จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

การออกแบบงานพิมพ์ถือเป็นศาสตร์และศิลป์แขนงหนึ่งที่ต้องอาศัยทักษะ ความรู้ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ เพราะการออกแบบคือการสร้างสรรค์ผลงานตามโจทย์ที่ได้รับ คือการถ่ายทอดจากความคิดให้ออกมาเป็นผลงานที่สามารถสัมผัสหรือรับรู้ได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีโปรแกรมสำหรับการออกแบบมากมายที่เป็นเหมือนเครื่องมือช่วยให้การออกแบบทำได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น

สำหรับโปรแกรมที่นักออกแบบนิยมใช้ออกแบบงานพิมพ์จะมีอยู่สองโปรแกรมหลักๆ คือ Photoshop และ Illustrator มาทำความรู้จักกันว่าทั้งสองโปรแกรมนี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง

โปรแกรมที่นิยมใช้ออกแบบงานพิมพ์

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

Photoshop

โปรแกรม Photoshop หรือ Adobe Photoshop เป็นโปรแกรมในตระกูล Adobe ที่ใช้สำหรับตกแต่งและแก้ไขรูปภาพทั้งภาพถ่ายและภาพกราฟิก สามารถใช้ตัดต่อ ปรับสีและแสง ใส่เอฟเฟกต์ ใส่ข้อความ และการปรับแต่งอื่นๆ เช่น การทำภาพขาวดำ หรือการทำภาพถ่ายเป็นภาพเขียน โดยในตัวโปรแกรมจะมีเครื่องมือหรืออุปกรณ์มากมายพร้อมสำหรับการตกแต่งแก้ไขรูปภาพ หรือการทำงานออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์และงานด้านมัลติมีเดีย

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

Illustrator

โปรแกรม Illustrator หรือ Adobe Illustrator อีกหนึ่งโปรแกรมในตระกูล Adobe ที่ใช้สร้างภาพกราฟิกในลักษณะของลายเส้นที่มีความคมชัดหรือความละเอียดสูง (Vector Graphic) สามารถใช้สร้างภาพประกอบหรือภาพกราฟิก 2 มิติ เช่น สร้างโลโก้ จัดเลย์เอาท์งานพิมพ์ และยังใช้ทำงานออกแบบได้หลากหลาย ทั้งบรรจุภัณฑ์ สิ่งพิมพ์ ภาพเคลื่อนไหว หรือเว็บไซต์ เป็นต้น

พอจะรู้จักกันไปคร่าวๆ แล้วว่า ทั้ง Photoshop และ Illustrator คือโปรแกรมที่ใช้สร้างหรือตกแต่งแก้ไขรูปภาพที่จัดเป็นโปรแกรมมาตรฐานสากล และเป็นโปรแกรมที่นักออกแบบภาพหรือสื่อสิ่งพิมพ์นิยมใช้ คราวนี้มาดูกันว่า ทั้งสองโปรแกรมนี้มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

ข้อดีและข้อเสียของ Photoshop

ข้อดี

– มีเครื่องมือและฟิลเตอร์ให้เลือกใช้มากมาย สามารถทำงานออกแบบ ตกแต่งหรือแก้ไขรูปภาพได้หลากหลาย

– มีเครื่องมือสำหรับเปิดไฟล์ RAW พร้อมรายละเอียด

– สามารถปรับ Profile สีให้เข้ากันได้

– สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมอื่นๆ จากค่าย Adobe ได้ เช่น Premiere หรือ Illustrator และยังมี Adobe RGB ที่นิยมใช้กันทั่วโลก

– สามารถเปิดภาพและบันทึกไฟล์ได้หลายนามสกุล อีกทั้งยังสามารถ Slice ภาพเป็นย่อยๆ แล้วบันทึกเป็นเว็บได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้โปรแกรมอื่นช่วย

– สามารถใช้งานแบบ Layer และใช้ Plug-in เสริมร่วมกับโปรแกรมอื่นได้

– รองรับ WIA จากสแกนเนอร์ สามารถสั่งสแกนและ Import ภายในโปรแกรมได้เลย

ข้อเสีย

– มีค่าใช้จ่ายสูง

– มีเครื่องมือเยอะ หากไม่ใช่นักออกแบบหรือไม่มีความรู้เรื่องการใช้โปรแกรมอาจสับสนได้

