เรียงความ พระ มหา กษัตริย์ ใน ดวงใจ 20 บรรทัด

Titleพระมหากษัตริย์ในดวงใจ = The Great King / [คณะบรรณาธิการ: ชาญชัย สุนทรมัฏฐ์ ... [และคนอื่นๆ]]
Imprint กรุงเทพฯ : กระทรวงมหาดไทย, 2549
Descript 1 เล่ม (ไม่มีเลขหน้า) : ภาพประกอบ ; 30 ซม

SUMMARY

หนังสือ "พระมหากษัตริย์ในดวงใจ" เนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี คณะผู้จัดทำมีความภูมิใจที่จะนำเสนอเรื่องพระราชจริยวัตรและพระราชกรณียกิจ ด้วยการเล่าเรื่องด้วยภาพ โดยแบ่งเนื้อหาเป็น 4 ภาค คือ (1) เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ (2) การเสด็จเยี่ยมราษฏรทั่วทั้งแผ่นดิน เพื่อรับรู้ปัญหาความเดือดร้อน (3) โครงการอันเนื่องจากพระราชดำริ (4) พระราชพิธีที่สำคัญในรัชกาล

"The Great King" is published on the auspicious occasion of the 60th anniversary of his Majesty the King's accession to the throne. It is the Publication Committee's gratifying task to summarize his Majesty's accomplishments through pictures showing his lifelong commpassion for the well- being of his subjects. The publication is divided into four parts as the contents : Part (I) His Majesty at a young age ; Part (II) The Royal visits to his subjects throughout the country in order to learn about their sufferings ; Part (III) The Royal initiated development projects to help mitigate his subjects' plights -- Part (IV)The important royal ceremonies during his Majesty's reign.

SUBJECT


  1. ภูมิพลอดุลยเดช
  2. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
  3. 2470-2559
  4. King Rama IX
  5. head of states

LOCATIONCALL#STATUS
Thailand and ASEAN Information Center (6th Floor) : Rarebook Collection ภปร 60 00026 LIB USE ONLY
Thailand and ASEAN Information Center (6th Floor) [TAIC] 73958 CHECK SHELVES

9 เรียงความพ่อของแผ่นดิน 

พระราชกรณียกิจต่างๆ ของพระองค์ท่านที่ทำเพื่อประเทศชาติ วันนี้ทีนเอ็มไทยมี 9 เรียงความพ่อของแผ่นดิน มาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ

ตัวอย่างที่ 1 เรียงความวันพ่อ : เรื่อง พ่อของแผ่นดิน

ตอนเด็ก ๆ ฉันมักได้ยินคำว่า “พ่อของแผ่นดิน” เสมอแต่ตอนนั้นฉันก็ยังไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไรแต่ตอนนี้ฉันได้รู้แล้วว่าพ่อของแผ่นดินนั้นหมายถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหาราช รัชกาลที่ ๙ พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน พ่อของคนไทยทั้งปวงนั้นเอง

