รู้จักสื่อดิจิทัลก่อนเริ่มทำธุรกิจดิจิทัล
หากคุณเคยทำงานในฝ่ายการตลาดของบริษัทใหญ่ๆ การแยกประเภทและความแตกต่างของสื่อดิจิทัลแต่ละประเภทได้ง่ายๆ
แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่ส่วนใหญ่สวมหมวกหลายใบ คุณมีหลากหลายหน้าที่ให้ต้องรับผิดชอบ ในแต่ละวันมีงานให้ต้องบริหารจัดการมากมาย ทำให้งานสื่อสารการตลาดกลายเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งในความรับผิดชอบเท่านั้น จึงไม่แปลกอะไรที่จะไม่คุ้นเคยกับการแบ่งประเภทสื่อดิจิทัลล
เรื่องส่วนใหญ่ที่เจ้าของธุรกิจมักกังวลเป็นประจำทุกวันคือ จะหาลูกค้าใหม่ๆ ให้กับธุรกิจได้อย่างไร การต้องตัดสินใจเลือกใช้สื่อเพื่อช่วยสร้างการรับรู้และดึงดูดลูกค้าภายใต้งบประมาณที่มีอย่างจำกัดนั้นไม่ใช่งานง่าย
ดังนั้นหากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจในยุคดิจิทัลการพยายามเข้าใจถึงประโยชน์ของสื่อดิจิทัลแต่ละประเภทนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายในการสื่อสารได้ชัดเจน จัดสรรงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างแผนสื่อสารการตลาดในยุคดิจิทัลได้อย่างครอบคลุมเส้นทางการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
สื่อดิจิทัลมีกี่ประเภท
สื่อดิจิทัลสามารถแบ่งได้ 3 ประเภท คือ Paid Media, Earned Media และ Owned Media เป็นวิธีแยกประเภทสื่อตามลักษณะการได้มาของสื่อและการผลิตสื่อ ซึ่งสื่อแต่ละประเภทต่างก็มีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป
Owned media
Owned Media หรือสื่อที่แบรนด์เป็นเจ้าของ คือ สื่อที่หน่วยงานธุรกิจสร้างขึ้นเพื่อใช้เผยแพร่เนื้อหาผ่านช่องทางของตัวเอง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเผยแพร่เนื้อหา อาทิ เว็บไซต์ธุรกิจ, บัญชีโซเชียลมีเดีย, สิ่งพิมพ์ดิจิทัล,
อีเมล์ รวมทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ การใช้สื่อ Owned Media จึงเป็นเหมือนสินทรัพย์ทางการตลาดที่แบรนด์เป็นเจ้าของ นั่นหมายความว่า แบรนด์สามารถควบคุมได้ตั้งแต่ข้อความ รูปลักษณ์และสีสรรไปจนถึงรูปแบบเนื้อหา, ความถี่ในการอัปเดต, วิธีการเผยแพร่ และวิธีการประชาสัมพันธ์
สื่อที่แบรนด์เป็นเจ้าของ มีบทบาทสำคัญในการสื่อสารกับสมาชิก ลูกค้าประจำ ผู้มุ่งหวัง พนักงาน
หุ้นส่วนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจให้รับรู้ถึงข้อมูลข่าวสารของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง อาทิ คู่มือการใช้งาน การอัพเดตคุณสมบัติใหม่ๆ หรือโซลูชันสำคัญที่ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายรับความรู้ถึงความเชี่ยวชาญและความสามารถของสินค้าและบริการ ในขณะเดียวกันก็ถูกใช้เป็นสื่อสำหรับดึงดูดผู้ชม ผู้สนใจและหล่อเลี้ยงให้กลายเป็นผู้มุ่งหวังเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนพวกเขากลายเป็นลูกค้าในอนาคต
จุดเด่น :
- สามารถปรับแต่งเนื้อหาได้ตามที่ต้องการ
- เผยแพร่ได้ทันที ทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ
- เป็นสื่อที่ผู้บริโภคใช้สำหรับอ้างอิงข้อมูล
- เสริมสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดี
- ช่วยประหยัดตันทุนการสื่อสาร
- เป็นหลักประกันทางตลาดให้กับธุรกิจ
- ช่วยกระตุ้นการขาย ซื้อซ้ำหรือใช้ซ้ำ
- ช่วยให้การปิดการขายรวดเร็วยิ่งขึ้น
จุดด้อย :
- สร้างการรับรู้ได้จำกัด
- เนื้อหาอาจถูกละเลยได้โดยง่าย
- ต้องการพนักงาน (หรืองบประมาณ) เพื่อสร้างข้อมูลและแพลตฟอร์ม
Paid media
Paid Media หรือสื่อที่ต้องชำระเงินเพื่อเผยแพร่ คือ สื่อที่แบรนด์ต้องจ่ายเงินสำหรับซื้อพื้นที่ เวลา หรือตำแหน่งสำหรับเผยแพร่เนื้อหาของแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่นิยมใช้สื่อนั้นๆ อาทิ โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย, โฆษณาบน Google,
