กระท ธรรม ผ ม ป ญญา พ งร กษาจ ต

หลวงพ่อปัญญา ท่านเกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494 ณ. บ้านเลขที่ 97 หมู่ 6 ต.พรหมนิมิต อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ บิดาชื่อ พ่อตา วิเชียร มารดาชื่อ แม่เผื่อน วิเชียร ในวัยเยาว์นั้น เด็กชายปัญญา มักจะขี้โรคเจ็บป่วยบ่อยๆบิดา มารดา จึงยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของ หลวงพ่อโอด วัดจันเสน เมื่อหลวงพ่อโอด รับเป็นบุตรบุญธรรมแล้ว ได้ทำพิธีบรรพชาบวชเป็นสามเณร ให้ในวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2509 สามเณรปัญญา ได้รับใช้ หลวงพ่อโอด วัดจันเสน อย่างใกล้ชิดตลอดมา จนกระทั่งอายุ 22 ปี จึงทำพิธีอุปสมบท ณ.อุโบสถ วัดจันเสน โดยมี พระครูนิสัยจริยคุณ (หลวงพ่อโอด) วัดจันเสน เป็นพระอุปปัชฌาย์ พระครูลำใย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดบุตร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ปัญญาทีโป” อุปปัชฌาย์ให้ความหมายว่า ผู้มีปัญญาดุจประทีป หลังจากบวชแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดจันเสนเช่นเดิม โดยได้ศึกษาพระปริยัติธรรม สอบได้นักธรรมชั้นตรี ชั้นโท และชั้นเอก แล้วเดินทางไปศึกษาบาลี จบประโยค 1 - 2 จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระเลขานุการเจ้าคณะอำเภอตาคลี ซึ่งสมัยนั้น หลวงพ่อโอด ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ เป็นเจ้าอาวาส วัดกกกว้าว เป็นพระครูสัญญาบัตร เป็นเจ้าคณะตำบล เป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นประธานหน่วยอบรมประชาชน ตามลำดับ

ศึกษาพระกรรมฐาน และ พระเวทย์อาคม

หลวงพ่อปัญญาท่านได้เริ่มศึกษาพระเวทย์อาคมต่างๆจากหลวงพ่อโอด วัดจันเสน ซึ่งเป็นหลานของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ และหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล ได้ถ่ายทอด วิชาอาคมต่างๆ ตลอดจนวิชาการเพ่งแผ่พลังจิต ให้กับหลวงพ่อปัญญาทั้งหมด ตั้งแต่เป็นสามเณร จนถึงวันที่หลวงพ่อโอดละสังขาร

ศึกษากรรมฐาน

เมื่อครั้งเป็นสามเณร หลวงพ่อปัญญาได้เริ่มศึกษาพระกรรมฐานจากหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ซึ่งจะเห็นหลวงพ่อปัญญา ติดตามหลวงพ่อโอดอยู่เสมอ วันหนึ่งหลวงพ่อพรหม ได้เล่าเรื่องราวการธุดงค์ให้ หลวงพ่อปัญญาฟัง หลวงพ่อปัญญาเกิดความสนใจ จึงได้ศึกษาวิชาสมถะกัมมัฏฐาน วิปัสสนากัมมัฏฐาน วิชาอาคมต่างๆ กับหลวงพ่อพรหม จนหมดสิ้น พอสำเร็จวิชาแล้วหลวงพ่อพรหม จึงมอบชานหมากให้เป็นที่ระลึกว่า ครั้งหนึ่งเคยมาฝึกกับหลวงพ่อพรหม

นอกจากนี้

หลวงพ่อปัญญา ยังได้เรียนวิชาอาคมต่างๆกับ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม และ หลวงพ่อเจ๊ก วัดระนาม จ.สิงห์บุรี อีกด้วย

ด้านวัตถุมงคล

หลวงพ่อปัญญา ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่าง ทั้งพระเครื่อง และ เครื่องรางของขลัง ซึ่งทุกอย่างที่ท่านสร้างและปลุกเสกล้วนแล้วแต่ มีประสบการณ์อย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งทางด้าน มหาอุด คงกระพัน กันภัยแคล้วคลาด เมตตา โชคลาภ ป้องกันเขี้ยวงาและเหล่าวิญญานร้ายต่างๆ

รู้วาระจิตและวันละสังขาร

ในวันที่ 11 ธันวาคม 2559. ได้มีคณะผ้าป่าจาก ก.ท.ม.มาทอดที่วัดเพื่อหาปัจจัยบูรณะอุโบสถวัดกกกว้าว หลังจากทอดผ้าป่าเสร็จ ท่านได้เรียกพระอาจารย์ต้น ซึ่งเป็นพระเลขาฯและศิษย์ใกล้ชิด เข้าไปหา และได้กล่าวกับเจ้าภาพผ้าป่าว่า ให้มอบปัจจัยถวายพระอาจารย์ต้นจำนวนหนึ่ง และ สั่งให้พระอาจารย์ต้นไปเอาวัตถุมงคลที่กุฏิท่านกลับไปอีกจำนวนหนึ่ง และกำชับว่านี่เป็นปัจจัยเอาไว้ใช้ในยามจำเป็น ถ้าหลวงพ่อไม่อยู่แล้ว จะได้ไม่เดือดร้อนจากนั้นท่านได้กล่าวขอบคุณกับคณะผ้าป่า เหมือนเป็นการอำลาครั้งสุดท้าย แต่ไม่มีใครเคลือบแคลงในคำพูดของท่าน จากนั้น ในเวลา 22.25 น.ของคืนวันที่ 11 ธันวาคม 2559. หลวงพ่อได้จาก เหล่าศิษยานุศิษย์ไปด้วยอาการอันสงบ ณ.กุฏิของท่าน สิริอายุ 65 ปี 43 พรรษา ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

รูปหล่อหลวงพ่อปัญญาวัดกกก้าวรุ่น 3 ปี 2538 ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

พระผงรูปเหมือน รุ่น๑ หลวงพ่อปัญญา ให้บูชา 120 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2023 at 22:38

  • กระท ธรรม ผ ม ป ญญา พ งร กษาจ ต

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดีสมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก: 28 กุมภาพันธ์ 2008 โพสต์: 11,744 ค่าพลัง: +21,278
    ประวัติหลวงพ่อสุวรรณ ถิรสทโธ วัดยาง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง

หลวงพ่อสุวรรณ ธีรสัทโธ แห่งวัดยาง ต.ห้วยไผ่ อ.แสวงหา จ.อ่างทอง พระเกจิอาจารย์เจ้าตำรับตะกรุดโทน ได้รับการยกย่องว่าเป็นเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้า เอกอุด้านวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว

ได้รับสมญานามจากคณะศิษยานุศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธาว่าเป็น "เทพเจ้าแห่งแดนวีรชนใจกล้า"

อัตโนประวัติ เกิดในสกุล บัวสรวง เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2487 ที่บ้านทับยา ต.บ้านไร่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายอินและนางก้อย บัวสรวง ประกอบอาชีพกสิกรรมและค้าขาย

ในช่วงวัยเยาว์ จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดบ้านไร่ ก่อนลาออกมาช่วยครอบครัวหาเลี้ยงชีพ ย่างเข้าวัยหนุ่ม ได้ประกอบอาชีพเป็นตัวแทนขายเคมีภัณฑ์ตามที่ญาติแนะนำ

กระทั่งอายุ 42 ปี เกิดความเบื่อหน่ายทางโลกและต้องการบวชทดแทนคุณบุพการี จึงเข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดคำหยาด อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง โดยมีพระครูเกษมจริยคุณ เจ้าคณะอำเภอเมืองอ่างทอง เจ้าอาวาสวัดไทรย์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูโฆสิษโชติคุณ เจ้าอาวาสวัดคำหยาด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระปลัดบุญยัง เขมปัญโญ วัดขุนอินทประมูล เป็นพระอนุสาวนาจารย์

