Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

“Homemade Matcha Spread คืออะไร?” พอพูดถึง Matcha spread หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยนัก ถ้าบอกว่ามันคือ Nutella เวอร์ชั่นชาเขียว น่าจะพอทำให้นึกภาพได้ง่ายขึ้น เจ้า Matcha spread เนี่ย ก็คือของจำพวกเดียวกับแยม เอาไว้ทานคู่กับขนมปัง แครกเกอร์ ครัวซองค์ หรือขนมอะไรก็ได้ ครอบจักรวาลมากๆค่ะ ทีนี้พอบอกอีกว่ามีแบรนด์ Matcha Spread แบรนด์ใหม่ที่ทำแบบ Homemade จากเจ้าของร้านฟิล์ม อ๊ะ ก็ฟังดูงงๆขึ้นมาอีกนิด เจ้าของร้านฟิล์ม? ฟิล์มที่ใช้ถ่ายรูปสมัยก่อน? ทำขนม? ใช่ค่ะ แบรนด์… More

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

“ไปนั่งรถไฟใหม่เที่ยวกัน” เรื่องของเรื่องคือเราอยากไปลองนั่งรถไฟใหม่กัน จากที่เห็นเปิดตัวมานานแล้วก็ไม่ได้ไปกันซักกะที และแล้วโอกาสก็มาถึง ตอนหยุดยาว 4 วันของเดือนกรกฎาคมนี่แหละ จะได้ลองนั่งกันซักที เริ่มแรกเราก็เอาตารางรถไฟใหม่ทั้ง 4 เส้นทางมากางดูเลยว่ามีไปจังหวัดไหนบ้าง แล้วก็จิ้มเลยว่าอยากไปจังหวัดไหน ลูกไผ่: “ไปไหนดีอ่ะคะ พัทลุงมั้ย” พี่ปุ่น: “โอเค” ตอนแรกเราก็หมายมั่นปั้นมือดิบดี ตกลงกันแล้วว่าจะไปพัทลุง ที่เที่ยวในจังหวัดค่อยว่ากัน ไม่ซีเรียส แค่อยากนั่งรถไฟเที่ยว พี่ปุ่น: “รถไฟมีไปลงอุบลด้วยนี่” ลูกไผ่: “อ้าว มีลงอุบลด้วยเหรอคะ ไผ่นึกว่ามีแต่อุดร” จริงๆอุบลเป็นจังหวัดที่เราจองตั๋วเครื่องบิน AirAsia ไป-กลับแค่ประมาณ 900 กว่าบาท ถูกมากๆ ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว… More

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พี่ปุ่น: “ตั๋วไป – กลับญี่ปุ่น 9,000 กว่าบาทอ่ะ” ลูกไผ่: “เฮ้ย อยากไป จองเลยค่า” พี่ปุ่น: “ไม่มี transit เวลาโอเคด้วย” ลูกไผ่: “ไปกี่วันคะนี่” พี่ปุ่น: “18 วันไปเล้ยยย” ลูกไผ่: “โอเค ดีล ไป!” ไอพวกบ้าจี้ 2 คนนี้อีกแล้วสินะ (- -“) นี่เป็นบทสนทนาและการจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นข้ามปีของเรา ตอนนั้นเราจองไว้เมื่อเดือนเมษา 2016 เพื่อจะเดินทางกับ Air Asia ในวันที่… More

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ไปเที่ยวต่างจังหวัดกันมาเยอะแล้ว

จริงๆเราก็อาจลืมนึกไปว่า เฮ้ย จริงๆ กรุงเทพก็เที่ยวได้นะ กระทู้นี้เอาไว้เป็นทางเลือกสำหรับวันหยุดยาวนี้ ที่บางคนไม่อยากไปเบียดเสียด เสี่ยงรถติด แย่งคนอื่นเที่ยวที่ต่างจังหวัดละกันน้า

