หลักเกณฑ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ 2564 อปท

Mises
The Great Gold Robbery of 1933

Thomas E. Woods, Jr. 11/24/2022

เกือบร้อยปีมาแล้วที่รัฐบาลกลางสหรัฐ ออกคำสั่งยึดทองคำจากการครอบครองของชาวอเมริกัน ..โดยมีที่ยกเว้นให้..ก็ที่ใช้เป็นเครื่องประดับเท่านั้น

เรื่องนี้มีที่มาจากพรบ. Emergency Banking Act of 1933 ซึ่งสภาคองเกรสผ่านกฎหมายเมื่อวันที่ 9 มีนาคม โดยไม่มีใครได้อ่านเนื้อความในกฎหมายนี้เลยก่อนลงมติ มีแต่การอภิปรายกันไม่นาน ซึ่งแม้แต่ผู้นำฝ่ายค้าน Bertrand H. Snell (R-NY) เองก็ยอมรับว่านี่เป็นกฎหมายที่ไม่มีแม้แต่ฉบับพิมพ์ให้อ่านก่อน ...แต่ทั้งหมดแม้แต่ฝ่ายค้านก็ผ่านกฎหมายฉบับนี้ไปในที่สุด "ประธานาธิบดีย่อมรู้ดีที่สุดในการแก้ปัญหาของชาติ...." เขากล่าว

กฎหมายฉบับนี้ยังให้อำนาจ ปธน.ในการปิดสถาบันการเงินเอกชนเป็นการชั่วคราวได้ทั่วประเทศ และยังให้อำนาจออกคำสั่งให้ธุรกิจเอกชนและประชาชนทุกคนส่งมอบทองคำทั้งเหรียญ แท่ง และใบรับฝาก ให้กับรัฐบาล

ที่จริงมีกฎหมาย The Emergency Banking Act อยู่แล้วเมื่อครั้งที่มีการออกกฎหมายการค้ากับชาติที่เป็นศัตรู Trading with the Enemy Act of 1917 ...ที่ตั้งใจจะบังคับใช้กับประชาชนที่มีธุรกิจกับชาติที่เป็นศัตรูกับสหรัฐ ซึ่งมีบทบัญญัติเพิ่มเติม (provisions) ให้อำนาจ ปธน. ควบคุมรวมไปถึงทองคำที่มีการตุนในมือของประชาชนทั้งประเทศ

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ประชาชนเริ่มคิดกันว่ากฎหมายฉบับนี้เลิกใช้ไปแล้ว จึงต้องมีการนำกลับมาใช้ใหม่โดยเพิ่มจาก คำว่า "ในระหว่างสงคราม" เป็น "ในระหว่างสงครามและเมื่อเวลาที่เกิดเหตุฉุกเฉินที่ประกาศโดย ปธน."

หนึ่งเดือนจากนั้น อาศัยอำนาจของกฎหมายฉบับนี้ ประธานาธิบดีรูสเวลท์ออกคำสั่งยึดทองคำในประเทศ โดยแลกเปลี่ยนเป็น currency กระดาษในมูลค่าเท่ากัน ซึ่งสามารถนำมา redeem เป็นทองคำได้ในภายหลัง ดังนั้นประชาชนทั่วไปจึงเห็นว่าไม่เป็นไร..เพราะยังมีศรัทธาต่อรัฐบาลในการต่อสู้กับเศรษฐกิจที่กำลังเกิด Depression

จนตอนหลังถึงได้รู้ว่าโดนแกงเข้าแล้ว (อยากใช้คำนี้มานานแล้วครับ..) นอกจากไม่สามารถแลกคืนแล้ว currency ยังถูกลดค่าอีกด้วย มีแต่รัฐบาลต่างชาติเท่านั้นที่แลกคืนทองคำได้ ...และนั่นนำไปสู่การตัดขาดจากทองคำในปี 1971 ...อเมริกันชนถูกเพิ่มเครื่องแกงหนักขึ้นอีก

วันที่ 5 มิถุนายน 1933 คองเกรสมีมติว่า "การชำระหนี้ระหว่างกันด้วยทองคำหรือ currency อื่น ๆ นอกจากที่ประกาศโดยรัฐบาล..ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย"

ตลอดหกเดือนจากนั้น ประธานาธิบดีรูสเวลท์ดำเนินนโยบายการเงินแบบไม่อยู่กับร่องกับรอย ประกาศราคาทองคำใหม่เกือบทุกวันแบบไม่มีใครเข้าใจ ...การทำธุรกรรมการเงินในประเทศแทบจะหยุดนิ่ง

คองเกรสแทบทำอะไรไม่ได้ สภามีอำนาจอยู่แค่ "การตราและกำหนดมูลค่าของ money และกำหนดน้ำหนักมาตรฐานของทองคำในเหรียญเท่านั้น" ไม่มีอำนาจการลดค่าของ currency จากเงินเฟ้อ ตั้งแต่เริ่มมีการร่างรัฐธรรมนูญแล้ว

ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งประเทศ ทุกคนรู้ว่า ดอลลาร์ คือเงินเหรียญซิลเวอร์ที่สเปนใช้อยู่แพร่หลายในทวีปอเมริกา สภาคองเกรสไม่มีอำนาจในการปรับค่าเงินได้ตามใจชอบ ไม่งั้นคงปรับค่าจนไม่มีการค้าทาสในอเมริกาไปแล้วตั้งแต่แรก รัฐทางใต้ก็คงไม่อาจรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้

มีคดีฟ้อร้องรัฐบาลกลางสหรัฐเรื่องการยึดทองคำหลายคดี แต่ในคดีของชายผู้หนึ่งซึ่งถือพันธบัตรรัฐบาลที่จะต้องจ่ายคืนเป็นทองคำหรือเป็น paper currency ที่มีมูลค่าเท่ากัน แต่รัฐบาลจะจ่ายคืนเป็น paper currency ที่มีการเสื่อมค่าไปแล้ว เขาเชื่อว่าเขาได้รับ currency ที่มีค่าน้อยกว่าที่เขามีสิทธิ์จะได้รับ.....พันธบัตรที่เขาถือมี face value เป็นทองคำ $10,000 ..หลังมาตรฐานทองคำ มันควรจะเป็น currency มูลค่า $17,000 เพื่อให้เป็นไปตามสัญญา เพราะมีการเสื่อมค่าเงินไปแล้ว

ศาลตัดสินว่าเขาจะต้องได้รับคืนเป็นทองคำ เพราะรัฐบาลมีภาระจะต้องปฏิบัติตามสัญญา ...แต่ตามกฎหมายที่ไม่อนุญาตให้มีผู้ถือทองคำได้ เมื่อเขาได้รับแล้วก็ต้องถูกยึดคืนอยู่ดี โดยจ่ายให้เป็น currency ในอัตราเดิมที่ 25.8 grains ต่อ $1

ในช่วงปี 1970s รัฐบาลอนุญาตให้ชาวอเมริกันถือครองทองคำได้อีกครั้ง แต่เหรียญที่กรมธนารักษ์ผลิตออกมามีจำนวนน้อยมาก เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่มีการหมุนเวียนในตลาดมากเกินไปจนไปกระทบกับเงินกระดาษที่ถูกทำให้เสื่อมค่าไปมากแล้วตอนนั้น เพราะว่าตามกฎหมายแล้ว..มูลค่าของเงินเหรียญจะต้องเป็นไปตาม face value

เรื่องเลวร้ายที่ลากยาวมานานของ gold confiscation ยังมีอีกมากกว่านี้ ขนาดเป็นเล่มหนังสือเลย ชื่อว่า Who Killed the Constitution?

https://mises.org/library/great-gold-robbery-1933

 

munKNEE.
Here's the State of Every Central Banks’ Digital Currency Efforts

Digital Currency ของแต่ละประเทศ ไปถึงไหนแล้ว

Lorimer Wilson Nov 17, 2022

ธนาคารกลางของเกือบทุกประเทศกำลังเตรียมการเรื่องของเงินดิจิตอล โดยมีหลายประเทศนำหน้าไปไกลแล้ว จากภาพ infograpgic เป็นข้อมูลจาก the Atlantic Council’s Currency Tracker ....ที่แสดงว่าธนาคารกลางของแต่ละประเทศพัฒนา digital currency ของตนไปไถึงขั้นไหนแล้ว ....ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มผู้นำ (pilot) อยู่ด้วย

Digital Currency – The Basics

เงินดิจิตอลเริ่มปรากฎตัวขึ้นตั้งแต่ยุค 1980s แต่ไม่เป็นที่สนใจกันนัก จนกระทั่งมีการ launch บิทคอยน์ออกมาในปี 2009 ...ปัจจุบันเงินดิจิตอลมีมากมายนับพัน ๆ ตัวเรียกกันว่า "cryptocurrencies"

นิยาม cryptocurrencies ตามคุณสมบัติก็คือ มันอิงอยู่กับ blockchain ledger (หรือการลงบัญชีแบบกระจาย distributed ledger) ....blockchain อาจเป็นได้ทั้งแบบกระจายศูนย์ (decentralized) หรือแบบรวมศูนย์ (centralized) ...แต่เงินคริปโตปัจจุบันส่วนใหญ่เช่น Bitcoin, Ethereum, etc. มักจะเป็นแบบ decentralized เพราะมันยากต่อการตรวจสอบจากส่วนกลาง หรือรัฐบาล แต่จริง ๆ แล้วยังไม่มีคริปโตตัวไหนที่ไม่สามารถถูกควบคุมได้เลยสมบูรณ์แบบ

ในทางตรงข้ามเลย เงินดิจิตอลที่จะออกมาโดยรัฐบาลจะต้องถูกควบคุมโดยธนาคารกลางและต้องถูกตรวจสอบได้ง่าย ...มันจะยังมีค่าเหมือนกับ currency ที่เราใช้กันอยู่เป็นเงินสดทุกวันนี้ แต่ออกมาเป็นดิจิตอลที่ไม่มีรูปลักษณ์กายภาพที่จับต้องได้

พอคุณสมบัติมันเป็นเรื่องที่รัฐบาลหลายประเทศให้ความสนใจ ส่วนใหญ่จึงเริ่มมีการทำวิจัย

What are the Benefits?
แล้วประโยชน์มันคืออะไรล่ะ

ประโยชน์หลักก็คือ มันจะช่วยให้ผู้ที่ไม่ได้ใช้บริการทางการเงินของธนาคารเลย (เป็นพวก underbanked..unbanked) ได้เข้าร่วมในผลิตภัณท์การเงินต่าง ๆ ได้

แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่สำหรับประเทศกำลังพัฒนา จะช่วยได้มากสำหรับพวก underbanked เพราะการใช่อินเตอร์เน็ทเริ่มมากขึ้นทุก ๆ ปี เงินดิจิตอลจึงเป็นทางออกของเรื่องนี้

รายชื่อประเทศ unbanked ทั้งหมดอยู่ในลิ้งค์ ผมแปะภาพเท่าที่มีประเทศไทยอยู่ด้วยครับ

https://www.gfmag.com/global-data/economic-data/worlds-most-unbanked-countries

The 9%

มีจำนวนประเทศแค่ 9% ของโลกเท่านั้นที่ได้ launch เงินดิจิตอลออกมาแล้ว ไนจีเรียเป็นประเทศแรกในอาฟริกาซึ่งได้ทไปแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2021 ซึ่งมีประชาชนถึงครึ่งของ 200 ล้านคนที่ไม่มีบัญชีธนาคารเลย

การใช้งานของ eNaira (Naira ในแบบดิจิตอล) ยังช้าอยู่มาก ...app การใช้มีการดาวน์โหลดไปแค่ 700,000 นับถึงเดือนเมษายน 2022 แค่ 0.35% ของประชากร และการดาวน์โหลดก็ยังมีทั้งจากผู้ที่ไม่ใช่ผู้ใช้ชาวไนจีเรียอีกด้วย

แต่มีชาวไนจีเรียอยู่ถึง 33.4 ล้าน ที่เทรดหรือเป็นเจ้าของเงินคริปโต ถึงแม้ธนาคารกลาพยายามที่จะมีการออกข้อจำกัดอยู่

Status in the U.S.

