งานนำเสนอเรื่อง: "บทที่ 4 การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code)"— ใบสำเนางานนำเสนอ: 1 บทที่ 4
การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code)
2 สาระการเรียนรู้ ความหมายของการเขียนรหัสเทียม
3 สมรรถนะการเรียนรู้ บอกความหมายของรหัสเทียมได้
4 แผนผังความคิด (Mind Mapping)
ของหน่วยการเรียนรู้
5 รหัสเทียม (Pseudo-code)
6 คำสั่งเทียม (Pseudo-code) 7 คำสั่งเทียม (Pseudo-code) (ต่อ)
8 คำสั่งเทียม (Pseudo-code) (ต่อ)
9 ความหมายของรหัสเทียม
หรือซูโดโค้ด (Pseudo Code) 10
ประโยชน์ของการเขียนรหัสเทียม (Pseudo code) 11 หลักในการเขียน Pseudo code
12 พื้นฐานการเขียนซูโดโค้ด
13 การกำหนดค่า (Assignments) 14 การคำนวณ (Compute) ในการประมวลผลแบบคำนวณจะขึ้นต้นด้วยคำว่า Compute หรือ Calculate แล้วตามด้วยตัวแปรที่ต้องการเก็บค่าจากการคำนวณเครื่องหมายเท่ากับและนิพจน์การคำนวณซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องหมายการกระทำทางคณิตศาสตร์ โดยใช้คำสั่ง
Calculate หรือ Compute สำหรับประมวลผลข้อมูล รูปแบบ เดิมใช้ (แต่ก็ยังมีใช้กันอยู่ในปัจจุบัน) Calculate Variable expression Compute Variable expression ปัจจุบันใช้เครื่องหมาย = มาแทนเครื่องหมาย Calculate Variable = expression Compute Variable = expression เช่น Calculate Sum = (n+1)*n/2 Compute Average = Sum/n หน่วยที่ 4 การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code)
15 การคำนวณ (Compute) (ต่อ)
16 การรับข้อมูลเข้า ในการรับข้อมูลจะนิยมใช้คำว่า Read หรือ Input หรือ Get ตามด้วยตัวแปรที่ต้องการใช้เก็บข้อมูลถ้าหากมีตัวแปรหลายตัวจะใช้เครื่องหมายคอมมา (“,”) คั่นระหว่างตัวแปร ใช้ คำสั่ง Input หรือ
Get สำหรับรับข้อมูลแป้นพิมพ์ ใช้ คำสั่ง Read สำหรับอ่านข้อมูลจาก Data ในโปรแกรม หรือการอ่านจากแฟ้มข้อมูล รูปแบบ Input Variable_List Get Variable_List Read Variable_List เช่น Read X, Y อ่านข้อมูลจาก Data ในโปรแกรมมาเก็บไว้ที่ตัวแปร X และ Y Input N รับข้อมูลจากแป้นพิมพ์มาเก็บไว้ที่ตัวแปร N Get Key รับการกดคีย์จากแป้นพิมพ์ นำรหัสคีย์ที่กดมาไว้ในตัวแปร Key หน่วยที่ 4
การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code) 17 การแสดงผลข้อมูล การแสดงผลมักใช้คำว่า Print หรือ Display และ Write ตามด้วยตัวแปรที่ต้องการนำมาแสดงผล ถ้าหากมีตัวแปรหลายตัวจะใช้เครื่องหมายคอมมา (“,”)
คั่นระหว่างตัวแปร ใช้คำสั่ง Display หรือ Show สำหรับแสดงผลออกทางจอภาพ ใช้คำสั่ง Print สำหรับพิมพ์ออกเครื่องพิมพ์ (แต่บางคนใช้แสดงผลทางจอแทน) ใช้คำสั่ง Write สำหรับเขียนหรือบันทึกข้อมูลลงแฟ้มข้อมูล รูปแบบ Display Variable_List Show Variable_List Print Variable_List Write Variable_List เช่น Total = 10 N = 5 Print “Total = ”, total - พิมพ์ Total
= 10 ออกทางเครื่องพิมพ์ Show “Total = ”, total - แสดง Total = 10 ออกทางจอภาพ Display N - แสดงเลข 5 ออกทางจอภาพ Write total - บันทึกข้อมูลที่อยู่ตัวแปร total ลงในแฟ้มข้อมูล หน่วยที่ 4 การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code)
18 กลุ่มของคำสั่ง (Blocks of Statements)
19 กลุ่มของคำสั่ง (ต่อ) กลุ่มของประโยคคำสั่ง (Statements) จะต้องเขียนอยู่ภายใน Block นี้เสมอ คำสั่งที่ Block คือกลุ่มคำสั่งควบคุมซึ่งได้แก่ คำสั่ง if คำสั่ง for และคำสั่งการทำงานแบบวนรอบ (Loop)
ทั้งหลาย นอกจากนี้แล้ว อาจพบการนำรูปแบบของภาษาเบสิกมาใช้แทน Block เช่น คำสั่ง If (condition) Then ประโยคคำสั่งหรือกลุ่มประโยคคำสั่ง End if Then จะแทน Begin และ End if จะแทน End ไปในตัวอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมี Begin และ End อีก แต่ถ้าไม่มี End if ก็ต้องเขียนกลุ่มประโยคคำสั่งอยู่ภายใน Block (begin – end) หน่วยที่ 4 การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code)
20 การตัดสินใจทางเลือก คำสั่ง IF เป็นคำสั่งเงื่อนไข การทำงานเริ่มจากเงื่อนไขจะถูกตรวจสอบก่อน ถ้าเป็นจริงแล้วคำสั่ง(หรือกลุ่มของคำสั่ง) ที่กำหนดไว้จะถูกปฏิบัติต่อไป โดยอาจมีทางเลือกด้วยว่าถ้าเงื่อนไขไม่เป็นจริง จะปฏิบัติคำสั่ง(หรือกลุ่มของคำสั่ง) อื่นแทน คำสั่งเงื่อนไขมี 2 รูปแบบ คือ แบบเลือกทำกับไม่ทำ If (เงื่อนไข) Then
ประโยคคำสั่ง(หรือกลุ่มของประโยคคำสั่ง) ที่ต้องปฏิบัติเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง เช่น If (max < a) Then max = a หน่วยที่ 4 การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code)
21 การตัดสินใจทางเลือก แบบเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง If (เงื่อนไข) Then
22
ตัวอย่างการคำนวณระดับคะแนนหรือการคิดเกรด
23 การทำซ้ำหรือการวนรอบ (Loop)
24 คำสั่งทำซ้ำตามดัชนี (For Loop)
25 ตัวอย่าง การหาผลรวมตั้งแต่ 1 - N (Sum = … + N) 1 Input N 2 Sum = 0 3 For i = 1 to N Do 1 Sum = Sum + i 4 Display Sum หน่วยที่ 4 การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code)
26 ตัวอย่าง การหาค่าแฟคตอเรียล N (Fact = 1 * 2 * 3 * … * N) 1 Input N 2 Fact = 1 3 For j = 1 to N Do 1 Fact = Fact * j 4 Display Fact หน่วยที่ 4 การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code)
27
คำสั่งทำซ้ำในขณะที่เงื่อนไขเป็นจริง 28 ตัวอย่าง ต้องการหาผลรวมของตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง 100 โดยใช้คำสั่ง While-Do 1 Sum = 0, N = 1 2 While (N <= 100) Do Begin 1 Sum = Sum+N 2 N = N+1 End 3 Display Sum
หน่วยที่ 4 การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code)
29
คำสั่งทำซ้ำในขณะที่เงื่อนไขเป็นจริง
30 ตัวอย่าง ต้องการหาผลรวมของตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง 100 โดยใช้คำสั่ง Do-While 1 Sum = 0, N = 1 2 Do 1 Sum = Sum+N 2 N = N+1 While (N <= 100) 3 Display Sum หน่วยที่ 4 การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code)
31
คำสั่งทำซ้ำในขณะที่เงื่อนไขเป็นเท็จ 32 ตัวอย่าง ต้องการหาผลรวมของตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง 100 โดยใช้คำสั่ง Until-Do 1 Sum = 0 2 N = 1 3 Until (N > 100) Do Begin 1 Sum = Sum+N 2 N = N+1 End 4 Display