– กินทรัพยากรเครื่องสูง

– มีปัญหาสระลอย

– มีปัญหาเรื่องความละเอียดของภาพ เมื่อขยายภาพแล้วจะไม่คมชัด

– Photoshop จะบังคับให้ลง Adobe Bridge ซึ่งอาจไม่จำเป็นสำหรับคนที่ไม่ใช่มืออาชีพ

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

ข้อดีและข้อเสียของ Illustrator

ข้อดี

– โดดเด่นในเรื่องของการสร้างภาพแบบ Vector หรือการสร้างภาพกราฟิก 2 มิติได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถวาดและแก้ไขเส้นโครงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

– สามารถใช้สร้างหรือออกแบบภาพได้หลากหลาย ตั้งแต่ภาพง่ายๆ ไปจนถึงภาพที่มีความซับซ้อน

– เนื่องจากเป็นภาพแบบ Vector จึงสามารถปรับขนาด ย่อหรือขยายรูปภาพให้ใหญ่ขึ้นได้โดยที่ภาพจะยังคงคมชัดและมีความละเอียดสูง ภาพไม่แตก

– โปรแกรม Illustrator จะสร้างไฟล์ที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับโปรแกรมอื่น จึงทำให้ประหยัดเวลาในการโอนถ่ายข้อมูล

– สามารถใช้งานหลายบอร์ดพร้อมกันได้ ทำให้ประหยัดเวลาในการแก้ไข

– สามารถใช้งานกับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นระบบ พีซี Windows หรือ Apple

-สามารถปรับปรุง Wmf หรือ Clipart ของ Windows ได้

– หมดปัญหาเรื่องการส่งไฟล์งานให้โรงพิมพ์ เพราะทุกโรงพิมพ์ยินดีรับไฟล์งานที่สร้างจากโปรแกรม Illustrator

ข้อเสีย

– ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์

– สามารถออกแบบได้เพียงภาพ 2 มิติ

– ภาพที่ได้จะไม่เหมือนภาพจริง แต่จะเป็นภาพวาดหรือใกล้เคียงภาพถ่ายเท่านั้น

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

ควรเลือกใช้โปรแกรมไหนตัดต่อหรือออกแบบดี?

จากที่ได้ทำความรู้จักและได้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของทั้งสองโปรแกรมไปแล้ว จะเห็นว่าทั้ง Photoshop และ Illustrator เป็นโปรแกรมที่เหมาะสำหรับนำมาใช้กับงานประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ ตัดต่อ และออกแบบ

โดยโปรแกรมที่ดีที่สุดสำหรับการตัดต่อภาพคือ Photoshop เพราะมีเครื่องมือสำหรับปรับแต่งภาพให้เลือกใช้มากมาย สามารถแก้ไขหรือแต่งเติมรูปภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนโปรแกรมที่นักออกแบบหลายๆ คนยกให้เป็นอันดับหนึ่งในเรื่องงานออกแบบก็คือ Illustrator เพราะเป็นโปรแกรมสร้างภาพแบบ Vector หรือภาพกราฟิกที่มีลายเส้นสวยงาม คมชัด และมีความละเอียดสูง

ใครที่กำลังมองหาโปรแกรมของค่าย Adobe ที่ใช้สำหรับออกแบบกราฟฟิก, วาดรูป, แต่งภาพ, หรือ ทำหนังสือ แต่ไม่รู้จะใช้งานโปรแกรมไหนดีเพราะมีตัวเลือกอยู่เต็มไปหมด และสมมุติว่าถ้าเราจะออกแบบงานสักชิ้นนึง จะใช้แค่โปรแกรม Photoshop อย่างเดียวได้ไหม ? แล้ว โปรแกรม Illustrator, และ โปรแกรม Indesign ใช้ทำอะไร ? ในวันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน

บทความเกี่ยวกับ Adobe อื่นๆ

สำหรับ โปรแกรม Adobe Photoshop, โปรแกรม Adobe Illustrator, และ โปรแกรม Adobe Indesign เป็นโปรแกรมที่นักออกแบบ, นักวาด, นักเขียน, ช่างภาพมืออาชีพ นิยมใช้ในงานด้านต่าง ๆ เช่น