เมื่ออุปสมบท ได้อยู่จำพรรษาที่วัดคำหยาด สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก และออกท่องธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ในประเทศ ครั้งหนึ่งมีโอกาสไปพำนักที่วัดพรหมประกาสิต (ถ้ำสามพี่น้อง) ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ปฏิบัติกัมมัฏฐานบำเพ็ญเพียร เมื่อปฏิบัติธรรมสมหวัง จึงเดินทางมาจำพรรษาที่วัดคำหยาด ศึกษาร่ำเรียนสรรพวิทยาคมสายหลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี พระเกจิดัง ได้ถ่ายทอดวิชาให้อย่างครบถ้วน

พ.ศ.2535 คณะสงฆ์จังหวัดอ่างทอง ได้มอบหมายให้ท่านบูรณปฏิสังขรณ์วัดยาง ต.ห้วยไผ่ อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ตั้งอยู่ริมคลองห้วยไผ่ฝั่งตรงข้ามวัดโพธิ์เก้าต้น และอนุสรณ์สถานค่ายบางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี

วัดยางถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่สมัยศึกบางระจัน เสนาสนะที่หลงเหลือมีเพียงวิหารฐานอ่อนโค้งอยู่ในสภาพปรักหักพัง ไม่มีหลังคา

หลวงพ่อสุวรรณ ได้จัดสร้างตะกรุดเมตตามหานิยม แคล้วคลาดคงกระพัน เพื่อให้บูชารวบรวมจตุปัจจัย จนสามารถก่อสร้างอุโบสถ ศาลาการเปรียญ เมรุ กุฏิสงฆ์ หอสวดมนต์ อนุสรณ์สถานวีรชนไทยใจกล้า เป็นต้น

หลวงพ่อสุวรรณ เป็นที่ยอมรับและศรัทธาของคณะศิษยานุศิษย์ เชื่อกันว่าท่านมีคาถาอาคมทรงพุทธคุณครอบจักรวาล โดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยม และด้านมหาอำนาจปกป้องผองภัยสารพัด

วัตถุมงคลของท่าน ล้วนแต่ได้รับความนิยมจากประชาชน เนื่องจากมีพุทธคุณครอบจักร วาล โดดเด่นหลายด้าน ที่ได้รับความนิยม คือตะกรุดที่ปรากฏปาฏิหาริย์แก่ผู้บูชา เอกลักษณ์เฉพาะสร้างตามตำราพิชัยสงคราม ยันต์จารมือธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ (นะ มะ พะ ทะ) และยันต์ถอด (ทะ พะ มะ นะ) จึงเท่ากับ 16 ตาราง คือ ยันต์พระเจ้า 16 พระองค์

มียันต์อัครสาวกซ้ายขวา (ซ้าย อุมิ อะมิ) (ขวา นะมะ นะอา) และยันต์ถอด รวมทั้งยันต์แคล้วคลาด (สะ รา คา มิ) และยันต์ถอด จึงเป็นเจ้าตำรับตะกรุดโทนแห่งยุค

นอกจากนี้ วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมยังมีเหรียญเสมา เหรียญมหาบารมี รูปหล่อเหมือน

หลวงพ่อสุวรรณ ย้ำอยู่เสมอว่า วัตถุมงคลทั้งหลายล้วนเข้มแข็งด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ

การเข้ากราบไหว้ขอพรจากหลวงพ่อสุวรรณ ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันหมด ไม่มีผู้ใดกีดกัน และท่านมักจะนำวิชาความรู้ด้านวิทยาคมเป็น กุศโลบายในการอบรมสั่งสอนศีลธรรมแก่ประชา ชนทั่วไป โดยให้ยึดหลักธรรมคำสั่งสอนตามแนว ทางพระพุทธศาสนา