ธนาคารกลางสหรัฐ Federal Reserve ยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่อง CBDC ว่าจะเริ่มเมื่อไหร่

คงจะกำลังหาวิธีที่จะออกแบบเรื่องการควบคุมการใช้เงินของประชาชนอยู่ ...(รายละเอียดในคอมเมนท์คุณ Anan Paisalsombun เลยครับ)

https://munknee.com/heres-the-state-of-every-central-banks-digital-currency-efforts/

 

ใครเพิ่งหายป่วย #โควิด19 เช็คสิ! มีอาการนี้ไหม? เมื่องานวิจัยใหม่พบว่า ผู้ป่วย #LongCOVID มีปัญหาด้านการนอนหลับราว 1 ใน 4 อีกทั้ง 53.4% ของกลุ่มทดลอง มีปัญหาด้านความคิดความจำที่แย่ลง
.
ช่วงนี้คนไทยต้องตั้งการ์ดสูง เพราะโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง (ในลักษณะ Small wave) แม้หลายคนจะได้รับวัคซีนแล้วแต่ก็มีโอกาสติดได้ และอย่าลืมว่าหลังหายป่วยโควิดจะมีอาการ #LongCovid ตามมาอีกหลายเดือน ซึ่งส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อย
.
แถมล่าสุดมีการศึกษาชิ้นใหม่ที่สำรวจจากกลุ่มผู้ร่วมทดสอบ พบว่า ผู้ที่มีภาวะ Long Covid มีปัญหาด้านการนอนมากถึง 1 ใน 4 และกว่าครึ่งมีปัญหาความจำและความคิดแย่ลง แบ่งเป็น
.
22.2% ของกลุ่มผู้ทดสอบ เกิดอาการนอนไม่หลับ
3.1% ของกลุ่มผู้ทดสอบ มีปัญหานอนมากกว่าปกติ
53.4% ของกลุ่มผู้ทดสอบ มีปัญหาด้านความคิดความจำที่แย่ลง
.
โดยรายงานข้างต้น รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ นำมาเผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว “Thira Woratanarat” พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า ผลการศึกษาข้างต้น หัวหน้าวิจัยอย่าง Moura AEF และทีมวิจัยจากบราซิล ได้ทำการวิจัยแบบติดตามประเมินกลุ่มผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อโควิด-19 และประสบภาวะ Long COVID จำนวน 189 คน จนได้ข้อมูลผลสำรวจชิ้นนี้ออกมา
.
โดยผลการศึกษานี้ก็สอดคล้องกับสิ่งที่พบในปัจจุบัน นั่นคือ มีคนจำนวนไม่น้อยที่ประสบปัญหาทั้งเรื่อง #นอนไม่หลับ รวมถึงปัญหาด้านความคิดความจำ ซึ่งกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน การทำงาน หรือการเรียนได้
.
ภาวะ Long COVID นั้นเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย และไม่ว่าจะติดเชื้อแบบไม่มีอาการ อาการน้อย หรืออาการมาก
ผู้ใหญ่เสี่ยงกว่าเด็ก เพศหญิงเสี่ยงกว่าเพศชาย โดยอาการผิดปกติจากภาวะ Long COVID นั้น เกิดขึ้นได้ทุกระบบในร่างกาย และส่งผลให้เกิดปัญหาโรคเรื้อรังตามมาในระยะยาวได้
.
ดังนั้นการป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อหรือไม่ให้ติดเชื้อซ้ำ ย่อมเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะป้องกัน Long COVID อีกทั้งการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบตามกำหนด ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะป่วยรุนแรง ตาย และ Long COVID ได้
.
ขณะที่งานวิจัยจาก NYU Grossman School of Medicine ที่เผยแพร่ในวารสาร Journal of the Neurological Sciences (JNS) เมื่อเร็วๆ นี้ ก็ระบุถึงผลกระทบของ Long COVID ที่ส่งผลต่อการนอนหลับที่แย่ลงเช่นกัน
