ประโยชน ของกล องโทรทรรศน ต อการศ กษาภ ม ศาสตร

  1. ภาพทเ่ี ห็นจากกลอ้ งโทรทรรศน์เปน็ ภาพ.....เ.ส..ม...อื ..น...ห..วั..ก...ล..ับ.....ข...น..า..ด...ใ.ห...ญ...ก่..ว..า่..ว..ตั...ถ..ุ..................
  1. ถ้าตอ้ งการเห็นภาพจากกล้องโทรทรรศนเ์ ป็นภาพเสมือนหวั ต้ัง จะตอ้ งใส่ .....เ..ล..น...ส..์น...ูน........ 2. กล้องโทรทรรศนอ์ ันหนง่ึ มีกำลังขยาย 10 เท่า ความยาวโฟกัสของเลนส์ใกลต้ าเทา่ กับ 9 cm ความ

ยาวโฟกัสของเลนสใ์ กลว้ ัตถจุ ะเท่ากับ.....9..0........cm. และความยาวโฟกัสของกลอ้ งโทรทรรศน์อันนี้ เท่ากบั ......9...9......... cm. 3. เมอ่ื นกั เรยี นไปดูการแสดงดนตรหี รือการแข่งขนั กีฬาควรดูกลอ้ งโทรทรรศนช์ นดิ หักเหแสงหรอื ไม่ ........ไ..ม..่ค...ว..ร.........เพราะ……จ…ะ…เห…็น…ภ…า…พ…หัว…ก…ล…บั …กบั…ว…ัต…ถ…ุ ……………………………………………………………….. 4. ใหใ้ ช้แผนภาพแสดงทางเดนิ ของแสงของกลอ้ งโทรทรรศน์ชนิดหนึง่ ประกอบการตอบคำถามต่อไปน้ี

  1. กลอ้ งโทรทรรศนใ์ นแผนภาพเป็นประเภท.ส...ะ..ท..้อ...น..แ...ส..ง......
  2. A คือ .......ก..ร..ะ..จ...ก..ร..า..บ......................................................

B คอื ........เ.ล..น...ส..ใ์..ก..ล..ต้...า..................................................... C คอื ........ก..ร..ะ...จ..ก..เ.ว..้า........................................................

  1. ส่วนประกอบของกลอ้ งท่ีทำหนา้ ท่ีตอ่ ไปน้ตี รงกับอักษรใด

ก. รับแสงจากวัตถุทำให้เกิดภาพหนา้ C คอื .....C.............. ข. ช่วยรับภาพและสง่ ภาพไปยัง B คอื ..............A.............. ค. ทำหนา้ ท่ขี ยายภาพ คือ ...................B...........................

  1. B เปน็ เล่นประเภท ………เ…ลน…ส…น์ …นู ………………………. มีความยาวโฟกัส.........ส..ั้น....................
  1. ถา้ ตอ้ งการศกึ ษาวัตถทุ ่อี ยู่ไกลจากโลกมาก ๆ จะต้องเพิ่มขนาดของเส้นผา่ นศนู ย์กลางของ A หรือ B หรื C …………C……………………………………………………………………………………………………………

5. กล้องโทรทัศน์ประเภทสะท้อนแสงมีประสิทธิภาพสงู กวา่ กล้องโทรทัศน์ประเภทหกั เหแสง คอื

………ส…า…มา…ร…ถ…ศกึ…ษ…า…วัต…ถ…ใุ …นท…้อ…ง…ฟ…า้ ท…่อี …ย…ูไ่ ก…ล…ม…าก……ๆ…ไ…ดด้…ีก…ว…า่ ……………………………………………………………

6. ให้ใช้แผนภาพแสดงสว่ นประกอบของกล้องโทรทัศน์วิทยุตอ่ ไปนปี้ ระกอบการตอบคำถาม A B Cคลนื่ วิทยุ ขอ้ มลู

12

  1. A คือ .......ส...ว่ ..น..ร..ับ...ส..ัญ....ญ...า..ณ.............................................. B คอื ........ส...่ว..น..ข...ย..า..ย..ส...ญั ...ญ...า..ณ........................................... C คอื .......ส..ว่..น...บ...ัน..ท...กึ ..ส...ัญ...ญ...า..ณ...........................................
  1. คลน่ื วิทยมุ ีความยาวประมาณ............1..0...-4...-...1..0..8........................ เมตร
  2. หลกั การของกลอ้ งโทรทรรศน์ประเภทนี้ คือ……จ…า…กว…ัต…ถ…ุท…่ีอย…ู่ใ…น…ทอ้…ง…ฟ…า้ …ได…้ ……………………. 7. เครือ่ งมือที่ใชว้ เิ คราะห์สเปกตรมั ของแสงสจี ากดาวฤกษ์ตา่ ง ๆ และมักใช้ควบคู่กบั กลอ้ งโทรทรรศน์ คือ ..........ส..เ.ป...ก..โ..ท..ร..ม...เิ .ต..อ...ร..์ ....................................................................................................................... 8. จงเรียงลำดับประสิทธิภาพของกล้องโทรทัศน์ประเภท สะท้อนแสง หักเหแสง และวิทยุจาก ประสิทธิภาพสงู ไปยงั ประสิทธิภาพต่ำ…ก…ล…อ้ …งโ…ท…ร…ทร…ร…ศ…น…์วทิ …ย…ุ …………ส…ะ…ท้อ…น…แ…ส…ง…………ห…ัก…เห…แ…ส…ง…… 9. กล้องโทรทรรศน์อวกาศจัดเปน็ ดาวเทียมประเภทหนึ่ง เพราะ …เ…ป…น็ …ก…ลอ้…ง…ท…ถี่ ูก…ส…ง่ …ขึ้น…ไ…ป…รอ…บ…โ…ลก……… 10. กล้องโทรทรรศน์อวกาศเป็นกลางที่รับคืนแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงคลื่นสั้นหรือช่วงคลื่นยาว ........ค...ล..ื่น...ส..้ัน..............................................................................................................................................

13

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 23

กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ 5 รหสั วิชา ว 23101

หน่วยการเรียนที่ 7 เทคโนโลยอี วกาศ เวลาเรียนรวม 6 ชั่วโมง

เร่อื ง ความกา้ วหนา้ ของการสำรวจอวกาศ เวลา 2 ชั่วโมง

ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1/2565

ผสู้ อน นางสาวกง่ิ กาญจน์ จันทร์เขยี ว วนั ท่.ี ......เดือน..................พ.ศ…….

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชว้ี ัด ว 3.1 ม.3/4 อธิบายการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศและยกตัวอย่างความก้าวหน้า

ของโครงการ สำรวจอวกาศจากขอ้ มลู ทร่ี วบรวมได้

2. สาระสำคัญ การส่งดาวเทียม จรวด ยานอวกาศ ไปสำรวจนอกโลกมีผลต่อการดำรงชีวิตในด้าน

การส่อื สาร การขนส่งการประกอบอาชีพ การดำเนนิ ชีวติ และการสำรวจอวกาศ

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ด้านความรู้ (K) 1. นักเรียนอธิบายความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศ ที่ใช้ในการสำรวจอวกาศ

วตั ถุทอ้ งฟา้ สภาวะอวกาศ ทรพั ยากรธรรมชาติ และที่ใชใ้ นการส่ือสารได้ 2. นกั เรียนอธิบายลกั ษณะหรอื การนำไปใชข้ องเทคโนโลยสี ำรวจอวกาศแต่ละชนดิ ได้

2.2 ทักษะ/กระบวนการ (P) 1.นักเรียนมีความกระตอื รือรน้ ในการหาความรู้ 2.นักเรยี นมคี วามมนั่ ใจและกล้าแสดงออก

2.3 ดา้ นคุณลักษณะ (A) 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

4. สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. สาระการเรียนรู้ 1. ความกา้ วหน้าของเทคโนโลยอี วกาศ 2. ประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศ

14

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ แบบกระบวนการเรยี นรู้ 5 ขัน้ ตอน (5 STEPs) ขั้นท่ี 1 การเรียนรตู้ ัง้ คำถาม หรอื ขน้ั ต้งั คำถาม (20 นาที) 1. เปดิ ภาพและวีดีโอเกย่ี วกบั เทคโนโลยอี วกาศใหน้ ักเรยี นดู แล้วต้ังคำถามถามนักเรียน

ว่า นักเรยี นร้หู รอื ไมว่ ่ามนุษยน์ ำเทคโนโลยอี วกาศมาใช้ประโยชนอ์ ย่างไร (แนวคำตอบ จรวดมีไว้เพื่อ ขนส่งยานอวกาศ ยานอวกาศมีไว้เพ่อื สำรวจสงิ่ ต่าง ๆ ภายนอกโลก ดาวเทียมสำรวจสงิ่ ตา่ ง ๆ หรือไว้ ในการสื่อสาร การพยากรณ์อากาศ สถานีอวกาศนอกโลกมีไว้สำหรับเป็นที่อยู่และสถานที่ทำวิจัย ของมนุษย์)

ขน้ั ท่ี 2 การเรียนรูแ้ สวงหาสารสนเทศ (30 นาท)ี 1. นักเรยี นศกึ ษาความรู้ จากหนงั สือรายวิชาวิทยาศาสตร์ เรอื่ ง เทคโนโลยอี วกาศ และครู

สอนโดยการบรรยายเพ่มิ เตมิ โดยใชโ้ ปรแกรม Power point 2. ครูแจกลูกโป่ง ให้นักเรียนเป่า แล้วทำการปล่อยลูกโป่ง และครูถามนักเรียนว่า

การเป่าลูกโป่งแล้วปล่อย มีลักษณะการทำงานเหมือนกับอะไรในเทคโนโลยีอวกาศ (แนวคำตอบ เหมือนกับจรวด อากาศในลูกโป่งเปรียบเสมือนเช้อื เพลิงของจรวดรวด เวลาปล่อยลูกโป่งอากาศจะทำ ให้ลกู โปง่ เคล่อื นท่ีไปขา้ งหนา้ เหมอื นกบั การจุดเช้ือเพลิงของจรวดท่ที ำใหจ้ รวดเคลื่อนท่ี)

ขั้นท่ี 3 การเรียนร้เู พอ่ื สร้างองค์ความรู้ (40 นาท)ี 1. เปดิ วีดโิ อการเคลอ่ื นทีข่ องบง้ั ไฟ และให้นกั เรยี นอธบิ ายหลักการการทำงานของบ้งั ไฟ

ว่ามีกลไกการทำงานอย่างไร 2. ครใู ช้คำถามกระตุน้ ความคิดของนกั เรียน เกยี่ วกบั กลไกการทำงานของบ้งั ไฟที่

เหมอื นกับจรวจ 3. นักเรยี นทำใบงานท่ี 7.2 เร่อื ง ความกา้ วหนา้ ของการสำรวจอวกาศ

ข้ันท่ี 4 การเรยี นร้เู พื่อสอื่ สาร (20 นาท)ี 1. นกั เรยี นและครูรว่ มกันอภิปราย และร่วมกันสรปุ บทเรยี นหน้าชัน้ เรยี นกบั นกั เรยี นเกี่ยวกับ

เนอ้ื หาท่เี รียนในวนั น้ีเพ่อื เปน็ การสรปุ องค์ความรทู้ ่เี รียนในวันน้ีให้มีความเข้าใจตรงกนั ขั้นที่ 5 การเรยี นรู้เพือ่ ตอบแทนสังคม (10 นาท)ี 1. นักเรียนสามารถนำความรู้จากเทคโนโลยีอวกาศมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างไร

(แนวคำตอบ สามารถนำความความรู้ไปเผยแพร่ให้กับครอบครัว ให้กับชุมชนได้ว่าส่วนใหญ่ การใช้ ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศ จะใช้ดาวเทียมเป็นส่วนมาก และใช้ในทางอ้อม เช่น การใช้ดาวเทียม สื่อสาร ในการสื่อสารโดยใช้ผ่านโทรศัพท์มือถือ ที่จะส่งข้อมูลไปยังเสาสถานีเครือข่ายใกล้เคียงแล้วเสา สถานีจะส่งข้อมูลไปยังดาวเทียม การใช้ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา ใช้ในการพยากรณ์อากาศ ดาวเทียม คมนาคม ใช้ในการเดนิ ทางของเคร่ืองบิน ใชใ้ นการนำทาง (GPS) เปน็ ต้น)

7. สอ่ื การเรยี นรู้และแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนรายวิชาพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 2. PowerPoint เรอ่ื ง ความก้าวหนา้ ของการสำรวจอวกาศ 3. วดี โิ อ เรอ่ื ง ความกา้ วหน้าของการสำรวจอวกาศ 4. DLTV เรือ่ ง ความก้าวหน้าของการสำรวจอวกาศ

15

5. ใบงานที่ 7.2 เรื่อง ความก้าวหน้าของการสำรวจอวกาศ

8. ภาระงาน/ช้ินงาน - ใบงานท่ี 7.2 เรอื่ ง ความกา้ วหนา้ ของการสำรวจอวกาศ

9. การวัดและประเมินผล

ประเดน็ การประเมิน วธิ กี าร เคร่อื งมือ การวัดประเมินผล

ด้านความรู้ (K) ตรวจคะแนนจาก ใบงานท่ี 7.2 เร่อื ง ทำได้ร้อยละ 70 ข้ึนไป 1. นักเรียนอธิบาย ใบงานที่ 7.2 เร่อื ง ความก้าวหน้าของการ ระดบั คณุ ภาพ ความก้าวหนา้ ของ ความก้าวหน้าของการ สำรวจอวกาศ ด/ี พอใช้/ ปรับปรุง เทคโนโลยอี วกาศ ทใี่ ชใ้ น สำรวจอวกาศ ผ่านเกณฑ์

การสำรวจอวกาศ ในระดับดีขึ้นไป

วตั ถทุ อ้ งฟา้ สภาวะ

อวกาศ

ทรัพยากรธรรมชาติ และที่

ใชใ้ นกรสอ่ื สารได้

2. นักเรียนอธบิ ายลกั ษณะ

หรอื การนำไปใชข้ อง

เทคโนโลยีสำรวจอวกาศ

แต่ละชนิดได้

ดา้ นทักษะ(P)

1.นักเรียนมีความ

กระตือรือร้นในการหา สังเกตพฤติกรรมการ แบบประเมิน

ความรู้ ทำงานรายบุคคล พฤตกิ รรมการทำงาน

2.นักเรียนมีความมั่นและ รายบุคคล

กลา้ แสดงออก

ดา้ นคุณลักษณะ(A) สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1. มวี นิ ยั ในชั้นเรยี น คณุ ลักษณะอันพงึ ดี/พอใช/้

2. ใฝ่เรียนรู้ ประสงค์ ปรบั ปรงุ 3. มงุ่ มั่นในการทำงาน ผ่านเกณฑ์ ในระดบั ดีขนึ้ ไป

16

10. บันทึกหลงั แผนการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรียนรู้

1. ด้านความรู้ ประเมนิ ผลการเรียนโดยใช้……………….………………………….………………………… พบว่านกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินคิดเปน็ รอ้ ยละ......................…….ไม่ผา่ นเกณฑ์ข้ันต่ำ ท่ีกำหนดไว้คดิ เป็นรอ้ ยละ...................………………………………………………………………..……..

2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ ประเมินทักษะการเรียนรู้โดยใช้……………….…………………………… พบว่านกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินคิดเป็นรอ้ ยละ......................……. ไมผ่ า่ นเกณฑข์ ้ันต่ำ ที่กำหนดไว้คดิ เปน็ ร้อยละ..................………………………………………………………………………..

3. ด้านคุณลักษณะ ประเมินคณุ ลักษณะโดยใช้……………….……………………………..……………… พบวา่ นักเรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมินคดิ เปน็ ร้อยละ......................……. ไมผ่ า่ นเกณฑข์ ั้นต่ำ ท่กี ำหนดไวค้ ดิ เปน็ รอ้ ยละ...................………………………………………………………………………..

ปัญหาและอปุ สรรค 1.  กจิ กรรมการจดั การเรียนร้ไู มเ่ หมาะสมกบั เวลา 2.  มนี ักเรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ ันตามกำหนดเวลา 3.  มีนกั เรยี นท่ไี มส่ นใจเรยี น 4.  มีนกั เรยี นทำงานรายวิชาอืน่ ในคาบเรยี น 5.  มีนักเรียนท่ีสนเล่นแตโ่ ทรศพั ท์ภายในคาบเรียน 6.  มีนักเรียนทขี่ ้นึ เรยี นสายและไม่มาเรยี นในคาบเรยี น 7.  อื่น ๆ

……………………………………………………………………………………………………………………………………………...

11. ขอ้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ .....................................................ครผู ู้สอน (นางสาวกง่ิ กาญจน์ จนั ทรเ์ ขยี ว) วันท่.ี ..........เดอื น...................พ.ศ. ..........

17

12. ข้อเสนอแนะ/ ความคดิ เห็นของครพู เ่ี ลยี้ ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ ........................................... (นายจรญั เฉิดฉาย) ครูพ่ีเลี้ยง

วันที่...........เดือน...................พ.ศ. ..........

13. ขอ้ เสนอแนะ/ ความคดิ เห็นของหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ มอี งคป์ ระกอบของแผนครบถ้วน สมบูรณ์ และถกู ต้องตามหลกั วชิ าการ มีกจิ กรรมการเรยี นรเู้ นน้ ผู้เรียนเป็นสำคญั ใชส้ ่ือและแหล่งเรยี นร้ทู ีห่ ลากหลาย เหมาะสม มกี ารวัดและประเมนิ ผลสอดคล้องกับจดุ ประสงค์และกระบวนการจดั การเรยี นร้โู ดยใช้ วธิ กี ารทหี่ ลากหลาย แผนการจดั การเรยี นรู้นำไปสู่การปฏิบตั ไิ ด้ สอดคลอ้ งกบั หลักสูตร บรบิ ท สภาพของผเู้ รยี น และชมุ ชน ลงชอื่ ...................................................... (นายจรัญ เฉิดฉาย) หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ วันที.่ ..........เดอื น...................พ.ศ. ..........

18

14. ข้อเสนอแนะ/ ความคิดเหน็ ของรองผอู้ ำนวยการกลมุ่ บริหารวิชาการ มีองคป์ ระกอบของแผนครบถ้วน สมบรู ณ์ และถูกต้องตามหลักวิชาการ มกี จิ กรรมการเรียนรูเ้ นน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั มีการใช้สอ่ื และแหล่งเรียนรหู้ ลากหลาย เหมาะสม มกี ารวดั และประเมนิ ผลครอบคลุมพฤติกรรมพุทธิพสิ ัย จิตพิสัย ทกั ษะพสิ ยั

ลงช่ือ...................................................... (นางสาวจันทริ า แวงวงษ)์

หัวหนา้ วัดผลและประเมินผลการศกึ ษา วันที่...........เดือน...................พ.ศ. .......... 15. ขอ้ เสนอแนะ/ ความคดิ เหน็ ของผอู้ ำนวยการสถานศึกษา ใช้จดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนได้ ขอให้นเิ ทศ ตดิ ตามผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ เพ่อื นำไปพฒั นางานตอ่ ไป ลงชอื่ ......................................................

(นายพฤทธิ์พล ชาร)ี รองผอู้ ำนวยการกลมุ่ บริหารงานวิชาการ วันท่.ี ..........เดอื น...................พ.ศ. ..........

19

ทดสอบความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกับ

ความกา้ วหนา้ ของการสำรวจอวกาศ

จงเติมคำหรอื ข้อความลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกต้อง 1. ดาวเทียมจะถกู ส่งขึ้นไปโคจรอยใู่ นบรรยากาศชั้น.......................... ปจั จบุ นั นดี้ าวเทยี มมปี ระโยชน์ ในด้านไหนบา้ ง........................................................................................................................................ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ดาวเทยี มสว่ นใหญ่จะมีแผงเซลล์สรุ ยิ ะ ไวเ้ พอ่ื อะไร .......................................................................... 3. ดาวเทยี มประเภทใดท่ีใช้ประโยชน์ในการหาตำแหนง่ และทิศทางของการเดนิ เรือ และการคมนาคม ทางอากาศในกรณีทีภ่ าวะทศั วิสัยไมด่ ี ................................................................................................... 4. ในการพยากรณ์อากาศ นักพยากรณอ์ ากาศจะวเิ คราะหข์ ้อมูลที่ไดม้ าจากดาวเทยี มประเภทใด ................................................................................................................................................................ 5. ประเทศไทยมดี าวเทียมส่อื สารดวงแรกช่ือ ..................ใหบ้ รกิ ารทางด้าน ........................................ มีสถานคี วบคมุ ภาคพน้ื ดนิ อยู่ที่ .............................................................................................................. 6. การสง่ จราจรข้ึนจากฐานตอ้ งส่งในแนวด่งิ เพ่อื ............. และการเคลือ่ นที่ของจรวดอาศัยกฎการ เคลือ่ นท่ขี อง ......................... ทว่ี า่ ........................................................................................................ 7. หอ้ งทดลองคน้ ควา้ วิจยั ทางวิทยาศาสตร์และอวกาศทีอ่ ยใู่ นอวกาศเรียกวา่ ....................................... 8. ดาวเทยี มอุตนุ ยิ มวทิ ยาและดาวเทยี มสำหรับสำรวจทรัพยากรธรรมชาตินอกจากจะมกี ารตดิ ตง้ั เครอื่ งสง่ วทิ ยุแลว้ ยงั มีการตดิ ตง้ั อุปกรณใ์ ดไว้ ........................................................................................ 9. ประโยชนข์ องสถานอี วกาศ ได้แก่ .................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 10. อปุ กรณ์ที่ได้รับการพฒั นาโดยคำนึงถึงการประหยัดคา่ ใช้จา่ ยเพื่อทำหน้าทแ่ี ทนจรวด คอื ............. ซึ่งจะทำหน้าท่ี 2 ประการคอื …………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

20

1ย0าน. อขุปนสกง่รอณว์ทกไ่ีาดศ้รับซกึ่งจาะรพทัฒำหนนาา้ โเทดฉยี่ 2ลคำปยนรทึงะถกดงึ ากสราคอรือปบระคหวยาัดมคา่ รใชู้ค้จวา่ ยาเมพือ่เขท้าำหใจนา้เทกแ่ีี่ยทวนกจรบั วด คอื