ประสบการณ์ตะกรุดโทนหลวงพ่อสุวรรณ

ตะกรุดของหลวงพ่อสุวรรณฯ มีประสบการณ์พี่น้องฝาแฝด อายุ 15 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมสกัมทั้งยิงทั้งแทงแต่รอดตายราวปาฏิหารย์แค่เสื้อขาดกับรอยช้ำตามร่างกายเท่านั้น เป็นเพราะพี่น้องฝาแฝดคู่นี้พกตะกรุดโทน และ เหรียญเสมาหลวงพ่อสุวรรณฯคุ้มครอง

อีกเหตุการณ์หนึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.ภ.จ.อ่างทอง ล้อมจับผู้ค้ายาบ้าถูกยิงด้วยปืนลูกซองเต็มหน้าอกแต่ไม่เข้าก็เป็นเพราะตะกรุดหลวงพ่อสุวรรณคุ้มครองจึงรอดตาย หลวงพ่อสุวรรณฯ เป็นพระที่ใจดีมีเมตตา ถ้าผู้ใดได้ไปกราบนมัสการท่านแล้วลงนะหน้าทองกลับมาจะโชคดีตลอดกาลและผู้ใดพกตะกรุดของท่านไม่มีวันตายโหงแน่ครับ

วิชา นะหน้าทอง ขุนแผนชมตลาด อันลือลั่น!!

กิตติคุณอันโด่งดังของ หลวงพ่อสุวรรณ แห่งวัดยาง จังหวัดอ่างทอง อีกอย่างหนึ่งก็คือวิชาลงนะหน้าทอง ขุนแผนชมตลาด ซึ่งเป็นหนึ่งในตำรับวิชาอันโด่งดัง ลือลั่น ของท่าน ที่เมื่อท่านลงให้กับใครไปแล้ว สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ เมตตา มหานิยม คนเห็นคนชม เทวดารัก จะเดินทางไปแห่งหน ตำบลใด มีแต่คนเมตตารักใคร่เอ็นดู มากมาย อย่างไม่น่าเชื่อ!

เวลาลงนะหน้าทองหลวงพ่อสุวรรณ ท่านจะสวดพระคาถาศักดิ์สิทธิ์อยู่ตลอดเวลา ไม่ขาดปาก ในขณะที่กำลังลงทอง และ เจิมจาร ลงในลิ้น และ ที่หน้าผากของเรา นั่นแหละ ความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลายทั้งมวล ได้ก่อเกิดขึ้น ณ ขณะนั้น เวลานั้น ซึ่งจะสัมผัสได้ในทุกเวลานาที จนกระทั่งท่านลงให้เสร็จสิ้นเรียบร้อย เราก็จะรู้สึกได้ว่า หน้าของเรา ใจของเรา เปลี่ยนไป อิ่มอก อิ่มใจ อย่างไรไม่รู้ อธิบายไม่ถูก แต่สุขใจ เหลือประมาณ!

วิชา นะหน้าทอง ขุนแผนชมตลาด สามารถนำไปใช้ นำไปสวด ไปเสริม เพื่อเพิ่ม บารมีเมตตา ให้กับตัวเองได้ เพียงแต่ บูชาครูอาจารย์แล้วทำตามวิธีการดังต่อไปนี้

เริ่มด้วย ตั้งนะโม 3 จบ แล้วบูชาครูบาอาจารย์ด้วยดอกไม้ธูปเทียน ระลึกถึงท่าน แล้วเริ่มด้วย การตั้งองค์พระ ว่า...

ศรีษะ พุทธา ปะนะวิชายะเต ขอจงมาบังเกิด เป็นศรีษะ อังคะ พุทธา ปะนะวิชายะเต ขอจงมาบังเกิด เป็นองค์พระ บาทะ พุทธา ปะนะวิชายะเต ขอจงมาบังเกิด เป็นฝ่าพระบาท และ ดอกบัว.... นะ กะโรโหติ สัมภะโว จงมาบังเกิด เป็น นะเมตตา มหานิยม นะ โอม สิทธิ ฟ้าฟื้นเจริญศรี ตัวกูนี้คือฟ้า หน้ากูคือ พระจันทร์ ฟันกูคือ พระกำแพง แสงกู คือพระอาทิตย์ จิตกู คือ พระนารายณ์ ฉายดู สาวใดในมนุษย์ และ สวรรค์ เห็นหลงใหล รักใคร่ทุกคน นะมะ พะทะ นะโม พุทธายะ กะริ กะริยะ สีวะ จะ มหาเถโร นะระปุสิโต โสระโห ปัจจายะ ถิขะมะอิ อะหัง วันทามิ สีวะลี เถระคุนัง โสตถีระนัง ภะวันตุเม ฯ พุทธัง เมตตา นะ ชาลีติ ธัมมัง เมตตา นะ ชาลีติ สังฆัง เมตตา นะ ชาลีติ ฯ

ขณะว่าพระคาถาต่างๆ ก็ให้นำแผ่นทองคำเปลวแท้ๆ ปิดลงที่ลิ้น และ ที่หน้าผาก ขณะภาวนาพระคาถา ก็ให้ใช้นิ้วกลาง คลึงแผ่นทอง ให้ซึมหายเข้าไปในใบหน้า เสร็จแล้วตั้งจิตอธิษฐานขอเอา ตามประสงค์ ผู้ที่เชื่อมั่น หมั่นปฏิบัติ และภาวนา ไม่ช้าไม่นาน ก็จักสำเร็จ สมหวัง ดังที่ปรารถนา ตามพลังบุญอันสมควรแห่งตน...

ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ รูปหล่อหลวงพ่อสุวรรณวัดยางที่ระลึกผูกพัทธสีมาวัดพรหมประกาศิต เป็นวัดที่หลวงพ่อมาจำพรรษา ในยุคนั้น ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2023 at 02:12

กระท ธรรม ผ ม ป ญญา พ งร กษาจ ต

Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดีสมาชิก Premium

วันที่สมัครสมาชิก: 28 กุมภาพันธ์ 2008 โพสต์: 11,744 ค่าพลัง: +21,278 สำหรับหลวงพ่อทองหยิบนั้นเกิดเมื่อเดือน 11 ปีมะเส็ง พ.ศ.2472 ที่บ้านในหมู่ที่ 3 ต.หนองแม่ไก่ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง โดยมีหลวงพ่อเล็ก เจ้าอาวาสวัดบ้านกลางสมัยนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งระหว่างที่หลวงพ่อทองหยิบบวชเป็นพระนั้น ก็เป็นพระที่ประพฤติ ปฎิบัติอยู่ในครรลองครองธรรม เปี่ยมไปด้วยเมตตาจิต ชาวอ่างทองและลูกศิษย์ลูกหาให้ความเคารพนับถือ เปรียบเสมือนเป็นที่พึ่งทางใจของผู้ทุกข์ร้อนทั้งทางใจและทางกาย ชาวอ่างทองไม่มีใครไม่รู้จัก หลวงพ่อทองหยิบสร้างสรรค์ช่วยลูกศิษย์ลูกหาและสาธุชนที่เดินทางมานมัสการอย่างไม่ขาดสาย จากทั่วสารทิศ โดยที่ท่านไม่เคยปฏิเสธใครเลย ยกเว้นหากท่านจะอาพาธหรือติดกิจนิมนต์เท่านั้น

หลวงพ่อทองหยิบถือว่าเป็นเกจิที่มีคาถาอาคมแก่กล้าองค์หนึ่งจนมีลูกศิษย์ทั่วประเทศ ส่วนวัตถุมงคลที่โด่งดังของหลวงพ่อทองหยิบนั้นจะเป็นพวกเหรียญของหลวงพ่อรุ่นต่าง ๆ โดยรุ่นที่ 1 นั้นสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2513 พระผงราหูสุริยคราส ที่สร้างเมื่อประมาณปี 2538 และตะกรุด ไม่ว่าจะเป็นตะกรุดโทน หรือตะกรุดมหาอุตม์ ตะกรุดของหลวงพ่อนั้น เหนียวจนได้ชื่อว่า “เหนียวชนิดแมลงไม่มีวันได้กินเลือด” ตะกรุดแต่ละรุ่นสร้างไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกศิษย์ ในวันพรุ่งนี้ที่ 14 เม.ย. 59 จะมีพิธีสรงน้ำศพและจะสวดพระอภิธรรมไปจนถึงวันที่ 22 เม.ย

ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

เหรียญหลวงพ่อทองหยิบวัดบ้านกลางรุ่นสร้างโบสถ์ปี 2535 สภาพสวยเดิมๆครับ ฝากล่องหลุดหาย ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2023 at 10:52

กระท ธรรม ผ ม ป ญญา พ งร กษาจ ต

shaj เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก: 21 พฤศจิกายน 2012 โพสต์: 8,239 ค่าพลัง: +6,285

กระท ธรรม ผ ม ป ญญา พ งร กษาจ ต
ถูกใจ x 1
ดูรายการ
  • กระท ธรรม ผ ม ป ญญา พ งร กษาจ ต

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดีสมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก: 28 กุมภาพันธ์ 2008 โพสต์: 11,744 ค่าพลัง: +21,278 หลวงพ่อไป๋ ญาณผโล วัดท่าหลวง พิจิตร ข้อมูลประวัติ เกิด วันอังคารที่ 14 เมษายน 2439 ณ บ้านวังไม้ดัก พิจิตร เป็นบุตรของ นายน้อย นางเล็ก นาควิจิตร บรรพชา อายุ 16 ปี ณ วัดคลองคเชนทร์ ได้ 2 พรรษา จึงลาสิกขาบท อุปสมบท อายุ 20 ปี วันที่ 3 พฤษภาคม 2459 ณ วัดมูลเหล็ก มรณภาพ วันที่ 21 มิถุนายน 2517 ณ โรงพยาบาลพิจิตร เวลา 22.48 น. รวมสิริอายุ 78 ปี หลวงพ่อไป๋ ญาณผลโล (สกุลเดิม นาควิจิตร) หรือ พระฑีฆทัสสีมุนีวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2439 หมู่ที่ 7 ต.โรงช้าง อ.เมือง จ.พิจิตร เมื่อครั้งวัยฉกรรจ์อายุครบเกณฑ์ทหารได้รับใช้ชาติสังกัดทหารราบประจำมณฑลพิษณุโลก เป็นเวลา 2 ปี ได้รับยศเป็นสิบตรี เมื่อปี 2459 ได้ลาออกจากราชการทหารและอุปสมบทเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2459 ณ วัดมูลเหล็ก ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร โดยมีพระครูศีลธรารักษ์ (ยิ้ม) เป็นพระอุปัชฌาย์ สุดท้ายวันที่ 5 ธ.ค. 2499 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่พระฑีฆทัสสีมุนีวงศ์ มงคลพิจิตร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี (เจ้าอาวาสวัดท่าหลวงและเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรตลอดมาจนถึงมรณภาพ 43 ปี) เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2517 รวมอายุได้ 78 ปี 2 เดือน 8 วัน 53 พรรษา ซึ่งเครื่องรางและพระเครื่องที่ลือเรื่องของท่านคือ ตะกรุดกระดูกแร้ง (เกจิอาจารย์เมืองพิจิตร, 2522) วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม วัตถุมงคลของหลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง พิจิตร ล้วนเป็นวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นในช่วงระหว่างที่ท่านครองวัดเป็นเจ้าอาวาสทั้งสิ้น ทั้งประภทเหรียญปั๊ม พระหล่อ เป็นต้น พระเครื่องที่รู้จักกันดีที่หลวงพ่อไป๋ได้สร้างขึ้น คือ หลวงพ่อเพชรสามเหลี่ยม เพื่อสมทบทุนทรัพย์สร้างอุโบสถวัดท่าหลวง แต่พิมพ์นี้คือพระคะแนนทำจากเนื้อเงิน หายากมาก (ที่มา : หนังสือพระเครื่องพระบูชาเมือง