“พรุ่งนี้เราไปเดินถ่ายรูปดีกว่า” “พี่ปุ่นจะไปคนเดียวเหรอคะ” “ไผ่จะไปด้วยรึเปล่าละ ร้อนนะ” “ไปๆๆค่า” “555 โอเคๆ โบกกันแดดเข้าไปเยอะๆ” …………………………………….. “ไผ่จะตื่นมั้ยน้า เราอยากออกบ้านซัก 8 – 9 โมง” “ก็ลองปลุกไผ่ดูก็ได้ค่ะ ถ้าไผ่ไม่ตื่นก็ไปก่อนเลย เดี๋ยวไผ่ตามไป 555” ตัดภาพมาเช้าวันอาทิตย์ เสียงนาฬิกาปลุกรอบแรก ………………………………………..นิ่งเงียบ รอบที่ 2 ………………………………………..นิ่งเงียบ รอบที่ 3 …………………………………………นิ่งเงียบ จน 14 นาฬิกา เป็นเวลาที่เราได้ฤกษ์ออกบ้านกัน 555

บางคนอยู่กรุงเทพมานาน อาจจะยังไม่เคยเดินเที่ยวเรื่อยๆ เปื่อยๆ งี้เลยก็ได้ ปะ เดี๋ยวเราพาไป (แบบมั่วๆนะ 555)

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พี่ปุ่น: “ไผ่เคยไปวัดแขกยัง” ลูกไผ่: “ยังเลยค่ะ” พี่ปุ่น: “โอเค เดี๋ยวเราพาไป” ใช่แล้ว เป้าหมายแรกของเราวันนี้คือ ‘วัดแขก’ หรือ ‘วัดพระศรีอุมาเทวี’ แถวๆสีลมแหละ เราก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าชื่อเต็มๆ เค้าชื่อนี้ – เรานั่ง Taxi จากคอนโดตรงมาที่วัดแขก 85 บาท

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ข้างๆวัดแขกจะมีดอกไม้ขายเต็มเลย แล้วแต่ว่าใครจะเลือกซื้อเข้าไปถวาย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ทางเข้าวัดแขกวันนี้เค้ากำลังบูรณะอยู่พอดีเลย ข้างในวัดเค้าห้ามถ่ายรูปล่ะ เราเล่าให้ฟังแทนละกันเนอะ เผื่อคนที่ยังไม่เคยเข้าวัดแขกเหมือนเรา

อย่างที่บอกนี่เป็นการมาวัดแขกครั้งแรกของเรา ที่นี่เลยค่อนข้างแปลกตาสำหรับเรา เค้าจะให้เราถอดรองเท้าตั้งแต่หน้าวัด พอเข้าไปจะเจอแท่นที่ให้วางของบูชาหน้ากระถางธูป เราเข้าไปนี่ก็เอ๋อเลย ละเค้าต้องไหว้ยังไง เอาของไหว้จากไหน จุดนี้เดินตามพี่ปุ่นอย่างเดียวเลยจ้า เดินเข้าไปข้างในเค้าจะมีที่ขายของไหว้ ชุดละ 60 บาท ถ้าเอาดอกบัวกับน้ำมันตะเกียงเพิ่ม จะอยู่ที่ชุดละ 80 บาท (เค้าบอกว่าดอกบัวช่วยเรื่องการเงิน) พี่ปุ่นซื้อชุดใหญ่ไป เราก็เลยเอาชุดเล็กก็พอ ซื้อมาแล้วก็มาจุดธูปเทียน แล้วเอาไปปักที่กระถาง จากนั้นก็ยกของไหว้เข้าไปไหว้ข้างใน อธิฐานเสร็จก็ยื่นให้พราหมณ์ไป พราหมณ์เค้าจะคืนของมาให้ แล้วแต่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม หรือว่ากล้วย ให้เราเอากลับไปทานเพื่อเป็นสิริมงคล ถวายของเสร็จ เราก็เดินไหว้เทพทีละองค์ๆ

ออกจากวัดแล้วรู้สึก สบายใจมากกก ได้ทำบุญอ่ะเนอะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ทำบุญเสร็จแล้วได้เวลาเดินเที่ยวกันแล้ว เราเริ่มเดินตรงเข้าไปในซอยวัดแขก เดินไปได้เจอร้านขนมแขกอยู่ทางซ้ายมือ พี่ปุ่น: “ไผ่เคยกินยัง มันจะหวานๆอ่ะ ทุกอย่างเลยนะ” ลูกไผ่: “อ๊า ยังเลยอ่ะค่ะ อยากลองนะ แต่กลัวมันหวานจัดค่ะนี่” พี่ปุ่น: “หวานซี่ ส่วนใหญ่มันทำจากถั่วกับน้ำตาลทั้งนั้นเลย” ลูกไผ่: “แงะ ยังม่ายทานดีกว่า”

