ชมรมหนี้บัตรเครดิต 2565 pantip

ปิดหนี้บัตรเครดิตได้เมื่อไหร่ สบายใจแน่นอน! ข้อดีของบัตรเครดิตที่เราต่างรู้ดี คือช่วยอำนวยความสะดวกทางการเงิน เพราะไม่จำเป็นต้องพกเงินสดติดตัว ที่สำคัญคือไม่ต้องเสียเงินก้อนใหญ่เวลาซื้อของ แต่หากใช้จ่ายเกินงบจนบานปลาย สะสมยอดค้างชำระจนเป็นยอดหนี้บัตรเครดิตที่น่าสะพรึง รวมกับดอกเบี้ยที่สูงจนสู้ไม่ไหว อาจสร้างปัญหาด้านการเงินที่คิดไม่ตก

เอาล่ะ ตั้งสติแล้วมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ทางการเงินกันเถอะ เพราะกรุงไทยมี 6 วิธีปิดหนี้บัตรเครดิตให้หมดไวและใช้ได้ผลมาแนะนำ เพื่อแก้ปัญหาระยะสั้น ยกความเครียดออกไปจากอกได้ทันที

1. ปิดบัตรเครดิตที่ไม่ได้ใช้

หากคุณถือบัตรเครดิตอยู่หลายใบ ให้เริ่มต้นจากปิดบัตรเครดิตที่มีแต่ไม่ได้ใช้เป็นอันดับแรก เพราะหากยังถือบัตรเครดิตที่สามารถรูดจ่ายได้เหมือนเดิม อาจกลายเป็นการสร้างภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ปัญหาติดหนี้บัตรเครดิตยังไม่ได้รับการแก้ไข

ทั้งนี้ธนาคารต่างๆ จะออกมาตรการเพื่อช่วยลดภาระให้กับลูกหนี้อยู่แล้ว โดยลูกหนี้มีทางเลือกในการชำระหนี้มากขึ้น และจะได้รับข้อเสนอที่ผ่อนปรนลงและทำได้จริง


2. เจรจากับธนาคารเจ้าของบัตร

ตรงไปธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตเพื่อเจรจาปรับเปลี่ยนโครงสร้างหนี้บัตรเครดิต ซึ่งจะเกิดผลดีในการวางแผนการจ่ายหนี้ของคุณ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้หรือไม่ยอมชำระหนี้ เมื่อดอกเบี้ยสะสมจนกลายเป็นหนี้ที่จ่ายไม่ไหวก็อาจถูกดำเนินคดีได้

ข้อดีของการเจรจากับธนาคารเจ้าของบัตรเครดิต

  • ช่วยขยายระยะเวลาผ่อนชำระ
  • ช่วยลดอัตราดอกเบี้ย
  • หยุดการคิดอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว
  • ลดหนี้ค้างชำระบางส่วน

3. รวมหนี้เป็นก้อนเดียว เพื่อทยอยชำระ

กางหนี้ของบัตรเครดิตแต่ละใบให้เห็นกันชัดๆ เพื่อเช็คยอดค้างจ่ายและดอกเบี้ยของแต่ละบัตรต่อปี จากนั้นให้ประเมินว่าเราสามารถชำระหนี้ขั้นต่ำได้จำนวนเท่าไหร่ต่อเดือน

ชมรมหนี้บัตรเครดิต 2565 pantip


แนวทางการทยอยชำระหนี้

  • พยายามปิดหนี้บัตรเครดิตที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดก่อน เพราะเป็นหนี้ที่สร้างภาระมากที่สุด
  • ถ้ามีดอกเบี้ยสูงสุดเท่ากันสองรายการ ให้เลือกนําเงินไปปิดหนี้ก้อนที่เหลือน้อยกว่าก่อน เพื่อโปะหนี้ให้หมดทีละรายการ
  • อย่ากระจายเงินใช้หนี้ไปหลายก้อน เพราะจะทําให้ภาระหนี้ต่อเดือนไม่ลดลง
  • เลือกนำเงินก้อนไปโปะหนี้ที่ลดต้นลดดอกก่อน จะได้เป็นการลดภาระดอกเบี้ยต่อเดือนให้น้อยลงด้วย

4. ซื้อของด้วยเงินสดและซื้อเฉพาะของที่จำเป็น

หากคุณเป็นคนที่ใช้จ่ายด้วยการรูดบัตรเครดิตจนติดเป็นนิสัย อาจจะต้องลองเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการใช้จ่ายด้วยเงินสดมากขึ้น ข้อดีข้อแรกคือไม่เพิ่มหนี้บัตรเครดิตใหม่ให้เพิ่มขึ้น

ข้อถัดมาคือ การใช้เงินสดทำให้เห็นจำนวนเงินที่มี และทำให้กล้าใช้เงินน้อยลง นอกจากนี้ต้องใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นไปก่อน เพื่อให้เหลือเงินใช้หนี้มากขึ้น


5. วางแผนทางการเงินอย่างจริงจัง

การบันทึกรายรับและรายจ่ายอาจดูเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากในแต่ละวัน แต่สำหรับคนที่ติดหนี้บัตรเครดิตจะมีประโยชน์อย่างมาก เพราะทำให้คุณรู้ว่าค่าใช้จ่ายรายเดือนของตัวเองอยู่ในส่วนไหนบ้าง

และเมื่อเราเห็นตัวเลขของรายรับและรายจ่ายทั้งหมดจะสามารถนำมาจัดลำดับความสำคัญ ตัดบางรายการที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อนำเงินมาลดภาระหนี้จากบัตรเครดิตได้ง่ายขึ้นอีกด้วย และที่สำคัญควรเขียนเป้าหมายทางการเงินไว้ตัวโตๆ ว่า “เราจะปิดหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดให้สำเร็จ!”

