ใบขับขี่ ท.1 ใช้เอกสารอะไรบ้าง

ใบขับขี่ ท.1 ใช้เอกสารอะไรบ้าง

เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่ต้องการจะต่ออายุใบขับขี่ทั้งแบบประเภท 2 ปี เป็น 5 ปี หรือ 5 ปี เป็น 5 ปี ที่ต้องเตรียมเอกสารต่อใบขับขี่ให้พร้อม แม้ล่าสุดกรมการขนส่งทางบกจะอนุญาตให้เข้าอบรมเพื่อต่ออายุทางออนไลน์ได้แล้ว แต่ก็ยังจำเป็นจะต้องเดินทางเข้าไปดำเนินการยื่นเอกสารเช่นเดิม

สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าต่อใบขับขี่ใช้อะไรบ้าง และต้องเข้าอบรมตามที่กำหนดหรือไม่ รวมถึงมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ และระยะเวลาในการต่ออายุล่วงหน้าสามารถทำได้กี่วัน หรือในกรณีที่ขาดการต่ออายุ จะต้องทำอย่างไรบ้าง วันนี้ Silkspan ผู้ให้บริการเช็กราคาประกันรถยนต์และต่อประกัน ได้รวบรวมคำตอบเกี่ยวกับเรื่องของเอกสารต่อใบขับขี่มาฝากทุกคนแล้วที่นี่

เอกสารต่อใบขับขี่ที่ต้องใช้สำหรับทั้งประเภท 2 ปี เป็น 5 ปี และ 5 ปี เป็น 5 ปี นั้น กรมการขนส่งทางบกได้มีการอัปเดทข้อมูลล่าสุดในเรื่องของเอกสาร โดยระบุว่าผู้ที่ต้องการขอรับหรือต่ออายุใบอนุญาตขับรถทุกประเภทจำเป็นจะต้องมีใบรับรองแพทย์สำหรับการยื่นขอสิทธิ์ เพื่อเป็นการแสดงว่าผู้ขอทำใบอนุญาตขับรถไม่มีโรคประจำตัวที่อาจเป็นอันตรายขณะขับขี่ และเพื่อยืนยันว่าไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งใบรับรองแพทย์นั้นจำเป็นจะต้องออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน โดยคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป เพราะฉะนั้น อย่าลืมที่จะต้องเตรียมใบรับรองแพทย์ให้พร้อมด้วย เพื่อยื่นคู่กับเอกสารต่อใบขับขี่อื่น ๆ

ต่ออายุใบขับขี่แบบ 2 ปี เป็น 5 ปี

ใบขับขี่แบบ 2 ปีนั้น ถือเป็นใบขับขี่แบบชั่วคราว สำหรับผู้ที่เพิ่งทำใบขับขี่ครั้งแรก เมื่อหมดอายุหรือใกล้หมดอายุ ก็จำเป็นที่จะต้องต่ออายุใบขับขี่ใหม่ แต่จะเปลี่ยนจากแบบ 2 ปี ให้เป็นแบบ 5 ปีแทน

เอกสารที่ต้องใช้ในการต่ออายุใบขับขี่

  1. ใบขับขี่เดิม
  2. บัตรประชาชนฉบับจริง
  3. ใบรับรองแพทย์ ที่ออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน

ขั้นตอนการดำเนินการ

  1. ตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอ
  2. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
    • ทดสอบการมองเห็นสี (เขียว เหลือง แดง)
    • ทดสอบสายตาทางลึก
    • ทดสอบสายตาทางกว้าง
    • ทดสอบปฎิกิริยาเท้า โดยการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ
  3. ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่

ค่าใช้จ่ายในการต่ออายุใบขับขี่

  • 505 บาท (ค่าใบขับขี่ 500 บาท + ค่าคำขอ​ 5 บาท)

กรณีต่อใบขับขี่ล่วงหน้า

สำหรับการต่ออายุใบขับขี่ประเภท 2 ปี เป็น 5 ปีนั้น เจ้าของใบขับขี่สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 6 เดือน (อัปเดทล่าสุดจากกรมการขนส่งทางบก วันที่ 1 เม.ย. 64)

กรณีขาดต่อใบขับขี่

  • กรณีใบขับขี่สิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องสอบข้อเขียนใหม่
  • กรณีใบขับขี่สิ้นอายุเกิน 3 ปี เพิ่มขั้นตอนอบรม / ทดสอบข้อเขียน / ทดสอบขับรถ

ต่ออายุใบขับขี่แบบ 5 ปี เป็น 5 ปี

ในส่วนของการต่ออายุใบขับขี่แบบ 5 เป็น 5 ปี ถือเป็นการต่ออายุใบขับขี่ทั่วไป ซึ่งผู้ขับขี่รถจำเป็นที่จะต้องต่ออายุทุกครั้งเมื่อหมดอายุหรือใกล้หมดอายุ ตามกำหนดระยะเวลาที่กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดเอาไว้

เอกสารที่ต้องใช้ในการต่ออายุใบขับขี่

  1. ใบขับขี่เดิม หรือใบแทน
  2. บัตรประชาชนฉบับจริง
  3. ใบรับรองแพทย์ ที่ออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน

ขั้นตอนการดำเนินการ

  1. ตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอ
  2. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
    • ทดสอบการมองเห็นสี (เขียว เหลือง แดง)
    • ทดสอบสายตาทางลึก
    • ทดสอบสายตาทางกว้าง
    • ทดสอบปฎิกิริยาเท้า โดยการเหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ
  3. อบรม 1 ชั่วโมง (อบรมออนไลน์ กดอ่านได้ที่นี่)
  4. ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่

