ก จกรรม เสร ม สร าง ความ ส มพ นธ

วันนี้ (6 ธ.ค.) ที่โรงแรมกรีนเนอรี่ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย จัดโครงการเสริมสร้างศักยภาพ ส.ส.และบุคลากรทางการเมือง นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กรรมการบริหารพรรค พร้อมด้วย รัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง ส.ส. อดีต ส.ส. และบุคลากรทางการเมืองของเพื่อไทยกว่า 200 คนเข้าร่วมสัมมนา

โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวในการเปิดสัมมนา ว่า วันนี้รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่เพื่อนสมาชิกพรรคเพื่อไทยมาร่วมกิจกรรมในวันนี้จำนวนมาก ซึ่งเราทุกคนเป็นพี่เป็นน้องกัน ไม่ว่าจะอายุห่างกันเท่าใด ประสบการณ์มีมาอย่างไร แต่เราทุกคนจะมาแบ่งปันประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง โดยเชื่อว่าเราจะผสมผสานความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้อย่างน่าสนใจ พร้อมเรียนรู้และนับหนึ่งไปด้วยกัน

ขณะที่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า การสัมมนาในวันนี้เป็นงานสัมมนาครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยมีวัตถุประสงค์ให้กรรมการบริหารพรรค ส.ส.พรรค และสมาชิกพรรคได้มาพบปะรู้จักเชื่อมความสัมพันธ์กัน เนื่องจากบุคลากรของพรรคเพื่อไทย มีความหลากหลายตั้งแต่บุคคลากรรุ่นใหญ่ รุ่นพ่อๆ อาๆ ที่บุกเบิกทำงานมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย จนถึงเพื่อไทย ตลอดจนถึงน้องคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งได้เป็น ส.ส.สมัยแรก รวมถึงบุคลากรของพรรค ซึ่งทุกองค์กรที่มีอายุยาวนานกว่า 20 ปี จะมีเรื่องความแตกต่างระหว่างวัย ทำให้เราต่างกันทั้งวิธีคิด มุมมอง การสัมมนาวันนี้จึงจะเป็นการร่วมแบ่งปันบอกเล่าประสบการณ์ทำงานของรุ่นใหญ่ ได้ถ่ายทอดบทเรียนแบ่งปันให้คนรุ่นใหม่และเรียนรู้วิธีคิดประสบการณ์คนรุ่นใหม่ไปด้วยเช่นกัน เพื่อให้พรรคเพื่อไทยเดินไปข้างหน้า ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ นำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประสงค์ให้เราทุกคนรู้จักกันมากขึ้นเข้าใจกันมากขึ้น และมีวัตถุประสงค์เป้าหมายชัดเจนมากขึ้นเพื่อให้พรรคเพื่อไทยได้เดินหน้าอย่างแข็งแกร่งต่อไป

โปรดเลือกภาคการศึกษาที่ต้องการ

สำนักทะเบียนและวัดผล มสธ. Version 2018.0.1

Last updated เม.ย. 21, 2018

• กลุ่มไลน์ข่าวการศึกษา

  กลุ่มไลน์ข่าวการศึกษา

เอ็ดเวิร์ด ลี ธอร์นไดค์ (Edward Lee Thomdike) เป็นนักจิตวิทยาชาวอเมริกา เกิด วันที่ 31สิงหาคม ค.ศ.1814ที่เมืองวิลเลี่ยมเบอรี่ รัฐแมซซาชูเสท และสิ้นชีวิตวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1949 ที่เมืองมอนท์โร รัฐนิวยอร์ค

หลักการเรียนรู้

ทฤษฎีสัมพันธ์เชื่อมโยง กล่าวถึง การเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนอง โดยมีหลักพื้นฐานว่า การเรียนรู้เกิดจากการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนองที่มักจะออกมาในรูปแบบต่างๆ หลายรูปแบบ โดยการลองถูกลองผิด จนกว่าจะพบรูปแบบที่ดีและเหมาะสมที่สุด

หลักการเรียนรู้ของทฤษฎี

ธอร์นไดค์ เขาได้เริ่มการทดลองเมื่อปี ค.ศ.1898 เกี่ยวกับการใช้หีบกล( Puzzie-box) เขาทดลองการเรียนรู้จนมีชื่อเสียง การทดลองใช้หีบกล

การทดลอง

ในการทดลอง ธอร์นไดค์ได้นำแมวไปขังไว้ในกรงที่สร้างขึ้น แล้วนำปลาไปวางล่อไวนอกกรงให้ห่างพอประมาณ โดยให้แมวไม่สามารถยื่นเท้าไปเขี่ยได้ จากการสังเกต พบว่าแมวพยายามใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อจะออกไปจากกรง จนกระทั่งเท้าของมันไปเหยียบถูกคานไม้โดยบังเอิญ ทำให้ประตูเปิดออก หลังจาก นั้นแมวก็ใช้เวลาในการเปิดกรงได้เร็วขึ้น

จากการทดลอง ธอร์นไดค์อธิบายว่า การตอบสนองซึ่งแมวแสดงออกมาเพื่อแก้ปัญหา เป็นการตอบสนองแบบลองผิดลองถูก การที่แมวสามารถเปิดกรงได้เร็วขึ้น ในช่วงหลังแสดงว่า แมวเกิดการสร้างพันธะหรือตัวเชื่อมขึ้นระหว่างคานไม้กับการกดคานไม้

