การวางแผนการเงิน คือ การวาดภาพชีวิตในอนาคตของเรา หากเราต้องการมีชีวิตที่ไม่ลำบาก มั่นคง และสุขสบาย การวางแผนที่ดีจะช่วยให้ภาพเหล่านั้นชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เชื่อว่าทุกๆ คน ต่างมีความใฝ่ฝันไม่ว่าจะเล็ก-ใหญ่ หรือมีระยะใกล้-ไกล ความฝันเหล่านั้นต่างต้องการการวางแผนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย อีกทั้ง การวางแผนการเงินที่ดีจะช่วยกันเราจากความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทางไปยังชีวิตในอนาคตที่เรามุ่งหวัง เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงอาจกล่าวได้ว่า การวางแผนการเงินก็เท่ากับการวางแผนชีวิตวิธีการในการวางแผนการเงินนั้นมีอยู่มากมาย หลายคนอาจเข้าใจว่าเป็นเรื่องของการควบคุมการใช้จ่าย การเก็บออมเพียงเท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้ว เรื่องเหล่านั้นเป็นส่วนสำคัญเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หากจะวางแผนการเงินให้มีประสิทธิภาพ ได้ผลจริง ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่ต้องเข้าใจและให้ความสำคัญอยู่ด้วย Show
เข้าใจหลักการวางแผนการเงินที่ถูกต้องด้วยปิรามิดการเงินปิรามิดการเงิน (Financial Planning Pyramid)Inspired by A-Academy แผนภาพข้างต้น เป็นแผนภาพปิรามิดการเงิน (Financial Planning Pyramid) ที่ช่วยให้เราเห็นความสำคัญและลำดับขั้นตอนในการวางแผนการเงินอย่างง่ายๆ แต่ครอบคลุมและใช้ได้จริง โดยสิ่งที่เราจะต้องให้ความสำคัญมากที่สุดจะเรียงจากฐานปิรามิดขึ้นไปยังยอดปิรามิด ซึ่งหมายความว่า เราต้องสร้างฐานให้แน่น ให้มั่นคงเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยต่อยอดขึ้นไปสู่เป้าหมาย
ทั้งนี้ การจัดการวางแผนการเงินทั้ง 4 ชั้นปิรามิด ควรมีการ วางแผนจัดการภาษีเสมอในทุกขั้นตอน เพราะไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงภาษีได้ หากคำนึงถึงการจัดการภาษีเราก็จะสามารถลดรายจ่ายส่วนนี้ได้ โดยในชั้นแรก หากเรารู้รายรับรายจ่ายของเราอย่างละเอียด ก็จะสามารถคำนวณภาษีได้ หรือในชั้นบริหารความเสี่ยง การออมการลงทุน และการบริจาค 5 ขั้นตอนการวางแผนการเงินที่ได้ผลจริงหลักการปิรามิดการเงินช่วยให้เราเข้าใจลำดับความสำคัญของการวางแผนการเงินในด้านต่างๆ ซึ่งเราสามารถแปลงเป็น 5 ขั้นตอนวางแผนการเงินที่สร้างความมั่นคงในระยะยาว และสามารถบรรลุทุกเป้าหมายทางการเงินได้ 1) ติดตามการใช้จ่ายและทำงบดุลจากปิระมิดการเงิน คงเห็นแล้วว่าการบริหารจัดการรายรับ-รายจ่ายเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องพื้นฐานที่ต้องทำเพื่อเตรียมตัวพร้อมสำหรับการเดินตามเป้าหมาย ซึ่งในสมัยนี้ มีแอปพลิเคชั่นการเงินมากมายให้เลือกใช้ที่ง่าย สะดวก บันทึกได้ทุกที่ทุกเวลาบนโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ อีกสิ่งที่ช่วยให้เรารู้สถานะทางการเงินของเราได้อย่างละเอียด ก็คือ การทำงบดุลส่วนบุคคล ลองสำรวจทรัพย์สินและหนี้สินของคุณดูง่ายๆ ด้วยตารางนี้ การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายและการทำงบดุลจะช่วยให้เราสามารถติดตามการใช้จ่ายและรู้สถานะการเงินของเราได้ดีที่สุด เพื่อที่ว่าเราจะได้รู้ปัญหา เช่น มีรายจ่ายอะไรบ้างต่อเดือน มักใช้จ่ายไปกับอะไรบ้างและมากเกินไปหรือไม่ และเพื่อที่จะได้บริหารการเงินของตัวเราเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการรู้ว่าสถานะการเงินของตัวเองเป็นอย่างไร สิ่งที่คุณต้องทำต่อไปได้เพื่อบริหารจัดการรายรับและรายจ่าย (Revenue - Expense Management) คือ การลดรายจ่ายส่วนที่ไม่จำเป็นเพื่อปะ “รูรั่ว” ของกระเป๋าสตางค์ หรือการบริหารสินทรัพย์และหนี้สินให้สมดุล และปรับสมดุลสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ให้เหมาะกับจังหวะชีวิต เช่น เมื่อแรกเริ่มทำงานและยังไม่มีภาระมาก ควรสะสมสินทรัพย์เพื่อการลงทุนให้มากเพื่อให้เงินงอกเงย หรือเมื่อมีภาระหรือคนที่ต้องดูแลก็ควรลดภาระหนี้สินลงให้มากที่สุด โดยเฉพาะภาระหนี้สินระยะสั้น และสะสมเงินสดให้มากขึ้น เป็นต้น หากจัดการการใช้จ่ายและปรับสถานะการเงินให้พร้อมแล้ว ทีนี้คุณก็พร้อมสำหรับทุกเป้าหมายทางการเงิน 2) แปลงเป้าหมายชีวิตเป็นเป้าหมายการเงินเชื่อว่าทุกคนก็มีความฝัน มีความต้องการ มีเป้าหมายในชีวิตที่อยากจะบรรลุให้ได้ ความตั้งใจเหล่านั้นอาจหมายถึงการมีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย การมีบ้านให้ครอบครัว การไปท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิต หรือจะเป็นการมีรถสักคัน ซื้อของที่อยากได้จริงๆ การจะไปให้ถึงเป้าหมายชีวิตในหลายข้อจำเป็นต้องใช้เงินเป็นปัจจัยสำคัญ หากเราปรับเป้าหมายในชีวิตต่างๆ เหล่านั้นให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยการแปลงให้เป็นเป้าหมายทางการเงิน เส้นทางไปสู่เป้าหมายก็จะชัดเจนขึ้น การตั้งเป้าหมายทางการเงินนั้น ถอดหลักการมาจากปิรามิดขั้นที่ 2 และ 3 คือ การจัดการความเสี่ยง และการออมและการลงทุน ซึ่งเราควรตั้งเป้าหมายเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เป้าหมายเพื่อชีวิตที่มั่นคง และเป้าหมายเพื่อสนองความปรารถนา ทั้งนี้ หลักการในการตั้งเป้าหมายทางการเงินที่ดีควรตั้งให้แบบระบุจำนวนหรือสามารถเห็นความคืบหน้าได้ เป็นไปได้กับสถานะการเงิน และมีกำหนดระยะเวลาบรรลุเป้าหมาย 1. เป้าหมายเพื่อชีวิตที่มั่นคง
2.
