H.a.c.k เจาะระบบ ไขรห สมรณะ ม ก เล ม

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตีพิมพ์มายาวนานจริง ๆ จำได้ว่าเคยยืมเพื่อนอ่านครั้งแรกก็ประมาณตอนประถม อ่านแล้วก็ติดใจกับเรื่องนี้อยู่พอควร อยากซื้อมาเก็บไว้แต่ทางบ้านไม่ยอมให้ซื้อเพราะชื่อเรื่อง “ไขระบบ เจาะรหัสมรณะ” ที่คงจะสื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องรุนแรง (ซึ่งก็จริง) แต่อย่างน้อยตอนนี้อยู่ห่างจากอ้อมออกทางบ้าน (ในระดับหนึ่ง) พอออกนอกลู่นอกทางได้ ก็เลยมีโอกาสได้ซื้อมาอ่านก่อน 2 เล่ม โชคดีที่หอสมุดกลางของมหาวิทยาลัยมีให้ยืมถึงเล่ม 8 เลยสบโอกาสรีวิวนิยายจากวัยเด็กเรื่องนี้กันครับ!!

นิยายเรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องราวของเด็กชายพันธรัตน์ รัตนพันธ์ อัจฉริยะด้านคอมพิวเตอร์วัย ม. ต้น ในวันหนึ่ง เขาได้พบกับข้อความเชิงท้าทายจากในเว็บไซต์ที่เขาดูแลอยู่ เมื่อเขาติดตามคำท้าดังกล่าวไปก็พบว่าจริง ๆ แล้วมันคือบททดสอบในการเข้าองค์กร H.A.C.K ซึ่งเป็นองค์กรรวบรวมผู้มีความสามารถพิเศษเพื่อหยุดแผนการชั่วร้ายของ “รัฐบาลเงา” ซึ่งแอบอยู่หลังรัฐบาลจริง ๆ แต่ไม่ทันที่เด็กชายพันธรัตน์จะเดินเข้าสู่องค์กร H.A.C.K ชีวิตเขาก็ถูกคุกคามจากมือมืดที่มองไม่เห็น…

เนื้อเรื่องในเล่มส่วนใหญ่จะค่อย ๆ แก้ปมปัญหาไปทีละเรื่อง และอาจจะละบางปมปัญหาไว้ให้คาใจคนอ่าน อย่างเช่นในช่วงแรกที่พันธรัตน์ถูกโจมตี เนื้อเรื่องจะไม่แก้ปัญหาการถูกโจมตีในทันที (จริง ๆ ก็ทำนิดหน่อย) แต่จะมุ่งไปหาเด็กอีกคนหนึ่งที่ถูกโจมตีลักษณะเดียวกันแทน (แต่เจ็บหนักกว่า) ถ้าใครชอบเก็บรายละเอียดเรื่องมาคิดเยอะ ๆ ก็ต้องทนรอกันหน่อย จนกว่าเนื้อเรื่องจะวนกลับมาเล่นในกรณีที่ได้ตั้งไว้

จุดสำคัญของเรื่องนี้จะอยู่ประมาณเล่ม 2-3 ในภารกิจครั้งที่ 3 ที่พันธรัตน์จะต้องบุกธนาคารเพื่อเอาสิ่งของสำคัญบางอย่างจากใน “ห้องมั่นคง” ซึ่งในภารกิจนี้จะเป็นจุดที่ตัวละครต่าง ๆ เริ่มนิ่ง หลังจากที่ได้ค่อย ๆ ตัวละครเข้ามาในตอนก่อน ๆ ทั้ง “หน่วยศูนย์” ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการสำคัญ เป็นตัวละครหลักจากองค์กร H.A.C.K ทั้งศัตรูจาก “รัฐบาลเงา” ที่เริ่มปรากฏตัวให้เห็นมากขึ้น (ยังไม่นับ “ฝ่ายอื่น ๆ” ที่จะเข้ามามีบทบาทตะลุมบอนกันในเรื่อง) เปิดตัวคู่แค้นและความหลังของเอเย่นต์คนต่าง ๆ และตัวพันธรัตน์เองก็จะได้รู้ถึงเหตุผลจริง ๆ ที่เขาควรจะทำงานให้ H.A.C.K ต่อไป

การบรรยายเป็นลักษณะสำคัญอย่างหนึ่งของเรื่องนี้ ในเนื้อเรื่องจะเขียนถึงรายละเอียดของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดในเรื่องไว้อย่างครบถ้วนโดยไม่คำนึงถึงความสำคัญต่อเนื้อเรื่อง โดยเฉพาะในฉากต่อสู้ที่จะบรรยายตั้งแต่สิ่งที่เกิดขึ้น ความเสียหายต่าง ๆ ลักษณะสรรพคุณของอาวุธยุทโธปกรณ์อุปกรณ์พิเศษที่ใช้ ลงไปถึงในระดับความคิดที่อยู่ในใจของตัวละคร