  • การแต่งรูป (Photo Editing)
  • รีทัชภาพ (Retouch)
  • วาดรูปดิจิทัล (Digital Painting)
  • ออกแบบกราฟฟิก (Graphic Design)
  • ออกแบบหน้าเว็บไซต์ (Web Design)
  • ออกแบบผลิตภัณฑ์ (Package Design)
  • ทำสื่อสิ่งพิมพ์ (Publisher) เช่น หนังสือ, นิตยสาร, ใบปลิว, โปสเตอร์ ต่าง ๆ

ซึ่งเครื่องมือในแต่ละโปรแกรมนั้นจะมีความสามารถพิเศษที่เหมือนและแตกต่างกันออกไป ซึ่งบางอย่างก็ไม่เหมาะที่จะนำมาใช้กับทุกงาน เพราะฉะนั้น เราลองมาดูกันว่าโปรแกรมรูปแบบไหนเด่นเรื่องอะไร เหมาะหรือไม่เหมาะกับการใช้งานประเภทไหนบ้าง ?

xxxx

โปรแกรม Photoshop คืออะไร ? เหมาะกับงานประเภทไหน ?

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

โปรแกรม Adobe Photoshop หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า "Photoshop" จริง ๆ แล้วมันก็คือ โปรแกรมแต่งรูป (Photo Editing Software) ที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ ที่นักออกแบบ และช่างภาพ ส่วนใหญ่ (บนโลกนี้) เลือกใช้กัน ไม่ว่าจะใช้แต่งรูปภาพ ที่ได้จากกล้องดิจิทัล, ตัดต่อ แต่งภาพให้มีความสวยงามได้ดั่งภาพในจินตนาการ รองรับการออกแบบงานได้หลายรูปแบบ

ข้อมูลเพิ่มเติม : 10 โปรแกรมแต่งรูปฟรี ทางเลือกดี ๆ ของคนไม่มี โปรแกรม Photoshop

จุดเด่นของโปรแกรม Photoshop

ซึ่งความสามารถที่ขึ้นชื่อของ โปรแกรม Adobe Photoshop จะเน้นไปทางการตกแต่งรูป (Photo Editing) แก้ไขภาพ, รีทัช (Retouch) ปรับแสง - ปรับสี (Adjustment) และใส่ลูกเล่น (Effect) ต่าง ๆ ให้กับรูปภาพได้ ใช้จัดการวางองค์ประกอบหลายรูป (Compositing) กับไฟล์ภาพหลากหลายชนิดได้เป็นอย่างดี

ส่วนการแสดงผลรูปภาพของโปรแกรมนี้จะเป็นแบบ Bitmap หรือ ที่เรารู้จักกันในภาพรูปแบบพิกเซล (Pixel) โดยไฟล์นี้จะมีจุดเรียงกันแน่นจนเกิดเป็นภาพ ซึ่งข้อเสียของมัน หากเราขยายภาพมาก ๆ ภาพจะแตกไม่คมชัด แต่ข้อดีคือมันสามารถเก็บเฉดสีได้มากกว่าไฟล์ประเภทอื่น ๆ

โดยชนิดของไฟล์ที่ใช้งานร่วมกับโปรแกรม Photoshop เราน่าจะคุ้นเคยกันดี เช่นไฟล์ JPEG, PNG, GIF, TIFF, PSD และไฟล์ BMP เป็นต้น หรือ ไฟล์รูปภาพดิบ หรือ ไฟล์ RAW (เช่น CR2, CR3, DNG, ARW) ของกล้องประเภทต่าง ๆ ก็สามารถเปิดใช้งานบน Photoshop ได้อย่างสบาย ๆ

ประเภทงานที่เหมาะ และ ไม่เหมาะ กับ โปรแกรม Photoshop

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

โดยโปรแกรม Photoshop นั้นมีเครื่องมือที่เหมาะแก่การแก้ไขรูปภาพ, ใช้จัดวางองค์ประกอบ, ปรับแต่งสี, ย้อมโทนสีภาพ, ใส่ลูกเล่นเอฟเฟค และฟิลเตอร์พิเศษลงในภาพ หรือจะใช้สำหรับสร้างออกแบบหน้าเว็บไซต์​, ภาพประกอบบนเว็บไซต์​ แบนเนอร์ต่างๆ รวมไปถึง การออกแบบตัวอย่างภาพจำลอง (Mock Up) และ หน้าจอเชื่อมต่อผู้ใช้งาน (User Interface) ของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ต่าง ๆ ได้ดีด้วยเช่นกัน

