We have detected that you could be doing automatic requests from a virus infected computer or from an abusive shared IP address. To protect our partners we blocked these queries, we will restore them as soon as possible. If you want to visit the ad please fill the form below to make sure you are not an automated bot or a virus infected user. To visit the ad type the words in the image of the right EP.910 รีวิว แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9 Grand Bangkok Boulevard Rama 9 คฤหาสน์สุดหรู 2-3 ชั้น บนถนนกรุงเทพกรีฑา สวัสดีผู้อ่านชาว HOMENAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้ทีมงานจะขอพาชมโครงการสุดหรูใหม่ล่าสุด โครงการ “Grand Bangkok Boulevard พระราม 9“ จาก SC Asset ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เดินทางสะดวก สามารถเชื่อมสู่กลางเมือง ด้วยทางด่วนพระราม 9, รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง(โครงการในอนาคต) และสามารถใช้เส้นทางถนนศรีนครินทร์, มอเตอร์เวย์, วงแหวนตะวันออก บางนา – บางปะอิน, ถนนตัดใหม่ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า(โครงการกำลังก่อสร้าง) และไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9 เป็นคฤหาสน์ 2 – 3 ชั้น สไตล์ Modern Luxury กับคอนเซ็ป “Luxury Iconic Geometric Crafting” เส้นโครงสร้างแห่งความยิ่งใหญ่ภายใต้รูปธรรมของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ด้วยเส้นสายเรขาคณิตที่แสดงถึงความมั่นคงเสมือนผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต ในสังคมคุณภาพ มีความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนบ้านเพียง 52 ยูนิต บนพื้นที่โครงการ 28-1-31.1 ไร่ มีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบ คือ Prosper, Forbes, Tycoon พื้นที่ใช้สอย 399 – 693 ตร.ม. และที่ดินเริ่มต้น 99-173 ตร.วา โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน ทั้ง Double Premium Security และ Double Security Gate, Club House, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส, เดินสายไฟลงดินทั้งโครงการ, ติดตั้งกล้องวงจรปิด พร้อมรปภ. ตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 25.9 ล้านบาท สำหรับรายละเอียดโครงการจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ติดตามอ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ ชื่อโครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9 Grand Bangkok Boulevard Rama 9เจ้าของโครงการเอสซี แอสเสท SC ASSETลักษณะโครงการ
ที่ตั้งโครงการ ติดถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. แผนที่จากทางโครงการค่ะ โครงการ Grand Bangkok Boulevard พระราม 9 ตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑาฝั่งมุ่งหน้าลาดกระบัง แต่ยังเดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวกมาก โดยเฉพาะโครงการบ้านขนาดใหญ่ เนื้อที่เยอะ จึงถือว่าเป็นทำเลที่สะดวกมาก จากโครงการสามารถเข้าออกได้ถึง 4 เส้นทางรอบด้านทั้งถนนมอเตอร์เวย์, ถนนศรีนครินทร์, ถนนรามคำแหงและถนนกาญจนาภิเษก สภาพแวดล้อมโดยรอบค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูงเนื่องจากอยู่ติดกับสนามกอล์ฟยูนิโก้ และกรุงเทพกรีฑา สปอร์ต คลับ และทำให้บรรยากาศโดยรอบโครงการมีความเงียบสงบ อากาศดีจากพื้นที่สีเขียวของสนามกอล์ฟขนาดใหญ่ มีความเป็นส่วนตัวสูง และยังมีโครงการข้างเคียงที่เป็นโครงการระดับหรูอยู่อีกหลายโครงการค่ะ การเดินทางด้วยรถยนต์ สำหรับโครงการนี้ถือว่ามีความสะดวกสบายเนื่องจากตัวถนนกรุงเทพกรีฑาเป็นถนนเส้นหลักที่สามารถเชื่อมกับถนนเส้นอื่นๆได้ ทั้งถนนศรีนครินทร์, ถนนมอเตอร์เวย์, ถนนกาญจนาภิเษกและถนนรามคำแหง ดังนี้
แต่การเดินทางในช่วงนี้อาจจะติดขัดหน่อยเพราะมีงานก่อสร้างสะพานข้ามแยกบริเวณแยกกรุงเทพกรีฑา ( ช่วงถนนหัวหมาก – ถนนกรุงเทพกรีฑา ) แต่ในอนาคตจะช่วยให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น สำหรับคนที่ต้องใช้งานถนนกรุงเทพกรีฑาในชีวิตประจำวัน แต่อย่างไรก็ตามงานก่อสร้างดังกล่าวกินพื้นที่ถึงแค่บริเวณช่วงกรุงเทพกรีฑา 8 เท่านั้น ช่วงถนนหน้าโครงการไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง สำหรับจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนมอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้าไปยังทางด่วนพระราม 9 มีให้เลือกใช้งานได้ 2 เส้นทางได้แก่ เส้นกรุงเทพกรีฑา 8 ออกสู่ถนนมอเตอร์เวย์จากนั้นขึ้นสะพานกลับรถเพื่อมุ่งหน้าไปยังทางด่วนพระราม 9 ส่วนอีกทางคือถนนศรีนครินทร์จะมีสะพานวงแหวนที่จุดตัดถนนศรีนครินทร์-มอเตอร์เวย์ เพื่อใช้งานเข้าสู่ตัวเมืองไปยังทางด่วนพระราม 9 มีระยะทางประมาณ 4.9 – 5.4 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 – 15 นาที ค่ะ สำหรับจุดลงทางด่วน ในกรณีที่เดินทางมาจากทางด่วนพระราม 9 จะมีจุดออกลงทางด่วนที่ไม่ไกลจากโครงการในระยะประมาณ 3.6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 – 10 นาทีก็จะถึงโครงการค่ะ สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช่รถสาธารณะที่มีให้ใช้บริการในปัจจุบันคือ รถเมล์ มีป้ายหน้าโครงการ โดยจะมีรถเมล์สาย 93, 171, 172ร ส่วนรถไฟฟ้าในปัจจุบันจะมีรถไฟฟ้า Airport Link โดยสถานีที่อยู่ใกล้ที่สุดคือสถานีหัวหมาก ระยะทางจากโครงการประมาณ 5 กม. ตัวสถานีตั้งอยู่ใกล้กับจุดตัดพระราม 9 – ศรีนครินครินทร์ สามารถเดินทางไปใช้งานได้ 2 ทางคือเส้นศรีนครินทร์หรือผ่านกรุงเทพกรีฑาซอย 8 ระยะทางพอๆกัน มีรถสองแถวจากบริเวณหน้าโครงการไปถึงตัวสถานีได้เลยทำให้การเดินทางสำหรับคนที่ไม่ใช่รถส่วนตัวเพิ่มความสะดวกได้ในระดับนึง ส่วนในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองบนเส้นศรีนครินทร์ สถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานีศรีกรีฑา บนถนนศรีนครินทร์ ใกล้ซอยรามคำแหง 24 มีระยะทางประมาณ 5.8 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ ในระยะที่ใกล้โครงการที่สุดจะมี Mini Big C ในพื้นที่ของปั๊มบางจาก (ระยะทางจากหน้าโครงการประมาณ 245 เมตร) นอกจากนั้นมีร้านสะดวกซื้อ 7-11 และร้านอาหารริมทางพวกร้านข้าวแกง ตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่บ้างบริเวณใกล้ๆกับ 7-11 เส้นกรุงเทพกรีฑาเองมีจุดน่าสนใจอยู่บ้างคือ Kurve7 เป็น Community Mall เปิดใหม่ บนถนนกรุงเทพกรีฑา 7 The Park Mall ที่กำลังจะเปิดตัวในไม่นานนี้ เทสโก้ โลตัส ที่เป็นสาขาขนาดกลางถึงไม่ใหญ่เท่ากับสาขาที่เป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตแต่ก็ครบครันการใช้งานชีวิตประจำวัน อีกแห่งคือ Market Today คอมมูนิตี้มอลล์สไตล์ยุโรป ส่วนห้างใหญ่ๆ ต้องไปแถวทางฝั่งพระราม 9 จะมี The Ninth, Central พระราม 9 หรือไปทางบางกะปิ จะมีเดอะมอลล์, แมคโครและโลตัส บางกะปิค่ะ ส่วนโรงพยาบาลในละแวกนี้จะมี รพ.วิภาราม, รพ.สมิติเวช, รพ.เกษมราษฎร์ และมีโรงเรียนในละแวกนี้หลายแห่ง เช่น Wellington College International Bangkok อยู่ตรงข้ามโครงการ, Brighton Bangkok College, ม.สแตมป์ฟอร์ด, Heathfield International School, โรงเรียนเตรียมอุดมน้อมเกล้า เป็นต้น การเดินทาง การเดินทางในวันนี้ เราจะเริ่มต้นกันบนถนนพระราม 9 เข้ามอเตอร์เวย์ และถนนเลียบมอเตอร์เวย์ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยกรุงเทพกรีฑา 20 ตรงไปจนสุดซอยเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกรุงเทพกรีฑา ขับตรงต่อไปประมาณ 1 กม. จะถึงโครงการ Grand Bangkok Boulevard พระราม 9 ทางขวามือค่ะ สรุปการเดินทาง ถนนพระราม 9 >มอเตอร์เวย์ > ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ > ซอยกรุงเทพกรีฑา 20 > ถนนกรุงเทพกรีฑา > Grand Bangkok Boulevard พระราม 9 เราเริ่มการเดินทางกันบนถนนพระราม 9 บริเวณ The Nine พระราม 9 เราขับตรงมาเรื่อยๆ มุ่งหน้าขึ้นมอเตอร์เวย์ ซึ่งถ้าใครมาจากในเมืองก็สามารถใช้ทางด่วนศรีรัชเชื่อมเข้ามอเตอร์เวย์ได้เช่นกันค่ะ ขับตรงมาเรื่อยๆ ใช้เลนกลาง และเบี่ยงขวาเข้ามาเตอร์เวย์ค่ะ ขึ้นมาบนมอเตอร์เวย์แล้วขับตรงตามทางไปเรื่อยๆค่ะ ผ่านทางเบี่ยงซ้ายที่สามารถใช้วิ่งลงถนนศรีนครินทร์ได้ แต่เรายังคงขับตรงต่อไปค่ะ ผ่านมัสยิดยามิอุ้ลอิซฮารทางขวามือ ขับตรงมาเรื่อยๆจนเห็นป้ายทางออกถนนกรุงเทพกรีฑา ให้เราเริ่มชิดเลนซ้ายค่ะ ถัดจากป้ายทางออกมาไม่ไกลเราจะใช้ทางเบี่ยงซ้ายแรกออกถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ออกมาบนถนนเลียบมอเตอร์เวย์แล้วเราขึ้บตรงไปเรื่อยๆ โดยจากถนนเส้นนี้จะมีซอยย่อยเชื่อมเข้าถนนกรุงเทพกรีฑาหลายเส้นค่ะ ซอยย่อยแรกที่เราขับผ่าน และสามารถเชื่อมเข้าถนนกรุงเทพกรีฑาได้คือซอยกรุงเทพกรีฑา 8 แต่วันนี้เราจะใช้ซอยกรุงเทพกรีฑา 20 ในการเดินทางค่ะ จากถนนเลียบมอเตอร์เวย์ เราจะเข้าซอยกรุงเทพกรีฑา 20 เพื่อไปยังโครงการ โดยจุดสังเกตคือ 7 – 11 หน้าปากซอยค่ะ ขับตรงต่อมาเรื่อยๆบนถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ให้เราสังเกต 7 – 11 ทางซ้ายมือ ติดกับ 7 – 11 จะเป็นซอยกรุงเทพกรีฑา 20 เราจะใช้เส้นทางนี้เพื่อไปยังโครงการค่ะ เข้ามาในซอยกรุงเทพกรีฑา 20 แล้วเราขับตรงต่อไปค่ะ เราขับตรงจนสุดซอยกรุงเทพกรีฑา 20 จนถึงทางแยกตัดถนนกรุงเทพกรีฑา เราเลี้ยวซ้ายค่ะ เลี้ยวซ้ายมาแล้วเราขับต่อมาอีกหน่อยจะผ่าน Tesco Lotus สาขาใหญ่ทางขวามือ สามารถที่จะแวะซื้อของใช้ก่อนเข้าบ้านได้ค่ะ ขับตรงต่อมาเรื่อยๆ ผ่าน 7 – 11 ทางขวามือ เมื่อเราเห็นปั๊มบางจากและ Mini Big C ทางขวามือ แสดงว่าเราใกล้ถึงตัวโครงการแล้วค่ะ ขับตรงต่อมาอีกหน่อยจะถึงโครงการ Grand Bangkok Boulevard พระราม 9 ทางขวามือค่ะ ถนนและแยกที่สำคัญรอบโครงการ