ปัญหาส่วนใหญ่ของผู้อ่าน (หรืออย่างน้อยก็ตัวผมเอง) ก็จะเกิดขึ้นมาจากการบรรยายเกินขนาดเหล่านี้แหละครับ ถึงแม้ว่าการบรรยายต่าง ๆ จะทำให้ผู้อ่านสามารถนำไปจินตนาการให้เห็นภาพเกิดเป็นมโนทัศน์ได้อย่างละเอียด แต่เมื่อมีสิ่งนี้เกิดขึ้นมาก (เกินไป) ตลอดทั้งเรื่องก็จะทำให้ความเร็วโดยรวมในการเดินเรื่องไม่คงที่เท่าไหร่ และอาจจะทำให้เบื่อได้ในบางจุด อย่างเช่นในฉากหนึ่งที่ตัวละครคนหนึ่งใช้ปืนยิงโคมไฟเพดานให้ตกลงสู่พื้น ที่ถ้านับเอาตั้งแต่ตอนที่ปืนลั่นไปถึงโคมไฟแตะพื้นก็จะกินพื้นที่ไป 1 หน้า ยังไม่นับช่วงที่ตัวละคร (ต้อง) คิดก่อนที่จะลงมือยิงอีก 1 หน้า

บทบาทของตัวละครโดยเฉพาะพันธรัตน์เป็นสิ่งหนึ่งที่น่าตั้งคำถามสำหรับเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าตัวพันธรัตน์เองจะมีบทบาทสำคัญจากความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงในตอนหลัง ๆ ที่เริ่มได้เป็นผู้บัญชาในปฏิบัติการ แต่ด้วยความที่ฉากส่วนใหญ่ในเรื่องจะเป็นฉากต่อสู้ ประกอบกับความ Sci-fi ของเนื้อเรื่องที่ออกไปทางชีวะวิทยา (เห็นว่าชื่อ H.A.C.K แต่เรื่องนี้ไม่ Cyberpunk นะครับ) รวมไปถึงการบทบรรยายการกระทำ “ระดับคอมพิวเตอร์” ที่หายไปหลังหมดระยะเล่ม 1 ทำให้บทบาทของพันธรัตน์ที่ไม่ค่อยมีความสามารถในเรื่องอื่น (โดยเฉพาะการต่อสู้) ถูกแย่งโดยเหล่าเอเย่นต์ขององค์กร จนทำให้พันธรัตน์ดูเหมือนจะเป็นเพียงสมาชิกศูนย์กลางของปฏิบัติการไป

จุดหนึ่งที่เรื่องได้พยายามทำ (แต่ยังไม่ดีเท่าไหร่) คือด้านของความรัก การจับคู่กันระหว่างพันธรัตน์และดร. อชิรญาในช่วงแรกดูค่อนข้างเก้ ๆ กัง ๆ เหมือนถูกยัดเยียดให้จับคู่กัน ต่างฝ่ายต่าง “ซึน” ใส่กันจนดูไม่หวานเลยสักนิด แต่ทั้งสองฝั่งก็ยังสามารถมีใจให้กันได้ ไม่รู้ว่าไปสังเคราะห์ความรักกันมาจากไหน

ทริคในการอ่านที่สำคัญที่สุดเรื่องนี้ก็คือ “อย่าอ่านจนจบเล่ม” เพราะด้วยความที่นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่เขียนลงในอินเทอร์เน็ต ไม่ได้มีบทพักอารมณ์ไว้ตัดจบเล่มหรือบทเกริ่นก่อนเข้าปมปัญหาโดยเฉพาะ ทำให้เวลาอ่านจึงต้องอ่านต่อเนื่องกันไปเรื่อย ๆ และความที่เรื่องนี้ชอบจบค้างเติ่งในแทบทุกบทก็จะทำให้ทุกเล่ม (เท่าที่ได้อ่าน) จะจบแบบค้างเติ่งตามกันไปด้วย

ปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่อาจจะทำให้ใครหลาย ๆ คน (รวมถึงผมเอง) ต้องลังเลใจก่อนซื้อเรื่องนี้ก็คือความหนาของเล่มที่ลดลงไปตั้งแต่เล่ม 3 เรื่องนี้ผมขอยอมรับเลยว่า ถึงแม้ว่าในเล่มหลัง ๆ (เท่าที่ได้อ่าน) จะบางลง แต่เนื้อเรื่องก็สามารถจบได้ค้างเติ่งอย่างคงเส้นคงวา ข้อสังเกตหนึ่งที่ผมเห็นในแต่ละเล่มก็คือเรื่องของการวางจำหน่ายนิยายเรื่องนี้ที่จะพยายามวางตลาดให้ทันงานหนังสือ (ต้นปี/ท้ายปี) ถึงแม้ว่าการออกเล่มจะค่อนข้างสม่ำเสมอ แต่ส่วนตัวแล้วอยากจะให้เรื่องนี้วางตลาดปีละ 1 เล่มมากกว่าปีละ 2 ครึ่งเล่ม

แต่ด้วยเนื้อเรื่องที่ค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นและน่าติดตามมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การวางเล่มนิยายเรื่องนี้ลงเป็นเรื่องที่ยาก (แกมบังคับ) แต่ก็ควรจะอ่านนิยายเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง อย่าเผลอถลำตัวลึกลงไปในเนื้อเรื่อง ไม่อย่างนั้นคนที่ต้องเจ็บที่สุดจะเป็นตัวคุณเอง…

ลูกค้าสามารถชำระเงินได้ทันที หลังจากได้รับการสรุปยอดจากอีเมล์ของทางร้าน สามารถชำระเงินได้ตามบัญชีธนาคารตามด้านล่างนี้ค่ะ

ทางร้านเก็บหนังสือให้ 2 วันค่ะ รบกวนลูกค้ารับผิดชอบออร์เดอร์ที่สั่งซื้อมาด้วยนะคะ

หลังจากโอนเงินแล้วลูกค้าสามารถแจ้งการชำระเงินได้ที่

--- อีเมล์ [email protected]

--- sms 0804474159

--- Line ID : book-dd