ค่าใช้จ่ายในการต่ออายุใบขับขี่

  • 505 บาท (ค่าใบขับขี่ 500 บาท + ค่าคำขอ​ 5 บาท)

กรณีต่อใบขับขี่ล่วงหน้า

สำหรับการต่ออายุใบขับขี่ประเภท 5 ปี เป็น 5 ปีนั้น เจ้าของใบขับขี่สามารถต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 6 เดือน (อัปเดทล่าสุดจากกรมการขนส่งทางบก วันที่ 1 เม.ย. 64)

กรณีขาดต่อใบขับขี่

  • กรณีใบขับขี่สิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องสอบข้อเขียนใหม่
  • กรณีใบขับขี่สิ้นอายุเกิน 3 ปี จำเป็นที่จะต้องสอบข้อเขียน สอบปฏิบัติขับรถใหม่ รวมถึงใช้เอกสารต่อใบขับขี่อย่างใบรับรองแพทย์ที่ขอไว้ไม่เกิน 1 เดือน

เพิ่มเติม

เพื่อให้การต่ออายุใบขับขี่กลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น Silkspan รวบรวมเอกสารต่อใบขับขี่ รวมไปถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณที่เกี่ยวข้องกับการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ และการจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ เพื่อให้คุณค้นหาข้อมูลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

  • วิธีอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ สะดวก ไม่ต้องเสียเวลา กดอ่านได้ที่นี่
  • วิธีจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ ด้วยแอปฯ กดอ่านได้ที่นี่

เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถเตรียมเอกสารต่อใบขับขี่ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นจะต้องวุ่นวายในวันที่เดินทางเข้าไปทำใบขับขี่ใหม่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ อย่าลืมนำใบรับรองแพทย์ไปด้วย ตามประกาศใหม่ของกรมการขนส่งทางบก ก็จะช่วยให้คุณสามารถต่ออายุใบขับขี่ได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าหากต้องการที่จะต่ออายุประกันรถยนต์ สามารถเช็กราคาประกันรถยนต์กับเราได้ง่าย ๆ พร้อมต่ออายุ พ.ร.บ. รถยนต์กับเรา แล้วนำไปยื่นที่ขนส่งได้เลย

ขอบคุณข้อมูลจาก : sanook.com

การต่ออายุใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ (ใบขับขี่) บางชนิด (ชนิดที่ 2, 3 และ 4)

สถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถต่ออายุใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ (ใบขับขี่) ประเภทใดบ้าง?

ตามระเบียบฯ สถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถต่ออายุใบขับขี่เฉพาะ ชนิดที่ 2, 3 และ 4 เท่านั้น สำหรับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ (ชนิดที่ 1) (ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล) จะต้องต่ออายุในประเทศไทยเท่านั้น

ความหมายของใบขับขี่แต่ละชนิด

ชนิดที่ 2 ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถสำหรับขับรถบรรทุกที่มีน้ำหนักรถ และน้ำหนักบรรทุกรวมกันเกินสามพันห้าร้อยกิโลกรัมหรือสำหรับขับรถโดยสารที่ใช้ขนส่งผู้โดยสารเกินกว่ายี่สิบคน

ชนิดที่ 3 ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถสำหรับขับรถบรรทุกหรือรถโดยสารซึ่งโดยสภาพใช้สำหรับลากจูงรถอื่นหรือ ล้อเลื่อนที่บรรทุกสิ่งใด ๆ บนล้อเลื่อนนั้น

ชนิดที่ 4 ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถสำหรับขับรถที่ใช้ขนส่งวัตถุอันตรายตามประเภทหรือชนิด และลักษณะการบรรทุก ตามที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ช่วงเวลารับคำร้อง

วันอังคาร - วันพฤหัสบดี เวลา 14.00 น. โดยผู้ยื่นคำร้องจะต้องเดินทางมาด้วยตนเองเท่านั้น (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เนื่องจากผู้ยื่นคำร้องจะต้องเข้ารับการอบรม และตรวจสายตาบอดสี)

ระยะเวลาในการดำเนินการ

ประมาณ 3-6 เดือน เนื่องจากสถานเอกอัครราชทูตฯ จะต้องส่งเอกสารไปยังกรมการขนส่งทางบกตามเขตทะเบียนบ้านของท่านเพื่อให้ดำเนินการดังกล่าว โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดต่อผู้ร้องเมื่อได้รับใบขับขี่ ใบใหม่จากกรมการขนส่งฯ แล้ว

เอกสารที่ใช้ในการยื่นคำร้อง

1. ใบรับคำขอดำเนินการเกี่ยวกับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ และใบคำร้องนิติกรณ์สำหรับให้สถานเอกอัครราชทูตฯ รับรองลายมือชื่อบุคคล

2. ใบขับขี่ประเภท 2, 3 หรือ 4 ตัวจริง พร้อมสำเนา 3 ชุด

3. สำเนาหนังสือเดินทาง 3 ชุด

4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 3 ชุด

5. สำเนาบัตรประจำตัวในสิงคโปร์ (เช่น Work Permit) 3 ชุด

6. สำเนาทะเบียนบ้าน 3 ชุด

7. รูปถ่ายขนาด 1.5 นิ้ว 2 รูป (พื้นหลังสีน้ำเงิน)

ค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมในการดำเนินการประกอบด้วย 2 ส่วน คือ - ค่าธรรมเนียม 30 ดอลลาร์สิงคโปร์ สำหรับการรับรองลายมือชื่อผู้ร้องในคำร้องขอต่ออายุใบขับขี่ - ค่าธรรมเนียม 200 บาท (เป็นเงินสดสกุลบาทเท่านั้น) สำหรับส่งไปยังประเทศไทยเพื่อต่ออายุใบขับขี่พร้อมกับคำร้องฯ