Sum หน่วยที่ 4 การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code)
33
คำสั่งทำซ้ำในขณะที่เงื่อนไขเป็นเท็จ 34 ตัวอย่าง ต้องการหาผลรวมของตัวเลขตั้งแต่ 1 ถึง 100 โดยใช้คำสั่ง Repeat-Until 1 Sum = 0 2 N = 1 3 Repeat 1 Sum = Sum+N 2 N = N+1 Until (N > 100) 4 Display Sum หน่วยที่ 4 การเขียนรหัสเทียม (Pseudo
Code) 35
การเรียกโปรแกรมย่อยและกระโดดข้าม
36 ตัวอย่างการเขียนรหัสเทียม
37 ตัวอย่างการเขียนรหัสเทียม
38 ตัวอย่างการเขียนรหัสเทียม
39 ตัวอย่างการเขียนรหัสเทียม
40 ตัวอย่างการเขียนรหัสเทียม
41 ตัวอย่างการเขียนรหัสเทียม
42 ตัวอย่างการเขียนรหัสเทียม
43 ตัวอย่างการเขียนรหัสเทียม
44 ตัวอย่างการเขียนรหัสเทียม 45
สรุป ความหมายของรหัสเทียม ซูโดโค้ดเป็นคำอธิบายขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม โดยใช้ถ้อยคำผสมผสานระหว่างภาษาอังกฤษและภาษาโปรแกรมแบบโครงสร้างที่เข้าใจง่าย มาแสดงลำดับการทำงานของโปรแกรม โดยช่วยให้ผู้เขียนโปรแกรมสามารถพัฒนาขั้นตอนต่าง ๆ ให้เป็นโปรแกรมได้ง่ายขึ้น หน่วยที่ 4 การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code)
46 สรุป
พื้นฐานการเขียนซูโดโค้ด
47 สรุป ในการตัดสินใจจะต้องมีการเปรียบเทียบเงื่อนไขเกิดขึ้น โดยผลลัพธ์ที่จะเป็นจริงหรือเท็จอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น การตัดสินใจเพื่อเลือกทำระหว่างทางสองทางจะใช้คำว่า IF หรือ IF-THEN-ELSE และ ENDIF โดยจะเปรียบเทียบเงื่อนไข ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงจะทำกลุ่มคำสั่ง กลุ่มหนึ่ง ถ้าเป็นเท็จจะทำกลุ่มคำสั่งอีกกลุ่มหนึ่ง หน่วยที่ 4
การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code) 48 สรุป การเขียนซูโดโค้ดแบบวนซ้ำ ในการทำซ้ำหมายความว่าให้ระบบทำงานซ้ำ ๆ ตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยจะมีการเปรียบเทียบเงื่อนไขในการทำซ้ำ แบ่งออกได้ 5 รูปแบบดังนี้ 1. คำสั่งทำซ้ำตามดัชนี (For Loop) 2. คำสั่งทำซ้ำในขณะที่เงื่อนไขเป็นจริงแบบตรวจสอบเงื่อนไขก่อน (While-Do) 3.
คำสั่งทำซ้ำในขณะที่เงื่อนไขเป็นจริงแบบตรวจสอบเงื่อนไขภายหลัง (Do-While) 4. คำสั่งทำซ้ำในขณะที่เงื่อนไขเป็นเท็จแบบตรวจสอบเงื่อนไขก่อน (Until-Do) 5. คำสั่งทำซ้ำในขณะที่เงื่อนไขเป็นเท็จแบบตรวจสอบเงื่อนไขภายหลัง (Repeat-Until) หน่วยที่ 4 การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code) 49 สรุป
การเขียนซูโดโค้ดเพื่อเรียกโปรแกรมย่อยและกระโดดข้าม สำหรับการเรียกโปรแกรมย่อย (Sub Program) หรือโพซีเยอร์ (Procedure) ใช้คำว่า CALL แล้วตามด้วยชื่อโปรแกรมย่อยหรือโพซีเยอร์ การกระโดดข้ามไปทำชุดคำสั่งใด ๆ จะใช้ชื่อฉลาก (Label) กำหนดตำแหน่งที่จะกระโดดมาและใช้คำว่า Goto ในตำแหน่งที่จะกระโดด แต่ในปัจจุบัน ไม่นิยมใช้คำสั่ง Goto การเขียนเพราะโครงสร้างไม่เป็นระเบียบ และมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้ง่าย หน่วยที่ 4 การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code)
50 การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code) |