ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ใช้ คอม

Tel : 06-5585-9467, 08-9939-1861

ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ใช้ คอม

ตัวอย่างใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีอย่างย่อ

ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ใช้ คอม

ตัวอย่างใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีอย่างย่อ

Address

บริษัท คอมแพทบิส จำกัด (สำนักงานใหญ่)
91/115 หมู่ที่ 11 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา
จ.ปทุมธานี 12150
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี : 0105559019894
โทรศัพท์ : 06-5585-9467, 08-9939-1861

วัน เวลา ทำการ

วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 09:00 น. – 17:00 น.


ฝ่ายขาย / ฝ่ายบริการ
สอบถามข้อมูล หรือขอคำแนะนำการใช้งาน
โทรศัพท์ : 06-5585-9467, 08-1782-1302
ไอดีไลน์ : wan151
อีเมล์ :


ฝ่ายเทคนิค
ปรึกษาด้านเทคนิค, ฮาร์ดแวร์, พัฒนาซอฟต์แวร์
โทรศัพท์ : 08-9939-1861
ไอดีไลน์ : @compatbiz
อีเมล์ :

ID LINE Official : @compatbiz

ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ใช้ คอม

ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ใช้ คอม

Your IP Address

132.145.101.69

㺡ӡѺ�������ҧ���

㺡ӡѺ�������ҧ�����Ҩо���繡ѹ�繻�Ш� �ҡ��ҧ��þ�Թ��� �ѡɳ� ����Ըա������ػ ����Ѻ㺡ӡѺ�������ҧ��� ����ҵ�� 86/6 ���� ����Сͺ��è�����¹ ����Сͺ�Ԩ��â���Թ����ѡɳТ�»�ա ��������ԡ�������������ؤ�Ũӹǹ�ҡ �����С��͸Ժ�ա����þҡ�����ǡѺ������Ť������ (��Ѻ��� 32) ����ػ��ѧ��� ���繡�â���ªѴ��ѧ��� �繡�â���������������µç �������㹻���ҳ��觵����������¢ͧ����������鹨й��Թ���仺����� ������������������ѵ�ػ��ʧ����й�仢�µ��

�������ԡ����ѡɳк�ԡ�����������ؤ�Ũӹǹ�ҡ ���ѵ�Ҥ�� �ç�Ҿ¹��� ��������ѹ

�͡��鹶���ҡ����Сͺ��÷��������ࡳ������С��� ����ҡ�դ������ʧ����͡㺡ӡѺ�������ҧ��� �Т�͹��ѵԵ��͸Ժ�ա����þҡ� ������ʴ��˵ؼ���Ф������繡��� 㹡��͹���Ե� ͸Ժ�ա����þҡ� �С�˹���ѡࡳ��������͹䢵ҷ���������� (�ҵ�� 86/7)

��¡���㺡ӡѺ�������ҧ��� ��ͧ����������´���ҧ���´ѧ���仹��

1.��ͧ�դ���� "㺡ӡѺ�������ҧ���" �����繪Ѵਹ �µվ���� ���ͨѴ�Ӣ�鹴����к����������� �óըѴ��㺡ӡѺ���բ�鹴��¤����������駩�Ѻ

2.�������ͪ������ �����Ţ��Шӵ�Ǽ���������� �ͧ����Сͺ��è�����¹

3.�����Ţ�ӴѺ�ͧ㺡ӡѺ���� ���(�����Ţ�ӴѺ���� (�����))

4.���� ��Դ ������ ����ҳ �����Ť�Ңͧ�Թ��� ���ͺ�ԡ�� �ó������� �Թ������ͺ�ԡ�� �е�ͧ�����͸Ժ�ա����þҡ÷�Һ��ǧ˹�������¡��� 15 �ѹ��͹������

5.�Ҥ��Թ������ͤ�Һ�ԡ�� ��ͧ�к� �����������Ť����������

6.�ѹ ��͹ ��� ����͡㺡ӡѺ����

���ͧ�ҡ�բ�͢Ѵ���㹡����㺡ӡѺ��������ҧ��� 㹡�ù��繤�������㹡�äӹdz���� ���͢Ҵ�ع�ط�������������չԵԺؤ�� ���ͻ�ͧ�ѹ��������ҡ���觷���Ҩ���Դ����͹Ҥ� �����ͤ�����¡㺡ӡѺ��������ٻ �ҡ������Թ��� ���ͺ�ԡ�� �»�С��͸Ժ�� ����ǡѺ������Ť������ ��Ѻ��� 32 ��˹�������͡㺡ӡѺ�������ҧ��� �ҡ�������Թ��� ���ͺ�ԡ�����¡��ͧ㺡ӡѺ��������ٻ᷺㺡ӡѺ�������ҧ��� ����Сͺ��èе�ͧ�Ѵ���·ѹ��

ข้อหารือ

บริษัท ก. ออกใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีอย่างย่อ หากผู้ใช้บริการต้องการเครดิตภาษีซื้อ จะนำต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีอย่างย่อมาขอใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ซึ่งบริษัท ก. ต้องจัดเก็บสำเนาใบกำกับภาษีเป็นจำนวน จึงได้นำวิธีการจัดเก็บเอกสารหลักฐานไว้ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.121/2545ฯ ลงวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2545 บริษัท ก. จึงขอทราบว่า

        1. เมื่อได้มีการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการจัดเก็บเอกสารหลักฐานแล้ว บริษัท ก. จะต้องจัดเก็บสำเนาใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีอย่างย่อต่อไปอีกหรือไม่

        2. เมื่อผู้รับบริการนำต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน /ใบกำกับภาษีอย่างย่อมาขอใบเสร็จรับเงิน /ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป บริษัท ก. จะต้องยกเลิกต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีอย่างย่อ แล้วนำต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีอย่างย่อที่ยกเลิกดังกล่าวมาแนบและเก็บรักษาไว้กับสำเนาใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปต่อไปอีกหรือไม่

แนววินิจฉัย

1. กรณีบริษัท ก. ได้จัดทำเอกสารหลักฐานตามประมวลรัษฎากรที่เป็นต้นฉบับในรูปแบบกระดาษและจัดเก็บสำเนาไว้ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ย่อมกระทำได้ ทั้งนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่ต้องเป็นไปตามทางปฏิบัติที่กรมสรรพากรได้ วางไว้ ตามหลักเกณฑ์ข้อ 5 และข้อ 6 ของคำสั่งกรมสรรพากรฉบับดังกล่าว

 2. กรณีผู้รับบริการได้รับใบกำกับภาษีอย่างย่อ ซึ่งมีรายการตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร ประสงค์จะได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร บริษัท ก. ต้องยกเลิกใบกำกับภาษีฉบับเดิมและจัดทำใบกำกับภาษีฉบับใหม่โดยนำใบกำกับภาษีฉบับเดิมมาประทับตราว่า "ยกเลิก" หรือ "ขีดฆ่า" แล้วเก็บรวบรวมไว้กับสำเนาใบกำกับภาษีฉบับเดิมและจัดทำใบกำกับภาษีฉบับใหม่ ซึ่งเป็นเลขที่ใหม่และจะต้องลงวันเดือน ปี ให้ตรงกับวัน เดือน ปี ตามใบกำกับภาษีฉบับเดิม พร้อมทั้งหมายเหตุไว้ในใบกำกับภาษีฉบับใหม่ว่า "เป็นการยกเลิกและออกใบกำกับภาษีฉบับใหม่แทนฉบับเดิมเลขที่ ...เล่มที่ ..." นอกจากนั้นให้บริษัท ก. หมายเหตุ การยกเลิกใบกำกับภาษีไว้ในรายงานภาษีขายของเดือนภาษีที่จัดทำใบกำกับภาษีฉบับใหม่ด้วย

บริษัทฯ มีหนังสือหารือสำนักงานสรรพากรจังหวัด เรื่อง การออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแทน
ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ปรากฏข้อเท็จจริง ดังนี้

1. บริษัทฯ มีนโยบายใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ซึ่งเมื่อลูกค้า ต้องการเปลี่ยนจากใบกำกับภาษีอย่างย่อเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป บริษัทฯ จะออก ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปให้โดยใช้โปรแกรมในคอมพิวเตอร์ ขั้นตอนในการขอออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป มีดังนี้

- ลูกค้านำใบกำกับภาษีอย่างย่อคืนบริษัทฯ
- พนักงานตรวจสอบว่าเป็นใบกำกับภาษีของบริษัทฯ หรือไม่ และวันที่ใน ใบกำกับภาษีเป็น วันที่ปัจจุบันหรือไม่
- พนักงานเรียกข้อมูล โดยเรียกเลขที่ตามใบกำกับภาษีอย่างย่อเดิมที่ลูกค้านำมาคืน และขอ ชื่อที่อยู่ของลูกค้า เพื่อบันทึกข้อมูลชื่อที่อยู่และพิมพ์ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปให้ลูกค้าโดยเลขที่ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปจะตรงกับเลขที่ใบกำกับภาษีอย่างย่อในรายงานภาษีขายที่ออกเมื่อสิ้นวันจะมีเลขที่ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่ออกใหม่ให้ลูกค้าและในช่องหมายเหตุจะมีคำว่า "ออกแทนใบกำกับภาษีอย่างย่อ เลขที่ ..."

บริษัทฯ ขอทราบว่า กรณีออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปมีเลขที่ตรงกับใบกำกับภาษีอย่างย่อซึ่ง ทำให้เลขที่ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปไม่เรียงตามลำดับถูกต้องหรือไม่ อย่างไร

2. สำนักงานสรรพากรจังหวัดเห็นว่า การออกใบกำกับภาษีสำหรับการขายสินค้าหรือ ให้บริการทุกครั้ง ต้องออกให้ในทันทีที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตามมาตรา 86 แห่ง ประมวลรัษฎากร สำหรับการเปลี่ยนใบกำกับภาษีอย่างย่อเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูต้องกระทันทีใน ขณะที่ออกใบกำกับภาษีและยกเลิกใบกำกับภาษีอย่างย่อฉบับที่ออกไปแล้วโดยกลัดติดไว้ในสำเนาเครื่อง ออกใบเสร็จรับเงิน

การที่บริษัทฯ ออกใบกำกับภาษีอย่างย่อแล้วจะเปลี่ยนเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปใน ภายหลังไม่อาจทำได้ เนื่องจากจะเป็นการออกใบกำกับภาษีเมื่อพ้นกำหนดเวลาตามมาตรา 86 แห่ง
ประมวลรัษฎากร

3. สำนักงานสรรพากรภาคเห็นว่า บริษัทฯ มีสิทธิออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแทน ใบกำกับภาษีอย่างย่อได้ เนื่องจากไม่มีกำหนดเวลากรณีการยกเลิกและออกใบแทนใบกำกับภาษีแต่บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังนี้

(1) บริษัทฯ ต้องเรียกใบกำกับภาษีอย่างย่อคืนและประทับตราว่ายกเลิกหรือขีดฆ่าและ เก็บรวบรวมไว้กับสำเนาเครื่องออกใบเสร็จรับเงินและให้ออกใบกำกับภาษีฉบับใหม่ให้ตรงวันเดือนปีใน ใบกำกับภาษีอย่างย่อพร้อมทั้งระบุชื่อที่อยู่ของลูกค้าและหมายเหตุในใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปว่า "เป็นการ ยกเลิกใบกำกับภาษีอย่างย่อและออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแทนเลขที่....เล่มที่...."

(2) บริษัทฯ ต้องหมายเหตุการยกเลิกใบกำกับภาษีอย่างย่อไว้ในรายงานภาษีขายประจำ เดือนที่ออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแทนด้วยว่า "ใบกำกับภาษีเล่มที่....เลขที่....เป็นการออกแทน ใบกำกับภาษีอย่างย่อเลขที่....วันที่......"

(3) ลูกค้าผู้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแทนใบกำกับภาษีอย่างย่อต้องส่งมอบ ใบกำกับภาษีอย่างย่อคืนให้แก่บริษัทฯ โดยจะต้องถ่ายเอกสารใบกำกับภาษีอย่างย่อแนบกับ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปเก็บไว้ ณ สถานประกอบการของลูกค้าด้วย

(4) การออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปจะต้องออกเรียงตามลำดับที่ได้ออกไปก่อนหน้าแล้ว จะนำเลขที่วันที่ในใบกำกับภาษีอย่างย่อมาออกในใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปไม่ได้

แนววินิจฉัย

กรณีบริษัทฯ ออกใบกำกับภาษีอย่างย่อตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่ผู้ซื้อ สินค้าหรือผู้รับบริการไปแล้ว ต่อมาผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการต้องการเปลี่ยนเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร นั้น

บริษัทฯ มีสิทธิยกเลิกใบกำกับภาษีอย่างย่อฉบับเดิมและ ออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปให้กับผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการได้เนื่องจาก ไม่มีกฎหมายใดห้าม ผู้ประกอบการจดทะเบียนยกเลิกใบกำกับภาษีอย่างย่อฉบับเดิมแล้วออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแทนแต่

อย่างใด ทั้งนี้ ให้นำหลักเกณฑ์ข้อ 25 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.86/2542 เรื่อง หลักเกณฑ์การ จัดทำใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/5 แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่มีลักษณะเป็นแบบ เต็มรูป ลงวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 มาบังคับใช้โดยอนุโลม

กค 0811/พ.00342

บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ประเภทผลิต ขายส่ง ส่งออก อาหารสำเร็จรูป ขนมและเครื่องดื่ม และนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักร ต่อมาบริษัทฯ ได้นำเข้าเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (เครื่องอัตโนมัติ) เพื่อจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องดื่มและอาหารบรรจุกระป๋อง จึงขอทราบว่า

1. การขายสินค้าโดยเครื่องอัตโนมัติถือเป็นการค้าปลีกหรือไม่ และบริษัทฯ จะต้อง
ออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปหรืออย่างย่อ

2. บริษัทฯ จะต้องจัดทำใบกำกับภาษีในวันที่บริษัทฯ บรรจุสินค้าเข้าเครื่องอัตโนมัติ หรือวันที่นำเงินออกจากเครื่องอัตโนมัติ

3. บริษัทฯ จะต้องแจ้งเปลี่ยนแปลงทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.09) หรือไม่ อย่างไร

4. การนำเครื่องอัตโนมัติไปติดตั้งตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อจำหน่ายสินค้าจะต้องจดทะเบียนเพิ่มสาขาหรือไม่

5. ในการติดตั้งเครื่องอัตโนมัติในสถานที่ต่าง ๆ บริษัทฯ ได้ตกลงจ่ายค่าตอบแทนให้กับเจ้าของสถานที่ “ผู้ให้อนุญาต” ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา บริษัทหรือนิติบุคคลอื่น ๆ หน่วยงานราชการโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในลักษณะของค่าเช่าเหมา หรือค่าไฟฟ้าเหมา หรือเปอร์เซนต์จากการขาย ขึ้นอยู่กับการตกลงว่าจะใช้รูปแบบใด บริษัทฯ จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราเท่าใด

แนววินิจฉัย

กรณีตามข้อเท็จจริง

1. การขายเครื่องดื่มและอาหารบรรจุกระป๋อง ที่บรรจุอยู่ในเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าที่ผู้ขายทราบโดยชัดแจ้งว่า เป็นการขายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง และในปริมาณซึ่งตามปกติวิสัยของผู้บริโภคโดยตรง และในปริมาณซึ่งตามปกติของผู้บริโภคนั้นจะนำสินค้าไปบริโภคหรือใช้สอยโดยมิได้มีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปขายต่อไป ถือเป็นกิจการค้าปลีกตามมาตรา 86/6
แห่งประมวลรัษฎากรประกอบกับข้อ 2 (1) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม(ฉบับที่ 32)ฯ ลงวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2535 บริษัทฯ มีสิทธิออกใบกำกับภาษีอย่างย่อได้ตามมาตรา86/6 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร

2. การขายเครื่องดื่มและอาหารบรรจุกระป๋อง ที่บรรจุอยู่ในเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติดังกล่าว ไม่ว่าจะมีการชำระราคาโดยวิธีการหยอดเงิน เหรียญ บัตร หรือด้วยวิธีการในลักษณะทำนองเดียวกัน ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อได้นำเงิน เหรียญ บัตร หรือด้วยวิธีการในลักษณะทำนองเดียวกันออกจากเครื่องอัตโนมัตินั้นตามข้อ 3 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 189 (พ.ศ.
2534) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มบางกรณี ลงวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2534

บริษัทฯ ประกอบกิจการค้าปลีกดังกล่าว จึงมีสิทธิออกใบกำกับภาษีอย่างย่อในขณะที่ความรับผิดชอบในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวเกิดขึ้นได้ตามมาตรา 86/6 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร

3. เดิมบริษัทฯ ได้จดทะเบียนประเภทของสินค้าเพียง ผลิต ขายส่ง และส่งออกอาหารสำเร็จรูป ขนม และเครื่องดื่ม ต่อมาเมื่อบริษัทฯ ได้ประกอบกิจการค้าปลีกจึงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงรายการที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในสาระสำคัญ บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ต้องแจ้งเพิ่มประเภทของการประกอบกิจการ “ขายปลีก” ณ สถานที่ที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ภายในสิบห้าวันนับจากวันที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตามมาตรา 85/6 แห่งประมวลรัษฎากร

4. การที่บริษัทฯ นำเครื่องอัตโนมัติไปติดตั้งตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อจำหน่ายสินค้า ถ้าบริษัทฯ มิได้จัดให้มีพนักงานหรือบุคคลใดเป็นผู้ให้บริการขายสินค้าในเครื่องอัตโนมัติ กรณีไม่ถือว่าเครื่องอัตโนมัติดังกล่าวเป็นสถานประกอบการตามมาตรา 77/1 (20) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงไม่มีหน้าที่แจ้งการเปิดสถานประกอบการที่ติดตั้งเครื่องอัตโนมัติเพิ่มเติมตามมาตรา 85/7 แห่งประมวลรัษฎากร

5. การที่บริษัทฯ และผู้ให้อนุญาตทำสัญญาอนุญาตให้ติดตั้งเครื่องอัตโนมัติโดยที่ผู้ให้อนุญาตยังเป็นผู้ควบคุมดูแลพื้นที่ติดตั้งนั้น มิได้ส่งมอบการครอบครองพื้นที่ให้บริษัทฯ โดยเด็ดขาด ทั้งผู้ให้อนุญาตมีหน้าที่จะต้องดูแลและรักษาเครื่องอัตโนมัติให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เรียบร้อยพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลาและแจ้งให้บริษัทฯ ทราบเมื่อเครื่องอัตโนมัติชำรุดเสียหายหรือขัดข้องไม่สามารถใช้งานได้

สัญญาดังกล่าวนั้นจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนประเภทหนึ่งซึ่งไม่ใช่สัญญาเช่าทรัพย์สินหรือสัญญาจ้างทำของค่าตอบแทนตามสัญญาดังกล่าว จึงไม่ใช่ค่าเช่าทรัพย์สินและค่าจ้างทำของ

เมื่อบริษัทฯ จ่ายเงินค่าตอบแทนดังกล่าว จึงไม่มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายตามคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 ฯ ลงวันที่26 กันยายน พ.ศ. 2528 แต่อย่างใด

คุณ Weeree Kanjanawaikoon ได้โพสต์ไปในไทม์ไลน์ “สุเทพ พงษ์พิทักษ์” แฟนเพจ เมื่อ 1 พ.ย. 2556 เวลา 9:21 น. ว่า

“เรียน ท่านอาจารย์สุเทพ

คำถาม

วันนี้มีเรื่องที่จะขอรบกวนสอบถามความเข้าใจเกี่ยวกับใบกำกับภาษีอย่างย่อค่ะ

1. กรณีที่บริษัทฯ จะออกบูทขายสินค้าตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อขายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง ซื่งการซื้อขายแต่ละครั้งไม่น่าจะเกิน 1000 บาทต่อราย ซึ่งถ้าพิจารณาตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มฉบับที่ 154 แล้ว บริษัทจะถือว่าเป็นผู้ประกอบการขายสินค้าหรือให้บริการรายย่อย ซึ่งมีสิทธิที่จะออกใบกำกับภาษีอย่างย่อได้ โดยไม่ต้องขออนุมัติจากกรมสรรพากร และกรณีที่ผู้ซื้อไม่เรียกร้องใบกำกับภาษี บริษัทสามารถที่จะรวบรวมรายการขายเพื่อออกใบกำกับภาษีอย่างย่อเพียง 1 ใบ ต่อการขายสินค้าใน 1 วันทำการได้ ไม่ทราบว่าที่ดิฉันเข้าใจอย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ค่ะ

2. ถ้าบริษัทต้องการที่จะใช้เครื่องบันทึกการเก็บเงินเพื่อออกใบกำกับภาษีอย่างย่อเวลาที่ไปออกบูทในสถานที่ต่าง ๆ โดยเครื่องเก็บเงินนี้จะไม่มีการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์แต่อย่างไร จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนเครื่องพริ้นเตอร์ และพอสิ้นวันบริษัทก็จะพิมพ์สรุปการขายออกมา เพื่อนำไปบันทึกในระบคอมพิวเตอร์ของบริษัทเพียง 1 ใบ ในกรณีเช่นนี้บริษัทจำเป็นที่จะต้องขออนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรก่อนหรือไม่ค่ะ

ขอบคุณค่ะ”

ตอบคำถาม

เรียน คุณ Weeree Kanjanawaikoon
1. กรณีที่บริษัทฯ จะออกบูทขายสินค้าตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อขายสินค้าให้กับผู้บริโภคโดยตรง ซื่งการซื้อขายแต่ละครั้งไม่น่าจะเกิน 1000 บาทต่อราย นั้น

(1) กรณีดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นเป็นกิจการค้าปลีกตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 32) ลงวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา โดยอธิบดีกรมสรรพากรกำหนดลักษณะและเงื่อนไขของการประกอบกิจการขายสินค้าในลักษณะขายปลีกหรือประกอบกิจการให้บริการในลักษณะบริการรายย่อยแก่บุคคลจำนวนมาก ให้เป็นกิจการค้าปลีก ไว้ดังต่อไปนี้

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 32)

“ข้อ 2 การประกอบกิจการขายสินค้าในลักษณะขายปลีกหรือการให้บริการในลักษณะบริการรายย่อยแก่บุคคลจำนวนมาก ซึ่งเป็นกิจการค้าปลีกต้องมีลักษณะหรือเงื่อนไขดังต่อไปนี้

(1) เป็นการขายสินค้าที่ผู้ขายทราบโดยชัดแจ้งว่าเป็นการขายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรงและได้ขายในปริมาณซึ่งตามปกติวิสัยของผู้บริโภคนั้นจะนำสินค้าไปบริโภคหรือใช้สอยโดยมิได้มีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปขายต่อไป เช่น การขายสินค้าของกิจการแผงลอยกิจการขายของชำ กิจการขายยา กิจการจำหน่ายน้ำมัน และกิจการห้างสรรพสินค้า ทั้งนี้ เฉพาะในการขายสินค้าที่เป็นไปตามลักษณะและหรือเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้น

(2) การให้บริการในลักษณะบริการรายย่อยแก่บุคคลจำนวนมาก เช่น การให้บริการของกิจการภัตตาคาร กิจการโรงแรม กิจการซ่อมแซมทุกชนิด กิจการโรงภาพยนตร์ และกิจการสถานบริการน้ำมัน เป็นต้น

กิจการภัตตาคารได้แก่กิจการขายอาหารหรือเครื่องดื่มไม่ว่าชนิดใด ๆ รวมทั้งกิจการรับจ้างปรุงอาหารหรือเครื่องดื่ม ทั้งนี้ ไม่ว่าในหรือนอกสถานที่ซึ่งจัดไว้ให้ประชาชนเข้าไปบริโภคได้

(3) ผู้ประกอบการตาม (1) และ (2) ต้องจัดทำใบกำกับภาษีและสำเนาใบกำกับภาษี ซึ่งมีรายการครบถ้วนตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการทุกครั้งที่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการเรียกร้อง พร้อมทั้งส่งมอบใบกำกับภาษีดังกล่าว ให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ”

ซึ่งในกรณีนี้ บริษัทฯ มีสิทธิออกใบกำกับภาษีอย่างย่อมิใช่การออกด้วยเครื่องบันทึกการเก็บเงิน (Cash Register) โดยไม่ต้องขออนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรแต่อย่างใด

(2) สำหรับกรณีตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 154) ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2546 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2546 เป็นต้นมานั้น เป็นกรณีที่อธิบดีกรมสรรพากรอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 86/8 แห่งประมวลรัษฎากร

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 154)

กำหนดลักษณะ และเงื่อนไขของการประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการรายย่อย และการออกใบกำกับภาษีของผู้ประกอบการจดทะเบียนตามมาตรา 86/8 แห่งประมวลรัษฎากร

ให้ได้สิทธิไม่จำต้องออกใบกำกับภาษีสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการที่มีมูลค่าครั้งหนึ่งไม่เกิน 1,000 บาท เว้นแต่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการจะเรียกร้องใบกำกับภาษี ไว้ดังต่อไปนี้

“ข้อ 2 กำหนดให้การประกอบกิจการดังต่อไปนี้เป็นการขายสินค้าหรือให้บริการรายย่อย

(1) การขายสินค้าหรือให้บริการซึ่งผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่เคยมีมูลค่าของฐานภาษีในเดือนใดถึง 300,000 บาท

(2) การขายสินค้าหรือให้บริการซึ่งผู้ประกอบการจดทะเบียนมีสถานประกอบการแต่ละแห่งเป็นรถเข็น แผงลอย หรือหน่วยขายที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน

(3) การให้บริการการแสดง การเล่น การกีฬา การแข่งขัน การประกวด หรือการกระทำใดๆ ในลักษณะทำนองเดียวกันที่จัดขึ้นเพื่อเก็บเงินจากผู้ดู ผู้ฟัง ผู้เล่น หรือผู้เข้า แข่งขัน

(4) การประกอบกิจการให้บริการโทรศัพท์สาธารณะ
(5) การประกอบกิจการให้บริการทางพิเศษหรือทางหลวงสัมปทาน
(6) การประกอบกิจการให้บริการสนามบิน
(7) การประกอบกิจการให้บริการสาธารณะที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการขนส่งมวลชน เช่น การให้บริการสถานที่จอดรถหรือให้บริการห้องสุขาแก่ประชาชนผู้มาใช้บริการรถไฟฟ้า
คำว่า “กิจการขนส่งมวลชน” หมายความว่า การให้บริการรับขนส่งสาธารณชนผู้ใช้ระบบขนส่งมวลชน

ข้อ 3 ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการรายย่อยตามข้อ 2 ไม่จำต้องออกใบกำกับภาษีสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการที่มีมูลค่าครั้งหนึ่งไม่เกิน 1,000 บาท เว้นแต่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการจะเรียกร้องใบกำกับภาษี

ข้อ 4 ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนดังกล่าวจัดทำใบกำกับภาษีอย่างย่อรวบรวมการขายสินค้าหรือการให้บริการที่มีมูลค่าครั้งหนึ่งไม่เกิน 1,000 บาท ในหนึ่งวันทำการเพื่อเป็นเอกสารประกอบการลงรายการในรายงานภาษีขายตามมาตรา 87 (1) แห่งประมวลรัษฎากร

โดยให้ลงรายการในรายงานภาษีขายเฉพาะมูลค่าสินค้าหรือบริการและจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมดต่อวันที่ได้รับหรือพึงได้รับซึ่งเกิดจากใบกำกับภาษีดังกล่าว โดยต้องเก็บใบกำกับภาษีดังกล่าวไว้ตามมาตรา 87/3 แห่งประมวลรัษฎากรด้วย”

ดังนั้น หากลักษณะของการประกอบกิจการของบริษัทฯ ไม่ต้องด้วยประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 154) บริษัทฯ ก็ไม่อาจถือได้ว่าเป็นผู้ประกอบการขายสินค้าหรือให้บริการรายย่อย

ซึ่งบริษัทฯ ต้องออกใบกำกับภาษีอย่างย่อให้แก่ผู้ซื้อสินค้าทุกครั้งที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น

เว้นแต่ กรณีผู้ซื้อเรียกรับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร จึงขอให้ทำความเข้าใจข้อกฎหมายโดยถ้วนถี่เสียก่อน

2. กรณีบริษัทฯ ประสงค์จะใช้เครื่องบันทึกการเก็บเงินเพื่อออกใบกำกับภาษีอย่างย่อ เมื่อไปออกบูทในสถานที่ต่างๆ โดยเครื่องเก็บเงินนี้จะไม่มีการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์แต่อย่างไร จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนเครื่องพริ้นเตอร์ และพอสิ้นวันบริษัทก็จะพิมพ์สรุปการขายออกมา เพื่อนำไปบันทึกในระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทเพียง 1 ใบ นั้น

บริษัทฯ ต้องได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากรประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 46) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์การขออนุมัติใช้เครื่องบันทึกการเก็บเงินเพื่อออกใบกำกับภาษีอย่างย่อ และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้เครื่องบันทึกการเก็บเงินตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2536 ดังนี้

“ข้อ 2 ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งประกอบกิจการค้าปลีกตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 32) เรื่อง กำหนดลักษณะและหรือเงื่อนไขของการประกอบกิจการขายสินค้าในลักษณะขายปลีกหรือประกอบกิจการให้บริการในลักษณะบริการรายย่อยแก่บุคคลจำนวนมาก ให้เป็นกิจการค้าปลีกตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2535 ซึ่งประสงค์จะใช้เครื่องบันทึกการเก็บเงินเพื่อออกใบกำกับภาษีอย่างย่อ ยื่นคำขออนุมัติใช้เครื่องบันทึกการเก็บเงินต่ออธิบดีกรมสรรพากร

คำขออนุมัติให้ยื่นตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด โดยจะต้องแนบเอกสารและรายการดังต่อไปนี้พร้อมกับคำขออนุมัติ
         (1) คุณสมบัติโดยย่อของเครื่องบันทึกการเก็บเงิน
         (2) รายละเอียดรุ่น ยี่ห้อ หมายเลขประจำเครื่อง (Serial Number) และจำนวนเครื่องบันทึกการเก็บเงินที่ขออนุมัติ
         (3) แผนผังแสดงตำแหน่งการวางเครื่องบันทึกการเก็บเงิน
         (4) ในกรณีที่มีการต่อเชื่อมเครื่องบันทึกการเก็บเงินเข้ากับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น ให้แสดงแผนผังระบบการต่อเชื่อมดังกล่าวด้วย
         (5) ตัวอย่างใบกำกับภาษีอย่างย่อ และตัวอย่างรายงานการขายสินค้าหรือการ

กค 0706/3280

บริษัท อ. จำกัด ประกอบกิจการขายส่งและขายปลีกนาฬิกาข้อมือภาพสตรี บริษัทฯ ได้ขายโดยตรงกับบุคคลหรือร้านนาฬิกาในต่างจังหวัด ซึ่งลูกค้าบางรายไม่ยอมรับใบกำกับภาษีที่บริษัทฯ ออกให้สำหรับการขายสินค้าที่ซื้อ บริษัทฯ จึงขอทราบว่า บริษัทฯ มีสิทธิออกใบกำกับภาษีอย่างย่อได้หรือไม่ และบริษัทฯ มีสิทธิออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป โดยไม่ต้องระบุชื่อผู้ซื้อได้หรือไม่ อย่างไร ่

               1. กรณีบริษัทฯ ขายนาฬิกาข้อมือสุภาพสตรี หากเป็นการขายที่บริษัทฯ ทราบโดยชัดแจ้งว่า เป็นการขายให้แก่ผู้ซื้อซึ่งเป็นผู้บริโภคโดยตรง และได้ขายในปริมาณซึ่งตามปกติวิสัยของผู้บริโภคนั้นจะนำสินค้าไปบริโภค หรือใช้สอยโดยมิได้มีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปขายต่อไป จึงเข้าลักษณะเป็นการประกอบกิจการขายสินค้าในลักษณะขายปลีกซึ่งเป็นกิจการค้าปลีกตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 32 ) เรื่อง กำหนดลักษณะ และเงื่อนไขของการประกอบกิจการขายสินค้าในลักษณะขายปลีก หรือประกอบกิจการให้บริการในลักษณะบริการรายย่อยแก่บุคคลจำนวนมาก ให้เป็นกิจการค้าปลีกตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่8 เมษายน พ.ศ. 2535 บริษัทฯ มีสิทธิออกใบกำกับภาษีอย่างย่อซึ่งต้องมีรายการอย่างน้อยตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร 

            2. กรณีบริษัทฯ ขายส่งนาฬิกาข้อมือสุภาพสตรี บริษัทฯ จะต้องออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ซึ่งต้องมีรายการอย่างน้อยตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร หากบริษัทฯ ออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปโดยไม่ระบุชื่อที่อยู่ของผู้ซื้อสินค้า บริษัทฯ มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท ทั้งนี้ ตามมาตรา 86/4(3) และมาตรา 90(12) แห่งประมวลรัษฎากร

คุณ Tiew Panthita‎ (21 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 14:38 น.)
เรียน อาจารยสุเทพ ที่เคารพ
รบกวนถามปัญหาดังนี้ค่ะ

1. บริษัทฯ อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ประกอบกิจการซื้อมาขายไป ปกติการซื้อขายจะเป็น B2B

....1.1 บางวันจะมีลูกต้า 2-3 คน มาซื้อสินค้าเพื่อใช้ (เดือนละครั้งสองครั้ง บางเดือนก็ไม่มี) ไม่ร้องขอใบกำกับภาษี

....1.2 บริษัทฯ ออกบูธเป็นครั้งคราวจำหน่ายสินค้าให้กับบุคคลทั่วไปที่มาเที่ยวงานลูกค้าไม่ได้ร้องขอใบกำกับภาษี (มูลค่าสินค้าที่ลูกค้าซื้อไม่สูง ราคาหลักร้อย/พันบาท ต่อราย) ต้องการทราบแนวปฎิบัติเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีค่ะ ว่าเราสามารถรวมยอดการขายทั้งวัน (หลักหมื่นบาท) ต่อหนึ่งใบกำกับภาษีอย่างย่อ หรือการขายหนึ่งรายต่อหนึ่งใบค่ะ

: ได้อ่านประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 32) มีข้อสงสัยคำว่า "บริการรายย่อยแก่บุคคลจำนวนมาก" กรณี 1.1 สามารถทำตามประกาศนี้ได้ไหมค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ

สุเทพ พงษ์พิทักษ์
วิสัชชนา

ต่อข้อถาม ขอเรียนว่า

....การประกอบกิจการการขายสินค้าที่ผู้ขายทราบโดยชัดแจ้งว่าเป็นการขายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรงและได้ขายในปริมาณซึ่งตามปกติวิสัยของผู้บริโภคนั้นจะนำสินค้าไปบริโภคหรือใช้สอยโดยมิได้มีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปขายต่อไป เข้าลักษณะเป็นการขายปลีกตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 32) ลงวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 ซึ่งบริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรา 86/8 แห่งประมวลรัษฎากร และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 254) ลงวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2546 ได้ บริษัทฯ มีหน้าที่ออกใบกำกับภาษีอย่างย่อให้แก่ลูกค้าดังกล่าวทุกครั้งที่ความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้น (เมื่อส่งมอบสินค้า)

-- ขายแบบ B2B แต่มีการขายปลีกในบางครั้ง สามารถออกใบกำกับภาษีอย่างย่อได้ และต้องออกใบกำกับภาษีอย่างย่อทุกครั้งที่ขาย --

คุณ Pumpui Naja (26 มิถุนายน 2562 เวลา 11:42 น.)
สอบถามเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีค่ะ

1. บริษัทฯ ขายของทางอินเตอร์เน็ต โดยในแต่ละวันมีรายการขายสินค้าเป็นจำนวนมาก (ประมาณ 1,000 รายการ) และเดือนๆ นึงมียอดขายเกินหลักล้านค่ะ

      ปัญหาคือ ตอนนี้ต้องเปิดใบกำกับภาษีแบบย่อเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน
      มีวิธีไหนที่จะลดปริมาณเอกสารที่ต้องออกบ้างไหมคะ (ผู้ซื้อไม่ได้ให้ข้อมูลเพื่อออกเอกสารค่ะ)

2. บริษัทฯ ได้มีการขายส่งสินค้าด้วยค่ะ โดยมูลค่าที่เปิดบิลประมาณ 50,000-100,000 บาท แต่ว่า ผู้ซื้อไม่ให้ข้อมูลเพื่อออกใบกำกับภาษี แบบนี้สามารถที่จะออกใบกำกับภาษีแบบย่อไปได้ไหมคะ (แต่เป็นการขายส่งนะคะ)
ขอบพระคุณค่ะ

สุเทพ พงษ์พิทักษ์

วิสัชนา:

1. บริษัทฯ ขายของทางอินเทอร์เน็ต โดยในแต่ละวันมีรายการขายสินค้าเป็นจำนวนมาก (ประมาณ 1,000 รายการ) และเดือนๆ นึงมียอดขายเกินหลักล้านค่ะ ปัญหา คือ ตอนนี้ต้องเปิดใบกำกับภาษีอย่างย่อเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน นั้น

             บริษัทฯ สามารถขออนุมัติกรมสรรพากรออกใบกำกับภาษีอย่างย่อด้วยเครื่องบันทึกการเก็บเงิน (Cash Register) ตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 46) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์การขออนุมัติใช้เครื่องบันทึกการเก็บเงินเพื่อออกใบกำกับภาษีอย่างย่อ และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้เครื่องบันทึกการเก็บเงินตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2536
(http://www.rd.go.th/publish/3394.0.html)
ก็จะช่วยลดแรงงานในการจัดทำเอกสารใบกำกับภาษีที่ต้องออกลงได้บ้าง

2. บริษัทฯ ได้มีการขายส่งสินค้าด้วยค่ะ โดยมูลค่าที่เปิดบิลประมาณ 50,000 - 100,000 บาท แต่ว่า แม้ผู้ซื้อไม่ให้ข้อมูลเพื่อออกใบกำกับภาษี

            บริษัทฯ ก็ไม่มีสิทธิที่จะออกใบกำกับภาษีอย่างย่อได้ เพราะการขายส่งต้องออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร เท่านั้น

Inbox: ศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 10:29 น.
คุณ Proud Heart “วาสนา”
กราบเรียนอาจารย์ ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีในกรณีออกบูธขายสินค้าตามสถานที่ต่าง ๆ ดังนี้
• ลูกค้าซื้อสินค้าต่อบิลมีมูลค่าไม่ถึง 1,000.00 บาท
• ลูกค้าซื้อสินค้าต่อบิลมีมูลค่าตั้งแต่ 1,000.00 บาทขึ้นไป

• ใบกำกับภาษี

1.ลูกค้าไม่ต้องการใบกำกับภาษี

2. ลูกค้าต้องการใบกำกับภาษี
จากรายละเอียดข้างต้น ณ ปัจจุบัน
บริษัทฯ มีการปฏิบัติดังนี้

1. ใบกำกับภาษี จะออกในนามพนักงาน ที่รับผิดชอบในการเปิดบูธ-กรณีลูกค้าไม่ต้องการใบกำกับภาษี ซึ่ง ณ ปัจจุบันมียอดขายสูงขึ้นมาก เช่น ปี 2562 ตั้งแต่เดือน มกราคม-สิงหาคม ยอดขายประมาณ 1,800,000.00 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

2. ใบกำกับภาษี ออกในนามลูกค้า – กรณีลูกค้าร้องขอ
จึงไม่ทราบว่าที่ปฏิบัติอยู่ ณ ปัจจุบันถูกต้องหรือไม่ และถ้าไม่ถูกต้องควรจะทำอย่างไรคะ
กราบขอบพระคุณอาจารย์ล่วงหน้าค่ะ
ขอแสดงความนับถือ

สุเทพ พงษ์พิทักษ์

วิสัชนา:

เกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีในกรณีออกบูธขายสินค้าตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งกรณีที่ลูกค้าซื้อสินค้าต่อบิลมีมูลค่าไม่ถึง 1,000.00 บาท และลูกค้าซื้อสินค้าต่อบิลมีมูลค่าตั้งแต่ 1,000.00 บาทขึ้นไป

• การขายสินค้าในกรณีออกบูธ เข้าลักษณะเป็นการขายปลีกตามมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 32) บริษัทฯ จึงสามารถออกใบกำกับภาษีอย่างย่อ ที่ไม่ต้องมีชื่อลูกค้าได้ เว้นแต่ลูกค้าต้องการใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่มีชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัว รวมทั้ง สำนักงานใหญ่/สาขา จึงจะออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปให้ลูกค้า