.
โดยนักวิจัยพบว่า 50% ของผู้ป่วยกลุ่มวัยผู้ใหญ่ที่มี “ความเครียดในชีวิตอยู่แล้ว” หลังจากติดโควิดและมีอาการลองโควิด จะมีแนวโน้มอย่างน้อยสองเท่าที่จะเกิด #ภาวะซึมเศร้า #โรคสมองฝ่อ #ความเหนื่อยล้า #ปัญหาการนอนหลับ และอาการอื่นๆ ในระยะยาว
.
จากการติดตามผลกับผู้ป่วยโควิด 790 ราย หลังหายจากโควิดในระยะเวลา 6 เดือนและ 12 เดือน (1 ปี) พร้อมวิเคราะห์ข้อมูล นักวิจัยได้ค้นพบอีกว่า 51% ของผู้เข้าร่วมทดสอบรายงานว่า พวกเขามีความเครียดในชีวิตอย่างมีนัยสำคัญหลังต้องเผชิญภาวะ Long COVID ในระยะเวลา 12 เดือน
.
โดยปัจจัยที่ทำให้พวกเขาเกิดความเครียดและกังวลมากขึ้น ได้แก่ ตกงาน, ความไม่มั่นคงทางการเงิน, ปัญหาปากท้อง, การเสียชีวิตของผู้สัมผัสใกล้ชิด, ความพิการที่เกิดขึ้นใหม่ (อาการรุนแรงจากการป่วยโควิดจนระบบร่างกายเสียหาย)
.
ศาสตราจารย์ Jennifer A. Frontera หัวหน้าวิจัยจากภาควิชาประสาทวิทยา NYU Langone Health กล่าวว่า “การรักษาลองโควิด ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาเชิงบำบัดที่ช่วยลดความบอบช้ำจากเหตุการณ์ในชีวิตที่ก่อให้เกิดความเครียด แต่ทั้งนี้ยังต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของแนวทางให้ที่ดีที่สุด”
.
นอกจากนี้ในการศึกษาซ้ำครั้งที่สอง ทีมนักวิจัยพบว่าผู้ที่มีภาวะ Long COVID มีอาการของกลุ่มโรคที่ระบุใหม่ 3 กลุ่มคือ
.
กลุ่มที่ 1: มีอาการเล็กน้อย (ส่วนใหญ่ปวดศีรษะ) เข้ารับการรักษาเพียงเล็กน้อยก็หาย
กลุ่มที่ 2: อาการหลายอย่าง เช่น วิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านอาการซึมเศร้าและจิตบำบัด
กลุ่มที่ 3: อาการทางปอดเป็นหลัก เช่น หายใจถี่ หายใจไม่อิ่ม ปวดศีรษะ ความคิดความจำแย่ลง ส่วนใหญ่ได้รับการรักษาบำบัดทางกายภาพ
.
จากการวิเคราะห์พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด คือ กลุ่มอาการที่ 2 ซึ่งมีอัตราความพิการสูงขึ้น มีความวิตกกังวล ซึมเศร้า เหนื่อยล้า และการนอนหลับแย่ลง โดย 97% ของผู้ป่วยกลุ่มอาการดังกล่าวเมื่อได้รับการรักษาด้วยการบำบัดทางจิตเวชรายงานว่าพวกเขาอาการดีขึ้นจริง
.
.
อ้างอิง : BioMedCentral https://bit.ly/3F4n1wt
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ https://www.facebook.com/thiraw?fref=nf
ScienceDaily https://bit.ly/3igGtgz
.
.
#กรุงเทพธุรกิจHealth #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
-------------------------------
ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
Line: https://line.me/R/ti/p/@rvb8351i
Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
Website: http://www.bangkokbiznews.com
Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
Blockdit: https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews
Tiktok: https://www.tiktok.com/@bangkokbiznews
Soundcloud: https://soundcloud.com/bangkokbiznews
Spotify: https://qrgo.page.link/CHpWR