เป้าหมายเพื่อสนองความปรารถนา
เมื่อแปลงเป้าหมายและสิ่งที่อยากได้เป็นเป้าหมายการเงินแล้ว อย่าลืมที่จะจัดลำดับความสำคัญให้ดีๆ ว่าสิ่งใดจำเป็นมากกว่า สิ่งใดที่ต้องการก่อน และดูให้เหมาะสมกับสถานะการเงินและความสามารถในการผ่อนเพื่อให้ยังสามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ปกติ หลีกเลี่ยงการเป็นหนี้โดยไม่จำเป็น 3) หาเครื่องมือบรรลุเป้าหมายจากเป้าหมายในชีวิตที่อยากบรรลุและแปลงเป็นเป้าหมายทางการเงิน ในขั้นตอนนี้ เราจะมาหาวิธีทำให้เป้าหมายเป็นจริงกันด้วยเครื่องมือต่างๆ นั่นคือ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทต่างๆ ที่เหมาะสมกับเป้าหมายการเงิน บัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี น่าจะเป็นตัวเลือกที่ช่วยได้ กองทุนสำหรับลดหย่อนภาษี แล้วยังให้ผลตอบแทนจากเงินลงทุนอีกด้วย ผลิตภัณฑ์ลงทุนอื่นๆ ให้รอบคอบเสียก่อน กระจายความเสี่ยงที่รับไหว ซึ่งจริงๆ แล้ว หากคุณเตรียมตัวตั้งแต่ฐานปิรามิดและชั้นบริหารความเสี่ยงไว้มั่นคงแล้ว คุณก็พร้อมรับความเสี่ยงการออมและการลงทุนในปิรามิดชั้นต่อไปได้ ประกันชีวิต ประกันภัย
และประกันทรัพย์สิน อื่นๆ ของเราได้ เช่น หากต้องการชีวิตเกษียณที่มั่นคงก็อาจเลือกทำประกันชีวิตแบบบำนาญหรือแบบสะสมทรัพย์ก็ได้ เป็นต้น การทำประกันยังตอบโจทย์ยอดปิรามิด หรือการจัดการมรดกและการแบ่งปันได้อีกด้วย เพราะเมื่อวันที่เราจากไป คนข้างหลังจะได้ไม่ลำบากอีกทั้งสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย 4) จัดทำแผนที่และออกเดินทางการจะไปให้ถึงจุดหมายที่เป็นสถานที่เราสามารถขับรถเดินทางตามผู้อื่นไปยังสถานที่นั้นได้ แต่สำหรับเป้าหมายทางการเงิน เราไม่สามารถลอกเลียนเส้นทางไปสู่เป้าหมายการเงินของใครได้ เพราะแต่ละคนย่อมมีสถานะทางการเงินและความพร้อมไม่เท่ากัน หากเดินตามผู้อื่น เราอาจ “ล่ม” กลางทางได้ สถานะทางการเงินเป็นสิ่งจำเป็นในการนำมาใช้ออกแบบแผนสำหรับบรรลุเป้าหมายการเงิน โดยปัจจัยพื้นฐานที่นำมาคิดได้อย่างคร่าวๆ คือ ฐานเงินเดือน ภาระรายจ่าย และหนี้สิน จากนั้นจึงนำมาคิดกับเป้าหมายและแปลงเป็นงบประมาณรายเดือน 5) ติดตามความคืบหน้าและปรับแผนตามความเหมาะสมหลังจากที่เราวางแผนและออกเดินทาง ลงมือทำตามแผนแล้ว สิ่งที่จะลืมไม่ได้เลย คือ การติดตามความคืบหน้าว่าตอนนี้เรามาอยู่จุดใดของแผนที่แล้ว เราเข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้แล้วหรือยัง ซึ่งการติดตามความคืบหน้าควรแบ่งการติดตามออกเป็นแต่ละเดือนว่าสามารถทำตามงบประมาณที่ตั้งไว้ได้มากน้อยแค่ไหน และติดตามทุกครึ่งปี และรายปี เพื่อให้เราไม่หยุดหรือหลุดออกจากแผนที่วางไว้ หลักการวางแผนการเงินแบบปิรามิดช่วยให้เราเข้าใจลำดับความสำคัญของการวางแผนการเงินว่าสิ่งใดที่เราควรทำก่อนทำหลัง เพื่อให้แผนการเงินของเรารัดกุม ปลอดภัย และได้ผลจริงทั้งแผนระยะสั้นและเป้าหมายในอนาคต ทั้งนี้ จะเห็นได้จากขั้นตอนการวางแผน เป้าหมายต่างๆ ในชีวิตหากนำมาแปลงเป็นเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน เส้นทางบรรลุเป้าหมายก็จะชัดเจนและถือเป็นแผนที่ที่ให้เราเดินตามได้ เพื่อทุกเป้าหมายที่หวังไว้จะได้กลายเป็นความจริง บทความโดย |