ชมรมหนี้บัตรเครดิต 2565 pantip


6. กู้สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีดอกเบี้ยต่ำ

หลังจากวางแผนทางการเงินอย่างจริงจังแล้ว การมีเงินก้อนมาโปะหนี้บัตรเครดิตก็เป็นอีกหนึ่งทางออกของปัญหานี้ โดยการเลือกกู้สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีดอกเบี้ยต่ำจะได้เงินก้อนที่สามารถนำมาปิดหนี้บัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยสูงกว่าได้

กรุงไทยอยากให้คุณปิดหนี้บัตรเครดิตได้สำเร็จ จึงออกแบบ 3 สินเชื่อส่วนบุคคลดอกเบี้ยต่ำ ที่กู้ง่าย อนุมัติไว ให้คุณมีเงินก้อนไปปิดหนี้ได้

  • สินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ สินเชื่อออนไลน์ กู้ง่าย อนุมัติไว ผ่อนสบายเพียงหมื่นละ 10 บาท/วัน สมัครได้เลยผ่าน Krungthai NEXT
  • สินเชื่อกรุงไทยเปย์เดะ สินเชื่อออนไลน์สำหรับพนักงานเอกชนที่รับเงินเดือนผ่านบัญชีกรุงไทย ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนสบายเพียงหมื่นละ 8 บาท/วัน สมัครง่าย ผ่าน Krungthai NEXT
  • สินเชื่อกรุงไทย Smart Money สินเชื่อวงเงินสูงสำหรับพนักงานประจำ และผู้ประกอบการรายย่อย สมัครที่สาขา
  • สินเชื่อเอนกประสงค์ 5 Plus สำหรับพนักงานบริษัทเอกชน ที่รับเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงไทย สมัครที่สาขา

กรุงไทยหวังว่า 6 วิธีข้างต้นจะช่วยให้คุณปิดหนี้บัตรเครดิตได้ตามแผนที่วางไว้ และปิดได้หมดไวอย่างที่ตั้งใจ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้านการเงินได้อีกครั้ง


ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://justicechannel.org/lawget/lawget-6-way-closecreditscard
https://www.thairath.co.th/business/finance/2030164

ชมรมหนี้บัตรเครดิต 2565 pantip

“คลินิกแก้หนี้ by SAM” เปิดตัว “สายด่วน ชนะหนี้ 1443” ช่วยคนเป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคล

บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” เปิดเบอร์ใหม่ “สายด่วน ชนะหนี้ 1443” เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มีปัญหาหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันกับธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน (Non-Bank) รวม 35 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้สามารถติดต่อเข้ามาปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ของ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ได้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ เนื่องจากในรอบปี 2563 ที่ผ่านมา มีผู้สนใจติดต่อสอบถามผ่านระบบ Call Center นับแสนราย ดังนั้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าหรือผู้ที่มีปัญหาหนี้เสียบัตรที่คาดว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างน้อยอีกหลายเท่าตัวในปี 2564 นี้อันเป็นผลมาจากปัญหาวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องด้านความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนในวงกว้างให้ได้รับบริการอย่างทั่วถึง “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” จึงเปิด “สายด่วน ชนะหนี้ 1443” โดยพร้อมให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-17.00 น. ผู้ที่เป็นหนี้เสียบัตรดังกล่าวไม่ควรพลาด เนื่องจากขณะนี้ “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ได้ขยายเวลาหนี้เสียที่เข้าร่วมโครงการได้ จาก เดิม วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็น ก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งคาดว่าจะช่วยผู้เป็นหนี้กลุ่มดังกล่าวที่ค้างชำระและเป็นหนี้ NPL ได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น การปรับหลักเกณฑ์ครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีที่สุดสำหรับลูกค้าที่สมัครเข้าโครงการฯ เพราะนอกจากจะได้รับดอกเบี้ยต่ำเพียง 4-7% ต่อปี และระยะเวลาการผ่อนนานสูงสุดถึง 10 ปีแล้ว ยังจะได้รับมาตรการพิเศษ “ยาแรง 2 สูตร” ที่ขยายระยะเวลาออกไปถึงเดือนมิถุนายน 2564 ได้แก่ ยาสูตร 1 การเลื่อนกำหนดชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยแก่ผู้ที่ชำระไม่ไหว โดยจะไม่ถือว่าผิดนัดชำระหนี้และไม่เสียประวัติ และ ยาสูตร 2 ลดดอกเบี้ยลง 1-2% สำหรับผู้ที่สามารถผ่อนชำระต่อเนื่องอีกด้วย และเพื่อความรวดเร็วในการพิจารณาผลการสมัคร ตามแนวคิด “เอกสารครบ-จบไว” ควรเตรียมเอกสารสำคัญประกอบการสมัคร ดังนี้ 1. สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน 2. สลิปเงินเดือนย้อนหลัง หรือเอกสารแสดงรายได้ย้อนหลัง 3 เดือน 3. รายการเดินบัญชี หรือ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน 4. เอกสารรายงานเครดิตบูโร

ผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วม “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” นอกจากการติดต่อเบอร์ใหม่ “สายด่วน ชนะหนี้ 1443” แล้ว ยังสามารถติดต่อผ่านช่องทางอื่น ๆ ได้เช่นเดิม อาทิ ช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com แอดไลน์ @debtclinicbysam และ Facebook คลินิกแก้หนี้ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง