โรคที่เกี่ยวกับไตและระบบปัสสาวะ

  • บทความสุขภาพ

โรคที่เกี่ยวกับไตและระบบปัสสาวะ

กรวยไตอักเสบ

กรวยไตเป็นส่วนหนึ่งของไต ซึ่งเป็นที่รวมของปัสสาวะที่กรองออกมาจากไตก่อนจะผ่านไปยังท่อไตและลงไปที่ท่อปัสสาวะ กรวยไตอาจเกิดการอักเสบทั้งแบบเฉียบพลัน หรือเรื้อรังก็ได้ แต่ส่วนใหญ่มักเป็นอาการแบบเฉียบพลัน โรคกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน (Acute pyelonephritis) พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย พบมากในหญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยที่เป็นนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ผู้ป่วยเบาหวานหรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ ผู้ชายสูงอายุที่เป็นต่อมลูกหมากโต ผู้ป่วยที่เป็นอัมพาต การอักเสบของทางเดินปัสสาวะเป็นโรคที่พบได้บ่อยมาก และเป็นโรคซึ่งอาจจะทำให้มีการทำลายของเนื้อไตได้ในภายหลังจนถึงกับเกิดมีภาวะไตวายเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญของผู้ป่วยโรคไตถ้าไม่เข้ารับการรักษาที่ถูกต้องโดยเร็ว

โรคกรวยไตอักเสบเฉียบพลันเกิดจากการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ มักจะมีกระเพาะปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย กรวยไตที่อักเสบเฉียบพลันส่วนใหญ่มักจะพบในผู้หญิง คนที่เป็นมักจะมีอาการของไข้ หนาวสั่น ปวดหลัง เคาะเจ็บบริเวณหลัง และเอว มักจะมีปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะบ่อย แสบ หรือขัด และมีปัสสาวะขุ่นร่วมด้วย หากมีอาการดังกล่าวต้องรีบมาพบแพทย์เพื่อจะตรวจปัสสาวะ เพื่อนำปัสสาวะไปเพาะหาเชื้อโรคที่อยู่ในปัสสาวะ รวมทั้งจะต้องรับการรักษาอย่างรวดเร็ว ถ้าหากอาการไม่มากก็อาจรักษาโดยการรับประทานยาฆ่าเชื้อได้ แต่ถ้ามีอาการมากจำเป็นจะต้องนอนในโรงพยาบาลและฉีดยา

ที่มา ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ

ข้าพเจ้ายินยอมโดยสมัครใจให้คณะแพทย์ – พยาบาล, เจ้าหน้าที่ และ/หรือ บุคลากรอื่นๆ ในทีมสุขภาพของโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ทำการตรวจรักษาและกระทำการใดๆ ตามหลักวิชาชีพทางการแพทย์ เปิดเผยข้อมูลการตรวจรักษาของข้าพเจ้าให้แก่ทีมสุขภาพของโรงพยาบาล ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีความจำเป็นในการเข้าถึงข้อมูลของข้าพเจ้า ทั้งนี้ข้าพเจ้าได้รับทราบถึงคำประกาศสิทธิผู้ป่วย และ ข้อกำหนดความเป็นส่วนตัวเป็นอย่างดีแล้ว

 

โรคที่เกี่ยวกับไตและระบบปัสสาวะ

As our hospital is JCI accredited, should you feel that we do not meet this international standard,
you can direct your concern to JCI (Joint Commission International) Click

 

โรคที่เกี่ยวกับไตและระบบปัสสาวะ

Copyright © 2021
Bangkok Hospital Pattaya
All rights reserved.

โรคที่เกี่ยวกับไตและระบบปัสสาวะ

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ที่พบบ่อยได้แก่เชื้ออีโคไล ซึ่งเป็นเชื้อที่พบในอุจจาระของคนทั่วไป คำว่าไตอักเสบหมายถึง มีการอักเสบของเนื้อเยื่อของไต อาจเกิดจากการมีเชื้อโรคเข้าไปก่อเหตุหรือเกิดเนื่องมาจากปฏิกิรียาของร่างกายที่สร้างภูมิต้านทานต่อเนื้อไตไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบโดยไม่มีเชื้อโรคเข้าไปเกี่ยวข้องก็ได้ โรคไตอักเสบเหล่านี้มีผลแทรกช้อนและวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อพูดถึงไตอักเสบจะต้องแยกแยะให้ได้ว่าหมายถึงชนิดใดโดยเฉพาะ ซึ่งมีชื่อเรียกเฉพาะโรคต่างๆ กันไป เช่น กรวยไตอักเสบ หน่วยไตอักเสบ โรคไตเนโฟรติก เป็นต้น

