สเตรนเจอร์ ธิงส์ มีทั้งหมดกี่ภาค

     แล้วเรื่องราวในซีซั่นนี้ก็จบลงพร้อม End Credit ว่าชาวรัสเซียมันบ่จำ มันบ่เข็ด มันฟักเลี้ยงอสูรเดโมกอร์กอนไว้ในฐานทัพอีกที่ด้วย เป็นการปูทางไปสู่ซีซั่น 4 ที่มั่นใจได้ว่าสเกลเรื่องต้องยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่นอน เพราะมีการแบ่งฉายเป็นช่วง โดยพาร์ต 4.1 จะฉายวันที่ 27 พฤษภาคม ส่วนพาร์ต 4.2 เจอกันอีกที 1 กรกฎาคม

Netflix uses cookies for personalization, to customize its online advertisements, and for other purposes. Learn more or change your cookie preferences. Netflix supports the Digital Advertising Alliance principles. By interacting with this site, you agree to our use of cookies.

We use cookies (why?). You can change cookie preferences; continued site use signifies consent.

หลังจากนับวันรอยคอยมานานปี ในที่สุดวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ก็จะได้ดูซีรีส์ที่คนทั้งโลกรอคอยอย่าง ‘Stranger Things’ ซีซัน 4 กันแล้ว ที่สำคัญยังเต็มอิ่มมากกว่าเพราะแต่ละตอนของซีรีส์รวมกันแล้วมีความยาวมากกว่าทุกซีซันที่ผ่านมา

นอกจากตัวอย่างสุดท้ายของ ‘Stranger Things’ ซีซัน 4 ชุด 1 ที่ปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ทวิตเตอร์ของ Netflix ยังปล่อยวิดีโอความยาว 8 นาทีแรกของซีซัน 4 ออกมาเรียกน้ำย่อย พาทุกคนกลับไปยังห้องทดลองในเมือง Hawkins อีกครั้ง พร้อมกับเปิดข้อมูลจำนวนตอน วันที่ฉาย และจำนวนความยาวที่ยาวกว่าซีซันก่อน ๆ

‘Stranger Things’ ซีซัน 4 ครึ่งแรก (หรือที่ทาง Netflix เรียกว่า ‘ชุด 1’) จะฉายทั้งหมด 7 ตอนในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ ส่วน ‘Stranger Things’ ซีซัน 4 ครึ่งหลัง (หรือชุด 2) จะฉายอีก 2 ตอนในวันที่ 1 กรกฏาคม 2022 ส่วนความยาวของซีซันนี้ Netflix ยืนยันว่าจะมีตอนที่มีความยาวเทียบเท่ากับภาพยนตร์ นั่นคือ

  • ตอนที่ 7 มีความยาว 1 ชั่วโมง 38 นาที
  • ตอนที่ 8 มีความยาว 1 ชั่วโมง 25 นาที
  • ตอนที่ 9 มีความยาว 2 ชั่วโมง 30 นาที

เตรียมดู ‘Stranger Things’ ซีซัน 4 กันให้จุใจ แล้วอย่าลืมปักหมุดแจ้งเตือนไว้ว่าเรามีนัดกันอีกครั้งในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ทาง Netflix!!

Stranger Things ซีซั่น 4 กำลังจะฉายในวันพรุ่งนี้ (27 พฤษภาคม ค.ศ.2022) แต่ความทรงจำเกี่ยวกับเนื้อเรื่องของซีซั่นที่ 1-3 ของใครหลายคนอาจเริ่มเลือนราง เราจะมาติวเข้ม สรุปสิ่งที่เกิดขึ้นในซีซั่นที่ 1-3 แบบย่อ และไม่ตัดสลับให้งง มาเตรียมความพร้อมก่อนไปเริ่มดูซีซั่น 4 แบบไร้รอยต่อกันในวันพรุ่งนี้

 

สเตรนเจอร์ ธิงส์ มีทั้งหมดกี่ภาค

 

Season 1

เรื่องราวของ Stranger Things เริ่มขึ้นในปี ค.ศ.1983 ที่เมืองฮอว์กินส์ รัฐอินเดียนา จากการหายตัวไปของ วิล ไบเออร์ส ทำให้เราได้รู้ว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นในเมือง ทั้งการทดลองประหลาด มิติคู่ขนานที่เรียกว่า Upside Down สัตว์ประหลาดเดโมกอร์กอนหน้าตาน่ากลัว และเด็กหญิงพลังจิต