สถานที่สำคัญรอบๆโครงการ
รอบๆโครงการ พื้นที่โดยรอบโครงการทั้งหมดเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ มีโงงานขนาดเล็กถึงขนาดกลางแซมอยู่บ้างค่ะ
สภาพแวดล้อมด้านหน้าโครงการติดกับถนนกรุงเทพกรีฑา ฝั่งตรงข้ามเป็น Wellington College International Bangkok บรรยากาศโครงการฝั่งขวามือจะเห็นว่าพื้นที่ข้างโครงการยังเป็นที่ดินเปล่า มีต้นไม้ใหญ่ ร่มรื่น บรรยากาศพื้นที่ติดโครงการฝั่งซ้ายมือ ตัวโครงการ โครงการ Grand Bangkok Boulevard พระราม 9 ตั้งอยู่ติดถนนกรุงเทพกรีฑา จำนวนบ้าน 52 ยูนิต บนพื้นที่โครงการขนาด 28 – 1 -31.1 ไร่ สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการส่วนแรกจะต้องผ่าน Main Entrance เข้ามาและเมื่อมาถึงหน้าโครงการจะต้องผ่าน Double Security Gate โดยลูกบ้านจะมีระบบ Easy Pass เมื่อเข้ามาในโครงการจะเจอกับถนนหลักช่วงหน้าโครงการกว้าง 12 เมตร โดยยูนิตสำหรับอยู่อาศัยก็จะเริ่มมีตั้งแต่ผ่านประตู Main Gate เข้ามาซึ่งจะอยู่ทางซ้ายมือ มีทั้งหมด 4 ยูนิต เมื่อผ่านถนนส่วนแรกเข้ามาจะถึงวงเวียนหลัก และอาคาร Club House ภายในประกอบด้วย Lobby, Fitness, สระว่ายน้ำ Outdoor ขนาด 4 x 12 เมตร จากส่วนกลางเข้ามาด้านในจะต้องผ่าน Double Gate เมื่อผ่านเข้ามาสู่พื้นที่ภายในจะเจอถนนหลัก กว้าง 12 เมตร และถนนซอยย่อย 9 เมตร ซึ่งการวางผังของตัวบ้านจะถูกวางไว้ติดถนนที่ทางโครงการจัดวางไว้ให้ค่ะ ต่อมาเราไปดูบรรยากาศโครงการกันต่อค่ะ เริ่มจากด้านหน้าโครงการแยกทางเข้าออก เข้ามาด้านในจะเจอกับ Main Gate พื้นถนนด้านหน้าปูแสตมป์คอนกรีต ฝั่งขวามือเป็นป้ายชื่อหลักโครงการและสวนหย่อมมีน้ำตกเล็กๆตกแต่ง ใช้โทนสีทองแดงและดำให้ความหรูและขรึม ฝั่งซ้ายมือจัดเป็นสวนหย่อม มีรูปทรง Geometric ตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศโครงการ ตัว Main Gate แยกทางเข้า ออก ทั้งสองฝั่งมีหลังคาคลุม ตรงกลางซุ้มทางเข้าเป็นป้อมรปภ. ประตูใช้ระบบเลื่อนอัตโนมัติ พร้อมแยกทางคนเดินไว้ต่างหาก ติดตั้งกล้อง CCTV ฝั่งละ 2 ตัว เพื่อส่องหน้าคนขับและป้ายทะเบียน ผ่าน Main Gate เข้ามาแล้วจะเจอถนนภายในโครงการ กว้าง 12 เมตร ฝั่งซ้ายมือจัดเป็นพุ่มไม้ขนาดใหญ่ ทางขวามือเป็นรั้วโครงการทึบ สูง 3 เมตร และมีรั้วตกแต่งด้านในเป็นพุ่มไม้และรั้วตกแต่งแนว Geomatric ขยับเข้ามาด้านในอีกหน่อย ถนนจะเป็นถนนคอนกรีต และเริ่มมียูนิตพักอาศัยส่วนหน้าโครงการ จะมีทั้งหมด 4 ยูนิต บรรยากาศตลอดสองข้างทางร่มรื่น มีต้นไม้ลงไว้ให้ตลอดทาง ผ่านถนนส่วนหน้าโครงการเข้ามาแล้วจะเจอกับวงเวียนหลักภายในโครงการ โดยพื้นที่ส่วนนี้จะมีส่วนกลางหลักของโครงการและมีที่จอดรถรองรับประมาณ 4 – 5 คันค่ะ ด้านหลังวงเวียนเข้ามาจะเป็นอาคาร Club House สไตล์โมเดิร์น มีการใช้เส้นสายแบบ Geomatric เข้ากับ Concept ของโครงการ โดยปัจจุบันจะใช้เป็นที่ตั้งของสำนักงานขายไปด้วยในตัวค่ะ สำหรับตัวอาคาร Club House จะมีที่จอดรถในร่มขนาด 2 จอด และมีรถกอล์ฟไว้ให้บริการ เข้ามาด้านในจะมีจัดสวนแบบ Open Space ลงต้นไม้ใหญ่ไว้ตรงกลาง และทางเข้าตัวอาคารจะมีทาง Slope รองรับผู้ใช้บริการที่ใช้ Wheel Chair ด้วยค่ะ เข้ามาด้านในส่วนแรกจะเป็น Lobby ผนังกระจกทำให้ภายในอาคารดูโปร่งโล่ง เข้ามาดูภายใน Lobby จะเจอกับโถงพักผ่อนฝ้าเพดานสูง มีชุดโซฟารับรองให้นั่งพักผ่อนชุดใหญ่ ผนังตกแต่งด้วยหินอ่อน ผนังอีกด้านเป็นกระจกใสสูงจรดฝ้าทำให้ภายในมีแสงสว่างเพียงพอในเวลากลางวัน ฝั่งขวามือก็มีโถงรับรองเล็กๆอีกจุด พร้อมเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลค่ะ ออกมาด้านนอกจะเจอกับบันไดขึ้นอาคาร Club House ชั้น 2 ขึ้นมาด้านบนจะเจอกับสระว่ายน้ำ Out Door ของโครงการ เป็นสระระบบเกลือ ขนาด 4 x 21 เมตร ตัวสระทำราวกันตกเป็นกระจกใส มองออกไปเห็นถนนในโครงการได้ พร้อมแยกสระเด็ก พื้นที่ข้างสระเป็น Pool Terrace ขนาดย่อมให้พอได้นั่งพักผ่อนริมสระ มีจุดล้างตัวก่อนลงสระให้ 2 จุด ฝักบัวแบบติดผนัง ติดกับสระว่ายน้ำเป็นส่วนของฟิตเนส ผนังกระจกบานเต็มสูงถึงฝ้า ภายในฟิตเนสมีอุปกรณ์ติดตั้งมาให้ใช้พอสมควร ประกอบด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า 2 ลู่ จักรยานไฟฟ้า 1 เครื่อง, เครื่อง Eliptical 1 เครื่อง เบาะรองซิทอัพ 1 เครื่อง ดัมเบลคละน้ำหนัก 12 ชิ้น Multi Gym Machine 1 เครื่อง ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกเงาเต็มผนัง ออกมาจากห้องฟิตเนสจะมีทางเดินเชื่อมไปห้องน้ำด้านหลัง ระหว่างทางเดินจะมีส่วน Open Space ที่เชื่อมต่อพื้นที่ชั้น 1 ชั้น 2 และส่วนสระว่ายน้ำ พร้อมลงต้นไม้ใหญ่ไว้ตรงกลาง ห้องน้ำจะแยกชาย หญิง เข้ามาดูภายในห้องน้ำชายกันก่อนค่ะ ภายในจะแยกส่วนอ่างล้างมือและห้องน้ำ ตัวอ่างล้างมือเป็นอ่างแบบฝัง 2 อ่าง พื้นที่ห้องน้ำแบ่งฝั่งห้องน้ำและโถปัสสาวะ โดยมีส่วนห้องน้ำมี 2 ห้องและห้องอาบน้ำ 1 ห้อง และโถปัสสาวะทั้งหมด 3 โถ ภายในห้องน้ำติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานมาให้ครบ พร้อมถังขยะ ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower มีช่องวางของด้านหลัง เรามาดูในห้องน้ำหญิงกันต่อ ภายในห้องน้ำหญิงมีการตกแต่งเหมือนๆกับห้องน้ำชาย แยกส่วนอ่างล้างมือและห้องน้ำ ตัวอ่างล้างมือแบบฝัง 2 อ่าง ด้านในมีห้องน้ำ 5 ห้องและห้องอาบน้ำ 1 ห้อง ภายในห้องน้ำ ภายในห้องอาบน้ำค่ะ จากพื้นที่ส่วนกลางเราจะเข้าไปดูโซนด้านในกันต่อ โดยจุดนี้จะต้องผ่าน Double Security Gate เข้าไปค่ะ ตัว Double Gate นี้จะใช้ประตูรางเลื่อนอัตโนมิติ แยกทางเข้า ออกและทางคนเดิน ผ่านประตู Double Gate เข้ามาจะเจอกับถนนหลักโครงการ กว้าง 12 เมตร ทั้งสองฝั่งถนนเป็นยูนิตพักอาศัย ฝั่งซ้ายมือเป็นบ้านตัวอย่างทั้ง 3 แบบ เข้ามาสุดถนนหลักเลี้ยวขวาเข้ามาจะเจอถนนหลักที่จะแจกเป็นซอยย่อยทางขวามือ ส่วนทางซ้ายมือเป็นรั้วโครงการสูง 3 เมตร ต่อรั้วเหล็กแหลมเพิ่ม สูงประมาณ 0.6 เมตร ถนนซอยย่อยทางขวา กว้าง 9 เมตร ตัวอย่างบรรยากาศภายในซอยย่อย ที่ติดถนนทั้ง 2 ฝั่งมีฟุตบาทลงหญ้าและตกแต่งไม้พุ่มไว้ให้ตลอดทาง แบบบ้าน แบบบ้านในโครงการมีทั้งหมด 3 แบบบ้านขนาดเล็กสุดคือ Type Prosper เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น และบ้านอีกสองแบบ คือบ้านขนาดกลาง Forbes และบ้านขนาดใหญ่สุด Tycoon เป็นบ้าน 3 ชั้น
โดยจุดเด่นของโครงการนี้ นอกจากตัวบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่แล้วยังมี ฟังก์ชั่นอื่นๆเพิ่มมาให้ด้วย คือ มีระบบรักษาความปลอดภัยติดตั้งมาให้ โดยสัญญาณกันขโมยจะติดตั้ง 2 ระบบคือ Magnetic และ Shock Sensor ทั้งหลัง ทุกหลัง พร้อมจอกราฟฟิคแสงตำแหน่งการทำงานของสัญญาณกันขโมย จะติดตั้งไว้บริเวณโถงบันไดและห้อง Master Bedroom ของบ้านทุกหลัง ติดตั้งจุด EV Charger Support สำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อทดแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นพลังงานทางเลือกในการช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำมันในอนาคตค่ะ Eldercare Solution by SC ASSET นวัตกรรมที่ทำมารองรับการพักอาศัยของผู้สูงอายุ คือการติดตั้งทางลาดสำหรับผู้ใช้ Wheel Chair ภายในห้องพักสำหรับผู้สูงอายุ ติดตั้งพื้น SCG Soft Floor ในห้องนอน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องน้ำ ทั้งสุขภัณฑ์อัจฉริยะ ราวจับกันลื่น 2 จุด และการจัดการระบบระบายน้ำโดยไม่ต้องมีพื้นต่างระดับ ช่วยให้ผู้สูงอายุใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องยกขาสูง ลดโอกาสการเกิดอันตรายค่ะ บ้านตัวอย่าง สำหรับบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกกันในวันนี้จะมีครบทั้ง 3 แบบค่ะ โดยจะเริ่มที่บ้านขนาดเล็กสุด Prosper ถัดมาเป็นบ้านขนาดกลาง Forbes และขนาดใหญ่สุด Tycoon เราไปชมกันเลยค่ะ