เป็นทีม และมีภาวะผู้น�ำ ทุกคนแบ่งปันแลกเปล่ียนความรู้ความคิดพร้อมเกื้อกูลกัน ให้ความใส่ใจ ในการประสานความคิด ประนีประนอม เสนอทางเลือกท่ีทุกฝ่ายยอมรับ ส่งเสริมและรักษา ความสัมพันธ์ทางบวกไว้ได้ มีความรับผิดชอบเกิดการแลกเปลี่ยนทรัพยากรและเกิดส่ิงท่ีมีคุณค่าขึ้น เม่ือสืบสาวราวเร่ือง ก็พบว่าเด็ก ๆ กลุ่มนี้เป็นคณะกรรมการนักเรียน เป็นเด็กกิจกรรม ท่ีได้ฝึกฝน การทำ� งานแบบรวมพลัง เปน็ ทีม และภาวะผูน้ ำ� จนมคี วามรูเ้ กีย่ วกบั การทำ� งานรว่ มกันตามเป้าหมาย ร่วมกัน การจัดบทบาทหน้าที่ และความรู้เกี่ยวกับวิธีการท�ำงานร่วมกัน เด็ก ๆ ได้ฝึกฝนการท�ำงาน แบบรวมพลัง เป็นทีมจนมีทักษะ/ช�ำนาญ อีกท้ังเห็นความส�ำคัญในการท�ำงานร่วมกัน ได้น�ำความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะน้ีไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ อยู่เสมอ ท้ังสถานการณ์ท่ีโรงเรียนจัดข้ึน ในฐานะคณะกรรมการนกั เรยี น และสถานการณน์ อกโรงเรยี น เชน่ การทเี่ ดก็ ๆ กลมุ่ นรี้ วมพลงั เลน่ ดนตรี เปดิ หมวกหาเงินช่วยกจิ กรรมของโรงเรยี นในครัง้ นดี้ ้วย ฉะนนั้ เม่อื เกดิ สถานการณก์ ารช่วยชวี ติ ชาวจีน ในครงั้ นข้ี นึ้ มาโดยไมค่ าดคดิ มากอ่ น เดก็ ๆ กลมุ่ นจี้ งึ สามารถนำ� ความรู้ ทกั ษะ และคณุ ลกั ษณะสำ� คญั ท่ถี กู ฝกึ ฝนมาใช้อยา่ งชำ� นาญ แสดงถึงการมีสมรรถนะดา้ นนใี้ นระดับสงู มาก จากกรณตี วั อยา่ งเหตกุ ารณท์ เี่ กดิ ขน้ึ จรงิ ในสงั คมขา้ งตน้ นบั เปน็ บทพสิ จู นใ์ หเ้ หน็ ถงึ ความสำ� คญั ประโยชน์ และคณุ คา่ ของการทำ� งานแบบรว่ มมอื รวมพลงั ทไี่ มม่ ใี ครปฏเิ สธไดว้ า่ เปน็ สงิ่ ทพ่ี งึ ปรารถนา ของสังคมและประเทศชาติ แต่คุณลักษณะและสมรรถนะดังกล่าว ปรากฏให้เห็นในวงกว้างทั้งใน การทำ� งานเป็นกลุม่ เล็ก ๆ และใหญข่ ึน้ ไปจนกระทงั่ ถงึ บรษิ ทั หรอื องค์กรใหญ่ ๆ หรอื ไม่ นเ่ี ปน็ คำ� ถาม ที่จะน�ำไปสู่การตัดสินใจว่า การท�ำงานแบบร่วมมือรวมพลังนี้ยังเป็นเรื่องท่ีจ�ำเป็นต้องพัฒนา ฝึกฝน และบม่ เพาะตอ่ ไปหรือไม่ ลองส�ำรวจในครอบครัวว่า สมาชิกในครอบครัวมีปัญหาหรือมีความร่วมมือร่วมใจกันท�ำงาน มากน้อยเพยี งใด ลองส�ำรวจในชุมชนที่เราอยู่ เพ่ือนบ้านของเรามีปัญหาหรือมีความร่วมมือร่วมใจกันท�ำงาน มากนอ้ ยเพยี งใด ลองส�ำรวจในโรงเรียนว่า ผู้บริหาร ครู และบุคลากรในโรงเรียน มีปัญหาหรือมีความร่วมมือ รว่ มใจกนั ทำ� งานมากน้อยเพยี งใด ลองส�ำรวจในโรงเรียนว่า นักเรียน ท้ังในระดับห้องเรียน และระดับช้ัน และระดับโรงเรียน มปี ญั หาหรอื มคี วามรว่ มมือรว่ มใจกันท�ำงานมากน้อยเพียงใด ลองส�ำรวจในสังคมว่า คนหลากหลายอาชีพ หลากหลายความแตกต่างทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ชาติพันธ์ุ ฯลฯ มีความร่วมมือรว่ มใจกนั ทำ� งานมากน้อยเพยี งใด รายวิชาเพิม่ เติม กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น เสริมสรา้ งผลลัพธท์ ีพ่ งึ ประสงค์ 3 ตามมาตรฐานการศกึ ษาของชาติ พ.ศ. 2561