แบนเนอร์บนเว็บไซต์, โฆษณาทางหนังสือพิมพ์, สปอตโฆษณาทางวิทยุ, การเป็นสปอนเซอร์ให้กับงานประชุม-รายการโทรทัศน์, บล็อกเกอร์, ยูทูปเบอร์ หรืออาจเรียกว่า "อินฟลูเอนเซอร์" ที่ช่วยรีวิวสินค้า
สื่อแบบชำระเงิน ใช้เพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างการรับรู้ในวงกว้าง มีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายพบเห็นเนื้อหาโฆษณาที่ต้องการเผยแพร่ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้คนมาติดตามหรือพิมพ์ค้นหา เนื้อหาโฆษณาส่วนใหญ่จะปรากฏในลักษณะขัดจังหวะหรือแทรกขณะที่กลุ่มเป้าหมายกำลังรับชมเนื้อหาหลัก
จุดเด่น :
- เป็นสื่อที่ช่วยสร้างการรับรู้เนื่องจากการโฆษณาทางออนไลน์มีต้นทุนต่ำ ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถสร้างการรับรู้ได้รวดเร็วและคุ้มค่ากว่าการใช้สื่อแบบดั้งเดิม
- เป็นสื่อที่ช่วยเติมเต็มความสามารถของ Owned Media และ Earned Media
- มีความหลากหลายทั้งขนาด รูปแบบ ราคาที่เหมาะกับธุรกิจออไลน์
จุดด้อย :
- ไม่สามารถการันตีได้ว่ากลุ่มเป้าหมายจะซื้อความคิดของคุณ เพราะเป็นการสื่อสารทางเดียว
- ผู้บริโภคมักเพิกเฉยกับโฆษณาหากข้อเสนอไม่ตรงกับความต้องการ
- การเผยแพร่เนื้อหาให้ครอบคลุมทำได้ยากลำบาก
- ต้นทุนการเผยแพร่เนื้อหาโฆษณาผ่านสื่อแบบชำระเงินเพิ่มสูงขึ้น
- จากผลสำรวจพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่มองว่าเนื้อหาโฆษณาเป็นสิ่งรบกวน
- การควบคุมเนื้อหาทำได้เพียงบางส่วน อาทิ ข้อความหรือแนวคิดโฆษณาที่สร้างสรรค์ และบางส่วนที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาทิ อัลกอลิทึมของโซเชียลมีเดีย หรือหน่วยงาน กสทช. ที่คอยควบคุมเนื้อหาโฆษณาที่เผยแพร่ผ่านสื่อ
Earned media
Earned Media หรือสื่อที่ผู้อื่นสร้างให้คือ สื่อที่ได้มาจากการพูดถึงหรือบอกต่อ แตกต่างจาก Paid Media และ
Owned Media เนื่องจากแบรนด์ไม่สามารถควบคุมทิศทางเนื้อหาที่ผ่านสื่อชนิดนี้ได้ เพราะเนื้อหานั้นได้มาจากการผู้ที่ได้ทดลองใช้สินค้าหรือบริการ หรือผู้ชม ผู้สนใจได้รับเนื้อหาคุณภาพที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์จึงยินดีที่จะเผยแพร่ แชร์เนื้อหา รีวิว หรือบอกต่อให้กับคนอื่นๆ ในเครือข่ายของพวกเขาได้รับรู้ร่วมกัน
การที่ผู้คนเขียนถึงธุรกิจของคุณซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของบทความในหนังสือพิมพ์ ลิงก์ในบล็อก
หรือการแบ่งปันเนื้อหาผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) จึงมีส่วนช่วยให้ธุรกิจของคุณมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากความเชี่ยวชาญของคุณ ซึ่งอาจรวมไปถึงการถูกเชิญเข้าร่วมเพื่อพูดในงานประชุมหรือสัมมนาต่างๆ
สื่อที่ผู้อื่นสร้างให้ จึงมีเป็นสื่อมีค่ากับแบรนด์มากที่สุด เป็นเหมือนกระจกที่ช่วยสะท้อนผลการทำงานทั้งหมดในธุรกิจของคุณ
จุดเด่น :
- ช่วยกระจายเข้าถึงผู้คนจำนวนมาก (Viral Marketing)
- ช่วยส่งเสริมให้แบรนด์ของคุณน่าเชื่อถือ ด้วยเสียงที่ถูกสร้างขึ้นจากผู้มีประสบการณ์กับแบรนด์ของคุณ
- เป็นสื่อที่มักจะมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด
- ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
- ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
จุดด้อย :
- หากเนื้อหาที่กระจายออกไปเป็นเนื้อหาเชิงลบหรือไม่ต้องการให้เกิดการแบ่งปัน คุณจะไม่สามารถควบคุมได้
- ไม่สามารถบอกผลกระทบของกิจกรรมจาก Earned Media จะเกิดขึ้นเมื่อใด ที่ใดหรือมากเพียงใด
- เป็นสื่อที่สร้างผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของแบรนด์
จากข้อมูลด้านบน คุณคงทราบดีแล้วใช่ไหมว่าทางเลือกที่ดีที่สุดของการสื่อสารผ่านสื่อดิจิทัลก็คือ แต่ละธุรกิจต้องพยายามบูรณาการจุดเด่นของสื่อทั้งสามประเภทให้มีความสมดุล สอดคล้องกับเป้าหมายในการสื่อสารภายใต้งบประมาณที่มีจำกัดได้อย่างคุ้มค่าและได้รับผลลัพธ์จากการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม