ขึ้น เครื่องบิน ครั้งแรก นาน

แนะนำการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกไป เรียนต่อเมืองนอก 

สำหรับน้องๆที่มีเหตุจำเป็นต้องเดินทางขึ้นเครื่องบินครั้งแรกสำหรับการเดินทางไกลๆ  เพื่อเดินทางไปต่างประเทศคนเดียว น้องๆอาจรู้สึกตื่นเต้น งงๆ ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง วันนี้ ทางพี่ เก๋ ขอแนะนำการขึ้นเครื่องบิน  ขั้นตอนในการการเดินทางโดยเครื่องบินไปต่างประเทศนั้นไม่มีอะไรมาก น้องๆควรแต่งกายสบายๆ ที่สุดเพราะใช้เวลาหลายขณะ ตั้งแต่ น้อง ต้องรอที่สนามบินจนถึงเครื่องบินลงจอดที่จุดหมายที่ประเทศที่ต้องการ  ง่ายต่อการเปลี่ยนอิริยาบถทุกท่วงท่า
 

ที่สำคัญ น้องๆควรเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิอย่างน้อย 3 ช.ม.ก่อนเครื่องบินจะขึ้น  เผื่อเวลารถติด จุดตรวจความปลอดภัยที่ต้องถอดเสื้อแจ๊คแก๊ค รองเท้า เข็มขัดก็เป็นอันเสร็จพิธี การสัญจรไปต่างประเทศโดยเครื่องบินนั้น มี 3 ขั้นตอนหลักๆ คือ เดินทางเข้าสู่ภายในสนามบินเพื่อขึ้นเครื่อง  ในระหว่างอยู่บนเครื่อง ก่อน เข้าสู่พิธีตรวจคนเข้าเมือง และ  เอากระเป๋าเดินทาง

น้องๆ  เดินทางเข้าสู่ภายในสนามบินเพื่อขึ้นเครื่อง   พอไปถึงสนามบินที่เขียนว่าขาออก (Departure) ให้เข้าไปในสนามบินสุวรรณภูมิ อันดับแรก หาบอร์ดที่แสดงเวลาเที่ยวบินที่จะออกเดินทาง  จะเรียงตามลำดับเวลาก่อนหลังอยู่แล้วหาง่าย ดูตั๋วว่าเครื่องออกเวลาไหน และ ดูที่บอร์ดหาเที่ยวบินที่เวลาตรงกับตั๋ว เช่น TG999  เป็นสายการบินของการบินไทย  แต่ส่วนใหญ่ ถ้าไปต่างประเทศ มักจะไปสายการบินต่างประเทศ จะมีราคาที่ประหยัดกว่ากันเยอะเลย จากนั้นนำกระเป๋าไปชั่งที่เคาน เตอร์ของสายการบินที่จะไปยื่นพาสปอร์ตและเอกสารการซื้อตั๋วให้ผู้ปฏิบัติงาน แล้วเขาจะถามว่าเลือกที่นั่งมาหรือยัง ซึ่งส่วนใหญ่ บริษัที่เราจองมักจะจองมาให้อยู่แล้ว  หรือ หากเลือกที่ได้  เลือกที่นั่งแถวหน้าๆ หรือ ริมทางเดิน กรณีเข้าห้องส้วมบ่อย  และจะได้เข้าออกง่าย ลองคิดดู ถ้าน้องๆต้องการเข้าห้องน้ำสัก 3-4 รอบแล้วต้องมานั่งสะกิดคนข้างๆ ที่ไม่รู้จัก อาจรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ อย่างไรก็ตาม 
บางน้องๆอาจชอบชมวิว ก็เลือกที่นั่งริมหน้าต่าง   และได้มองวิว หรือ สภาพบ้านเมืองด้านล่างตอนก่อนลง ลองเลือกที่นั่งตาม ความชอบเองนะจ๊ะ แต่การเลือกขอระบุที่นั่งแบบนี้นั้น แนะนำให้น้องๆรีบไปเช็คอินตั้งแต่ 2-3 ชั่วโมงก่อนเวลาขึ้นเครื่อง แล้วจะได้ที่นั่งตามต้องการ ไม่งั้นที่นั่งที่น้องๆพึงประสงค์อาจเต็มจ้า

แล้วเขาก็จะนำกระเป๋าโหลดลงใต้ท้องเครื่องบิน ซึ่่งน้ำหนักต้องอยู่ในเกณฑ์ไม่เกิน 20-30 ก.ก.ขึ้นกับสายการบิน และไม่อนุญาตให้เอาของเหลวมากกว่า 10 ซีซี ขึ้นเครื่อง ฉะนั้น น้องๆควรใส่กระเป๋าแล้วโหลดใต้ท้องเครื่องอย่างเดียวจ้า ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น   กรรไกร หรือ กรรไกรตัดเล็บ ตะไบ ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่อง แล้วเจ้าหน้าที่ก็ออก Boarding pass   ที่มีเลขที่นั่งให้ หลังจากนั้น ให้น้องๆตรวจสอบใน Boarding pass ว่าต้องไปขึ้นเครื่องที่ประตู Gate เท่าไร  แล้วน้องๆก็เดินๆ  เข้าไป   ใน ส่วนข้างในสนามบินได้ คล้ายๆ กับเคานท์เตอร์เยอะๆ แล้วมีพนักงานคนไทยเค้าจะดูพาสปอร์ตและปั๊มตราในพาสปอร์ต แล้วก็ผ่านไป

รอขึ้นเครื่องทำอะไรดี?