วิลหายตัวไปในกลางดึกคืนหนึ่งระหว่างการขี่จักรยานกลับบ้าน และในอีกฟากหนึ่งของเมือง ดูเหมือนว่าจะมีห้องทดลองน่าสงสัย และมีอะไรบางอย่างลบหนีออกมา

ไมค์ ดัสติน และลูคัส ได้พบกับเด็กหญิงประหลาด พวกเขาพาเธอกลับมาที่บ้านของไมค์ และเรียกเธอว่า แอล (ย่อจาก อีเลเว่น หรือตัวเลข 11) พวกเขาถามถึงเรื่องราว ก็ดูเหมือนว่าแอลจะรู้ว่าวิลอยู่ที่ไหน และเล่าให้พวกเขาฟังว่ามีโลกคู่ขนาน Upside Down ที่มีสัตว์ประหลาดชื่อว่าเดโมกอร์กอนอยู่ในนั้น และหลังจากการหายตัวไปของวิลไม่นาน บาร์บาร่า เพื่อนของแนนซี่ก็หายตัวไปด้วย

วิลพยายามติดต่อกับจอยซ์ผ่านทางโทรศัพท์แต่ก็ไม่เป็นผล จอยซ์เลยคิดวิธีติดต่อกันผ่านไฟคริสต์มาสบนผนังบ้าน ทำให้จอยซ์ได้เบาะแสเกี่ยวกับโลกคู่ขนาน เพราะมีเดโมกอร์กอนออกมาจากกำแพง และทางด้านเด็กๆ ก็ได้รู้ว่าวิลติดอยู่ในโลก Upside Down ที่มีประตูทางเข้าอยู่หลายทาง ซึ่งแนนซี่และโจนาธาน ได้รวมตัวกันตามหาบาร์บาร่าและได้เข้าไปใน Upside Down ผ่านทางต้นไม้ต้นหนึ่ง

ฮอปเปอร์ก็กำลังสืบเรื่องของห้องทดลองประหลาดอยู่พอดี เพราะห้องทดลองได้อำพรางการหายตัวไปของวิลด้วยร่างปลอม และได้เบาะแสว่าห้องทดลองเคยลักพาตัวเด็กคนหนึ่งที่มีพลังจิตไปเพื่อใช้ประโยชน์ในการทำสงครามกับรัสเซีย และพลังจิตนี้เองที่ทำให้ประตูมิติสู่ Upside Down ได้เปิดขึ้นในห้องทดลอง

คนของห้องทดลองออกตามหาแอล แต่ก็ไม่เป็นผล ทำให้ทุกคนได้มารวมตัวกัน และใช้พื้นที่ในโรงเรียนสร้างเครื่องมือให้แอลสามารถใช้พลังเพื่อตามหาวิลและบาร์บาร่า แอลพบว่าบาร์บาร่าตายแล้ว ส่วนวิลนั้นซ่อนตัวอยู่ ก่อนที่สัญญาณจะขาดหายไป ต่อมาแนนซี่ สตีฟ และโจนาธานได้เผชิญหน้ากับเดโมกอร์กอนและหนีเอาตัวรอดมาได้

ฮอปเปอร์และจอยซ์บุกเข้าไปในห้องทดลองแต่ก็ถูกคนของห้องทดลองจับเอาไว้ได้ ฮอปเปอร์จึงยอมบอกที่อยู่ของแอล แลกกับการได้เข้าไปในห้องที่มีประตูมิติสู่ Upside Down คนของห้องทดลองตามหาตัวแอลจนเจอ และเดโมกอร์กอนก็ปรากฏตัวขึ้นในโรงเรียน แอลได้เสียสละตัวเองดึงเดโมกอร์กอนกลับไปยังมิติที่มันจากมา ส่วนฮอปเปอร์และจอยซ์เจอกับวิล และช่วยออกมาได้ในที่สุด แต่ดูเหมือนวิลจะแปลกไปจากเดิม

 

 