กรวยไตเป็นส่วนที่อยู่เหนือสุดของท่อไต ซึ่งยื่นเข้าไปในเนื้อไต มีรูปร่างเป็นรูปกรวย เมื่อมีเชื้อโรคผ่านขึ้นทางท่อไตเข้ามาอยู่ในกรวยไต ก็จะทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อไตรอบๆ กรวยไต เรียกว่ากรวยไตอักเสบ เชื้อโรคจะเข้าสู่กรวยไต โดยเริ่มจากการแปดเปื้อนที่ผิวหนังรอบๆ ปัสสาวะ ผ่านกระเพาะปัสสาวะย้อนขึ้นไปตามท่อไต เข้าไปในกรวยไต แล้วเชื้อมีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนจนก่อให้เกิดโรคขึ้นมา

อาการ

1. ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง หนาวสั่นมาก ต้องห่มผ้าหนาๆ หรือหลายๆ ผืน ปวดศรีษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย มักมีอาการปวดท้อง ปวดบั้นเอวข้างใดข้างหนึ่ง และปัสสาวะขุ่น บางรายอาจมีอาการถ่ายปัสสาวะแสบขัด และออกกะปริดกะปรอยร่วมด้วย
2. จะมีอาการคล้ายของไข้มาลาเรีย แต่จะจับไข้ไม่เป็นเวลาแน่นอน และมีอาการหนาวสั่นได้วันละหลายครั้ง
3. มักมีอาการปวดบริเวณบั้นเอวหรือสีข้างเพียงข้างใดข้างหนึ่ง เมื่อใช้กำปั้นทุบเบาๆ ตรงบริเวณที่ปวดจะมีความรู้สึกเจ็บจนสะดุ้งโหยง
4. ปัสสาวะขุ่นขาว บางครั้งอาจข้นเป็นหนอง

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์โรคไตและไตเทียม โทร.1719

ที่มา ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ

โรคไต เป็นคำกว้างๆ ที่บ่งชี้ถึงการมีความผิดปกติที่บริเวณไตข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้าง โดยสาเหตุของโรคไต ได้แก่ โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ โรคไตอักเสบ นิ่วที่ไต โรคเนื้องอกที่ไต เป็นต้น และยังมีโรคประจำตัวที่สามารถทำให้เกิดโรคไตเสื่อมเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โดยโรคที่กล่าวมานี้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง จะทำให้เกิดภาวะไตวายเรื้อรังได้ในที่สุด

อาการที่อาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังเสี่ยงเป็นโรคไต คือ

      อาการทางระบบปัสสาวะ

ปัสสาวะเป็นเลือด ( bloody urine) ในภาวะปกติ ปัสสาวะจะมีสีเหลืองอ่อนจนถึงสีเข้ม ขึ้นกับปริมาณน้ำที่รับประทานในขณะนั้นๆ แต่ถ้ามีลักษณะมีเลือดปนที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หรือลักษณะเป็นสีน้ำล้างเนื้อ สาเหตุอาจเกิดจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ นิ่วในทางเดินปัสสาวะ หรืออาจเกิดจากเนื้องอกในทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น

ปัสสาวะแสบขัดหรือปัสสาวะลำบาก การที่เวลาขับถ่ายปัสสาวะมีอาการแสบขัด มักเกิดจากการอักเสบของท่อปัสสาวะหรือกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งบ่งชี้ถึงการติดเชื้อหรืออาการปัสสาวะลำบาก อาจเกิดจากการอุดกลั้นของทางเดินปัสสาวะ โรคที่พบบ่อยอันได้แก่ ต่อมลูกหมากโตในผู้ชาย

ปัสสาวะมีฟอง การที่คนเราปัสสาวะมีฟอง เกิดจากการมีโปรตีนไข่ขาวรั่วออกมาในปัสสาวะ ซึ่งอาจเป็นอาการของภาวะโรคไตเรื้อรัง หรือเกิดจากโรคไตชนิดเนฟโฟรติก ซึ่งจะมีอาการบวมบริเวณหนังตาในตอนเช้าหรือถ้าเป็นมากอาจมีอาการบวมทั้งร่างกาย ร่วมกับปัสสาวะเป็นฟองปริมาณมาก