ในระหว่างที่น้องๆ  เดินทางเพื่อรอขึ้นเครื่อง น้องๆก็สามารถเดินเลือกซื้อของไม่มีภาษีได้ แนะนำว่า อย่าเพิ่งซื้อ ให้ดูไว้เฉย เพราะ เอาไว้ซื้อขากลับ หรือไปซื้อที่เมืองนอก ราคาถูกกว่านะ   ใน duty free ต่างประเทศ ระหว่างรอเปลี่ยนเครื่อง มีสินค้าแบรนด์เนมมากมาย ราคาถูกกว่าในห้างสรรพสินค้าไทยถึง 20-30 %   ถ้าไม่ซื้อของ  น้องๆก็มุ่งหน้าเดินทางไปทางประตู Gate ที่เครื่องบินจอดรอเทียบ แล้วนั่งรอเวลาตรงที่ที่เขาจัดให้ พอใกล้เวลาเครื่องจะออก เจ้าหน้าที่จะเปิดทางให้เข้าไปตามงวงช้าง ก่อนเข้าต้องยื่น Boarding pass ให้พนักงานตรวจก่อน เขาจะฉีกส่วนที่เป็นชิ้นใหญ่เก็บไว้ ส่วนเราเก็บหางบัตร ไว้ดูหาที่นั่งตอนเข้าไปในเครื่อง  ตอนนี้ มีเวลาว่างก็หาของกินรองท้องไว้ก็ได้  เน้น อาหารไทยไว้นะ เพราะ รสชาติอร่อยแม้ ราคาจะแพง แต่เทียบไม่ได้กับ อาหารไทยที่ต่างประเทศ 

ขั้นตอนเมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่อง

เมื่อหาที่นั่งเจอแล้ว แนะนำให้นั่งเก็บของให้เรียบร้อย ขอให้น้องๆ รัดเข็มขัดนิรภัยเวลานั่งที่ ที่เหลือก็น้องๆ   นั่งรอ การปรนนิบัติ และเสริฟ์อาหารจากแอร์   ต่อจากนั้น พนักงานจะอธิบายการใช้อุปกรณ์ต่างๆ บนเครื่อง เช่น หูฟัง ปิด-เปิดจอหนัง อุปกรณ์ต่าง ๆ เครื่องชูชีพ หากเรือบินมีปัญหา ฟัง เสร็จ แล้วสักพัก ก็รอการเสริฟอาหาร-เครื่องดื่มให้ทาน แนะนำอย่าทานมา เพราะห้องสุขาบนเครื่องเล็ก แคบ ไม่ค่อยสะดวกนักหรอกในการเดินไป-มา เข้าห้องน้ำ นอกจากนี้ เวลาน้องๆรู้สึกง่วง หลับ อาจใส่ผ้าปิดตา จะไม่รู้สึกรำคาญใจคนที่เดินผ่านไปมา

   อย่างไรก็ตาม หากไม่แน่ใจว่าจะเมาเครื่องหรือเปล่า น้องๆควรเตรียมยาแก้เมา ไปด้วย น้องๆ อาจพกหมากฝรั่ง หรือ ลูกอม ไว้เคี้ยวกันหูอื้อ ซึ่งอาจช่วยให้ไม่เมาได้  การเดินทางโดยเครื่องบิน น้องๆอาจต้องนั่งเครื่องนานๆ อาจเมา หรือ เพลีย  เมื่อน้องๆลงมาเหยียบพื้นแล้ว ก็อาจยังรู้สึกลอยๆอยู่ แต่น้องๆไม่ต้องตกใจ พักผ่อนข้ามคืนก็หาย ที่น่ากังวลกว่าคือ การปรับสภาพตัวเองกับภูมิอากาศ กับ เวลาที่ห่างจาก ประเทศไทยมากกว่า เพราะ น้องๆมักเกิดอาการ ง่วงในช่วงเวลา ใกล้เช้า ของประเทศไทย

ในระหว่างนั่งบนเครื่องบิน น้องๆอาจพกเครื่องเล่นเพลงใส่หูฟังไว้ตลอดก็ได้ ลองคิดดูว่า หากน้องๆต้องเดินทางนั่งยาวบนเครื่องบินใช้เวลานาน 10-20 ชั่วโมง น้องๆอาจรู้สึกเบื่อ ใส่หูฟังเพลงตลอด บางทีก็ตื่นมาดูหนัง บ้างถ้า หนังมัน น่าสนใจ

แนะนำให้น้องๆมีกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่อง 1 ใบ เอาไว้ใส่ของใช้ที่จำเป็นเช่น หนังสือ สายชารจ  ยา , เครื่องใช้ส่วนตัวที่อาจต้องใช้ รวมไปจนถึงเครื่องกันหนาว คือ ออกจากประเทศไทยอาจยังไม่หนาว แต่ระหว่างทางอุณหภูมิจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ และที่ปลายทางอาจหนาวมาก ก็ต้องมีการเปลี่ยนหรือเพิ่มเครื่องนุ่มห่มกันหนาวตลอดเวลา และ เมื่อเครื่องลงจอดที่ปลายทาง น้องๆไม่ต้องรีบร้อน ตรวจเช็คสัมภาระให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ก่อนลงจากเครื่อง

"OEC ประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี "

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
กรุงเทพสาขาหัวหมาก 02-720-6844  , กรุงเทพสาขาปิ่นเกล้า 02-881-9344
เชียงใหม่ 053 285157