Edge of tomorrow 2 จะ ม ภาค ต อ ไหม

เนื่องจากในเรื่องตอนฉากใกล้จบที่ เคจ โดนเลือดของอัลฟ่าย้อมทั้งตัว แล้ว ย้อนเวลากลับมาใหม่ ทั้งๆ ที่โอเมก้า โดนระเบิดไปปแล้ว ไม่มีตัวที่คอยรีเซ็ทเวลา ใหม่เป็นไปได้มั๊ยที่อาจจะมีโอเมก้า อีกตัวซ่อนอยู่ก็เป็นได้

อัพเดตเนื้อเรื่อง Edge of Tomorrow 2

ลดสเกลความยิ่งใหญ่ เพิ่มเนื้อเรื่องเข้มข้น

Edge of Tomorrow คือหนึ่งในภาพยนตร์ที่มีแฟน ๆ เฝ้ารอภาคต่อกันมากที่สุดเรื่องหนึ่ง จากความสำเร็จในภาพยนตร์ภาคแรก กับการดัดแปลงเรื่องราวจากมังงะชื่อดัง ให้กลายเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดสุดแอ็คชั่น ที่หยิบเอาการเกิดตายวนเวียนมาสร้างฉากสงครามสุดเดือด ผ่านฝีมือการแสดงชั้นเยี่ยมของทั้ง ทอม ครูซ และเอมิลี่ บลันท์ ทำเอาแฟน ๆ เกิดคำถามอย่างต่อเนื่องว่า เมื่อไรที่เราจะได้ดูภาคต่อของหนังเรื่องนี้

แม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการถึงกำหนดการฉาย หรือกระทั่งการเริ่มถ่ายทำ เพราะตารางการทำงานที่แสนจะแน่นขนัดของทั้งสองนักแสดงนำ แต่ล่าสุด Doug Liman ผู้กำกับภาพยนตร์ก็ได้ออกมาอัพเดตการวางแผนเกี่ยวกับภาพยนตร์ของเขา ว่าจะลดสเกลของภาพยนตร์ให้เล็กลง แล้วเน้นไปที่การขับเคลื่อนบทบาทของตัวละครแทน เขาให้สัมภาษณ์เรื่องนี้กับเว็บไซต์ Collider ว่า…

“ผมมักจะสนใจไอเดียที่ว่า หนังภาคต่อจะเน้นไปที่การขับเคลื่อนบทบาทตัวละคร มากกว่าในหนังเรื่องแรก เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ปกติจะทำกัน นั่นเป็นทิศทางของผมที่จะพัฒนาภาคต่อออกมา เพราะทอม ครูซ กับเอมิลี่ บลันท์ คือนักแสดงที่มหัศจรรย์มาก ผมเข้าใจว่าบางครั้ง หนังภาคต่อก็แค่เพิ่มระเบิดให้มากขึ้น ผมฉากแอ็คชั่นให้มากขึ้น แต่ไม่มีวิชวลเอฟเฟกต์ไหนจะพาให้คุณไปรับฉากที่ยอดเยี่ยม ซึ่งแสดงโดย ทอม ครูซ และเอมิลี่ บลันท์ ได้”

น่าสนใจทีเดียวว่า Edge of Tomorrow 2 ถูกวางแผนเอาไว้ว่าอย่างไร การที่จะเน้นไปที่การพัฒนาบทบาทของตัวละคร ผสมผสานกับการเป็นภาพยนตร์ภาคต่อด้วยแล้ว นั่นทำให้เนื้อเรื่องในภาพยนตร์ภาคที่ 2 จะต้องเข้มข้นมากอย่างแน่นอน มารอดูกันดีกว่าว่าเราจะได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้เมื่อไหร่ คงได้แต่หวังว่า ทั้งทอม ครูซ และเอมิลี่ บลันท์ จะสามารถจัดสรรตารางงานได้โดยเร็ววัน

เอมิลี บลันต์ (Emily Blunt) นักแสดงสาววัย 40 ปี ที่หลายคนจำฝีมือการแสดงของเธอได้จาก ‘A Quiet Place’ ทั้ง 2 ภาค และเจิดจรัสมากกับภาพนตร์ไซไฟฟอร์มดีอย่าง ‘Edge of Tomorrow’ (2014) ได้ให้สัมภาษณ์กับ Deadline เกี่ยวกับการสร้าง ‘Edge of Tomorrow 2’ ที่ทิ้งห่างจากภาคแรกมากว่า 10 ปี แล้ว โดยเธอได้กล่าวถึงประเด็นที่ว่า จำเป็นต้องมีการสร้างสิ่งใหม่ที่มีความทะเยอทะยานมากขึ้นเป็นลำดับแรก