จากที่ฉันได้ติดตามดูพ่อผู้รักและหวังดีกับลูก ๆ ตามสื่อต่าง ๆ ตลอดมานั้น ฉันก็ได้รู้ว่าพ่อของเรา ทรงตระหนักถึง การพัฒนาการศึกษาของเยาวชนและทรงคิดว่ามัน เป็นพื้นฐานอันสำคัญของประเทศชาติ และนอกเหนือจากนี้ ยังทรงก่อตั้งกองทุนนวฤกษ์ มูลนิธิในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อช่วยให้นักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้มีโอกาสเข้ารับการศึกษาในระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ทั้งยังพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนของพ่อเอง เพื่อเป็นทุนริเริ่มในการก่อสร้างโรงเรียนตามวัดในชนบท สำหรับที่จะสงเคราะห์เด็กยากจนและกำพร้า ให้ได้มีสถานที่สำหรับศึกษาเล่าเรียน เพื่อที่จะได้เป็นพลเมืองดีของประเทศชาติต่อไปในอนาคต และในเรื่องของการช่วยเหลือจังหวัดประสบปัญหาด้านต่าง ๆนั้นพ่อก็ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนจังหวัดนั้น ๆ และทรงนำความปรารถนาดีของประชาชนชาวไทยไปยังจังหวัดที่ประสบปัญหาต่างๆตามจังหวัดนั้นด้วย ในการเสด็จพระราชดำเนินของพ่อใน แต่ละครั้งที่ไปทรงเยี่ยมราษฎรตามท้องที่ต่างๆ ทุกครั้ง จะทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีคณะแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาจากโรงพยาบาลต่างๆ และล้วนเป็นอาสาสมัครทั้งสิ้น และ พร้อมด้วยเวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ครบครัน เพื่อพร้อมที่จะให้การรักษาพยาบาลลูก ๆ ผู้ป่วยไข้ได้ทันที นอกจากนี้พ่อยัง ทรงโปรดให้จัดเจ้าหน้าที่ออกเดินทาง ไปรักษาลูก ๆที่ป่วยเจ็บ ตามหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลออกไปอีกด้วย และ ยังคงมีโครงการดี ๆเพื่อพัฒนาลูก ๆ และประเทศชาติ ออกมาอย่างมิขาดสาย อย่างเช่น โครงการเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น และโครงการนี้นี้เองที่ทำให้พ่อได้รับรางวัลสาขาต่าง ๆมากมายจากประเทศต่าง ๆ ซึ่งทำให้ฉันได้เห็นและประจักษ์แล้วว่าพ่อทรงมีสายพระเนตรที่ยาวไกล และ จากน้ำพระราชหฤทัยที่พ่อทรงได้ทำทุกอย่างเพื่อลูก ๆ กว่า ๖๐ ล้านคนทั่วประเทศของพ่ออย่างแท้จริง ทั้งนี้ทั้งนั้นในขณะนี้ก็ทรงครบการครองสิริราชสมบัติครบ ๖0 ปี ในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ นี้เอง

จากที่ฉันติดตามเรื่องราวของพ่อมาตลอดนั้นมันทำให้ฉันได้รู้ว่า พ่อทรงห่วงใย ใส่ใจ ลูกของพ่อ กว่า ๖๐ ล้านคน อย่างไม่เคยแสดง ความเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า และ ถ้อถอย ออกมาให้เห็นเลยสักครั้ง ซึ่งมันทำให้ฉันประทับใจในความรักของพ่อผู้เป็นประมุข คนนี้ ใจในเสมอมา และฉันก็เคยฝันไว้ว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตฉันคงจะมีโอกาสได้ไปกราบแทบเท้าพ่อสักครั้ง

กราบแทบเท้าพ่อของแผ่นดิน

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ที่มา : http://my1.dek-d.com/meemay_za/diary/

ตัวอย่างที่ 2 เรียงความวันพ่อ : เรื่อง ตามรอยพ่อครูของแผ่นดิน

พ่อหลวงของเรา เปรียบเสมือนครูอาจารย์ผู้วางแนวทางและความรู้ให้พวกเราชาวไทย ได้เรียนรู้แล้วปฏิบัติตามในทางที่ถูกต้องและสุจริต แล้วพ่อหลวงของเราไม่เคยที่จะทำสิ่งที่ผิดเลย

แล้วยังคิดแนวทางเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ทุกยากและขาดแคน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร น้ำ เรื่องเศรษฐกิจ หรือเรื่องการออม