มาเริ่มกันที่บ้านน้องเล็กสุดกันก่อน กับแบบบ้าน Prosper ฟังก์ชั่นภายในบ้าน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ หน้าตาตัวบ้านภายนอกสไตล์โมเดิร์น เน้นเส้นสายเรขาคณิต วัสดุตกแต่งใช้สีโทนเทาน้ำตาล และอิฐ มีลักษณะของสไตล์ Loft นิดๆ เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ สำหรับบ้านมาตรฐานจะได้สีตัวบ้านเป็นสีเทาฟ้าๆ ต่างจากบ้านตัวอย่างนิดหน่อยค่ะ ประตูรั้วทางเข้าบ้านได้แบบรางเลื่อน 2 ตอน เปิดได้เต็มหน้ากว้าง รั้วหน้าบ้านเป็นรั้วตกแต่งสไตล์ก่ออิฐ พร้อมติดตั้ง Mail Box, กริ่งหน้าบ้าน และเลขที่บ้านมาให้เป็นมาตรฐานทุกหลัง เข้ามาดูตัวบ้านกันต่อ เมื่อเข้ามาจะเจอกับที่จอดรถขนาด 3 จอด โดยจะมีที่สำหรับจอดในร่ม 2 คัน และ Outdoor 1 คัน สำหรับพื้นที่จดรถคันที่ 3 ส่วน Outdoor จะปูพื้นคอนกรีตแยกมาให้ข้างๆที่จอดในร่มแบบนี้ค่ะ และในบ้านมาตรฐานจะมีจัดสวนมาให้รอบบ้านตามแบบนี้เลยค่ะ พื้นที่สวนหลังบ้านปูหญ้ามาให้เต็มพื้นที่ ลานซักล้างหลังบ้านจะยกสเต็ปขึ้นมา 2 ขั้น พื้นปูกระเบื้องเซรามิค มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า และประตูเชื่อมเข้าไปยังส่วนครัว จากลานซักล้างเปิดเข้ามาภายในครัวจะพบกับส่วนครัวและพื้นที่ทานอาหารค่ะ มาดูพื้นที่ข้างบ้านอีกฝั่ง จะมีจัดสวนและลงไม้พุ่มไว้ให้เช่นกัน กลับมายังพื้นที่ส่วนหน้าบ้าน เริ่มจากโรงจอดรถ จะมีช่องเก็บของติดตั้งมาให้ และมีประตูทางเข้ารองที่เข้าไปในตัวบ้านแล้วจะสามารถเข้าสู่ห้องครัวได้ในระยะใกล้ ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาซื้อของจากนอกบ้านมาแล้วต้องการเก็บในครัวค่ะ นอกจากนั้นยังติดตั้งจุดชาร์จ EV Charger Support รองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าไว้ให้ในบ้านทุกยูนิตด้วยค่ะ สำหรับประตูทางเข้ารองจากที่จอดรถจะได้เป็นประตูบานเลื่อน บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง ตัวห้องเก็บของในโรงจอดรถจะมีประตูปิดมาให้เรียบร้อย เป็นสัดส่วน มาดูที่ทางเข้าหลักของบ้านกันต่อ ซุ้มทางเข้าตัวบ้านจะมีเฉลียงกว้าง ยกระดับขึ้นไป 2 สเต็ป โดยพื้นที่เฉลียงจะมีม้านั่งติดตั้งไว้ให้ สามารถที่จะนั่งใส่รองเท้าเพื่อเตรียมตัวออกจากบ้านได้ค่ะ ใต้ม้านั่งจะมีลิ้นชักสำหรับเก็บของเล็กๆน้อยๆ เช่นอุปกรณ์ขัดรองเท้า หรือ สเปรย์ดับกลิ่น พร้อมมีช่องระบายอากาศด้านล่างไม่ให้ภายในลิ้นชักอับชื้น ประตูทางเข้าหลักของบ้านจะได้เป็นประตูบานเลื่อนคู่ รางเลื่อนเปิดสลับ พร้อมบานฟิกซ์ บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง เข้ามาภายในตัวบ้านฝ้าเพดานสูง 3 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน ส่วนแรกที่เราเข้ามาเป็นพื้นที่ต้องรับของตัวบ้าน คือส่วน Double Living Room มองตรงไปเป็นห้องทานอาหาร และห้องนอนผู้สูงอายุ สำหรับพื้นที่ Double Living Room นี้จะพบเห็นได้ทั่วไปในบ้านหลังใหญ่ๆ ซึ่งจะมีหน้าที่แบ่งฟังก์ชั่นของห้องนั่งเล่นได้เป็นส่วนรับรองแขกทั่วไป และสำหรับแขกที่สนิทกันขึ้นมาอีกระดับ อย่างบ้านหลังนี้ห้องนั่งเล่นส่วนแรกจะเหมาะสำหรับรับรองแขกที่แวะมาคุยกันเป้นเวลาสั้นๆ หรือเป็นที่นั่งรอค่ะ ส่วนห้องนั่งเล่นทางขวามือจะแบ่งฟังก์ชั่นให้เหมาะสมกับการรับรองที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น สามารถจัดวางทีวี เครื่องเสียงต่างๆได้ ส่วนช่องแสงมีมาให้เป็นบานใหญ่ รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะและสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ ขนาดโซฟาที่สามารถวางในห้องนั่งเล่นได้ ขนาดประมาณ 3 – 5 ที่นั่ง และโซฟาทรง L Shape  ระยะดูทีวีประมาณ 2.2 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 55″ – 60″ จากส่วน Double Living Room จะเป็นพื้นที่เชื่อมไปยังโถงบันได, ห้องทานอาหารและห้องครัว และจากห้องทานอาหารจะสามารถเชื่อมไปยังห้องนอนผู้สูงอายุ และห้องน้ำได้ทางขวามือ มาดูในส่วนของห้องทานอาหารกันก่อนค่ะ โดยพื้นที่ห้องทานอาหารนี้จะมีขนาดกว้าง สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่ได้ 6 – 8 ที่นั่ง ส่วนช่องแสงฝั่งหลังบ้านเป็นบานเลื่อนขนาดบานกว้าง สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ดี ติดกับห้องทานอาหารจะเป็นส่วนของห้องครัว โดยครัวในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นครัวเปิด ไม่มีกั้นห้องมาให้ แต่จะมีเดินระบบมาให้เรียบร้อยค่ะ พื้นที่ในห้องครัวถือว่าเป็นครัวขนาดกลางๆ ถ้ากั้นห้องแล้วก็จะสามารถ Built – in เคาน์เตอร์ครัวทรง L Shape หรือ U Shape ได้ หรือถ้าทำเป็นครัวเปิดตามแบบบ้านมาตรฐานก็สามารถที่จะเชื่อมพื้นที่ด้วย Pantry ครัวสวยๆ ได้ อีกฝั่งของห้องครัวมีประตูเชื่อมออกไปยังลานซักล้างด้านนอก จากห้องครัวเราไปดูในส่วนของห้องน้ำรับรองที่ชั้น 1 และห้องนอนผู้สูงอายุกันต่อ เริ่มจากห้องน้ำรับรองค่ะ ห้องน้ำรับรองจะมีเฉพาะส่วนห้องน้ำเท่านั้น ไม่มีห้องอาบน้ำ ภายในตกแต่งด้วยพื้นและผนังกระเบื้องลายหิน สำหรับอุปกรณ์ภายในห้องน้ำจะได้อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมพร้อมลิ้นชักเก็บของใต้อ่าง อ่างล้างมือขนาดค่อนข้างกว้าง ยี่ห้อ Kohler พร้อมก๊อกน้ำเย็น Grohe ติดกับอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์มาตรฐาน Kohler พร้อมอุปกรณ์ครบชุด คือสายชำระและที่วางกระดาษชำระ สายชำระที่ได้ขนาดพอดีมือ ส่วนช่องแสงมีมาให้ 1 จุด ตรงข้ามโถสุขภัณฑ์ เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 ขนาด กระจกใส แนะนำให้ติดมู่ลี่เพิ่มหรือติด Sticker แบบขุ่นได้ค่ะ ถัดมาดูในส่วนของห้องอเนกประสงค์กันต่อ โดยห้องนี้จะได้ผนังฝั่งนึงเป็นกระจกแบบเข้ามุม พื้นภายในมีตัวจบติดตั้งมาให้เรียบร้อย ภายในห้องมีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ สำหรับฟังก์ชั่นในห้องนี้จัดเป็นห้องทำงาน และห้องอ่านหนังสือซึ่งห้องนี้สามารถที่จะจัดเป็นห้องอื่นๆได้อีก เช่น ห้องนอนผู้สูงอายุหรือห้องนอนแขก จากพื้นที่ภายในห้องสามารที่จะจัดวางเตียงขนาดควีนไซส์และอุปกรณ์อื่นๆเช่น ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ และภายในห้องนี้ก็มีห้องน้ำส่วนตัวด้วยค่ะ เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชั่นครบคือมีทั้งส่วนห้องน้ำ และมีพื้นที่อาบน้ำด้วย อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมพร้อมก๊อกน้ำเย็น และมีลิ้นชักเก็บของใต้อ่าง ขนาดอ่างล้างมือพอดีๆ ฝั่งตรงข้ามเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ครบชุดและมีผนังชั้นวางของด้านข้าง ส่วนพื้นที่อาบน้ำถูกแบ่งไว้เป็นสัดส่วน มีช่องแสง 1 บาน เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง กระจกใส ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower ยี่ห้อ Grohe พร้อมที่วางของด้านข้าง ขนาดฝักบัวมาตรฐานค่ะ ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.4 x 0.9 เมตร พอให้ยืนอาบได้สะดวก จากห้องอเนกประสงค์เราจะขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อค่ะ พื้นที่โถงบันไดจะมีประตูเชื่อมเข้ามาจากที่จอดรถภายนอก และมีห้องเก็บของใต้บันได ติดกับบันไดอีกฝั่งมีหน้าจอควบคุมระบบรักาาความปลอดภัยภายในบ้าน ซึ่งจะติดตั้งมาให้ในบ้านทุกหลังค่ะ หน้าจอแสดงจุดต่างๆภายในบ้านยี่ห้อ Inim บันไดโครงสร้าง คสล. ปิดผิวไม้มะค่า มือราวจับไม้แดง โถงบันไดสูงมาตรฐาน ชานพักบันไดสี่เหลี่ยมเต็มขั้น ขึ้นมาบนชั้น 2 จะเจอกับโถงทางเดินที่แจกไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้อง และโถงอเนกประสงค์ทางขวามือ จุดเด่นของโถงนี้คือมีช่องแสงรอบด้าน และมีช่องแสงเชื่อมต่อมาที่โถงบันได ทำให้ตัวโถงบันไดได้รับแสงธรรมชาติในช่วงเวลากลางวันไปด้วย ขึ้นมาบนชั้น 2 มองย้อนไปทางโถงบันได จะเห็นช่องแสงบริเวณโถงบันได 2 จุด เรามาดูในส่วนของโถงอเนกประสงค์กันก่อนค่ะ โดยพื้นที่โถงนี้จะไม่มีผนังกั้น ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้เราสามารถที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น เป็นห้องนั่งเล่นครอบครัว, ห้องอ่านหนังสือหรือถ้ามีสมาชิกในบ้านเพิ่มก็สามารถที่จะกั้นห้องนอนเพิ่มได้ค่ะ ภายในโถงอเนกประสงค์มีช่องแสงมาให้ 2 จุด เป็นช่องแสงบานใหญ่ฝั่งหน้าบ้าน และหน้าต่างบานเลื่อนฝั่งข้างบ้าน สำหรับห้องนี้จัดเป็นพื้นที่พักผ่อนค่ะ ซึ่งพื้นที่ของห้องพักผ่อนนี้มีขนาดกว้างมาก สามารถวางโซฟาขนาด 4 -5 ที่นั่ง และสามารถวางทีวีขนาด 55″ – 70″ ได้ค่ะ จากห้องอเนกประสงค์เรากลับมาที่โถงทางเดินและไปดูห้องนอนทั้ง 3 ห้องกันต่อ เริ่มที่ห้อง Master Bedroom ทางขวามือกันก่อนค่ะ โดยบานประตูห้องนอนจะได้เป็นบาน HDF ด้านหลังบานประตูจะมีตัว Stopper กันประตูกระแทกติดตั้งมาให้ทุกบาน และจะมีหน้าจอแสดงระบบกันขโมยของบ้านติดไว้ในห้อง Master Bedroom ของบ้านทุกแบบค่ะ ภายในห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องนอนขนาดใหญ่สุดของบ้าน ภายในห้องจะมีห้องน้ำในตัว, ส่วน Walk – in Closet, ระเบียง และมีพื้นที่พอให้แบ่งเป็นส่วนนั่งพักผ่อนและห้องนอน ตัวอย่างการจัดพื้นที่พักผ่อนใน Master Bedroom จะเห็นว่ามีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถจัดโซฟาและทีวีขนาด 47″-50″ ได้ค่ะ ติดกับพื้นที่นั่งพักผ่อนจะเป็นระเบียงภายนอก ประตูที่เชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอกได้เป็นประตูบานเลื่อนคู่ ผสมบานฟิกซ์ บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง ระเบียงภายนอกขนาดกว้าง ราวกันตกกระจกใส พื้นที่ระเบียงสามารถที่จะจัดวางเก้าอี้นั่งพักผ่อนได้สบายๆ หรือจะปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวบนชั้น 2 ด้วยค่ะ ส่วนพื้นที่ห้องนอนจะมีช่องแสงมาให้ 3 จุด ขนาดพื้นที่สามารถวางเตียงคิงส์ไซส์และยังเหลือที่สำหรับวางโต๊ะหัวเตียงทั้ง 2 ฝั่งค่ะ ติดกับส่วนห้องนอนเป็นห้อง Walk – in Closet โดยในบ้านมาตรฐานจะไม่มีกั้นห้องมาให้นะคะ ซึ่งเราสามารถที่จะกั้นห้องเองได้ หรือจะใช้ฉากกั้นสวยๆมาแบ่งพื้นที่ก็ได้ค่ะ สำหรับในบ้านตัวอย่าง ทางโครงการจะกั้นห้องแยกมาให้ดูเป็นสัดส่วน ภายในสามารถ Built – in ตู้เสื้อผ้าได้หลายหลังค่ะ อีกฝั่งมีพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้ง จาก Walk – in Closet จะเชื่อมอยู่กันห้องน้ำ ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนทั้งห้อง แยกส่วนแห้งและส่วนเปียก อ่างล้างมือได้เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมแบบฝังเคาน์เตอร์ Top หินสังเคราะห์ ใต้อ่างมีลิ้นชักเก็บของ 2 ลิ้นชักและ Low Wall ด้านหลังสามารถใช้วางของได้ ติดกับอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์แบบ Automatic ยี่ห้อ Kohler ระยะการใช้งานพอดีๆ นอกจากอุปกรณ์มาตรฐานแล้วในห้องน้ำ Master Bedroom จะได้อ่างอาบน้ำมาในบ้านทุกแบบค่ะ สำหรับในห้องนี้จะได้ช่องแสงบานใหญ่ติดกับอ่างอาบน้ำ โดยจะได้เป็นหน้าต่างกระจกใสจึงควรหามู่ลี่มาติดตั้งกันด้วยค่ะ สำหรับห้องอาบน้ำจะแยกให้เป็นสัดส่วนพร้อมติดตั้ง Shower Box ความสูงจรดฝ้า ภายในติดตั้งฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower และมีชั้นวางของด้านหลัง ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.2 x 1 เมตร พอให้ยืนอาบได้สะดวก มุมจากห้องนอนมองย้อนไปทางส่วนพักผ่อน จากห้อง Master Bedroom เรามาดูในห้องนอนรองห้องแรกกันก่อนค่ะ ภายในห้องนอนรองห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัว และช่องแสงบานยาวสามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้พอสมควรและสามารถระบายอากาศได้ดี ขนาดห้องสามารถวางเตียงขนาดคิงส์ไซส์ได้ และพื้นที่ปลายเตียงเหลือพอให้วางเก้าอี้นั่งพักผ่อน พื้นที่เหลือรอบๆเตียงกว้างพอให้ติดตั้งโต๊ะเขียนหนังสือ, ตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บของได้ ถัดมาดูในส่วนของห้องน้ำกันต่อ ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งและพื้นที่อาบน้ำ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำได้มาครบ คืออ่างล้างมือพร้อมลิ้นชักเก็บของใต้อ่าง, โถสุขภัณฑ์ และกระจกเงาบานใหญ่ ระยะการใช้งานเหมาะสมค่ะ ส่วนห้องอาบน้ำจะแยกพื้นที่ส่วนเปียกด้วยการลดระดับพื้นลงไปประมาณ 3 ซม.แต่ไม่มี shower Box ติดตั้งมาให้ต้องติดตั้งเพิ่มเองค่ะ ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower มาให้ ส่วนผนังด้านหลังเจาะชั้นวางของไว้ให้ 3 ชั้น ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.2 x 0.9 เมตร ถัดมาเรามาดูในห้องนอนรองห้องที่ 2 กันต่อ ภายในห้องนอนรองห้องนี้จะมีขนาดกว้างกว่าห้องที่แล้วนิดหน่อย แยกพื้นที่ส่วนห้องนอนและส่วน Walk – in Closet เมื่อเข้ามาในห้อง ส่วนแรกฝั่งขวามือจะเป็นส่วน Walk – in Closet สามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าได้ 2 หลัง จากส่วน Walk – in Closet เราจะเข้าไปดูในห้องน้ำกันก่อนค่ะ ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก ตกแต่งทั้งห้องด้วยกระเบื้องสีเทา พื้นที่ติดตั้งโถสุขภัณฑ์มีระยะการใช้งานที่พอดีๆ ส่วนห้องอาบน้ำแยกจากส่วนแห้งด้วยพื้นลดระดับ แนะนำให้ติดตั้งม่านอาบน้ำหรือ Shower Box เพื่อป้องกันน้ำกระเซ็นออกมาภายนอกค่ะ ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1 x 0.8 เมตร ออกมาจากห้องน้ำเรามาดูในส่วนของห้องนอนกันต่อ โดยห้องนี้จะมีช่องแสงมาให้ 2 จุด สามารถเปิดพร้อมกันเพื่อระบายอากาศได้ดีค่ะ ขนาดห้องสามารถวางเตียงขนาดคิงส์ไซส์ได้ มีพื้นที่ข้างเตียงและปลายเตียงเหลือพอให้จัดวางตู้เก็บของค่ะ พื้นที่ปลายเตียงอีกฝั่งสามารถวางโต๊ะเขียนหนังสือได้ บ้านตัวอย่างหลังที่ 2 เป็นบ้านไซส์กลาง คือบ้านแบบ Forbes คฤหาสน์ 3 ชั้น เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 115 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 546 ตร.ม. ฟังก์ชั่นภายในบ้าน 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 1 ห้องแม่บ้าน, ที่จอดรถ 4 คัน หน้าตาภายนอกของบ้านแบบนี้จะมีดีเทลมากกว่าแบบที่แล้วขึ้นมาหน่อย จุดเด่นคือช่องแสงบนชั้น 2 ที่มีการเล่นเหลี่ยมมุมเฉียงดูแปลกตากว่าบ้านทั่วๆไป โดยส่วนตัวชอบดีไซน์หน้าตาภายนอกของบ้านแบบนี้ที่สุดค่ะ เข้ามาดูตัวบ้านกันต่อ เมื่อเข้ามาจะเจอกับที่จอดรถขนาด 3 จอด เป็นที่จอดในร่มทั้งหมด มีช่องเก็บของติดตั้งมาให้ และมีประตูทางเข้ารองที่เข้าไปในตัวบ้านแล้วจะสามารถเข้าสู่ห้องครัวได้ในระยะใกล้ ติดตั้งจุดชาร์จ EV Charger Support รองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามาตรฐาน จากโรงจอดรถจะสามารถเดินขึ้นไปยังเฉลียงทางเข้าหน้าบ้านได้ รั้วบ้านที่ได้จะได้เป็นรั้วรางเลื่อน แยกทางคนเดินเข้าต่างหากค่ะ ในบ้านมาตรฐานพื้นที่สวนติดกับโรงจอดรถ จะปูพื้นคอนกรีตมาให้เพื่อเป็นที่สำหรับจอดจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์แม่บ้านได้ค่ะ พื้นที่สวนในตัวบ้านทางโครงการจะจัดสวนมาให้เต็มพื้นที่แต่แบบสวนอาจจะแตกต่างกันไปแต่ละยูนิต โดยจะต้องสอบถามโครงการเพิ่มเติมเฉพาะกันไปค่ะ มาถึงพื้นที่หลังบ้านจะมีลานซักล้าง ซึ่งจะยกระดับขึ้นไป 2 Steps พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค มีประตูเชื่อมเข้าไปยังห้องครัวด้านในและโซนของ Maid Plaza โดยตัวเฉลียงจะมี Slope ที่เชื่อมเป็นทางเดินถึงส่วนที่จอดรถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกในบ้านที่ใช้ Wheel Chair ค่ะ กลับมาที่ซุ้มทางเข้าหลักหน้าบ้าน ส่วนประกอบจะมีโคมไฟหน้าบ้าน 2 ดวง ถัดเข้าไปจะเป็นเฉลียงในร่ม จึงสามารถวางชั้นวางรองเท้าได้ ฝั่งซ้ายมือมีมานั่งติดตั้งมาให้ไว้สำหรับนั่งใส่รองเท้าก่อนออกจากบ้าน ขนาดของม้านั่งบริเวณเฉลียงหน้าบ้านจะเป็นขนาด 1 ที่นั่ง พร้อมลิ้นชักเก็บของ ส่วนประตูทางเข้าจะได้เป็นประตูไม้เต็มบานมีช่องแสงข้างบานประตูและมีช่องแสงที่ส่อง เข้าไปด้านในบ้านบริเวณส่วนห้องนั่งเล่นค่ะ บานประตูได้เต็มบาน ขนาดบานค่อนข้างใหญ่ เข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่โถงกว้าง ส่วนแรกจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นใหญ่ หรือ Double Living Room มองตรงไปจะเป็นส่วนของ ห้องนั่งเล่นรอง, ห้องทานอาหารและห้องอเนกประสงค์ค่ะ เราเข้ามาดูในส่วนของห้องนั่งเล่นส่วนแรกกันก่อน พื้นที่ห้องนั่งเล่นส่วนหน้าบ้านนี้จะเป็นโถงสูง Double Volume Space ความสูงประมาณ 6.5 เมตร มีช่องแสงติดตั้งมาให้เต็มผนังฝั่งข้างบ้าน ซึ่งช่องแสงเป็นแบบบานยาวทำให้ได้ความรู้สึกว่าห้องสูงโปร่งขึ้นกว่าปกติค่ะ สำหรับขนาดโถงรับแขกหลักด้านหน้ามีขนาดใหญ่ สามารถวางโซฟาชุดใหญ่ได้หลายชุด พร้อมโต๊ะกลาง ตัวโถงนั่งเล่นจะมีพื้นที่เชื่อมต่อขึ้นไปบนชั้นสอง โดยจะมีระเบียงบริเวณส่วนของโถงบันไดชั้นบนค่ะ ถัดมาเข้ามาดูในส่วนของ Double Living Room ด้านหลัง หรือห้องนั่งเล่นรองที่มีความส่วนตัวขึ้นมาอีกระดับ ทางขวามือจะเป็นส่วนของห้องทานอาหารค่ะ เข้ามาดูในส่วนของ Double Living Room รองกันก่อน ห้องนี้จะเป็นห้องนั่งเล่นที่มีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาอีกระดับ โดยจะมีประตูฝั่งข้างบ้านที่เชื่อมออกไปยังเฉลียงด้านนอกและ Slope ที่สามารถเชื่อมไปยังที่จอดรถ เพราะฉะนั้นถ้ามีผู้ป่วยที่ใช้ Wheel Chair ก็สามารถที่จะลงจากรถแล้ววนมาข้างบ้านเพื่อขึ้น Slope เข้าทางส่วนห้องนั่งเล่นและเข้าไปยังห้องนอนผู้สูงอายุได้สะดวก สำหรับเพื่อนที่ห้องนั่งเล่นส่วนนี้ จะสามารถวางโซฟาขนาด 5 – 6 ที่นั่งได้สบายๆ พร้อมระยะดูทีวีประมาณ 2.4 เมตรสามารถวางทีวีขนาด 55″ – 60″ ได้ ต่อมาเรามาดูในส่วนของห้องนอนผู้สูงอายุกันต่อ สำหรับห้องนอนผู้สูงอายุนี้ทางโครงการจะมีระบบ Eldercare ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของ SC Asset โดยจะประกอบไปด้วยพื้นห้องที่ปูด้วย Soft Floor ของ SCG เป็นพื้นที่ป้องกันการลื่นและให้ผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง ส่วนในห้องน้ำก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้สุงอายุเช่นกัน ซึ่งเดี๋ยวเราจะเข้าไปดูกันต่อค่ะ สำหรับในส่วนห้องนอนจะได้ช่องแสงมาทั้งหมด 3 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนฝั่งหลังบ้านและหน้าต่างบานกระทุ้งทรงสูงฝั่งข้างบ้าน พื้นที่ในห้องนอนนี้สามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้สบายๆ พร้อมยังเหลือพื้นที่สำหรับวางตู้หัวเตียงได้ทั้งสองฝั่งและอาจจะเหลือพื้นที่อีกเล็กน้อยข้างเตียงให้สำหรับวางเก้าอี้ตัวยาวนั่งพักผ่อนค่ะ ส่วนพื้นที่ปลายเตียงก็สามารถติดตั้งตู้หรือทีวีได้ มีระยะใช้งานเหลือเฟือ จากห้องนอนไปดูในส่วนของ Walk – in Closet กันต่อ พื้นที่ Walk – in Closet สามารถติดตั้งตู้ได้ 2 – 3 หลัง พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง จาก Walk – in Closet แล้วจะไปดูในส่วนของห้องน้ำกันต่อ ภายในห้องน้ำอย่างที่บอกว่าจะมีระบบ Eldercare ซึ่งจะประกอบไปด้วยพื้นห้องน้ำที่ไม่มีการลดระดับทำให้ผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องก้าวขาขึ้นลงซึ่งอาจจะทำให้หกล้มได้ โดยระบบการระบายน้ำจะมี เซาะร่องให้น้ำระบายโดยไม่ต้องลดระดับพื้น นอกจากนั้นก็จะมีราวจับกันลื่นที่บริเวณโถสุขภัณฑ์และในห้องอาบน้ำ สุขภัณฑ์จะได้พิเศษกว่าห้องอื่นคือตัวโถสุขภัณฑ์จะได้เป็นแบบ Automatic ค่ะ ส่วนของอ่างล้างมือจะได้เป็นอ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยม Built in บนเคาน์เตอร์เก็บของ ใต้อ่างมีตู้เก็บของสามารถเก็บของได้ค่อนข้างเยอะ ตัวอ่างขนาดพอดีๆ เหนืออ่างสามารถวางของได้พอสมควร โถสุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler แบบ Automatic ด้านข้างจะมีราวจับกันลื่นซึ่งสามารถพับขึ้นลงได้ค่ะ ห้องอาบน้ำจะติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower มาให้ในระดับที่ไม่สูงมาก พร้อมราวจับกันลื่น และมีม้านั่งสำหรับนั่งอาบน้ำ ส่วนผนังมีเจาะช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำให้ด้วยค่ะ ขนาดของห้องอาบน้ำประมาณ 1.4 x 0.8 เมตร พอให้ยืนอาบได้สะดวก สังเกตตรงระบบระบายน้ำจะมีการเจาะร่องไว้กับพื้นในระดับเดียวกันเป็นการกันน้ำที่จะไหลออกมายังพื้นที่ด้านนอกได้โดยที่ไม่ต้องลดระดับพื้นค่ะ กลับออกมาพื้นที่ภายนอกก็ไปดูในส่วนของห้องทานอาหารกันต่อ โดยพื้นที่ห้องทานอาหารนี้จะมีลักษณะเป็นโถงต่อเนื่องไปยังส่วนครัว มีขนาดค่อนข้างกว้างสามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 – 10 ที่นั่งได้สบายๆ และจากในบ้านตัวอย่างทางโครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 8 ที่นั่ง จึงทำให้มีพื้นที่เหลือด้านหลังที่สามารถทำเป็น Pantry สวยๆหรือทำเป็นบาร์เครื่องดื่มไว้รองรับแขกก็ได้ค่ะ ถัดจากส่วนห้องทานอาหารและ Pantry เข้าไปดูในส่วนห้องครัวกันต่อ โดยในบ้านมาตรฐานห้องครัวจะได้เป็นครัวปิด ประตูบานเลื่อนบานใหญ่ กระจกใส ภายในห้องครัวจะมีช่องแสงมาให้ 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อน สามารถใช้เปิดเพื่อระบายอากาศและแสงธรรมชาติเข้ามาได้ นอกจากนั้นจะมีประตูที่ เชื่อมออกไปยังลานซักล้างด้านนอก ขนาดของห้องครัวสามารถที่จะติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวได้ทั้งสองฝั่ง เป็นครัวขนาดกลางๆ สมาชิกในบ้านสามารถที่จะเข้ามาทำอาหารร่วมกันในวันหยุดได้ค่ะ กลับออกมาที่พื้นที่ด้านนอกจากส่วน Pantry จะสามารถเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำรับรองของบ้านได้ เข้าไปดูในส่วนของห้องน้ำกันต่อ สำหรับตัวห้องน้ำรับรองที่ชั้น 1 จะมีช่องแสงมาให้ 1 จุด และจะมีเพียงส่วนแห้งเท่านั้น ไม่มีพื้นที่ส่วนอาบน้ำ สุขภัณฑ์ที่ได้จะได้มาเป็นอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ ตัวกระจกเงาจะได้เต็มบานตามแบบ อ่างล้างมือจะได้แบบอ่างฝังเคาน์เตอร์ มีชั้นเก็บของใต้อ่างนิดหน่อย ส่วนเคาน์เตอร์ด้านบนสามารถวางอุปกรณ์อื่นได้เยอะ เช่น ผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดมือสำหรับแขกค่ะ ตัวโถสุขภัณฑ์ได้แบบมาตรฐานยี่ห้อ Kohler ระยะการใช้งานพอดีๆ กลับออกมาที่ด้านนอกเราจะไปดูในส่วนของโถงบันไดกันต่อ โดยพื้นที่โถงบันไดจะถูกกั้นจากส่วนห้องทานอาหารและ Pantry ค่ะ สำหรับพื้นที่โถงบันไดจะถูกแบ่งไว้เป็นสัดส่วนมีประตูที่เชื่อมมาจากโรงจอดรถด้านนอก นอกจากนั้นอีกฝั่งจะมีพื้นที่ว่างเหลือสำหรับบิวท์อินเป็นตู้เก็บรองเท้าขนาดใหญ่ได้ ติดกับตัวบันไดจะมีห้องเก็บของบานประตูทึบ ภายในห้องเก็บของปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาดห้องเก็บของค่อนข้างกว้าง สามารถเดินเข้าไปเก็บของได้สบายๆ มีติดตั้งไฟให้ความสว่าง 1 ดวง ตัวบันไดเป็นโครงสร้าง คสล. ปิดผิวไม้มะค่า โถงบันไดความสูงมาตรฐาน มีช่องแสงมาให้ 1 จุด เป็นชุดหน้าต่างบานกระทุ้ง 3 บาน ขึ้นมาบนชั้น 2 จะเจอโถงทางเดินขนาดใหญ่ มองตรงไปจะเป็นส่วนของ Double Volume ที่เชื่อมอยู่กับห้องรับแขกด้านล่าง จากชั้น 2 มองย้อนลงไปบริเวณโถงบันไดจะเห็นบันไดที่ขึ้นมาจากชั้น 1 และบันไดที่เชื่อมขึ้นไปยังชั้น 3 จากโถงทางเดินบนชั้น 2 จะมีระเบียงเชื่อมต่อไปภายนอกด้วยค่ะ สำหรับส่วน Double Volume บนชั้น 2 มองลงไปจะเห็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่นแบบนี้ค่ะ ไปดูในส่วนของระเบียงภายนอกที่เชื่อมกับโถงทางเดินกันต่อ พื้นที่ระเบียงภายนอกถือว่าเป็นระเบียงที่ค่อนข้างกว้าง ราวกันตกได้เป็นกระจกใส ราวเหล็กสีดำ ขนาดพื้นที่ขนาดนี้สามารถที่จะปลูกต้นไม้เพื่อเป็นพื้นที่สีเขียวในบ้านได้พอสมควร หรือจะวางชุดโต๊ะวางกาแฟเล็กๆก็ได้เหมือนกันค่ะ กลับเข้ามาภายในบ้านมองย้อนไปทางส่วนโถงบันไดเราจะเห็นโถงอเนกประสงค์ทางด้านขวามือที่ถูกแบ่งพื้นที่ไว้ค่ะ ภายในโถงอเนกประสงค์ทางด้านขวามือนี้ทางโครงการจัดให้เป็น Family Area ซึ่งพื้นที่นี้สามารถที่จะปรับเปลี่ยนไปฟังก์ชั่นอื่นได้เช่นกัน เช่น ห้องอ่านหนังสือ, ห้องทำงานคุณพ่อ หรือถ้ามีสมาชิกในบ้านเพิ่มก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยน กั้นห้องเพิ่มเป็นห้องนอนอีกห้องนึงก็ได้ค่ะ สำหรับการจัดพื้นที่ให้เป็น Family Area สามารถที่จะวางโซฟาตัวยาวขนาด 5 – 7 ที่นั่ง ได้สบายๆ ความพิเศษของห้องนี้คือจะมีช่องแสงที่มีรูปร่างแบบ Geometry มีการเล่นเหลี่ยมมุมให้มีลักษณะเหมือนยื่นออกไปจากตัวบ้านเล็กน้อย พร้อมทั้งกระจกเข้ามุมจึงสามารถทำให้พื้นที่โซนนี้สามารถมองเห็นวิวภายนอกได้กว้าง และสามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ เหมาะที่จะวางเก้าอี้ยาวพักผ่อนบริเวณนี้ค่ะ จากส่วน Family Area เราจะเข้าไปดูในส่วนของห้องนอนกันต่อบ้าง โดยเริ่มที่ห้อง Master Bedroom อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่สุดของบ้าน สำหรับบ้านขนาดไซส์นี้ ห้องนอนที่ได้จะมีขนาดใหญ่และสามารถแบ่งพื้นที่เป็นส่วนพักผ่อนและส่วนพื้นที่ห้องนอนแยกออกจากกันได้ชัดเจน ภายในห้องได้ช่องแสงมาเยอะและมีระเบียงในตัวด้วยค่ะ จากภาพจะเห็นว่าพื้นที่โซนพักผ่อนจะสามารถวางโซฟาและติดตั้งทีวีได้เหมือนเป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆในตัว ซึ่งสำหรับห้องนี้ใครที่ต้องการแยกเป็นสัดส่วนที่ชัดเจนก็สามารถที่จะหาฉากกั้นมากั้นระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นได้ หรือจะกั้นเป็นผนังกระจกก็ดูเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมค่ะ ติดกับพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนของห้องนอนโดยพื้นที่ห้องนอนนี้สามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้พร้อมวางตู้หัวเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้สบายๆ เพราะมีพื้นที่เหลือปลายเตียงสำหรับวาง Baybed ได้อีก 1 ตัวค่ะ มุมจากภายในห้องนอนให้เห็นภาพรวมพื้นที่ส่วนปลายเตียงจะเห็นว่ามีเนื้อที่เหลือค่อนข้างกว้างสามารถที่จะติดตั้งตู้วางของได้อีกพอสมควรและจากส่วนห้องนอนก็จะมีพื้นที่เชื่อมต่อไปยังส่วน Walk – in Closet ค่ะ ภายใน Walk – in Closet สามารถติดตั้งตู้ได้หลายหลัง โดยประมาณ 4 หลังและโต๊ะเครื่องแป้ง จาก Walk – in Closet เข้ามาดูภายในห้องน้ำกันต่อ สำหรับห้องน้ำในห้อง Master Bedroom จะดูหรูกว่าห้องนอนทุกห้อง การตกแต่งโดยรวมจะใช้กระเบื้องลายหินอ่อนทำให้ห้องดูหรูหรา พื้นที่ในห้องน้ำแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก ชัดเจน สำหรับโซนแรกเป็นพื้นที่ส่วนแห้งจะได้อ่างล้างมือแบบ His & Her มีลิ้นชักใต้อ่าง 4 ลิ้นชัก พร้อมโถสุขภัณฑ์แบบ Automatic ยี่ห้อ Kohler เหนืออ่างล้างมือจะมีผนังเจาะช่องไว้ให้สำหรับเก็บของ 