ส่วนสิ่งที่ไม่เหมาะกับการใช้งาน โปรแกรม Photoshop ก็คือ การออกแบบโลโก้ ที่ต้องการความละเอียดสูง, งานวาดกราฟฟิกแบบเวกเตอร์ (Vector Graphic), ตัวอักษร หรือ งานใด ๆ ก็ตาม ที่มีตัวอักษรเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะคุณภาพความละเอียดของตัวหนังสือที่ โปรแกรม Photoshop สามารถทำได้จะน้อยกว่าโปรแกรมประเภท Illustrator, และ Indesign

รวมไปถึงงานออกแบบที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลเยอะ ๆ อย่างการทำหนังสือ จัดเรียงหน้าหนังสือ (Layout) เป็นร้อย ๆ หน้าก็ไม่ควรใช้ เพราะ โปรแกรม Photoshop กินทรัพยากรสูงและเครื่องมือที่จัดการหน้ากระดาษก็มีน้อยกว่า ควรหันไปใช้ โปรแกรม InDesign ที่มีเครื่องมือสำหรับจัดหน้าหนังสือเฉพาะทางจะดีกว่านั่นเอง

ตัวอย่างงานที่เหมาะกับการใช้โปรแกรม Photoshop

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

ตัวอย่างภาพที่ผ่านการปรับแต่งสี รีทัช ผ่าน โปรแกรม Adobe Photoshop และ Lightroom
ขอบคุณรูปภาพจาก : www.facebook.com/kedaz.photography

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

ตัวอย่างภาพที่ใช้เครื่องมือตัดต่อ บน โปรแกรม Adobe Photoshop
ขอบคุณรูปภาพจาก : www.facebook.com/erikjohanssonphoto

โปรแกรม Illustrator คืออะไร ? เหมาะกับงานประเภทไหน ?

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

โปรแกรม Adobe Illustrator หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า "Illustrator" มันเป็น โปรแกรมวาดรูป (Drawing Software) หรือออกแบบงานด้านกราฟิก เป็นมาตรฐานในการออกแบบระดับสากลสามารถทำงานออกแบบได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โลโก้, สิ่งพิมพ์, บรรจุภัณฑ์ และยังออกแบบงานเพื่อใช้เป็นภาพประกอบในการทำงานอื่น ๆ เช่น การ์ตูน หรือ ภาพประกอบหนังสือ

จุดเด่นของโปรแกรม Illustrator

จุดเด่นที่สำคัญของโปรแกรมนี้ คือ มันเป็นโปรแกรมที่ใช้การออกแบบภาพเวกเตอร์ (Vector Graphic) เป็นภาพที่กำหนดพิกัด และการคำนวณค่าบนระนาบสองมิติ (2D) ตามทฤษฎีเวกเตอร์ในทางคณิตศาสตร์

โดย ข้อดี คือ ภาพที่วาดสามารถย่อขยายได้ โดยคุณภาพไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะซูมให้ภาพใหญ่ขนาดไหน ก็ยังคงคุณภาพไว้เหมือนเดิม จะเรียกว่าทำภาพไว้แปะฝาบ้าน, ติดโฆษณาบนตึกใหญ่ ๆ หรือ ติดป้ายบนทางด่วนก็ยังเห็นได้ชัดเลยล่ะ

แต่ก็มี ข้อเสีย ตรงภาพจะไม่เหมือนภาพจริง เป็นได้เพียงภาพวาด หรือใกล้เคียงภาพถ่ายเท่านั้น ในกรณีนี้คือการวาดแบบปกตินะครับ แต่ถ้าใครรู้จักการใช้ เครื่องมือลงสีแบบตาข่าย (Mesh Tool) และใช้งานจนคล่องก็สามารถสร้างสรรค์ผลงาน ที่มีสีสันสวยงามเทียบเคียงของจริงแบบแยกไม่ออกได้เช่นกัน (ดูตัวอย่างงานได้ด้านล่าง)