ปัสสาวะมีกรวด/ทรายออกมา ลักษณะกรวดหรือทรายที่ออกมาเป็นตัวบ่งชี้ว่า มีนิ่วอยู่ในระบบทางเดินปัสสาวะ อาจจะมีอาการปวดเอว ปวดหลังร่วมด้วย ในบางรายอาจพบร่วมกับมีปัสสาวะเป็นเลือด

ปัสสาวะกลางคืนบ่อยกว่าปกติ ในภาวะปกติ คนเราภายหลังการนอนหลับจะไม่ได้มีดื่มน้ำ ไตจะมีหน้าที่ดูดกลับน้ำ ทำให้ปริมาณปัสสาวะลดลงและถูกเก็บในกระเพาะปัสสาวะ ในช่วงเวลาที่เรานอนหลับ จึงไม่จำเป็นต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะ แต่ถ้าไตมีความผิดปกติ เช่น โรคไตเรื้อรัง ไตจะไม่สามารถดูดกลับน้ำได้เท่าปกติ จะทำให้ผู้ป่วยต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะตอนกลางคืนบ่อยมากขึ้น

นอกจากนี้ภาวะปัสสาวะบ่อยอาจไม่ได้เกิดจากโรคไตเรื้อรังเท่านั้น อาจเกิดจากภาวะติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ โรคเบาหวาน โรคเบาจืด ก็ได้

ในคนปกติที่ไม่ได้เป็นโรคไต สามารถลุกขึ้นมาปัสสาวะได้ช่วงกลางคืน 1-2 ครั้งขึ้นกับปริมาณน้ำที่ดื่มในช่วงก่อนนอน

โรคที่เกี่ยวกับไตและระบบปัสสาวะ

      อาการของภาวะโรคไตเรื้อรัง

มีอาการบวมในร่างกาย อาการบวมนั้น เกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก ที่เกี่ยวข้องกับโรคไต คือ เกิดจากไตไม่สามารถขับน้ำและเกลือได้อย่างปกติ จนเกิดการคั่งของน้ำและเกลือ จนเกิดอาการบวมหรืออาจเกิดจากโปรตีนไข่ขาวรั่วออกไปทางปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการบวม เช่น โรคไตชนิดเนฟโฟรติก ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้

อาการคันตามตัว /คลื่นไส้อาเจียนเบื่ออาหาร /ภาวะโลหิตจาง

อาการเหล่านี้นั้นไม่จำเพาะต่อโรคไต เป็นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งอาจไม่เกี่ยวกับโรคไต แต่ในโรคไตเรื้อรังนั้น จะทำให้มีอาการเหล่านี้ได้ โดยอย่างไรก็ตามถ้ามีอาการเหล่านี้ที่เกี่ยวข้องกับโรคไต มักเกิดในโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย ซึ่งอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการบำบัดทดแทนไต

อาการอื่นๆ

ปวดเอว อาการปวดนั้นอาจจะพบที่บริเวณเอวเกิดจากรอยโรคที่บริเวณไต ซึ่งอยู่บริเวณหลังเอวทั้ง 2 ข้าง โดยสาเหตุมักเกิดจาก นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ หรืออาจเกิดจากโรคถุงน้ำที่ไต หรือเนื้องอกของไตได้

ความดันโลหิตสูงมากผิดปกติ ความดันโลหิตสูงมากผิดปกติหรือความดันโลหิตสูงที่คุมได้ยากโดยจำเป็นต้องใช้ยาหลายชนิดในการควบคุม สาเหตุอาจเกิดจากโรคไตโดยโรคไตที่นึกถึงคือ ภาวะเส้นเลือดแดงของไตตีบ โรคไตอักเสบหรือโรคไตเรื้อรัง

อย่างไรก็ตามการรักษาผู้ป่วยโรคไต ควรได้รับการรักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการ เพื่อที่แพทย์จะวินิจฉัยสาเหตุของการเกิดโรค ควบคุมรักษาที่สาเหตุ และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะไตวายเรื้อรัง สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการดังกล่าวข้างต้น แนะนำต้องรีบเข้ารับการการวินิจฉัยและรักษาจากแพทย์ เพื่อนำไปสู่แนวทางการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม

บทความโดย

นพ. ธาวิน ศรีนุต แพทย์ผู้ชำนาญการอายุรศาสตร์และโรคไต

ประจำศูนย์อายุรกรรมเฉพาะทาง และศูนย์ล้างไต

โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ถนนแจ้งวัฒนะ (WMC)

โทร 02 836 9999 ต่อ 3521-2