่งสัมผัสมี 3 แบบ ดังนี้
แบบที่ 1 บังคับเฉพาะสัมผัสระหว่างท้ายวรรคที่ 1 -2, ท้ายวรรคที่ 3 กับท้ายวรรคที่ 5 - 6 และสัมผัสระหว่างบท จากท้ายบทแรกไปยังท้ายวรรค 3 ในบทต่อไป พบในวรรณกรรมยุคแรก ๆ ดังตัวอย่าง
๏ ข้าแต่พระชี | ||
ท่านเจ้าใจดี | อย่าเดียดอย่าฟุน |
ใช่ข้าจมา | สู่เจ้าใจบุญ | |
ขอเข้าของขุน | ผู้ขี่เมืองขวาง |
๏ ใครเห็นพระอาริ | ||
ยกในสงสาร | สรนุกนิทุกบาง |
แห่งสิงสู่อยู่ | ศรัทธาทุกปาง | |
โทษาเบาบาง | ทั่วโลกากร | |
— มหาชาติคำหลวง กัณฑ์มหาพน |
แบบที่ 2 เพิ่มสัมผัสระหว่างวรรค 4 กับวรรค 5 ขึ้นอีกแห่งหนึ่ง พบในงานยุคสมัยต่อมา ดังตัวอย่าง
๏ เมื่อปลงหนังลง | ||
ได้ชอบประสงค์ | จะเล่นมินาน |
แม้ใช้ในคน | ตระกลตระการ | |
จะเล่นบันดาล | บรรโดยหรรษา |
๏ นี้คือบูรณะ | ||
นเรนทรพระ | ผู้เรืองฤทธา |
ข้ารังริเอง | เลบงโสภา | |
ให้เล่นเตือนตา | ตระการทุกอัน | |
— สมุทรโฆษคำฉันท์ สำนวนพระมหาราชครู |
แบบที่ 3 เพิ่มสัมผัสจนครบทุกวรรค ปรากฏในงานของสุนทรภู่ และงานยุคหลัง ๆ
๏ ขึ้นใหม่ในกน | ||
ก กาว่าปน | ระคนกันไป |
เอ็นดูภูธร | มานอนในไพร | |
มณฑลต้นไทร | แทนไพชยนต์สถาน |
๏ ส่วนสุมาลี | ||
วันทาสามี | เทวีอยู่งาน |
เฝ้าอยู่ดูแล | เหมือนแต่ก่อนกาล | |
ให้พระภูบาล | สำราญวิญญาณ์ | |
— กาพย์พระไชยสุริยา |
ปัจจุบันนิยมแต่งแบบที่ 2 มากที่สุด
กาพย์สุรางคนางค์ 32
เป็นกาพย์ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ โดยพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ เพื่อใช้อธิบายประกอบภาพเรื่อง ศรีธนญไชย ฝีมือวาดของ เหม เวชกร ในหนังสือประมวญสารรายสัปดาห์ ซึ่งทรงตั้งชื่อว่า กาพย์ธนัญชยางค์ โดยทรงอธิบายว่ากาพย์นี้คือกาพย์สุรางคนางค์ 28 แบบเก่านั่นเอง แต่เพิ่มอีก 4 คำและเพิ่มสัมผัสเข้าอีก ต่อมาจึงเรียกกันว่า กาพย์สุรางคนางค์ 32 ตามลักษณะเดิม ตัวอย่างบทประพันธ์
๏ ฝ่ายทัพเรือ พม่า | เลียบฝั่งเข้ามา | |
ยึดเมืองตะกั่วป่า | ตะกั่วทุ่งตามทาง |
แล้วข้ามสู่เกาะ | มุ่งเหมาะเมืองถลาง | |
เคราะห์ดีมีนาง | พี่น้องนารี |
๏ เจ้าเมืองม้วย มรณ์ | ลงไปเสียก่อน | |
ที่ทัพสาคร | ข้ามมาราวี |
แต่คุณหญิงจัน | ไม่พรั่นไพรี | |
นางมุกภคินี | อยู่ด้วยช่วยกัน | |
— สามกรุง |
กาพย์สุรางคนางค์ 36
ก็คือ กาพย์ขับไม้ นั่นเอง หนึ่งบทมี 36 คำ แบ่งเป็น 9 วรรค วรรคละ 4 คำ บังคับสัมผัสข้ามวรรค 3 แห่งคือ ท้ายวรรคที่ 1 กับวรรคที่ 2, ท้ายวรรคที่ - กับ 6 - 7 และ 8, ท้ายวรรคที่ 4 -5 สัมผัสระหว่างบทส่งจากท้ายบทแรกไปยังท้ายวรรคที่ 3 ในบทต่อไป ด้วยเหตุที่กาพย์ขับไม้มีการกำหนดใช้วรรคละ 4 คำ เหมือนกาพย์สุรางคนางค์ จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า กาพย์สุรางคนางค์ 36 ดังตัวอย่าง
๏ จักแสดงเพระเดช | องค์ไหนนฤเบศร | ปิ่นเกล้ากรุงศรี |
ผ่านเทพอยุธยา | เรืองพระเดชา | ทั่วทั้งธรณี |
อันตรายไพรี | บอาจราวี | ด้วยพระสมภาร |
๏ ท่านได้ไปปราบ | เกรงพระอานุภาพ | ทั่วทุกทิศาร |
ท้าวราชนคเรศ | ทังจันตประเทศ | บเคยบันดาล |
ถวายสุวรรณมาลย์ | ทั้งบรรณาการ | มากราบถวายเมือง |
(จินดามณี) |
อ้างอิง
- ↑ สุภาพร มากแจ้ง. กวีนิพนธ์ไทย 1. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2535.
แหล่งข้อมูลอื่น
- กาพย์