ส่วนนามสกุลที่โปรแกรมนี้ใช้จะเป็นรูปแบบ SVG, AI, EPS ฯลฯ ซึ่งไม่สามารถเปิดใช้งาน หรือ ดูได้ตามปกติ จำเป็นต้องใช้โปรแกรม Illustrator หรือ โปรแกรมฟรีอื่น ๆ อย่าง โปรแกรม Inkscape หรือ โปรแกรม GIMP ถึงจะสามารถเปิดดู และแก้ไขได้ แต่เครื่องมือที่โปรแกรมอื่นมี ก็จะไม่ครบครันเท่าโปรแกรมที่ต้องเสียค่าบริการ

ประเภทงานที่เหมาะและไม่เหมาะกับ โปรแกรม Illustrator

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

สำหรับโปรแกรม Illustrator นั้นเหมาะแก่การนำมาใช้ออกแบบโลโก้, ภาพวาดกราฟฟิก, ภาพประกอบ, อินโฟกราฟิก, และ กราฟฟิกเพื่อใช้สำหรับภาพเคลื่อนไหว รวมไปถึงใช้ออกแบบ นามบัตร, หัวจดหมาย หรือ เครื่องมือในสำนักงาน อย่างการดีไซน์ลวดลายบนปากกา, ปกหนังสือ, ลายกระเป๋า, หน้าบัตรพนักงาน เป็นต้น

สิ่งที่ควรรู้คือ Illustrator นั้นไม่เหมาะกับการแต่งรูปภาพ และแก้ไขรูปถ่ายใด ๆ ที่เป็นรูปแบบพิกเซล เลยแม้แต่นิดเดียว และก็ไม่เหมาะกับการนำมาใช้จัดการหน้ากระดาษจำนวนมาก ๆ ในงานด้านเสียง, วิดีโอ, และ อนิเมชัน ก็เช่นกัน

ตัวอย่างงานที่เหมาะกับการใช้โปรแกรม Illustrator

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

ตัวอย่างงานออกแบบ โลโก้ ด้วยโปรแกรม Adobe Illustrator
ขอบคุณรูปภาพจาก : Freepik / macrovector

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

ตัวอย่างงานออกแบบกราฟิกภาพประกอบ ด้วยโปรแกรม Adobe Illustrator
ขอบคุณรูปภาพจาก : Freepik / Sky and Glass 

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

ตัวอย่างงานที่ใช้เครื่องมือ Mesh Tools บนโปรแกรม Adobe Illustrator
ขอบคุณรูปภาพจาก : www.facebook.com/IllusMans

โปรแกรม Indesign คืออะไร ? เหมาะกับงานประเภทไหน ?

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

หลาย ๆ คนอาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อกับ โปรแกรม Adobe InDesign (เรียกสั้น ๆ ว่า "InDesign") กันสักเท่าไหร่ เพราะโปรแกรม InDesign นี้ เป็น โปรแกรมออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ (Publishing Software) เฉพาะทาง ที่ใช้ในวงการอุตสาหกรรมการออกแบบด้านงานพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ, นิตยสาร, อีบุ๊ก (E-Book), เอกสาร PDF แบบโต้ตอบได้ (PDF Interactive), และสื่อวิดีโอประกอบในหนังสือ เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่องานจัดโครงหน้าสื่อสิ่งพิมพ์โดยเฉพาะ

จุดเด่นของโปรแกรม InDesign

โดยเครื่องมือที่เป็นจุดแข็งของ โปรแกรม InDesign คือ เครื่องมือสำหรับออกแบบ Layout จัดเรียง จัดวางหน้ากระดาษได้เป็นจำนวนมาก ถ้าคิดจะออกแบบหนังสือที่มีจำนวนหน้าเยอะเป็นร้อยเป็นพัน InDesign สามารถจัดการได้ทั้งหมด จะวางตำแหน่งข้อความ, แบ่งคอลัมน์, แบ่งย่อหน้า, ใส่โลโก้, รูปภาพประกอบ ใด ๆ ก็ทำได้โดยง่าย

และอะไรที่ทำให้โปรแกรมนี้แตกต่างจาก โปรแกรม Photoshop และ Illustrator ? คือ โปรแกรมนี้จะมุ่งเน้นไปยังคุณภาพความคมชัดของข้อความและตัวอักษรเป็นหลัก โดยจะคงคุณภาพของส่วนนั้นไว้ ส่วนเรื่องของภาพประกอบ InDesign จะถนัดในการจัดวาง แต่ไม่สามารถสร้างและแก้ไขเองได้ ซึ่งในส่วนนี้เอง ทางค่าย Adobe ได้เชื่อมความสามารถเข้ากับ โปรแกรม Photoshop และ Illustrator ทำให้ผู้ใช้สามารถนำเข้าภาพและแก้ไข ปรับแต่งภาพได้อย่างอิสระได้ตามต้องการ