3 – 4 ช่อง กระจกเงาจะได้เป็นแบบบานเต็ม ส่วนอ่างอาบน้ำก็จะได้มาเป็นมาตรฐานเหมือนบ้านหลังที่แล้วค่ะ บริเวณผนังจะมีเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำได้พอสมควร ในพื้นที่ส่วนห้องอาบน้ำก็จะติดตั้ง Shower Box มาให้ ความสูงจรดฝ้า ภายในห้องอาบน้ำจะติดตั้งฝักบัวแบบ Rain Shower และ Hand Shower มาให้ ผนังด้านหลังก็มีเจาะช่องสำหรับใส่อุปกรณ์เช่นกัน ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.4 x 0.9 เมตร พออาบได้สะดวก เราไปดูในส่วนของห้องนอนรองห้องที่ 2 กันต่อ สำหรับห้องนอนรองห้องนี้ทางโครงการจัดมาให้ดูเป็นห้องทำงานและห้องอ่านหนังสือ ซึ่งจากในภาพจะเห็นได้ว่ามีการใช้งานฟังก์ชั่นได้หลากหลาย โดยจะมีทั้งโซนนั่งทำงานคนเดียวและโซนนั่งอ่านหนังสือที่สามารถนั่งร่วมกันได้หลายคนพร้อมห้องน้ำในตัว สำหรับใครที่จะจัดเป็นห้องนอนก็สามารถที่จะวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้สบายๆ พร้อมทั้งมีส่วน Walk – in Closet เล็กๆไว้ให้ติดกับห้องน้ำค่ะ อีกมุมนึงของห้องมองย้อนไปทางประตูทางเข้าค่ะ เรามาดูในห้องน้ำกันต่อ ภายในห้องน้ำจะตกแต่งด้วยโทนขาว ดำ พื้นที่ในห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียก อุปกรณ์ในห้องน้ำได้มาครบตามมาตรฐาน คืออ่างล้างมือพร้อมลิ้นชักเก็บของใต้อ่าง โถสุขภัณฑ์และแยกห้องอาบน้ำเป็นสัดส่วน ภายในห้องอาบน้ำจะติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower มาให้ พร้อมผนังที่เจาะไว้สำหรับเป็นชั้นวางของได้ 3 – 4 ชั้น และเดินระบบไฟมาให้เพื่อรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.1 x 1.4 เมตร สามารถยืนอาบได้สบายๆ จากพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะมีประตูเชื่อมต่อไปยังระเบียงภายนอก สำหรับระเบียงในห้อง Master Bedroom นี้จะได้ราวกันตกเป็นราวเหล็กซี่สีดำ ขนาดระเบียงค่อนข้างกว้างประมาณ 1.2 เมตร พอให้ปลูกต้นไม้ในห้องนอน และวางชุดทานกาแฟเล็กๆได้ค่ะ โถงบันไดจากชั้น 2 ขึ้นไปชั้น 3 จะมีลักษณะเหมือนโถงบันไดชั้นล่าง คือมีช่องแสงมาให้ 1 จุด เป็นชุดหน้าต่างบานกระทุ้ง 3 บาน ขึ้นมาบนชั้น 3 จะเจอห้องพระก่อน โดยส่วนของห้องพระนี้จะมีช่องแสงมาให้ 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งแนวนอน ขนาดของห้องพระถือว่าค่อนข้างกว้าง สามารถวางโต๊ะหมู่บูชาขนาดมาตรฐานได้ และถ้าใครอยากกั้นให้เป็นสัดส่วนก็สามารถติดตั้งฉากกั้นหรือประตูเพิ่มเติมได้ค่ะ จากพื้นที่โถงบนชั้น 3 เราจะเข้าไปดูในห้องนอนรองห้องที่ 2 กันต่อ โดยจะเริ่มจากห้องทางขวามือ เข้ามาภายในห้องจะเห็นพื้นที่ที่ถูกแบ่งอย่างชัดเจน คือขวามือเป็นส่วนของห้องนอนและซ้ายมือเป็นส่วน Walk – in Closet และห้องน้ำ เข้ามาดูส่วนของห้องนอนกันก่อนค่ะ ส่วนของห้องนอนจะได้ช่องแสง 2 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนที่ผนังสองฝั่ง สามารถเปิดพร้อมกันเพื่อระบายอากาศได้ดี ขนาดของห้องนอนสามารถวางเตียงคิงไซส์ได้สบายๆพร้อมโต๊ะหัวเตียงทั้งสองฝั่ง และยังมีพื้นที่เหลือปลายเตียงสำหรับติดตั้งโต๊ะเขียนหนังสือได้ 1 ชุด มุมจากห้องนอนมองย้อนไปทาง ทางเข้าจะเห็นว่ามีพื้นที่ส่วนของ Walk – in Closet แบ่งไว้อย่างเป็นสัดส่วน ภายใน Walk – in Closet นี้สามารถที่จะติดตั้งตู้ได้ 2-3 หลัง พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง ถัดมาเข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อค่ะ ภายในห้องน้ำแบ่งแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก แบบชัดเจน มีช่องแสงมาให้ 1 จุด พร้อมอุปกรณ์ครบ คืออ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ ระยะการใช้งานของโถสุขภัณฑ์มีขนาดพอดีๆ ไม่อึดอัด ส่วนของห้องอาบน้ำจะแยกไว้เป็นสัดส่วนด้วยพื้น ที่ลดระดับลงไป แต่ไม่มี Shower Box ติดตั้งมาให้ ซึ่งเราสามารถที่จะติดตั้งเองเพิ่มเติมได้ค่ะ และอุปกรณ์ในห้องอาบน้ำจะมีฝักบัวแบบ Hand Shower พร้อมติดตั้งระบบสายไฟรองรับเครื่องทำน้ำอุ่น ส่วนผนังก็จะมีการเจาะช่งอเพื่อเป็นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำให้ด้วย ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.4 x 0.8 เมตร สามารถ ยืนอาบได้สะดวก เรามาดูห้องนอนรองห้องสุดท้ายกันต่อค่ะ เข้ามาภายในห้องจะเจอกับส่วนห้องนอนก่อน ซึ่งจะมีช่องแสงมาให้เป็นหน้าต่างบานใหญ่ 3 คู่ คือหน้าต่างบานกระทุ้งผสมพับานฟิกซ์ สามารถรับแสงเข้ามาในห้องได้ค่อนข้างเยอะ และสามารถเปิดระบายอากาศได้ดี ขนาดของห้องนี้สามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้ พื้นที่หัวเตียงก็สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้สะดวก หรือถ้าวางเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ก็จะเหลือพื้นที่ริมหน้าต่างที่สามารถติดตั้งเป็นม้านั่งตัวยาวได้ค่ะ จากห้องนอนเราไปดูในส่วนของ Walk – in Closet กันต่อ ภายในห้อง Walk – in Closet สามารถที่จะติดตั้งตู้ได้ประมาณ 2-3 หลัง พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง ไปดูในส่วนของห้องน้ำกันต่อ ภายในห้องน้ำจะแยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้เรียบร้อยเหมือนห้องอื่นๆ มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งค่ะ สำหรับพื้นที่ส่วนแห้งจะติดตั้งอ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์และกระจกเงาแบบเต็มบานมาให้ตามมาตรฐาน ห้องอาบน้ำหรือพื้นที่ส่วนเปียกจะติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower พร้อมเดินสายไฟรองรับการติดตั้งเครื่องทําน้ําอุ่น ส่วนผนังด้านหลังจะมีการเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำไว้ให้แล้ว ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.6 x 0.8 เมตร มีขนาดค่อนข้างกว้างสามารถอาบได้สะดวกค่ะ บ้านแบบสุดท้ายเป็นบ้านขนาดใหญ่สุดในโครงการ กับบ้านแบบ Tycoon คฤหาสน์ 3 ชั้น เนื้อที่บ้าน เริ่มต้น 129.2-176 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 693 ตร.ม. ฟังก์ชั่นภายในบ้าน 5 ห้องนอน, 6 ห้องน้ำ, 2 ห้องแม่บ้าน, ที่จอดรถ 4 คัน หน้าตาภายนอกจะดูมีดีเทลมากที่สุดในทั้ง 3 แบบ โดยจุดเด่นของหลังนี้คือจะมี Open Space กลางบ้าน พร้อมลงต้นไม้ใหญ่ไว้ให้ 1 ต้น เพิ่มพื้นที่การเข้าถึงธรรมชาติของชั้น 2 และ 3 ได้ดีค่ะ มาดูในส่วนของโรงจอดรถกันก่อนค่ะ สำหรับพื้นที่ของโรงจอดรถนี้จะสามารถจอดรถได้ทั้งหมด 4 คัน เป็นที่จอดในร่ม 3 คัน และ Outdoor 1 คัน พื้นที่ทางเข้าในตัวบ้านหรือซุ้มประตูหน้าบ้านจะมีเฉลียงยื่นออกมา ยกระดับขึ้นไปประมาณ 2 Steps พื้นที่เฉลียงหน้าบ้านนี้จะมีขนาดที่กว้างกว่าบ้าน Type อื่นๆ และเป็นทางเข้าที่ดูมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ นอกจากนั้นยังมีทาง Slope ที่เชื่อมต่อกับที่จอดรถโดยตรง ทำให้คนที่ใช้ Wheel Chair สามารถขึ้นลงเข้าตัวบ้านได้สะดวก โซนพิเศษของบ้านหลังนี้คือส่วน Open Space หรือสวนในบ้านที่เปิดจากชั้น 1 ขึ้นไปจนถึงชั้น 3 ซึ่งทางโครงการจะมีลงต้นไม้มาให้ 1 ต้นค่ะ ภาพรวมของซุ้มทางเข้าหน้าบ้านจากโรงจอดรถจะเห็นฟังก์ชั่นต่างๆที่อัดแน่นเลย โดยจากหน้าบ้านมองเข้าไปยังส่วนเฉลียงหน้าบ้านเราจะเห็นส่วน Open Space และช่องแสงบานใหญ่ด้านใน ซึ่งมีข้อดีคือสามารถ Take View ส่วน Open Space ที่ทางโครงการตั้งใจทำให้เป็นจุดเด่นได้ค่ะ ถัดมาเราจะเข้าไปดูในตัวบ้านกันต่อ สำหรับประตูบานหลักที่ใช้เข้าบ้านจะได้เป็นบานไม้ทรงสูง มีลูกฟักกระจกด้านข้าง เข้ามาภายในจะเจอกับส่วนห้องรับแขกขนาดใหญ่เป็นส่วนแรก ซึ่งจะเป็นพื้นที่ Double Living Room ด้านหน้า ส่วนอีกห้องจะอยู่ด้านหลังฉากกั้นด้านหลังโซฟาค่ะ ความพิเศษของห้องรับแขกส่วนด้านหน้าจะเป็น Double Volume Space ซึ่งมีโถงสูงเชื่อมขึ้นไปยังชั้น 2 ความสูงถึง 6.5 เมตร ช่องแสงที่ให้มาก็ให้มาแบบเต็มที่เลยค่ะ คือจะมีช่องแสงฝั่งหน้าบ้านที่ชั้น 1 และชั้น 2 ส่วนช่องแสงฝั่งข้างบ้านจะได้เป็นช่องแสงเต็มผนังที่สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ และรับแสงธรราชาติเข้าตัวบ้านได้เต็มที่ เมื่อมองขึ้นไปด้านบนเราจะเห็นพื้นที่บนชั้น 2 ที่เชื่อมกับ Double Volume ด้านล่าง คือจะเป็นส่วนของ Family Lounge ค่ะ จากห้องนั่งรับแขกส่วนแรก เราจะเข้าไปดูพื้นที่ด้านในกันต่อค่ะ ขยับเข้ามาด้านในพื้นที่ก็จะคงเป็นโถงกว้างอยู่ซึ่งจะแบ่งพื้นที่เป็นส่วนๆ มองตรงไปจะเป็นห้องโถงบันไดและห้องน้ำค่ะ เป็นห้อง Living Room เล็กทางซ้ายมือ และห้องทานอาหาร ห้องครัวทางขวามือ เข้ามาดูในส่วนของห้อง Living Room กันก่อนค่ะ สำหรับพื้นที่ของห้อง Living Room นี้จะมีช่องแสงที่เชื่อมต่อไปยังเฉลียงข้างบ้านและสวนข้างบ้าน ขนาดของห้องนี้มีขนาดเล็กกว่าห้องรับแขกส่วนแรกที่เป็น Double Volume แต่ก็ยังสามารถที่จะจัดวางฟังก์ชั่นต่างๆได้ครบถ้วน ขนาดโซฟาที่วางก็สามารถวางได้ตัวใหญ่ 