ดร.หญ งฤด ภ ม ศ ร ร ตนาวด แต งงาน

เผยแพร่: 13 ก.พ. 2558 15:26 ปรับปรุง: 13 ก.พ. 2558 16:02 โดย: MGR Online

ตราด - หลายหน่วยงานร่วมให้การช่วยเหลือ 2 เด็กหญิงครอบครัว “เอมอ่อน” ซึ่งมีฐานะยากจนและต้องเดินเท้าจากบ้านไปเรียนไกลถึง 8 กิโลเมตร ด้วยการจัดหาที่อยู่ใหม่ที่ไม่ไกลจากโรงเรียนให้ พร้อมเปิดบัญชีให้ผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลือให้ได้มีโอกาสได้เรียนจนถึงชั้นสูงสุด

วันนี้ (13 ก.พ.) นายเกษม มั่นคง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช้างทูน พร้อมด้วย นายสมชาย หนูอิน ประธานเทศบาลตำบลหนองบอน นางบงกช เกิดคง รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนอัมพรจินตกานนท์ และ น.ส.กิติมา ทวาเรศ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้ร่วมกันชี้แจงถึงแนวทางการช่วยเหลือครอบครัวของ ด.ญ.ชนาพร และ ด.ญ.ทศพร เอมอ่อน

หลังสื่อมวลชนได้ช่วยกันเผยแพร่เรื่องราวของเด็กหญิงทั้ง 2 ที่ต้องเดินจากบ้านไปโรงเรียน รวมระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เนื่องจากมีฐานะยากจน

ขณะที่บิดาป่วยด้วยอาการทางสมอง จนไม่สามารถทำมาหากินได้ ส่วนมารดามีอาชีพรับจ้าง และมีรายได้ไม่ถึง 200 บาท ขณะที่บางวันก็ไม่มีรายได้เลย ในเบื้องต้น นายเกษม มั่นคง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช้างทูน จังหวัดตราด ได้รับปากที่จะให้การช่วยเหลือเรื่องเบี้ยยังชีพคนพิการที่ อบต.จะจ่ายให้ทุกเดือน อย่างไรก็ดี หลังมีการเผยแพร่ข่าวสารของสื่อมวลชน ทำให้ในช่วงวานนี้มีผู้มีจิตศรัทธาโทรศัพท์ติดต่อมาหาถึง 200 สาย เพื่อแจ้งความจำนงที่จะช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าว โดยบางรายประสงค์จะมอบรถจักรยาน รวมทั้งรถจักรยานยนต์ให้ ส่วนบางคนแจ้งความจำนงจะช่วยเหลือเด็กหญิงทั้ง 2 ให้เรียนจนจบ

“นอกจากนี้ ยังมีคนจากประเทศฝรั่งเศส และเยอรมนีโทรศัพท์มาบอกว่า ได้รับรู้เรื่องราวของเด็กหญิงจากโลกออนไลน์ และประสงค์จะช่วยเหลือแต่ผมก็ได้ตอบปฏิเสธในเรื่องรถจักรยาน และรถจักรยานยนต์ เพราะน้อง 2 คนขี่ไม่เป็น แต่ขอให้บริจาคเป็นเงินเข้าบัญชีแทน” นายเกษม กล่าว

ด้าน นายสมชาย หนูอิน ประธานเทศบาลตำบลหนองบอน กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการหมู่บ้าน ได้ประชุม และลงความเห็นกันว่า จะแก้ปัญหาให้เด็กทั้ง 2 ได้เดินทางไปเรียนหนังสือให้เร็วขึ้น โดยจะจัดหาบ้านหลังใหม่ให้ และจะให้ใช้พื้นที่ในป้อมยามของ อพปร. เทศบาลตำบลหนองบอน ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนไม่เกิน 200 เมตร เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวไปก่อน และจะหาทางขยายให้มั่นคงกว่าที่เป็นอยู่

“ตอนนี้พวกเราทุกคนต้องการช่วยเหลือเด็กให้มีโอกาสได้เรียนหนังสือจนจบ และไม่ต้องระเหเร่ร่อนไปที่ไหนอีก ส่วนปัญหาของพ่อเด็กก็จะพยายามเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจเพื่อให้ปรับพฤติกรรมส่วนตัวเสียใหม่ พร้อมกันนี้ ก็จะสอบถามว่าต้องการทำงานอะไรเพื่อจะได้มีรายได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ส่วนเรื่องค่าน้ำค่าไฟทางหมู่บ้านจะช่วยกันดูแล” นายสมชาย กล่าว ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้เทศบาลตำบลหนองบอน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองบอน ได้เดินทางเข้าไปยังบ้านของ นางแต และนายประจักษ์ เอมอ่อน ซึ่งเป็นบิดาและมารดา เพื่อเจรจาขอให้ย้ายบ้านออกมาจากในสวนที่อยู่ไกลจากโรงเรียนถึง 8 กิโลเมตร และให้มาพักยังบ้านพักที่เทศบาลตำบลหนองบอนจัดหาให้ ซึ่งทั้ง 2 คนยินดีที่จะย้ายออกมา และเทศบาลฯ ได้นำรถยนต์กระบะช่วยขนของเพื่อย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนั้น ในวันนี้ ด.ญ.ชนาพร และ ด.ญ.ทศพร เอมอ่อน ก็ได้เดินทางไปโรงเรียนตามปกติแล้วหลังจากต้องหยุดเรียนไป ซึ่งทั้ง 2 คนยังคงร่าเริงแจ่มใส และเข้ากลุ่มกับเพื่อนนักเรียนได้ดี

