สุขศึกษา ป. 6 ชีวิตและครอบครัว

สาระสำคัญ/ความคิดรวมยอด

        พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อเอดส์ และการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรต้องมีความรับผิดชอบต่อสุขภาพของตนเองและส่วนรวมโดยการสร้าง รักษาสัมพันธภาพและแนวทางการป้องกันที่ดีกับผู้อื่น

ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้

มาตรฐานการเรียนรู้

                มฐ.พ 2.1 เข้าใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการดำเนินชีวิต

    ตัวชี้วัด

                 มฐ.พ 2.1 ป.6/1  อธิบายความสำคัญของการสร้างและรักษาสัมพันธภาพกับผู้อื่น

                 มฐ.พ 2.1 ป.6/2  วิเคราะห์พฤติกรรมเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อเอดส์

    และการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร

     สาระที่ 4

    มาตรฐานการเรียนรู้

              มฐ.พ 4.1เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ  การดำรงสุขภาพ การป้องกัน โรคและสร้างเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ

     ตัวชี้วัด

มฐ.พ 4.1  ป.6/1 แสดงพฤติกรรมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพ          มฐ.พ 4.1 ป.6/3 แสดงพฤติกรรมที่บ่งบอกถึงความรับผิดชอบต่อสุขภาพของส่วนรวม

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายความสำคัญของการสร้างและรักษาสัมพันธภาพกับผู้อื่น

2. วิเคราะห์พฤติกรรมเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อเอดส์ และการตั้งครรภ์

         ก่อนวัยอันควร   

     3. อธิบายความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและแสดงพฤติกรรมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา

    สิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพและแสดงพฤติกรรมที่บ่งบอกถึงความรับผิดชอบต่อสุขภาพของส่วนรวม

      4. นักเรียนมีค่านิยมในการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี รักความสะอาด และมีความรับผิดชอบ

การวัดผลและประเมินผล

          1. สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกิจกรรม

          2. สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม

          3. ประเมินความรู้เรื่อง การสร้างสัมพันธภาพกับสมาชิกในครอบครัว

          4. ประเมินใบงาน/ผลงาน

หน่วยที่ 2  ชีวิตและครอบครัว (ป.6)

เรื่องมิตรสัมพันธ์ (ชั่วโมงที่ 1)

นักเรียนมาศึกษาความรู้จากลิงค์ เรื่องการสร้างและรักษาสัมพันธภาพในครอบครัว และกับเพื่อน

ขอให้ผู้ปกครองช่วยให้คำแนะนำแก่นักเรียนในเรื่องนี้ด้วยนะครับ

เด็กๆครับ มารู้จักกับเนื้อหา เรื่องมิตรสัมพันธ์

มิตรสัมพันธ์  คนเราอาศัยอยู่ร่วมกับผู้อื่นจึงจำเป็นต้องมีการติดต่อสื่อสาร ดังนั้น เราจึงควรรู้วิธีสร้าง

และรักษาสัมพันธภาพที่ดีต่อผู้อื่น เพื่ิอให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

1. การสร้างและรักษาสัมพันธภาพในครอบครัว ดังนั้น เราจึงควรรู้จักวิธีสร้างสัมพันธภาพที่ดีใน

             ครอบครัว โดยปฎิบัติ ดังนี้

1.1 มีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเองที่มีต่อครอบครัว

1.2 ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ในการอยู่ร่วมกัน

1.3 มีความห่วงใย และดูแลเอาใจใส่สมาชิกทุกคนในครอบครัว

1.4 ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เช่น เล่นเกม ไปเที่ยวต่างจังหวัด

1.5 ไม่สร้างปัญหาในครอบครัว เช่น ดื่มสุรา เล่นการพนัน

1.6 พูดจากันดัวยถ้อยคำที่ไพเราะอ่อนหวาน และยิ้มแย้มให้กันเสมอ

1.7 เมื่อเกิดปัญหา ควรร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหา  

2. การสร้างและรักษาสัมพันธภาพกับเพื่อน เมื่ออยู่ร่วมกันกับเพื่อน จะต้องมีการติดต่อสื่อสาร

              พูดคุย ทำกิจกรรมร่วมกัน ดังนั้น เราจึงควรรู้วิธีสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อน ควรปฏิบัติ ดังนี้

2.1 มีความสุภาพ อ่อนโยน ยิ้มแย้ม และเป็นกันเองกับเพื่อน

              2.2 มีความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจต่อเพื่ิอน

              2.3 มีความจริงใจ ให้ความช่วยเหลือเพื่อนด้วยความเต็มใจ

              2.4 มีความยุติธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบเพื่อน

              2.5 ยกย่องชมเชยความรู้ความสามารถของเพื่อนอยู่เสมอ

              2.6 ยอมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนเมื่อมีความคิดที่แตกต่างกัน

              2.7 ปฎิบัติต่อเพื่อนอย่างเหมาะสมทั้งเพื่อนเพศเดียวกัน และเพื่อนต่างเพศ

เด็กๆครับ หลังจากนักเรียนได้ศึกษาเนื้อหา เรื่องมิตรสัมพันธ์

แล้วมาทำแบบฝึกหัดกันนะครับ

สรุปก่อนจบบทเรียน เรื่องมิตรสัมพันธ์

เรื่องเพศศึกษา  (ชั่วโมงที่ 2)    

นักเรียนมาศึกษาความรู้จากลิงค์  เรื่องเพศศึกษา

ขอให้ผู้ปกครองช่วยให้คำแนะนำแก่นักเรียนในเรื่องนี้ด้วยนะครับ

เด็กๆครับ มารู้จักกับเนื้อหา เรื่องเพศศึกษา กันนะครับ

เรื่องเพศศึกษา  การมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนก่อให้เกิดปัญหามากมาย เช่น การตั้งครรภ์ การติดโรค