Season 2

ในซีซั่นที่ 2 เดโมกอร์กอนถูกแทนที่ด้วย Mind Flayer ที่เข้าสิงวิล และพยายามผลิตเดโมด็อกที่เป็นเหมือนลูกๆ ของมันออกมาโจมตีคนในเมือง ทุกคนต้องไขปริศนาให้ได้ว่าจะหยุดยั้ง Mind Flayer ที่กำลังสิงร่างของวิลอยู่ได้อย่างไร

เมืองฮอว์กินส์กำลังเตรียมจัดงานฮัลโลวีน แม็กซ์ เด็กผู้หญิงจากต่างเมืองย้ายเข้ามาพร้อมกับพี่ชาย บิลลี่ สร้างความสนใจให้กับเด็กๆ ส่วนจอยซ์มีแฟนใหม่คือ บ็อบ ที่เข้ากับวิลได้ดี เหมือนทุกอย่างกำลังจะดี แต่วิลยังคงเห็นภาพจากมิตินั้นเหมือนเดิม ส่วนแอลยังคงมีชีวิตอยู่เพราะฮอปเปอร์ช่วยเอาไว้ เขาซ่อนแอลไว้ในกระท่อมโดยไม่ให้ออกไปไหน และพยายามทำหน้าที่พ่ออย่างเต็มที่ 

เรื่องราวแปลกๆ ก็เริ่มเกิดขึ้นเมื่อฮอปเปอร์ได้รับรายงานว่ามีโรคระบาดในฟักทอง ทำให้ฟักทองเน่าไปทั่วทั้งเมือง ดัสตินเจอกับสัตว์ประหลาดตัวเล็กในถังขยะจึงเก็บมาเลี้ยงและตั้งชื่อว่าดาร์ตาญัง วิลพยายามสู้กับภาพหลอน แต่กลับถูก Mind Flayer เข้าสิง

วิลเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จอยซ์และฮอปเปอร์ช่วยกันไขปริศนาว่าวิลต้องการจะสื่อสารอะไรด้วยการวาดรูป จนได้พบว่ามีรากของอะไรบางอย่างอยู่ใต้เมืองฮอว์กินส์ บ็อบไขปริศนาได้ว่า รูปที่วิลวาดนั้นคือแผนที่ของเมืองฮอว์กินส์นั่นเอง ทางด้านแนนซี่ที่พยายามจะบอกความจริงเรื่องบาร์บาร่ากับครอบครัว ก็โดนห้องทดลองจับตัวไปพร้อมกับโจนาธาน แต่แนนซี่อัดเสียงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเอาไว้ได้ เพื่อนำไปบอกกับนักสืบเมอร์เรย์

ฮอปเปอร์รู้ความจริงว่าแอลแอบออกไปโรงเรียน ทำให้พวกเขาทะเลาะกัน แอลรู้ความจริงว่าเธอมีแม่ จึงหนีออกจากบ้านไปเพื่อตามหาแม่ แต่แล้วก็พบว่าแม่ของเธอไม่อยู่ในสถานะที่พูดอะไรได้อีกแล้ว แต่เธอพบกับ กาลี เด็กสาวที่มีพลังพิเศษคล้ายกับเธอ กาลีสอนวิธีใช้พลังที่ถูกต้อง และชวนเธอเข้ากลุ่ม แต่แอลรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ที่ของตัวเอง เลยตัดสินใจเดินทางกลับไป

เรื่องราวยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีกเมื่อฮอปเปอร์เจอประตูมิติสู่ Upside Down ที่อยู่ใต้แปลงฟักทองและติดอยู่ในมิติ ส่วนดาร์ตาญังที่ดัสตินเลี้ยงเอาไว้เริ่มโตขึ้นและดุร้าย ทำให้ดัสตินร่วมมือกับสตีฟเพื่อตามหาดาร์ตาญังที่โตมากลายเป็นเดโมด็อกและหนีไป ซึ่งมันอาจทำอันตรายได้ เด็กๆ ตัดสินใจบอกแม็กซ์ถึงความจริงของเมืองฮอว์กินส์ว่ามีอะไรเกิดขึ้น จึงได้ร่วมมือกันเป็นทีมใหญ่ขึ้นเพื่อหยุดยั้งเหล่าเดโมด็อก

ทำให้จอยซ์บ็อบ และวิลลงไปที่โลก Upside Down เพื่อตามหาฮอปเปอร์ แต่ก็เจอกับคนจากห้องทดลองที่พยายามเผารากประหลาดด้วยไฟ และนั่นทำให้รู้ว่ารากประหลาดนี้เชื่อมต่อกับตัววิลเอาไว้ การทำลายมันอาจทำให้วิลบาดเจ็บตามไปด้วย

ในขณะที่วิล จอยซ์ ฮอปเปอร์ และบ็อบอยู่ในห้องทดลอง เดโมด็อกก็หลุดออกมาโจมตี ทำให้บ็อบต้องเสียสละตัวเองเพื่อช่วยให้วิล จอยซ์ และฮอปเปอร์รอดออกไปได้ เมื่อทุกคนได้เจอกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลที่ค้นพบมา ก็พบว่าทางที่จะกู้เมืองกลับมาได้อีกครั้งคือการปิดประตูมิติให้ได้

เดโมด็อกตามหาทุกคนจนเจอ ในขณะที่กำลังเข้าตาจน แอลก็กลับมาช่วยได้ทันเวลาพอดี จึงเกิดการแบ่งหน้าที่กันขึ้น แอลกับฮอปเปอร์จะบุกเข้าไปปิดประตูมิติในห้องแล็บ โจนาธาน แนนซี่ และจอยซ์จะพยายามไล่ Mind Flayer ออกจากร่างวิลด้วยการใช้ความร้อน ส่วนไมค์ ดัสติน ลูคัส สตีฟ และแม็กซ์ จะคอยหลอกล่อพวกเดโมด็อกให้ออกห่างจากทีมปิดประตูมิติ

ทุกคนทำได้สำเร็จ ความสงบสุขกลับมาอีกครั้ง แอลได้กลับมาใช้ชีวิตเป็นเด็กหญิงปกติเหมือนเดิมแบบไม่ต้องหลบซ่อน ทุกคนได้สนุกไปกับงานเต้นรำของโรงเรียน แต่ถึงแม้ว่า Mind Flayer จะออกจากร่างวิลไปแล้ว แต่เราก็ได้รู้ว่ามันยังคงจ้องมองเมืองฮอว์กินส์อยู่ไม่ไปไหน

 

 

Season 3

ซีซั่นที่ 3 เกิดขึ้นในช่วงเวลาหลังจากงานเต้นรำได้หนึ่งปี กลุ่มเด็กวัยรุ่นโตเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน ส่วนเด็กๆ ก็เริ่มแตกเนื้อหนุ่มสาว เรื่องราวในซีซั่นนี้จะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของตัวละครทุกวัย แต่ก็ยังคงมีเรื่องลึกลับอยู่ เมื่อห้างสตาร์คอร์ตแสนอลังการมาเปิดในเมือง แต่ภายใต้ห้างนั้นมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่

กลุ่มเด็กๆ เริ่มโตเป็นวัยรุ่นและหัดมีความรัก ทั้งไมค์กับแอล และลูคัสกับแม็กซ์ ส่วนกลุ่มเด็กวัยรุ่นก็เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยแห่งการทำงาน แนนซี่กับโจนาธานเข้าฝึกงานที่บริษัทหนังสือพิมพ์ด้วยกัน

เรื่องราวเริ่มแปลกขึ้นเมื่อดัสตินกลับมาจากไปค่ายวิทยาศาสตร์พร้อมกับเครื่องรับสัญญาณวิทยุที่สามารถคุยกับซูซี่ แฟนของเขาได้ แต่ไม่มีใครเชื่อว่าดัสตินมีแฟนจริงๆ ระหว่างที่พยายามติดต่อกับซูซี่ ดัสตินก็ได้ยินเสียงประหลาดที่เป็นภาษารัสเซียออกมาจากเครื่อง

ดัสตินตัดสินใจบอกเรื่องภาษารัสเซียที่เขาได้ยินกับสตีฟที่ทำงานอยู่ในร้านไอศกรีมที่ห้างสตาร์คอร์ต ในร้านไอศกรีมมีเด็กสาวชื่อ โรบิน ทำงานอยู่ด้วย พวกเขาช่วยกันถอดรหัสภาษารัสเซียนั้น และพบว่ามันเป็นการส่งสัญญาณของทหารรัสเซีย ที่บอกทางไปยังโกดังของห้าง ดัสติน สตีฟ โรบิน ได้เอริกา น้องสาวของลูคัส เข้ามาร่วมทีมการเสาะหาความจริงเบื้องหลังห้างสตาร์คอร์ต พวกเขาแอบเข้าไปในโกดังและค้นพบว่ามีฐานทัพอยู่จริง

เรื่องราวยังซับซ้อนขึ้นอีกเมื่อบิลลี่ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ในเมืองตอนกลางคืน เมื่อลงมาดูรถก็พบกับเมือกประหลาด ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนไปกลายเป็นคนละคน เขาก้าวร้าวขึ้นและดูไม่มีชีวิตจิตใจเลย ส่วนแนนซี่กับโจนาธานพบกับโรคระบาดในหนู ที่ทำให้หนูก้าวร้าวและระเบิดกลายเป็นเมือกเช่นกัน ทางด้านจอยซ์ก็พบว่าแม่เหล็กในร้านที่เธอทำงานอยู่แปลกไป มันดูเหมือนจะดึงดูดเข้าสู่พื้นโลก

จอยซ์พบว่าปรากฏการณ์แม่เหล็กประหลาดนั้นเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์อะไรบางอย่างในห้องทดลอง และได้รู้ความจริงว่าห้างสตาร์คอร์ตนั้นเป็นเพียงการบังหน้า สิ่งอยู่ภายในห้างจริงๆ คือฐานทัพของทหารรัสเซียต่างหาก นอกจากนั้นฮอปเปอร์กับจอยซ์เจอห้องทดลองลับของฝั่งรัสเซีย ระหว่างที่หนีการไล่ล่าออกมา พวกเขาได้พา อเล็กซี่ ชาวรัสเซียคนหนึ่งจากห้องทดลองนั้นออกมาด้วย ซึ่งอเล็กซี่บอกพวกเขาว่าฝั่งรัสเซียกำลังพยายามจะเปิดประตูมิติสู่ Upside Down ใต้ห้างสตาร์คอร์ต

แนนซี่และโจนาธานสืบเบาะแสเรื่องโรคระบาดในหนูจนได้เจอกับคุณนายดริสครอลล์ที่พอจะรู้อะไรบ้าง แต่พวกเขาก็ถูกไล่ออกจากบริษัทหนังสือพิมพ์เพราะหัวหน้าของพวกเขาคิดว่าเรื่องนี้ทำให้คุณนายดริสครอลล์เดือดร้อน แนนซี่กับโจนาธานทะเลาะกัน จนแนนซี่ตัดสินใจว่าจะสืบต่อด้วยตัวเอง จนพบว่าโรคระบาดจากหนูนั้นติดต่อไปสู่คุณนายดริสคอลล์ ทำให้เธอมีอาการเหมือนวิลเมื่อครั้งที่เขาถูกเข้าสิงเลย

แม็กซ์และแอลพยายามหาเบาะแสเกี่ยวกับบิลลี่ที่ก้าวร้าวกว่าปกติ ก็พบว่า วิลคิดว่า Mind Flayer จะต้องอยู่ในร่างของบิลลี่แน่ เลยหลอกล่อให้เขาเข้าไปอยู่ในห้องซาวน่าเพื่อไล่มันออกไปเหมือนที่เคยทำในครั้งที่แล้ว แต่ไม่เป็นผล บิลลี่ทะลวงห้องออกมาและหนีกลับไปยังที่ซ่อนของตัวเองได้ ซึ่งที่ซ่อนของบิลลี่ในตอนนี้เต็มไปด้วยชาวเมืองฮอว์กินส์ที่ถูกเข้าสิง

ทางด้านแนนซี่และโจนาธานปรับความเข้าใจกัน ตัดสินใจไปหาเบาะแสเพิ่มเติมที่โรงพยาบาล แต่ก็ถูกโจมตีโดยชาวเมืองที่ถูกเข้าสิง แอลสู้กับ Mind Flayer และบิลลี่ จนได้รับบาดเจ็บที่ขา และสูญเสียพลังพิเศษไปในภายหลัง พร้อมกับค้นพบว่า Mind Flayer ต้องการที่จะฆ่าเธอเพื่อแก้แค้นที่เธอปิดประตูมิติ 