พ่อหลวงของเรา นั้นเปรียบเสมือนครูอาจารย์ที่เป็นผู้วางแนวทางต่างๆและความรู้ให้พวกเราชาว ไทยมากตลอด และได้เรียนรู้แล้วปฏิบัติตามในแนวทางทางที่ถูกต้องและสุจริต แล้วพ่อหลวงของเราไม่เคยที่จะทำสิ่งที่ผิดเลย แล้วยังคิดแนวทางเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ทุกยากและขาดแคน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร น้ำ เรื่องเศรษฐกิจ หรือเรื่องการออม ได้แก่ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้คนรู้จักอดออม โครงการแก้มลิง เพื่อจะได้ชะลอน้ำเพื่อเก็บไว้ในหน้าแล้ง โครงการฝนหลวง เพื่อให้มีน้ำทำนา โครงการกันหันน้ำชัยพัฒนา เพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำ หญ้าแฝก เพื่อทำให้ป่าชายเลนสมบูรณ์ แล้วยังมีพระราชกรณียกิจอื่นๆ ที่พ่อหลวงของเราได้ทำเอาไว้เพื่อประชาชนชาวไทยทุกคน

พ่อหลวงของเรา เป็นผู้วางแนวทางต่างๆและความรู้ให้พวกเราชาวไทยมากตลอด และได้เรียนรู้แล้วปฏิบัติตามในแนวทางทางที่ถูกต้องและสุจริต เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ทุกยากและขาดแคน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร น้ำ เรื่องเศรษฐกิจ หรือเรื่องการออม เช่น แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง โครงการแก้มลิง โครงการฝนหลวง โครงการกันหันน้ำชัยพัฒนา แล้วยังมีพระราชกรณียกิจอื่นๆ ที่พ่อหลวงของเราได้ทำเอาไว้เพื่อประชาชนชาวไทยทุกคน เพราะฉะนั้นเราควรรักรักหลวงเราให้มากๆ

ที่มา : http://rianbow.wordpress.com

เรียงความ พระ มหา กษัตริย์ ใน ดวงใจ 20 บรรทัด

ตัวอย่างที่ 3 เรียงความวันพ่อ : บทความ พ่อหลวงของแผ่นดิน

” เราจะครอง แผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ”
พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งเสด็จขึ้นครองราชย์ในปีพุทธศักราช 2489 ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการไว้ว่าดังนี้ และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาเป็นเวลากว่า60ปีแล้ว ท่านทรงตั้งมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรมอย่างมิเคยเสื่อมคลาย

ตลอดระยะ เวลากว่า60ปีที่ผ่านมา ภาพที่คนไทยทุกคนเห็นอยู่ประจำคือ ท่านทรงงานหนักเพื่อประเทศไทย เพื่อประชาชนชาวไทยมาตลอดเวลา ไม่ว่าจะลำบากเท่าใด จะเป็นสถานที่ที่ทุรกันดารเพียงใด มีความอันตรายแค่ไหน แต่หากเป็นสถานที่ที่ซึ่งมีประชาชนที่ประสบความทุกข์ ความลำบาก ท่านก็ไม่รีรอที่จะเสด็จไปหาประชาชนของท่าน ท่านยอมเหนื่อย ยอมลำบาก เพียงเพราะต้องการให้ประชาชนของท่านได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องลำบาก

แล้วเราเคยทำอะไรให้ท่านมีความสุขบ้าง ตอนที่ผมพิมพ์บทความนี้ พ่อหลวงของเราพึ่งมีพระชนมายุ80พรรษาได้เพียง4วันเท่านั้น คุณลองนึกถึงคนธรรมดาที่มีอายุ80ปีดูนะครับ ตอนนี้พวกเค้าคงอยู่กับบ้าน มีลูกมีหลานคอยเลี้ยงดู ไม่ต้องออกมาทำงาน
แต่ไม่ใช่กับพ่อหลวงของเรา ครับ ท่านยังคงทรงเหนื่อยเพื่อประชาชนของท่าน แล้วท่านจะต้องเหนื่อยไปอีกนานแค่ไหนถึงพอ เมื่อไรพวกเราคนไทยถึงจะมีจิตสำนึกและคิดกันได้เสียที

พ่อหลวงของ เราทรงทำทุกอย่างเพื่อพวกเรา ท่านทรงใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ถ้าพวกคุณเคยได้อ่านเกี่ยวกับท่านมาบ้างคงจะรู้ว่าท่านนั้นทรงประหยัดมาก เพียงใด คุณเคยเห็นรูปยาสีพระทนต์ของท่านรึเปล่า? เคยเห็นรูปรถส่วนพระองค์หรือไม่? แล้วถ้าย้อนกลับมาดูที่ประชาชนของท่านล่ะ
ครับ คนไทยปัจจุบันเห็นแก่ตัว น้ำที่เรียกว่าน้ำใจเริ่มแล้งขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน ทุกๆองค์กรมีแต่การโกงกินกันเพื่อประโยชน์ส่วนตนโดยไม่คำนึงถึงส่วนรวม ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย ไม่ประหยัดทรัพยากร เข่นฆ่ากันทุกวัน รู้ไหมว่าทำให้พ่อหลวงของเราเสียใจมากน้อยเพียงใด ปากของทุกคนพูดแต่เพียงว่ารักในหลวง รักในหลวง แต่คนที่พูดแล้วแสดงออกจริงๆ ถ้าสุ่มคนมาซักล้านคน จะมีถึง100คนรึเปล่าผมยังไม่แน่ใจเลย คุณรักและบูชาในหลวงกันก็เป็นสิ่งดี แต่ท่านไม่ได้ต้องการให้พวกเราบูชาท่านนะครับ ท่านต้องการให้พวกเราทำตามท่าน พวกคุณบูชาท่านอย่างเดียวแต่ไม่ทำตามมันก็ไร้ประโยชน์

คุณลองหลับตา ด้านขวาดูนะครับ แล้วมองไปรอบๆ ครับ หลายคนคงรู้แล้วว่าท่านต้องเสียพระเนตรข้างขวาไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อมีพระชนมายุเพียง20พรรษา แล้วลองนึกดูว่า มีกษัตริย์พระองค์หนึ่งต้องทรงงานหนักในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของปวงชนชาว ไทยโดยมองเห็นเพียงพระเนตรข้างซ้ายข้างเดียวมาตลอดเวลากว่า60ปี
แล้วคุณ รู้รึเปล่าครับว่า แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระดูกสันหลังในอีก 5 ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549) ยังทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เดินสายออนไลน์ไว้ เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้มอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน

นี่แหละครับ พ่อหลวงของพวกเราคนไทย ท่านทรงเป็นห่วงเป็นใยและคอยคิดถึงประชาชนของท่านตลอดเวลา แล้วเมื่อไรล่ะครับ ที่พวกเราจะได้ทดแทนพระคุณของท่าน เมื่อไรที่พวกเราจะทำอะไรเพื่อท่านจะได้ไม่ต้องเหนื่อย และเมื่อไรคนไทยทุกคนจะคิดกันได้ซักที

ผมขอนำส่วนหนึ่งจากบทความที่ผมเคยอ่านเจอ แต่จำไม่ได้ว่าอ่านเจอที่ไหน แต่นี่ผมนำมาจากเมลที่ผมเก็บไว้

…..สิบสองปีที่ผ่านมา……
พระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนักด้วยโรคหัวใจเพราะทรงงานหนักเกินไป ในขณะเดียวกัน สมเด็จพระราชชนนีก็ทรงพระประชวรหนักอยู่ ณ โรงพยาบาลศิริราชเช่นกัน เรายังจำรูปในหนังสือพิมพ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงเยี่ยมพระราชชนนีไม่กี่วันหลังจากการผ่าตัดใหญ่ถวาย พระหัตถ์ข้างหนึ่งกุมอยู่ที่พระอุระ และในพระหัตถ์อีกข้างหนึ่งทรงถือม้วนแผนที่กรุงเทพฯ เพราะน้ำกำลังท่วมกรุงอยู่
แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่?
เราสร้างค่านิยมผิดๆ ว่าคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีเงินมากที่สุด
เราโกงทุกครั้งที่มีโอกาส
เราเรียกร้องประชาธิปไตยโดยคิดถึงแต่ “สิทธิ” แต่ลืมคำว่า “หน้าที่”
เรากำลังฆ่ากันเองทุกวันในภาคใต้
เราสร้าง “กฎหมู่” ให้เหนือ “กฎหมาย”
เราเดินขบวนประท้วงในทุกอย่างที่เราไม่เห็นด้วย
เราก้าวร้าวต่อกัน เราแตกแยกกัน
และทั้งโลกกำลังจับตามองเราอยู่
เราเคยหยุดคิดกันบ้างไหมว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา จะทรงเสียพระทัยเพียงใด?
80 ชันษาของพระองค์ท่าน หากเปรียบกับคนธรรมดาก็สมควรที่จะได้พักเต็มที่ ได้รับการดูแลและระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่สมควรที่จะตรากตรำทำงานหนัก หรือกระทบกระเทือนใจแต่อย่างใด
แต่กลับเป็นว่า ในปีที่ครบ 80 ชันษาของพระองค์ท่านยังต้องทรงงานอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ทรงต้องอยู่ภายใต้การถวายการดูแลของคณะแพทย์
แตพระองค์ก็ยังทรงพัฒนาประเทศ

ที่มา : http://archive.gameindy.com/forum/20110620/index_t31139.0.html

ตัวอย่างที่ 4 เรียงความวันพ่อ : เรื่อง “ทำไมเราจึงรัก พระเจ้าอยู่หัว”

หนูเป็นเด็กต่างจังหวัด อยู่ปักษ์ใต้ ตั้งแต่จำความได้ในทีวี หนูก็เห็นรูปผู้ชายคนหนึ่งเดินนำหน้าแล้วมีผู้คนเดินตามหลังท่านมากมายไปหมด พร้อมกันนั้นก็มีผู้คนนั่งกับพื้นต้อนรับท่านทุกที่ที่ท่านไป ผู้ชายคนนั้นเป็นใครนะ จนโตหนูถึงได้รู้ว่า เขาคือผู้เป็นเจ้าของแผ่นดินเกิดของหนูเอง และหนูก็เห็นพระราชกรณียกิจของท่านเยอะแยะมากมายทางทีวี จนทำให้หนูปลาบปลื้มท่านมาก ยิ่งเป็นช่วงหน้าฝน ฝนตกหนัก น้ำท่วมท่านก็เสด็จไปปักษ์ใต้เพื่อดูปัญหาความเดือดร้อน และท่านก็โปรดให้สร้างเขื่อนคลองชลประทาน ส่วนช่วงหน้าแล้งท่านก็เสด็จไปภาคอีสาน ไปดูความแห้งแล้งของคนอีสาน และท่านก็ทำฝนเทียมช่วยเหลือประชาชน


หนูได้แต่คิดตลอดเวลาว่า… ทำไมผู้ชายคนนี้ต้องลำบากตัวเองขนาดนี้ ท่านเดินทางไปทุกที่ ที่ทุรกันดารและสุดแสนจะลำบาก ท่านทรงทำทุกอย่างเพื่อประชาชนทั้งประเทศ ท่านทรงเก่งมาก สามารถรู้หมดว่าในพื้นที่เมืองไทยว่าตรงไหนเป็นภูมิประเทศลักษณะไหน แอ่งน้ำ ภูเขา อย่างเช่น ใกล้บ้านหนูที่ อ.ปากพนัง ท่านก็ทำอ่างเก็บน้ำใหญ่โตมาก เพื่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และอำนวยประโยชน์ต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในบริเวณ อ.ปากพนัง ญาติพี่น้องหนูที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นได้ประกอบอาชีพทั้งการเกษตรและเพาะ เลี้ยงสัตว์น้ำได้ทั้งปี
ที่มาhttp://teen.mthai.com/education/83687.html