เมื่อเราทำทุกอย่างเสร็จแล้ว ไฟล์หลักจะถูกบันทึกเป็นนามสกุล INDD ซึ่งเราสามารถเข้ามาจัดการและแก้ไขหน้ากระดาษต่อได้ ส่วนคนที่ต้องการไฟล์รูปแบบอื่น เพื่อนำไปเปิดอ่าน หรือ ทำเป็นหนังสือ ก็สามารถบันทึกเป็นไฟล์ PDF, EPUB, EPS, XML หรือจะบึนทึกเป็นไฟล์รูปภาพก็ได้เช่นกัน

ประเภทงานที่เหมาะและไม่เหมาะกับ โปรแกรม InDesign

จงอธิบายการเรียกใช้โปรแกรม illustrator

ใครที่คิดจะใช้โปรแกรมเพื่อทำหนังสือ, เรียงข้อความ, โบรชัวร์, แผ่นพับ หรือ สื่อใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับการพิมพ์ โปรแกรม InDesign นั้นตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ทำให้การจัดเนื้อหาหนังสือจำนวนหลาย ๆ เล่ม เป็นไปได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งรองรับการทำสื่อในรูปแบบโต้ตอบได้ (Interactive) และ PDF กับ EPUB ที่สามารถ เผยแพร่ในรูปแบบออนไลน์ ได้อีกด้วย

ส่วนสิ่งที่ไม่ควรทำ และ ทำไม่ได้ในโปรแกรม InDesign ก็คือ การแก้ไขรูปภาพ และ ออกแบบกราฟฟิก เพราะนอกเหนือจากการวาดภาพเลขาคณิตเป็นรูปทรงต่าง ๆ แล้ว ในโปรแกรม InDesign ไม่มีเครื่องมือใด ๆ เลย เพราะฉะนั้นไม่ควรนำมาใช้

ตัวอย่างงานที่เหมาะกับการใช้โปรแกรม InDesign


ตัวอย่างงานออกแบบหนังสือด้วย โปรแกรม Adobe InDesign
ขอบคุณรูปภาพจาก : www.template.net


ตัวอย่างงานระบบจัดการหน้ากระดาษ Layout บน โปรแกรม Adobe InDesign
ขอบคุณรูปภาพจาก : www.template.net


ตัวอย่างระบบตาราง (Grid) จัดหน้าอีบุ๊กบน โปรแกรม Adobe InDesign

สรุป โปรแกรม Photoshop, Illustrator, และ InDesign เหมาะกับอะไร ?

อีกตัวอย่างงานที่จะทำให้เห็นภาพได้ชัด ๆ อย่างการขั้นตอนการออกแบบนิตยสาร (Magazine) สักเล่มนึง นั้นจะมีการใช้งานโปรแกรม Photoshop, Illustrator, และ InDesign ในงานแต่ละด้าน โดยแบ่งง่าย ๆ ได้ ตามนี้

  • Photoshop : ตกแต่งรูปภาพปกหนังสือ + แก้ไขภาพประกอบภายในเล่ม
  • Illustrator : ออกแบบโลโก้ + วาดภาพกราฟิกประกอบ + ทำอินโฟกราฟฟิก
  • InDesign : วางองค์ประกอบ + ใส่ข้อมูล + จัดการฟอนต์ + จัดเรียงหน้า

ซึ่งชิ้นงานทั้งหมดก็จะถูกรวบรวมลงในโปรแกรม InDesign ก่อนจะรวมเป็นรูปเล่มกลายเป็น นิตยสาร หนึ่งเล่ม เห็นไหมครับว่าแต่ละโปรแกรมนั้นจะมีหน้าที่และเครื่องมือที่เหมาะแก่งานแต่ละประเภทต่างกัน ทีนี้เพื่อน ๆ ก็น่าจะรู้แล้วล่ะว่าจะทำงานออกแบบขึ้นมาสักชิ้น ควรจะใช้โปรแกรมอะไรดี ขอให้สนุกกับการสร้างสรรค์ผลงานนะครับ