หลังจากนั้นทุกคนได้มารวมตัวกันที่ห้างสตาร์คอร์ตเพื่อหาทางกู้เมืองนี้จากฝ่ายรัสเซียให้ได้ แอลดึงชิ้นส่วนของ Mind Flayer ออกมาจากขาตัวเอง กลุ่มเด็กๆ ร่วมมือกันสู้กับ Mind Flayer แอลดึงสติของบิลลี่กลับมาได้ และเมื่อบิลลี่ได้สติ เขาก็เสียสละตัวเองเพื่อปกป้องทุกคน ส่วนจอยซ์และฮอปเปอร์รับหน้าที่ปิดเครื่องเปิดประตูมิติ แต่ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อเหตุการณ์พลิกผันทำให้ฮอปเปอร์ติดอยู่ในห้องเครื่อง และจอยซ์ต้องตัดสินใจระเบิดเครื่องทิ้งไปทั้งที่ฮอปเปอร์ยังอยู่ในนั้น

สามเดือนหลังจากนั้น ห้างสตาร์คอร์ตก็ถูกทำลายลง ความสงบกลับมาเยือนเมืองฮอว์กินส์อีกครั้ง และทุกคนก็ต้องแยกย้ายกันไปเติบโต แอลย้ายบ้านไปอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย แต่เรื่องก็ยังไม่จบง่ายๆ เมื่อช่วงสุดท้ายเป็นภาพของฝ่ายรัสเซียที่มีเดโมกอร์กอนในครอบครอง และฮอปเปอร์ยังมีชีวิตอยู่

 

 

Season 4

เรื่องราวของซีซั่นที่ 4 จะเกิดขึ้นหกเดือนหลังซีซั่นที่ 3 เด็กๆ กำลังอยู่ในชั้นมัธยมปลาย และกำลังก้าวเข้าสู่ชีวิตวัยรุ่น แต่แล้วเหตุการณ์ปริศนาก็เกิดขึ้นที่เมืองฮอว์กินส์อีกครั้ง พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเรื่องเหนือธรรมชาติครั้งใหม่ ในขณะที่แอลยังไร้พลัง ส่วนฮอปเปอร์ยังคงดิ้นรนหลบหนีจากการเป็นนักโทษในประเทศรัสเซีย

สเตจเจอร์ติง มีกี่ภาค

Netflix ประกาศสร้าง Stranger Things ซีซัน 5 เป็นซีซันสุดท้าย พร้อมฉายซีซัน 4 เดือนพฤษภาคมนี้ 32.6k.

Stranger things จะมีภาค 4 ไหม

เตรียมตัวพบกับความสนุกเเละเรื่องราวสุดระทึกไปกับเหล่าวัยรุ่นเเห่งเมืองฮอว์กินส์กับซีรี่ส์สุดโด่งดัง 'Stranger Things 4' จาก Netflix. โดย Worramate Khamngeon. 27 พฤษภาคม 2565.

สเตรนเจอร์ธิงส์ 4 ชุด 2 มาตอนไหน

เพราะอีกไม่กี่อึดใจ สเตรนเจอร์ ธิงส์ (Stranger Things) 4 Vol. 2 ก็จะพร้อมฉายในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้แล้ว หลังจากที่ 7 ตอนในชุดแรกสร้างปรากฏการณ์พลิกโลก ติดชาร์ตท็อป 10 ของ Netflix อย่างถล่มทลายใน 93 ประเทศทั่วโลก

สเตรนเจอร์ธิงส์มีภาคต่อไหม

'Stranger Things' พึ่งจะฉายซีซัน 4 จบไปเมื่อไม่นานมานี้ รอสส์ ดัฟเฟอร์ (Ross Duffer) กับ แมตต์ ดัฟเฟอร์ (Matt Duffer) 2 พี่น้องผู้สร้างก็ได้โพต์ภาพผ่านทวิตเตอร์เพื่อเป็นการบอกกับทุก ๆ คนว่า ตอนนี้ 'Stranger Things' ซีซัน 5 เริ่มต้นเขียนบทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสองพี่น้องดัฟเฟอร์ยืนยันว่า 'Stranger Things' ซีซัน 5 ...