ด้านนางบงกช เกิดคง รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนอัมพรจินตกานนท์ กล่าวว่า เด็กหญิงทั้ง 2 ได้ย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยพบว่าเด็กขาดเรียนบ่อยมาก และจะมาเรียนเพียงสัปดาห์ละ 3 วันเท่านั้น บางสัปดาห์ก็หยุดมากกว่า 3 วัน และจากสถิติการเรียนในปีที่ผ่านมา พบว่า มาเรียนเพียง 28 วัน จากเวลาเรียน 100 วัน

“เมื่อเด็กขาดเรียน ครูประจำชั้นก็จะไปตามให้มาเรียน ซึ่งก็ทราบว่าบ้านพักอยู่ไกล ซึ่งโรงเรียนให้การช่วยเหลือได้ในส่วนของอาหารกลางวัน ส่วนปัญหาครอบครัวนั้นไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง”

สำหรับผู้ที่ต้องการให้การช่วยเหลือเด็กหญิงทั้ง 2 สามารถบริจาคเงินได้ที่บัญชีธนาคารทหารไทย สาขา อ.บ่อไร่ 416-2-34720-9 ในนามโรงเรียนอัมพรจินตกานนท์ ซึ่งเป็นการเปิดบัญชีร่วมกันระหว่างโรงเรียน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช้างทูน และประธานสภาเทศบาลตำบลหนองบอน เพื่อร่วมกันดูแล

ส่วนผู้ที่ต้องการมอบเป็นสิ่งของสามารถส่งไปได้ที่โรงเรียนอัมพรจินตกานนท์ หรือที่อยู่บ้านเลขที่ 28/2 หมู่ 5 ตำบลช้างทูน อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด

คดีหวยอลเวง! กำลังอลวน ตร.ประสานกองสลากฯเทียบนิ้วมือแฝง ก่อนเข้าสู่กระบวนไต่สวนชั้นศาล

เผยแพร่: 15 ธ.ค. 2560 16:58 ปรับปรุง: 15 ธ.ค. 2560 18:22 โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

MGR Online - กองปราบ เตรียมประสานกองสลากฯขอหวยคดีแย่งชิงสิทธิ์ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ระหว่างครูชำนาญการและอดีต ตร. เกษีณอายุราชการ เมืองกาญจน์ เพื่อตรวจลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอน คาดใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนเข้าสู่กระบวนการไต่สวนในชั้นศาล

วันนี้ (15 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคดีแย่งชิงสิทธิ์ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 2560 เงินรางวัล 30 ล้านบาท ระหว่าง นายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีต รอง สวป.สภ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ว่า หลังจากสั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป, กก.3บก.ป และ กก.5.บก.ป. ลงพื้นที่สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีปัญหา โดยจะสรุปและมีการประชุมความคืบหน้าภายในอาทิตย์หน้า ซึ่งในระหว่างนี้จะให้ทางเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลทั้งการสอบพยาน รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวด้วยว่า สำหรับคดีดังกล่าวในส่วนของกองปราบปรามจะดำเนินการควบคู่ไปกับพนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองกาญจนบุรี ที่เป็นเจ้าของสำนวน ซึ่งพนักงานสอบสวนของกองปราบปราม ก็ได้เชิญตัวคู่กรณีทั้ง ร.ต.ท.จรูญ ซึ่งเป็นผู้นำลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลไปขึ้นเงินกับสำนักงานสลากฯ และ นายปรีชา ที่อ้างว่าทำหายลอตเตอรี่หาย รวมทั้งยังเชิญพยานแวดล้อมมาสอบปากคำไปจนครบถ้วนแล้ว

เบื้องต้นก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ใครที่เป็นเจ้าของลอตเตอรี่ที่แท้จริง เนื่องจากในการสอบปากคำคู่กรณีทั้งสองฝ่ายก็ให้การค่อนข้างชัดเจน และก็ถือว่ามีน้ำหนักที่รับฟังได้ทั้ง 2 ฝ่าย ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรม พนักงานสอบสวนของกองปราบก็จะรวบรวมคำให้การทั้งหมด เพื่อรอที่นำเข้าสู่กระกระบวนการไต่สวนในชั้นศาล และที่สำคัญที่สุด ก็คือ จะต้องรอการผลตรวจหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่จะตรวจหาลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอจากลอตเตอรี่ชุดที่เกิดปัญหา โดยขั้นตอนนี้คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์

รายงานอีกว่า พนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้ทำหนังสือประสานไปถึงสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว เพื่อขอนำลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวนำมาเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์แล้วด้วย