“ฉันยินดีที่จะเล่นอีกสักภาคนะ ฉันไม่รู้ว่าเมื่อไรและจะสร้างออกมาแบบไหน แต่ฉันก็ยังเฝ้ารออยู่ แม้จะไม่แน่ใจว่าร่างกายของฉันจะรับไหวไหมเมื่อถึงเวลานั้น เพราะฉันต้องใช้เวลาทั้งหมดในการถ่ายทำฉากต่อสู้ไปกับการคาดหวังว่าชุดสูทที่สวมนั้นจะมีน้ำหนักเบาลงกว่านี้ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นเลย

ฉันรักประสบการณ์ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้มาก และชื่นชอบที่ได้ร่วมงานกับดั๊ก (หมายถึง ดั๊ก ไลแมน ผู้กำกับภาพยนตร์) มันเหมือนกับว่าเราต้องสร้างสิ่งที่มีความทะเยอทะยานมากขึ้นก่อน ดูว่าเราจะไปไกลจากเรื่องราวที่วนลูปแบบเดิมได้ขนาดไหน และมีโครงสร้างภาพยนตร์ที่ใหม่มากขึ้นอย่างไรบ้าง”

‘Edge of Tomorrow’ เป็นภาพนตร์ไซไฟที่สร้างกระแสความนิยมและฐานแฟน ๆ ได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยความสดใหม่และการเดินเรื่องที่เร้าใจระดับบล็อกบัสเตอร์ โดยฝีมือกำกับของไลแมนจาก ‘The Bourne Identity’ (2002) แม้ว่าตัวภาพยนตร์จะทำรายได้ทั่วโลกเพียง 370 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 175 ล้านเหรียญ ก็ตาม

ทั้งนี้ได้มีการประกาศสร้าง ‘Edge of Tomorow 2’ มาตั้งแต่ปี 2015 โดยมีการเปิดเผยว่าครูซมีไอเดียมากมายมาใส่ในภาพยนตร์ แต่ก็ยังมีความคืบหน้าในขั้นตอนการเขียนบท แต่โปรเจกต์นี้ก็ได้เงียบหายไป

ต่อมา ไลแมนได้เซ็นสัญญาเป็นผู้กำกับ ‘Edge of Tomorrow 2’ ในปี 2016 และได้มีการประกาศในปี 2019 ว่า บทภาพยนตร์ได้เขียนเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยไลแมนกล่าวว่าเป็นเหมือนกับ “A Sequel That’s a Prequel” (ภาคต่อที่เล่าเรื่องราวต้นกำเนิดก่อนหน้าภาคแรก) ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างไปถึงแนวคิดการเดินทางท่องกาลเวลาที่ล้ำไปกว่าภาคแรก

นอกจากนี้ยังมีรายงานเกี่ยวกับการพัฒนา ‘Edge of Tomorrow’ ในเวอร์ชันซีรีส์ แต่บริษัท Village Roadshow ซึ่งเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ ได้มีคดีฟ้องร้องกับต้นสังกัดอย่าง Warner Bros. Pictures ซึ่งอาจส่งผลให้โปรเจกต์ซีรีส์นี้ไม่ได้รับการพัฒนาต่อไปในอนาคต

Edge of Tomorrow ออกฉายเมื่อปี 2014 หนังไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนักในตลาดสหรัฐฯ แต่กลับไปได้ดีในตลาดต่างประเทศ ทำให้หนังกวาดรายได้ไปจบที่ 370.5 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่ 175 ล้านเหรียญ แม้หนังจะทำกำไรไม่ถึงขั้นอู้ฟู่นักแต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แล้วหนังยังไปได้ดีในตลาดวิดีโออีกด้วย และกลายเป็นหนึ่งในหนังไซไฟเรื่องโปรดของผู้ชมวงกว้าง ยิ่งเวลาผ่านไปเสียงเรียกร้องภาคต่อจากแฟน ๆ หนังเรื่องนี้ก็มากขึ้น ทำให้วอร์เนอร์อนุมัติโครงการภาคต่อมาตั้งแต่ปี 2015 แล้ว หนังยังคงอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของผู้กำกับ ดัก ไลแมน (Doug Liman)คนเดิม ขนาดที่เขามั่นอกมั่นใจกับตัวหนังมากถึงกับคุยอวดกับสื่อว่า

“มันจะเป็นการปฏิวัติวิธีการสร้างหนังภาคต่อเลยก็ว่าได้”

ยิ่งเป็นการกระตุ้นต่อมความอยากดูของแฟน ๆ ที่เฝ้ารอคอยภาคต่อมาแสนนาน แต่จนแล้วจนรอดมาจนถึงปีนี้ เราก็ยังไม่ได้ยินความคืบหน้าของ Edge of Tomorrow 2 กันเลย ซึ่งผู้กำกับไลแมนก็ยอมรับว่าสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากตารางเวลาของตัวเขาเองและ 2 นักแสดงนำที่คิวแน่นมากและว่างไม่ตรงกัน

“ตารางงานของตัวผมเอง ทอม ครูซ และเอมิลี บลันต์ นั้นมันแน่นมาก แต่บอกตามตรงเลยนะครับ Edge of Tomorrow คือโลกที่ผมรักมาก ผมชอบมันมาจากจิตใจเลย มันยังมีเรื่องราวอีกมากที่อยากจะเล่าออกมา”

นั่นเป็นเหตุผลจากทางฝั่งผู้กำกับ ดัก ไลแมน ซึ่งสอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของ เอมิลี บลันต์ ที่เคยตอบไว้เมื่อปลายปีที่แล้วว่าปัญหาอยู่ที่ตารางเวลา “ฉันไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่ที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะลงตัวกันได้ คุณเข้าใจฉันใช่ไหม ระหว่างตารางเวลาของพวกเราเนี่ยแหละ มันต้องพอเหมาะพอดีกัน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องของหนังแล้ว บอกได้แน่ ๆ เลยว่า ไอเดียมันเยี่ยมมาก เยี่ยมจริง ๆ”

และในช่วงเร็ว ๆ นี้นักข่าวก็มีโอกาสได้สอบถาม เอมิลี บลันต์ (Emily Blunt) อีกครั้ง ถึงความคืบหน้าของ Edge of Tomorrow 2 ซึ่งรอบนี้เธอให้เหตุผลว่าสาเหตุน่าจะมาจากหนังจำเป็นต้องใช้ทุนสร้างที่สูงมากเกินไป

“ด้วยความสัตย์จริงเลยค่ะ ฉันคิดว่าหนังมันแพงเกินไป ฉันมองไม่ออกว่าเราจะสร้างมันได้อย่างไร”

แม้ว่าเอมิลี บลันต์ จะออกตัวชื่นชมว่าบทหนังยอดเยี่ยมมาก แต่ทางวอร์เนอร์ก็ยังไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาของภาคต่อออกมา แต่มีการคาดเดาจากวงในว่าหนังน่าจะมีตัวละครหลักเพิ่มขึ้นมา ส่วนสาเหตุที่ต้นทุนหนังบานไปมาก จนเอมิลี บลันต์ มองว่าน่าจะเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่โปรเจกต์ยังไม่คืบหน้า ก็น่าจะมีเหตุผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดที่ยังคงไม่คลี่คลาย และมีผลต่อมาตรการความเข้มงวดที่เพิ่มขึ้นมาในกองถ่ายทั้งในเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของทีมงาน รวม ๆ แล้วก็อาจตอบได้ว่า อนาคตของ Edge of Tomorrow 2 นั้นไม่มีอะไรแน่นอนเลย ยิ่งบวกกับทิศทางของฮอลลีวูดในช่วงนี้ ที่มีการแข่งขันในตลาดสตรีมมิงกันสูงมาก มันก็เป็นไปได้เช่นกันที่วอร์เนอร์จะตัดสินใจเบนเข็ม Edge of Tomorrow 2 ไปลง HBO Max แทน หรือปรับรูปแบบให้เป็นมินิซีรีส์ก็ได้ ถ้าโปรเจกต์ที่ทุกคนเฝ้ารอเรื่องนี้มีความคืบหน้าในทิศทางใด เราจะรีบมารายงานกันโดยด่วน