4 – 6 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง ระยะดูทีวีประมาณ 2.6 เมตร สามารถวางทีวีไซส์ใหญ่ๆถึง 60″ ได้เลยค่ะ จากส่วนห้องรับแขกเล็กเราจะไปดูในส่วนของห้องทานอาหารและส่วนห้องครัวกันต่อ เข้ามาในพื้นที่ส่วนห้องทานอาหาร ขนาดของห้องทานอาหารมีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถที่จะวางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 – 10 ที่นั่ง ได้สบายๆ สำหรับการจัดพื้นที่ในบ้านตัวอย่างจะเห็นว่าทางโครงการวางโต๊ะทานอาหารขนาด 9 ที่นั่งมาให้ดูและยังมีพื้นที่เหลือด้านหลังที่สามารถจัดเป็นส่วนครัวเล็กหรือส่วน Pantry ได้ โดยส่วน Pantry ด้านหลังนี้สามารถที่จะวาง Island ตรงกลาง มีช่องแสง 1 จุด เพื่อระบายอากาศสามารถติดตั้งซิงค์ล้างจานบริเวณนี้ได้เลยค่ะ หรือถ้าใครไม่ชอบ Pantry ธรรมดาก็สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นบาร์เครื่องดื่มเผื่อเวลามีเพื่อนๆมาสังสรรค์ที่บ้านก็ยังได้ค่ะ จากพื้นที่ส่วนห้องทานอาหารจะสามารถเชื่อมต่อไปยังส่วนห้องครัวและโถงทางเข้ารองจากที่จอดรถได้ เรามาดูในส่วนของห้องครัวกันก่อนค่ะ สำหรับห้องครัวที่ได้ในบ้านหลังนี้มีขนาดค่อนข้างกว้างมีช่องแสงบานใหญ่มาให้ 1 จุด สามารถ Built – in ตัวเคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ได้ พร้อม Island ตรงกลาง จากห้องครัวก็จะมีส่วนประตูเชื่อมออกไปยังลานซักล้างหลังบ้านและ Maid Plaza เปิดออกมาจากห้องครัวจะเจอกับพื้นที่โซน Maid Plaza ก่อน ซึ่งจะแบ่งเป็นห้องพักผ่อนแม่บ้านและห้องน้ำ นอกจากนั้นจะมีทางแยกออกไปยังลานซักล้างหลังบ้านซึ่งมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าไว้ให้เรียบร้อย ลานซักล้างหลังบ้านจะมีขนาดระนาบเดียวกับพื้นสวนด้านนอกค่ะ เข้ามาภายในตัวบ้านติดกับห้องครัวและห้องทานอาหารจะเป็นโถงทางเข้าเล็กจากโรงจอดรถค่ะ ซึ่งด้านในสามารถติดตั้งตู้รองเท้าขนาดใหญ่ได้ อีกฝั่งก็จะเป็นประตูที่เชื่อมออกไปยังโรงจอดรถด้านนอก กลับเข้ามาในส่วนของโถงบันได จากโถงบันไดจะเชื่อมไปยังห้องนอนผู้สูงอายุและห้องน้ำรับรองได้ ซึ่งพื้นที่ที่ถูกจัดมาแบบนี้จะทำให้ห้องนอนของผู้สูงอายุมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ เราเข้าไปดูในห้องนอนกันเลย สำหรับห้องนอนผู้สูงอายุก็จะมีระบบ Eldercare มาให้เช่นกัน ภายในห้องเข้ามาจะเจอกับส่วน Walk – in Closet ก่อน ส่วนฝั่งขวามือเป็นห้องน้ำค่ะ ขยับเข้ามาดูภายในห้องนอนกันบ้าง ส่วนของห้องนอนนี้มีขนาดที่พอใช้งานได้สะดวก มีช่องแสง 2 จุด สามารถเห็นสวนข้างบ้านและหลังบ้านได้ ขนาดห้องนอนสามารถที่จะวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้ และพอมีพื้นที่เหลือข้างเตียงที่จะวางเก้าอี้เอนหลังตัวยาวได้ค่ะ ขนาดพื้นที่เหลือปลายเตียงสามารถที่จะติดตั้งทีวีได้ แต่แนะนำให้เป็นแบบจอแบนเพื่อที่จะได้เหลือระยะเดินปลายเตียงได้ค่ะ ไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ เข้ามาภายในห้องน้ำจะมีระบบ Eldercare เช่นกัน แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก มีช่องแสงมาให้ 1 จุด สุขภัณฑ์ได้ครบตามมาตรฐานคืออ่างล้างมือพร้อมเคาน์เตอร์เก็บของใต้อ่าง โถสุขภัณฑ์ได้แบบ Automatic และมีราวจับกันลื่นติดตั้งมาให้พร้อม ภายในห้องอาบน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower พร้อมราวจับกันลื่น มีม้านั่งสำหรับอาบน้ำและมีผนังที่เจาะไว้สำหรับวางของ ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 0.8 x 1.1 เมตร สามารถอาบได้สะดวก ออกมาด้านนอกอะไรเข้าไปดูในส่วนของห้องน้ำรับรองกันต่อ ภายในห้องน้ำรับรองนี้ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีเทา ภายในห้องติดตั้งอุปกรณ์มาให้ครบตามมาตรฐานคืออ่างล้างมือแบบฝังเคาน์เตอร์พร้อมลิ้นชักเก็บของใต้อ่าง พื้นที่บนเคาน์เตอร์ค่อนข้างกว้างสามารถวางอุปกรณ์ได้เยอะ ส่วนโถสุขภัณฑ์ได้แบบมาตรฐานยี่ห้อ Kohler ขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อค่ะ สำหรับพื้นที่โถงบันไดจะมีความสูงมาตรฐาน ติดตั้งช่องแสงมาให้ 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง ผสมบานฟิกซ์ เวลากลางวันสามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เพียงพอ แต่เวลากลางคืนแนะนำให้ติดตั้งโคมไฟน่ารักๆเพิ่มเติมค่ะ ขึ้นมาบนชั้นสองจะเจอกับส่วน Family Lounge เป็นส่วนแรกที่จะเหมือนโถงอเนกประสงค์ค่ะ โดยเป็นที่ขนาดว่างเลยมีช่องแสงฝั่งข้างบ้านและความพิเศษคือพื้นที่ส่วนนี้สามารถที่จะจัดเป็น Lounge กิจกรรมของครอบครัวได้ หรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องอื่นๆ เช่น ห้องอ่านหนังสือ, ห้องทำงาน, ห้องเกมส์สำหรับเด็กๆก็ได้ค่ะ อย่างในบ้านตัวอย่างก็จะจัดเป็นห้องทำกิจกรรมของสมาชิกในบ้านที่มีอายุขึ้นมาหน่อย สำหรับส่วนของโถงเอนกประสงค์นี้จะเชื่อมอยู่กับ Double Volume ของห้องนั่งเล่นที่ชั้น 1 โดยจะมีราวกันตกเป็นเหล็กซี่ สีดำ พร้อมราวจับไม้ ช่องแสงที่ส่องเข้ามาก็จะได้ทั้งจากของตัวโถงอเนกประสงค์เองและจากตัวโถง Double Volume จากชั้น 2 มองลงไปชั้น 1 ก็จะเห็นห้องรับแขกชัดเจนค่ะ จากโถงทางเดิน หันกลับมาดูทาง โถงบันไดจะเห็นห้องนอนที่เชื่อมอยู่กับโถง ห้องแรกจะเป็นห้อง ห้องนอนรองห้องที่ 1 เข้ามาภายในห้องจะเห็นพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างและแบ่งสัดส่วนชัดเจน โดยส่วนแรกที่เราเข้ามาจะเป็นส่วนของห้องน้ำและพื้นที่ Walk – in Closet ภายในห้องน้ำจะติดตั้งอุปกรณ์มาให้ครบตามมาตรฐาน แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก มีช่องแสงมาให้ 1 จุดค่ะ ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.4 x 0.8 เมตร พื้นลดระดับเพื่อกันน้ำไหลออกมาส่วนแห้ง สำหรับพื้นที่ด้านในจริงๆแล้วจะเป็นห้องนอนรองแต่ทางโครงการปรับเปลี่ยนเป็นห้องพักผ่อน ซึ่งก็ได้เหมือนกัน มีช่องแสงมาให้ 2 จุด สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ ขนาดของห้องสามารถวางเตียงคิงไซส์พร้อมโต๊ะทำงานและโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ กลับมาที่โถงทางเดินเราจะไปดูพื้นที่ฝั่งของบ้านกันต่อค่ะ โดยพื้นที่โถงทางเดินอีกฝั่งจะประกอบไปด้วยระเบียงภายนอกที่เชื่อมออกไปยังสวนกลางบ้าน, ห้อง Master Bedroom และโถงบันได เรามาดูในส่วนของระเบียงกันก่อนค่ะ สำหรับพื้นที่ระเบียงส่วนนี้ จะถือเป็นระเบียงที่มีความ Pivate ที่สุดเพราะเป็นระเบียงที่เชื่อมอยู่กับ Open Space ของสวนในตัวบ้านเท่านั้น ซึ่งทำให้ได้บรรยากาศที่ร่มรื่น แดดไม่ส่องมาก และขนาดระเบียงก็ค่อนข้างกว้างสามารถที่จะวางม้านั่งตัวใหญ่หรือชุดโต๊ะกาแฟได้สบายๆ มองไปที่ชั้น 1 จะเห็นเป็นสวนต้นไม้ใหญ่ที่ทางโครงการจัดมาให้แบบนี้ค่ะ เข้ามาในบ้านจากส่วนระเบียงเราจะเห็นห้องเก็บของใต้บันไดทางซ้ายมือและห้อง Master Bedroom ทางขวามือ เราเข้าไปดูในห้อง Master Bedroom กันค่ะ ภายในห้อง Master Bedroom ของบ้าน Type นี้จะมีขนาดใหญ่ที่สุด เข้ามาส่วนแรกจะเห็นการแบ่งฟังก์ชันที่ค่อนข้างชัดเจน คือฝั่งซ้ายมือจะเป็นห้อง น้ำและ Wak – in Closet ฝั่งขวามือจะเป็นส่วนของห้องนอนและพื้นที่พักผ่อนพร้อมระเบียง เข้ามาดูในส่วนของห้องนอนและพื้นที่พักผ่อนกันก่อน จะเห็นว่าขนาดห้องมีขนาดกว้างมาก ซึ่งทางโครงการก็ได้จัดใส่ฟังก์ชันที่เหมาะสมกับขนาดความกว้างของห้องมาให้ดู โดยส่วนแรกจะเป็นส่วนของห้องนอนที่สามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์พร้อมโต๊ะหัวเตียงได้ และยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงสามารถวาง Baybed ได้ และจากห้องนอนก็จะมีฉากกั้นเล็กๆที่กั้นพื้นที่เป็นส่วนของห้องพักผ่อน ในส่วนของห้องพักผ่อนนี้ก็จะมีขนาดที่ค่อนข้างกว้างเช่นกัน สามารถที่จะวางโซฟาตัวใหญ่ๆได้พร้อมโต๊ะกลาง และระยะดูทีวีที่กว้าง นอกจากนั้นยังได้ช่องแสงที่ส่องเข้ามาค่อนข้างเยอะ เป็นประตูที่เชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอก พื้นที่ระเบียงภายนอกเป็นระเบียงที่ใหญ่อีกเช่นกันค่ะ สามารถที่จะปลูกต้นไม้พุ่มสูงเพื่อบังสายตาจากคนภายนอกได้ และวางโต๊ะทานกาแฟเล็กๆเป็นส่วนตัวก็ได้ค่ะ สำหรับระเบียงในห้อง Master Bedroom จะไม่เพียงแค่ได้วิวทางฝั่งหน้าบ้านเท่านั้น แต่จะเป็นระเบียงยาวที่เชื่อมไปจนถึงบริเวณข้างบ้าน อันนี้เป็นส่วนระเบียงของห้อง Master Bedroom บริเวณฝั่งข้างบ้านค่ะ กลับเข้ามาภายในห้อง มุมจากระเบียงมองย้อนไปทางส่วนของห้องนอนจะเห็นภาพรวมประมาณนี้ ดูในส่วนของห้องนอนเสร็จแล้ว เราไปดูในส่วนของ Walk – in Closet กันต่อค่ะ ตู้ Walk – in Closet ในห้องตัวอย่าง โครงการจะมีกั้นกระจกสีดำมาให้ดู ซึ่งในความเป็นจริงในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นพื้นที่โล่งๆ ไม่มีผนังกั้นให้นะคะ ภายในห้อง Walk – in Closet แน่นอนว่าสามารถ Built – in ตู้เสื้อผ้าได้หลายหลังเช่นกัน พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งตัวใหญ่หน่อย จาก Walk – in Closet ไปดูในส่วนของห้องน้ำต่อค่ะ เข้ามาดูภายในห้องน้ำเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่มากมีช่องแสง 1 จุด อ่างล้างมือจะได้เป็นแบบ His & Her พร้อมที่เก็บของใต้อ่างค่อนข้างเยอะ ส่วนกระจกได้แบบเต็มบานเช่นกัน อ่างอาบน้ำจะได้พิเศษกว่าบ้านแบบอื่นหน่อย คือจะได้เป็นอ่างแบบจากุซซี่ มีพื้นที่รอบอ่างสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ มีช่องแสงติดผนังทั้ง 2 ฝั่ง เป็นอ่างแบบเข้ามุม ทำให้สามารถ Take View ทั้งฝั่งหน้าบ้านและข้างบ้านได้ พื้นที่ส่วนอื่นของห้องน้ำก็จะเป็นโถสุขภัณฑ์แบบ Automatic และห้องอาบน้ำ มี Shower Box ติดตั้งมาให้เรียบร้อยค่ะ ต่อมาเริ่มจะขึ้นไปดูบนชั้น 3 กันต่อค่ะ ขึ้นมาปุ๊บจะเจอกับพื้นที่โถงเป็นส่วนของห้องพระ สามารถติดตั้งชั้นวางขนาดมาตรฐานได้ มีช่องแสงมาให้ 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งแนวขวาง จากพื้นที่ส่วนโถงบันไดหรือส่วนห้องพระ จะมีโถงทางเดินที่เชื่อมไปยังห้องนอนรองอีก 2 ห้องค่ะ โดยระหว่างโถงทางเดินก็จะมีช่องแสงติดตั้งมาให้เช่นกัน เพื่อให้บริเวณโถงทางเดินไม่ทึบ เดินมาจนสุดโถงทางเดินจะเห็นห้องนอนรองแบ่งซ้ายและขวา เราเข้าไปดูในห้องนอนทางซ้ายกันก่อนค่ะ เข้ามาภายในห้องนอนรองห้องที่ 3 ขนาดห้องค่อนข้างกว้าง แบ่งฟังก์ชันชัดเจนคือฝั่งซ้ายมือเป็นส่วน Walk – in Closet และห้องน้ำ ส่วนขวามือเป็นห้องนอน มาดูในส่วนของห้องนอนกันก่อนค่ะ พื้นที่ห้องนอนได้ช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อน ขนาดห้องนอนสามารถที่จะวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้พร้อมโต๊ะหัวเตียง ส่วนพื้นที่ปลายเตียงก็ยังเหลือพอให้วางโต๊ะเขียนหนังสือขนาดกลางและสามารถ Built – in ชั้นวางของได้ โดยที่ยังมีระยะทางเดินเหลือ จากห้องนอนไปดูในส่วนของ Walk – in Closet กันก่อนค่ะ ภายในห้อง Walk – in Closet มีขนาดมาตรฐาน สามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าได้ 2 หลัง พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง ไปดูในส่วนห้องน้ำกันต่อ ภายในห้องน้ำได้เป็นห้องขนาดที่ค่อนข้างกว้าง แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก ตกแต่งด้วยกระเบื้องสีเทา อุปกรณ์ภายในห้องครบถ้วน ทั้งอ่างล้างมือแบบฝังเคาน์เตอร์พร้อมลิ้นชักเก็บของใต้อ่าง, โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Kohler มาตรฐาน และพื้นที่ส่วนห้องอาบน้ำที่ถูกแบ่งแยกไว้ด้วยการลดระดับ ส่วนนี้แนะนำให้ติดม่านอาบน้ำหรือ Shower Box เพิ่มด้วยค่ะ เรามาดูห้องนอนรองห้องสุดท้ายกันต่อ เข้ามาภายในห้องจะมีโถงทางเดินยาว ฝั่งซ้ายมือเป็น Walk – in Closet และห้องน้ำ ตรงไปจะเป็นส่วนของห้องนอนและระเบียงภายนอก พื้นที่จะถูกแบ่งไว้เป็นสัดส่วนแบบนี้ค่ะ มาดูในส่วน Walk – in Closet กันก่อน ภายในห้องนี้ทางโครงการได้จัดการแบ่งพื้นที่ไว้ให้เป็นตัวอย่าง สามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าได้หลายหลัง พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งและชั้นวางของตัวยาว ห้องนี้ก็มีห้องน้ำในตัวเช่นกัน เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อ ภายในห้องน้ำติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานมาครบชุด โทนสีในห้องน้ำที่ใช้ก็ใช้เป็นสีเทา พื้นที่ฝั่งซ้ายมือของห้องน้ำจะเป็นส่วนของห้องอาบน้ำ ตรงกลางเป็นอ่างล้างมือ และฝั่งขวามือเป็นโถสุขภัณฑ์และช่องแสงค่ะ ออกมาด้านนอกมาดูส่วนของห้องนอนกันต่อ สำหรับพื้นที่ห้องนอนนี้หลังจากแบ่งเนื้อที่ในห้องให้เป็นส่วน Walk – in Closet แล้ว ก็ยังเหลือพื้นที่อีกพอสมควรสามารถที่จะวางเตียงขนาดควีนไซส์พร้อมโต๊ะหัวเตียงได้ และอาจจะมีพื้นที่เหลือนิดหน่อยสำหรับวางโซฟาตัวยาวนั่งพักผ่อน สำหรับช่องแสงในห้องนี้จะได้ทั้งหน้าต่างและประตูที่เชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอก พื้นที่ระเบียงภายนอกขนาดพอประมาณ สามารถออกไปยืนกินลมชมวิวได้ ราวกันตกเป็นราวกระจกใสโดยรอบค่ะ สวิตช์ไฟในบ้านใช้ของ Siemens สีดำมาตรฐานแบบนี้ค่ะ ราคา
**ข้อมูลราคาและโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามเบอร์ติดต่อด้านล่าง** สรุปโครงการ ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ Bangkok Boulevard พระราม 9 ตั้งอยู่ติดถนนกรุงเทพกรีฑา บรรยากาศรอบๆโครงการสงบ มีความเป็นส่วนตัว อากาศค่อนข้างดี เพราะพื้นที่ดดยรอบยังเป็นที่ดินเปล่า และอยู่ใกล้กับยูนิโก้ กอล์ฟ คอร์ส และสนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑา สปอร์ต คลับ ความอุดมสมบูรณ์จะมี Mini Big C ที่อยู่ใกล้โครงการ นอกจากนั้นก็จะมี ซุ้มร้านอาหารอยู่บ้างเช่นร้านข้าวแกง ร้านอาหารตามสั่ง ร้านไก่ย่างเสือใหญ่ รวมถึงร้านสะดวกซื้อ 7-11 ส่วนถ้าในระยะไกลขึ้นอีกหน่อยจะมีคอมมูนิตี้ Market Today อยู่ที่ซอยกรุงเทพกรีฑา 7 และ เทสโก้โลตัส กรุงเทพกรีฑา ที่เป็นสาขาขนาดกลาง และในอนาคตมี Avenue และ Mall ที่จะเปิดตัวเพิ่มอีกคือ Kurve7 และ The Park ซึ่งยังอยู่สนเส้นกรุงเทพกรีฑาเช่นกันค่ะ ส่วนห้างใหญ่ๆ ต้องไปแถวพระราม 9 มี The Nine, Central พระราม 9, Fortune Town และบางกะปิที่มี เดอะมอลล์, เทสโก้ โลตัส, แมคโคร, บิ๊กซี และตลาดคนเดินอย่างตะวันนาค่ะ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสะดวกแน่นอนเพราะตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ที่สามารถเชื่อมกับถนนเส้นอื่นๆได้ ทั้งถนนศรีนครินทร์, ถนนมอเตอร์เวย์, ถนนกาญจนาภิเษกและถนนรามคำแหง และยังมีเส้นทางลัดคือซอยกรุงเทพกรีฑา 7 ใช้เชื่อมไปถนนรามคำแหง และซอยกรุงเทพกรีฑา 8, 20 เชื่อมไปถนนเลียบมอเตอร์เวย์ได้ค่ะ นอกจากนั้นยังใกล้ทางด่วนมอเตอร์เวย์และทางด่วนกาญจนาภิเษก การเดินทางโดยรถสาธารณะ : การเดินทางด้วยรถสาธารณะของโครงการนี้ค่อนข้างสะดวกบนถนนกรุงเทพกรีฑามีป้ายรถประจำทางอยู่เกือบจะหน้าโครงการเลย รถสาธารณะที่วิ่งผ่านจะมีทั้งรถประจำทางและสองแถว โดยเฉพาะรถสองแถวที่มีวิ่งไปยังรถไฟฟ้า Airport Link สถานีหัวหมาก และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าเพิ่มเติมอีกสองสายคือ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ตลิ่งชัน-มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง บ้านและวัสดุ : ภายในโครงการมีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบได้แก่
รูปแบบบ้านออกแบบมาใน Concept “The Geometry Of Greatness”เส้นสายเรขาคณิตที่แสดงถึงความมั่นคงเสมือนผู้ประสบความสำเร็จและมั่นคงในชีวิต Mood รวมๆ จะดู Modern โทนสีออกขรึมๆ เน้นโทนสีเทาและอิฐกรอบบานกระจกใช้เป็นสีดำทั้งหมด ไม่ดู Luxury เกินไปทำให้ลุคของบ้านดูเท่ห์ดีค่ะ เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ ส่วนการจัดพื้นที่ใช้สอยในบ้านทำมาได้ลงตัวดี มีพื้นที่สำหรับครอบครัวเยอะ คือมีทั้งห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ( Double Living Room) ที่ชั้น 1 และ Family Area บนชั้น 2 ที่ให้มาตั้งแต่บ้านรุ่นเริ่มต้นเลยค่ะ ส่วนห้องนอนแต่ละห้องจัดมาให้มีพื้นที่ใช้สอยพอดีๆ ส่วนในห้อง Master Bedroom มีขนาดใหญ่ทำให้มีพื้นที่พักผ่อนในบ้านทุกแบบ และมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง เรื่องวัสดุที่ทางโครงการให้มานั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เหมาะสมกับราคาค่าตัว คือโครงสร้างบ้านแบบ Conventional ที่พิเศษคือได้สัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic & Shock Censer ทุกหลัง ส่วนประตูทางเข้าบ้านได้เป็นประตู้ไม้และประตูบานเลื่อน หน้าต่างเป็นบานเลื่อนกระจก บานกรอบอลูมิเนียมสีดำ กระจกเขียวตัดแสง บานประตูในบ้านเป็น HDF พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. พื้นชั้น 2 เป็นพื้นปาร์เก้ พื้นห้องน้ำใช้กระเบื้องแกรนิตโต้และเซรามิค สุขภัณฑ์ใช้ของ Kohler และ Grohe, อ่างอาบน้ำของ Kash มี Shower Box มาให้ในห้องน้ำ Master Bedroom บันไดโครงสร้างเหล็กปิดหน้าด้วยไม้เนื้อแข็ง ฝ้าเพดานฉาบเรียบ ไฟ Downlight แบบสี่เหลี่ยม นอกจากนั้นจะให้แอร์ แท้งค์น้ำพร้อมเดินงานระบบต่างๆ สิ่งอำนวยความสะดวก : มีส่วนกลางมาให้ครบดีค่ะ โดยจะมีทั้งส่วน Club House, Lobby, สระว่ายน้ำแยกสระเด็ก สระผู้ใหญ่ , ฟิตเนส ระบบรักษาความปลอดภัยทางเข้าออกมีระบบ Double Gate ใช้ระบบ Easy Pass กล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. รอบโครงการ ถนนหลักโครงการกว้าง 12 เมตร ถนนย่อย 9 เมตร รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร |
Grand Bangkok Boulevard พระราม 9 ThinkofLiving
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.ketiadaan Inc.