 ดังนั้นวัยรุ่น โดยเฉพาะเพศหญิง จึงควรหลีกเสี่ยงและป้องกันตนเองจากการมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ

1. ความสัมพันธ์ระหว่างเพศชาย และเพศหญิง

เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น เพศชาย และเพศหญิง อาจจะเริ่มมีความสนใจกันโดยเริ่มจากความเป็นเพื่อน

            และพัฒนาเป็นคู่รัก ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้วัยรุ่นมีการคบหากันเป็นแฟน มีดังนี้

1.1 แรงผลัดดันจากฮอร์โมนเพศ  ร่างกายเริ่มผลิตฮอร์โมนที่เกี่ยวกับเพศในช่วงเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น

1.2 สภาพสังคม สังคมปัจจุบันจะพบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเพศชาย และเพศหญิงที่เป็นคู่รัก

                  กันตั้งแต่วัยรุ่นได้โดยทั่วไป

1.3 สื่อสารมวลชน  วัยรุ่นสามารถรับรู้ข่าวสาร ได้จากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร โทรทัศน์ วิดีโอ และ

                  เกิดพฤติกรรมเลียนแบบดารา

1.4 โอกาสในการคบหาเพื่อนต่างเพศ  ในปัจจุบันวัยรุ่นทั้งเพศชาย และเพศหญิง มีโอกาสในการ

                  คบเพื่อนต่างเพศได้มากกว่าในสมัยก่อน

1.5 ความเชื่อที่ผิดๆ ในเรื่องเพศ เช่น ความเชื่อว่าการมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามเป็นจำมาก

                  เป็นเรื่องปกติ และภาคภูมิใจที่ทำได้ดีกว่าผู้อื่น

2. พฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อเอดส์ และการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร

            การมีเพศสัมพันธ์ในขณะที่ยังเรียนหนังสืออยู่เป็นสี่งที่ไม่ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณี

            ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ การติดเซื้อเอดส์  การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร เกิดจากการมีพฤติกรรมเสี่ยง

            ดังนี้

            2.1 การมีเพศสัมพันธ์ สาเหตุพฤติกรรมเสี่ยง เช่น

                  - การแต่งกายยั่วยุอารมณ์ทางเพศ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดอารมณ์ทางเพศ

                  - การเสพของมึนเมา ให้ขาดสติ และมักทำในสิ่งที่ไม่สมควร

                  - การยอมให้สัมผัสร่างกาย อาจทำให้มีความสัมพันธ์ที่เกินเลยไป

                  - การดูสื่อที่ยั่วยุอารมณ์ทางเพศ เป็นการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ

                  - การอยู่ในสถานที่รโหฐาน เช่น ในห้องนอน หอพัก

                  - การอยู่ในสถานบันเทิงในเวลากลางคืน

            2.2 การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร  สาเหตุพฤติกรรมเสี่ยง เช่น

                  - มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์

                  - ยินยอมให้ฝ่ายชายมีเพศสัมพันธ์ด้วย

                  - มีเพศสัมพันธ์ โดยไม่มีการป้องกัน

2.3 การติดเชื้อเอดส์  สาเหตุพฤติกรรมเสี่ยง เช่น

                  - มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์

                  - มีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย

3. ผลกระทบที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อเอดส์ และการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร

            การมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนเป็นสี่งที่ไม่เหมาะสมมาก เพราะจะทำให้เกิดปัญหา และผลกระทบ

            ตามมามากมาย ดังนี้

            3.1 ทำให้เสียการเรียน เพราะอาจหมกมุ่นกับเรื่องนี้จนทำให้ขาดสมาธิในการเรียน

            3.2 เกิดความอับอาย ความเสียใจ ความทุกข์ โดยเฉพาะกับผู้หญิง

            3.3 เกิดความเครียด เพราะคิดมาก อาจนำไปสู่การฆ่าต้วตายได้

            3.4 เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล

            3.5 ถ้ามีบุตร เด็กที่เกิดมาอาจได้รับการเสี้ยงดูที่ไม่ดีหรือนำไปทิ้งเพราะพ่อแม่ไม่สามารถรับผิด

                  ชอบได้

            3.6 เป็นการทำผิดกฎหมาย เพราะการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 15 ปี ถือว่ามีความผิด

                  ตัองได้รับโทษทางกฎหมาย

4. การหลีกเลี่ยงและป้องกันการมีเพศสัมพันธ์  สามารถปฎิบัติได้ ดังนี้

            4.1 หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงทางเพศ เช่น ไม่อยู่ในที่ลับตากับเพศตรงข้าม

                  สองต่อสอง เป็นต้น

            4.2 ไม่ยินยอมให้เพศชายถูกเนื้อต้องตัวได้โดยง่าย เช่น การจับมือ การกอด การจูบ เป็นต้น

            4.3 ไม่ยินยอมให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย

            4.4 ต้องเลิกคบกับผู้ที่ชอบล่วงเกิน เพราะแสดงว่าคนผู้นั้นไม่มีความจริงใจต่อเรา

            4.5 ร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ถ้ามีผู้เข้ามาล่วงละเมิดทางเพศกับเรา

เด็กๆครับ หลังจากนักเรียนได้ศึกษาเนื้อหา เรื่องเพศศึกษา

แล้ว มาทำแบบฝึกหัดกันนะครับ

สรุปก่อนจบบทเรียน เรื่องเพศศึกษา