ผู้ปกครองเช็กรายละเอียดด่วน ครม.เคาะงบ 1,320 ล้านบาท จ่ายเยียวยาเด็กเล็กรายละ 2,000 บาท กว่า 6 แสนราย วันนี้ ( 6 ต.ค. 64 )จากกรณี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติกรอบวงเงิน 1,320 ล้านบาท ภายใต้ พ.ร.ก.เงินกู้ฯ เพิ่มเติม พ.ศ.2564 แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อใช้ในโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับการช่วยเหลือเด็กเล็ก โดยผู้เข้าข่ายเงื่อนไขเพื่อรับสิทธิเยียวยามีดังนี้ เด็กเล็กที่มีสิทธิรับเงินยียวยา - เด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจำนวน 660,318 คน ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวม 18,540 แห่ง วัตถุประสงค์ของการจ่ายเยียวยา - เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับการช่วยเหลือเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจำนวน 660,318 คน ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวม 18,540 แห่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ จำนวนเงินเยียวยาที่จะได้รับ - เด็กเล็กรายละ 2,000 บาท ในกรอบวงเงินที่อนุมัติ 2,779 ล้านบาท ทั้งนี้การขยายกลุ่มเป้าหมายครั้งนี้จะช่วยบรรเทาภาระและผลกระทบทางด้านค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบทางด้านรายได้อันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 และช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กเล็กให้เป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จัดส่งรายชื่อให้กระทรวงศึกษาธิการตรวจความซ้ำซ้อนกับกลุ่มเป้าหมายโครงการ และจัดทำฐานข้อมูลรายชื่อและจำนวนนักเรียนในแต่ละระดับให้เป็นปัจจุบัน ข้อมูลจาก : รัชดา ธนาดิเรก - รองโฆษกรัฐบาล ภาพจาก : AFP
หลักเกณฑ์แจกเงินเยียวยา 3,000 บาท สำหรับเด็กแรกเกิด-6 ขวบ จำนวน 1,394,756 คน โดยจะใช้ฐานข้อมูลจากเด็กที่ได้รับเงินอุดหนุนเด็กฯ 600 บาท ณ วันที่ 31 พ.ค.63 "ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่" และแม้ว่าพ่อแม่จะได้เงินเยียวยาเราไม่ทิ้งกันหรือเงินเยียวยาเกษตรกร เดือนละ 5,000 บาทมาแล้วก่อนหน้านี้ เด็กก็จะได้รับเงินเยียวยา 3,000 บาทนี้ เพราะเป็นเงินคนละส่วนกัน #โควิด19 สรุป คือ เด็กที่ได้รับเงินอุดหนุนเด็กฯ 600 บาท ในเดือนพฤษภาคม 2563 จะได้รับเงินเยียวยา 3,000 บาทนี้ทุกคน โดยจะโอนเงินเข้าบัญชีเดียวกับที่รับเงินอุดหนุนเด็กฯ ส่วนวันโอนเงินน่าจะเป็นช่วงปลายเดือน มิ.ย. ถึงต้นเดือน ก.ค.นี้ บริษัท กฎหมายและธุรกิจ อินเตอร์ คอนซัลแตนท์ จำกัด เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายธุรกิจ มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี ปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการต่อบริษัทห้างร้านธุรกิจ และบริษัทชั้นนำ เงินเยียวยานักเรียนเพิ่ม ล่าสุดเด็กเล็กได้ด้วยทั้ง อนุบาล เตรียมอนุบาล หัวละ 2000 บาท สำรวจกรอบเวลาการดำเนินการเบื้องต้นเป็นอย่างไร ดูได้ที่นี่ ภายหลังจากวันที่ 5 ต.ค.64 คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติเงินเพิ่ม 1,320 ล้านบาท จากเงินกู้ เยียวยๅ 2,000 บาท ครอบคลุมเด็กเล็กอีก 6.6 แสนคน ภายใต้พระราชกำหนดเงินกู้ฯ เพิ่มเติมปี 64 แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อใช้ในโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาด โควิด-19 สำหรับการช่วยเหลือเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 660,318 คน ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวม 18,540 แห่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยจ่ายเป็นเงินช่วยเหลือลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของผู้ปกครองในสถานการณ์โควิด-19 รายละ 2,000 บาทต่อคน ซึ่งจะทำให้กลุ่มเป้าหมายของโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเป็น 1,389,722 คน จากเดิมที่ไม่ครอบคลุมเด็กเล็ก และกรอบวงเงินโครงการเพิ่มขึ้นเป็น 2,779 ล้านบาท บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครองและช่วยเสริมพัฒนาการเด็กเล็กให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง การขยายกลุ่มเป้าหมายครั้งนี้ จะช่วยบรรเทาภาระและผลกระทบทางด้านค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบทางด้านรายได้อันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด และยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กเล็กให้เป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง เกณฑ์คุณสมบัติ เงินเยียวยาเด็กเล็ก
กรณีรับเงินเยียวยานักเรียนแล้ว 2000 บาท จะได้รับเงินเยียวยาเด็กเล็กด้วยหรือไม่
ช่องทางการโอนเงินให้ผู้ปกครอง
ทั้งนี้ มาตรการเงินเยียวยาเด็กเล็ก จะทำให้เด็กอายุ 2-5 ปี ได้รับการช่วยเหลือเช่นเดียวกับเด็กนักเรียนทั้งสายสามัญและสายอาชีพ ในสถานศึกษาของรัฐและเอกชน ที่กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยารายละ 2,000 บาทไปแล้วจำนวน 10.8 ล้านคน ซึ่งเดิมมาตรการช่วยเหลือไม่ครอบคลุมเด็กกลุ่มดังกล่าว กระบวนการจัดสรรเงินเยียวยาจะได้วันไหน ? เบื้องต้น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น0tจัดส่งรายชื่อให้กระทรวงศึกษาธิการตรวจความซ้ำซ้อนกับกลุ่มเป้าหมายโครงการและจัดทำฐานข้อมูลรายชื่อและจำนวนนักเรียนในแต่ละระดับให้เป็นปัจจุบัน อ่านข่าวเพิ่มเติม :
Content Writer ที่จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ ประสบการณ์เขียนข่าว 6 ปี เล่าเรื่องตั้งแต่ การเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม กีฬา อาชญากรรม ไปจนทำนายว่าฝนวันนี้จะตก ไม่ตก วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ และค่อนข้างเชื่อในทฤษฎีวิวัฒนาการที่กล่าวว่า “ผู้ที่อยู่รอดไม่ใช่ผู้ที่แข็งแรงที่สุดหรือฉลาดที่สุด แต่คือผู้ที่ปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุด” |