 

ครม. เคาะช่วยผู้ประสบอุทกภัย ในช่วงฤดูฝนปี 2565 ในอัตรา 5,000, 7,000 และ 9,000 บาท/ครัวเรือน ตามกรณี กรอบวงเงิน 6,258 ล้านบาท สำหรับจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 1,046,460 ครัวเรือน
.
อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (29 พฤศจิกายน 2565) เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2565 พร้อมอนุมัติกรอบวงเงิน 6,258.54 ล้านบาท สำหรับจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 1,046,460 ครัวเรือน ซึ่งเป็นจำนวนครัวเรือนจากการสำรวจเบื้องต้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและ 66 จังหวัด ที่อยู่ในพื้นที่ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉินในกรณีใดกรณีหนึ่งใน 3 กรณี ดังนี้
.
(1) กรณีที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันตั้งแต่ 1วัน (24 ชั่วโมง) แต่ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย หรือที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังเกินกว่า 7 วัน แต่ไม่เกิน 30 วัน ให้ความช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 5,000 บาท
.
(2) กรณีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันเกินกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ให้ความช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 7,000 บาท
.
(3) กรณีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันเกินกว่า 60 วัน ขึ้นไป ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท
.
สำหรับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2565 ดังนี้
หลักเกณฑ์ (1) ต้องเป็นกรณีอุทกภัยที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยในช่วงฤดูฝนปี 2565 ตั้งแต่ 13 พฤษภาคม ถึง 28 ตุลาคม 2565 ทั้งกรณีน้ำท่วมโดยฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงการระบายน้ำจนส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้
.
และ (2) ต้องเป็นที่อยู่ที่ประสบอุทกภัยตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน ซึ่งได้รับผลกระทบกรณีใดกรณีหนึ่ง คือ ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขัง ตั้งแต่ 1 วัน (24 ชั่วโมง) แต่ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย หรือที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขัง เกินกว่า 7 วันขึ้นไป
.
โดยมีเงื่อนไขดังนี้
.
(1) ต้องเป็นบ้านที่อยู่อาศัยประจำในพื้นที่ที่ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยมีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกให้ และต้องผ่านการประชาคมหมู่บ้านของแต่ละพื้นที่ประสบสาธารณภัย และผ่านการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจากคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ และคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด สำหรับกรุงเทพมหานครต้องผ่านการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจากสำนักงานเขตและกรุงเทพมหานคร
.
(2) กรณีที่ประสบภัยหลายครั้ง ให้ได้รับความช่วยเหลือเพียงครั้งเดียว โดยการจ่ายเงินช่วยเหลือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะเป็นจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยผ่านธนาคารออมสิน
.
.
#น้ำท่วม #ผู้ประสบอุทกภัย #ฤดูฝน #จ่ายเงินช่วยเหลือ
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ #กรุงเทพธุรกิจUpdate
-------------------------------
ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
Line: https://line.me/R/ti/p/@rvb8351i
Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
Website : http://www.bangkokbiznews.com
Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
Blockdit : https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews
Tiktok : https://www.tiktok.com/@bangkokbiznews
Soundcloud: https://soundcloud.com/njqvvip1pkff
Spotify: https://qrgo.page.link/CHpWR

 

“ปตท.” แจง อยู่ระหว่างพิจารณาจ่ายเงินอุดหนุนค่าไฟอย่างรอบคอบ “บล.ยูโอบีฯ” ชี้ หากจ่าย 6 พันล้าน กระทบกำไรปีหน้าลดลง 6% จาก 9.6 หมื่นล้าน -ราคาหุ้นวูบ 6.24 บาท จากราคาเป้าหมายปีหน้า 42.40 บาท "บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี" ปรับ ลดคำแนะนำเหลือถือ -หั่นราคาหุ้นเป้าหมายเหลือ 35 บาท
.
นายธนพล ประภาพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายผู้ลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)หรือ PTT เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)ได้ขอความร่วมมือจาก ปตท. ให้พิจารณาจัดสรรรายได้จากการดำเนินธุรกิจโรงแยกก๊าซธรรมชาติ 1.5 พันล้านบาทต่อเดือน จำนวน 4 เดือน (ตั้งแต่เดือนม.ค. – เม.ย. 2566) รวม 6 พันล้านบาทนั้น เนื่องจาก ปตท. เป็นบริษัทพลังงานของชาติ และเป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งจะต้องดำเนินการที่คำถึงผู้มีส่วนได้เสีย (stakeholders)ทุกฝ่าย ซึ่งแนวทางการช่วยเหลือขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาอย่างรอบคอบ
.
ส่วนทิศทางราคาน้ำมันในปีหน้าคาดปรับตัวลดลง เนื่่องจาก เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว การคุมเข้มการแพร่ระบาดโควิดของจีน ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง โดยคาดราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 85-95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากปีนี้คาดอยู่ที่ 96-101 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล, ราคาก๊าซฯปรับตัวลดลงที่114-119 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากปีนี้คาด 130-135 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และค่าการกลั่นสิงคโปร์ ลดลงเหลือ 7.3-8.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากคาดปีนี้ ที่ 9.6-10.6 ดอลลาร์บาร์เรล
.
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจผู้อำนวยการอาวุโส และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า หากปตท.มีการจ่ายเงินอุดหนุนค่าไฟฟ้า 6 พันล้านบาท คาดกำไรปีหน้าจะลดลง 6%จากที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ที่ 9.6 หมื่นล้านบาท และมีผลกระทบต่อราคาหุ้นลดลง 6.24 บาท หรืออยู่ที่ 39.79 บาท จากราคาเป้าหมายปีหน้า42.40 บาท
.
ทั้งนี้ยังมีความกังวลว่าระยะเวลาในการช่วยเหลือจะมากกว่า 4 เดือนหรือไม่ หากราคาก๊าซฯยังไม่ปรับตัวลง ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ยังกดดัน โดยฝ่ายวิจัยกำลังติดตามเรื่องนี้ หากมีความชัดเจนมากขึ้น อาจจะมาพิจารณาปรับประมาณการกำไร และราคาเป้าหมายอีกครั้ง
.
สำหรับนักลงทุนที่จะเข้าลงทุนในหุ้นปตท.นั้นนักลงทุนควรที่จะพิจารณา ที่ราคาหุ้นมีอัพไซด์ประมาณ 20-25% จากราคาเป้าหมายของโบรกที่ให้ไว้ และมากกว่าหุ้นตัวอื่นที่จะมีอัพไซด์ 15% เพราะ ปตท.มีความเสี่ยงในเรื่องของการช่วยภาครัฐอุดหนุนราคาพลังงานจากที่เป็นบริษัทพลังงานของชาติ
.
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล. ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นกลุ่มน้ำมันที่ปรับตัวลงวานนี้ โดยเฉพาะหุ้น ปตท. มาจาก 2 ปัจจัย คือ ราคาน้ำดิบโลกที่ปรับตัวลงแรง 2% และราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าลง 3% ณ 15.40 น. วานนี้อยู่ที่ 73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งต่ำสุดของปีนี้ และต่ำสุดในรอบ 11 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. 2564 เพราะ สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดที่ประเทศจีน มีผู้ติดเชื้อสูงขึ้นและทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง 5 วันที่ผ่านมา ล่าสุดมีผู้ติดเชื่อเพิ่มขึ้นที่ 4 หมื่นคนต่อวัน
.
ส่วนปัจจัยที่ 2 คือ กพช. ได้ขอความร่วมมือจาก ปตท.ให้พิจารณาจัดสรรรายได้จากการดำเนินธุรกิจโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ประมาณ 1.5 พันล้านบาทต่อเดือน ระยะเวลา 4 เดือน (ตั้งแต่เดือนม.ค. – เม.ย. 2566) รวม 6 พันล้าน ซึ่งจะฉุดกำไรปีหน้าของปตท.
.
สำหรับไตรมาส 4 ปีนี้ คาดปตท.จะมีผลขาดทุนสต็อกน้ำมันไม่สูงเท่ากับไตรมาส3 ปีนี้ เพราะ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่งลดลงมา 3 ดอลลาร์ จากราคาปิดณ สิ้นไตรมาส 3 อยู่ที่ 79.5ดอลลาร์ แต่ต้องติดตามสถานการณ์ในจีนรวมถึงการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัส ในวันที่ 4 ธ.ค. 2565 จะมีมาตรการอะไรออกมาเพิ่มหรือไม่ โดยฝ่ายวิจัยคาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปีนี้อยู่ที่ 103 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงปัจจุบันเฉลี่ยที่ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และปีหน้าอยู่ที่ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนปี 2567 อยู่ที่ 77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลักๆก็มาจากประเด็นเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย
.
ส่วนผลดำเนินงานไตรมาส 4 ปีนี้ ของปตท.ยังคาดการณ์ยาก เพราะ มีบางธุรกิจที่ดี และบาง ธุรกิจไม่ดี โดย ฝ่ายวิจัยปรับลดคำแนะนำหุ้น PTT เหลือถือ และให้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 35 บาท จากเดิม38.50 บาท
.
.
#หุ้นPTT #ค่าไฟ #เศรษฐกิจ #PTT
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ #กรุงเทพธุรกิจEconomic
-------------------------------
ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
Line: https://line.me/R/ti/p/@rvb8351i
Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
Website : http://www.bangkokbiznews.com
Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
Blockdit : https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews
Tiktok : https://www.tiktok.com/@bangkokbiznews
Soundcloud: https://soundcloud.com/njqvvip1pkff
Spotify: https://qrgo.page.link/CHpWR