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

มองไปทางขวามือ เจอรถขายบะหมี่เกี๊ยว ‘เกี๊ยวทองคำ’ น่าร๊ากก จอดอยู่เด่นมาก นี่ท่าไม่ทานข้าวก่อนออกมา คงเสร็จร้านนี้ไปละ 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ตึกด้านหลังที่รถบะหมี่เกี๊ยวจอดอยู่จะเป็น Gallery เล็กๆสีเขียว ชื่อว่า ‘Kathmandu’ ตอนแรกเราก็งงว่าพี่ปุ่นข้ามถนน เดินไปด่อมๆมองๆอะไรที่หน้าตึกเค้า ซักพักเดินข้ามถนนกลับมา พี่ปุ่น: “วันนี้เค้าปิดอ่ะ” ลูกไผ่: “อะไรอ่ะคะ” พี่ปุ่น: “Gallery ที่จัดแสดงภาพของ ‘ผ้าป่าน’ ที่เราบอกไง” อ๋ออออ…อ๊ะ! เผื่อใครยังไม่รู้จัก ‘ผ้าป่าน’ ‘ผ้าป่าน สิริมา’ เค้าเป็นช่างภาพ ไม่ใช่ผ้านะค้า หน้าตาน่ารักๆ เคยเป็นพิธีกรรายการ Strawberry Cheese Cake พี่ปุ่นเค้าชอบ เห็นบอกว่าจริงๆวันนี้ตั้งใจจะมาดูนิทรรศการภาพถ่ายของผ้าป่านด้วย ปิดวันอาทิตย์ซะงั้น พี่ปุ่น: “รู้งี้มาเมื่อวานดีกว่า เสียดาย” บ่นอุบอิบๆ ปะๆ อย่าเสียใจไปเลย มาดู ‘ลูกไผ่’ แทน ‘ผ้าป่าน’ ไปก่อนนะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินกันต่อๆ วันนี้ซอยวันแขกเงียบ ละรถโล่งมาก น่าเดินสุดๆ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอขึ้นชื่อว่า แถบสีลม พื้นที่ใจกลางเมือง ทุกที่มีค่าหมดจริงๆ แม้แต่ซอยเล็กๆ ในซอกหลืบก็ยังมีร้านอาหารเปิดอยู่ อย่างร้านนี้ ‘Siam Mitr’ เรามองเข้าไปในซอยเล็กๆ เห็นแค่ป้ายดำๆเลยลองเดินเข้าไปดู เฮ้ย เป็นร้านอาหารจริงๆด้วย ด้านบนเค้าเปิดเป็น Hostel พี่ปุ่น: “ที่ไหนก็เปิดร้านได้หมดสินะ 555”

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินๆไปเจอป้าย ‘ห้ามทิ้งขยะ’ ห้ามทิ้งนะฮ้า ไม่งั้นมีปรับ เฮ้ย! ประเทศไทยทำได้จริงๆเหรอ มีคนกลัวด้วยใช่ป่ะ!? แต่ดูตามทางก็สะอาดจริงๆแฮะ หรือว่าจะเป็นแค่วันที่เรามาเดินพอดีหว่า 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินมาอีกนิด อยู่ๆก็เห็นกลุ่มคนเต็มเลย คือมัน contrast กับซอยเงียบๆวันนี้มาไง ลูกไผ่: “โห นี่เค้ามานั่งทำอะไรกันคะนี่” พี่ปุ่น: “มานั่งรอถ่ายรูปทำวีซ่ามั้ง”

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินมาสุดซอยเห็นป้าย ‘สถานทูตพม่า’ อ๋ออออ….เออ แฮะ เค้าท่าจะมารอทำวีซ่ากันจริงๆแฮะ อ๊ะ! แต่วันนี้มันวันอาทิตย์นะ!? สุดซอยละ ลูกไผ่: “แล้วเราจะไปไหนกันต่ออ่ะคะ” พี่ปุ่น: “เราว่าจะไปหัวลำโพง เดี๋ยวเรียก Taxi ไปเลยละกัน ไป 2 คนราคาพอๆกับนั่งรถไฟฟ้าแหละ” – เรานั่ง Taxi จากซอยวัดแขกมาที่หัวลำโพง 75 บาท

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

นี่เป็นการมาถ่ายรูปที่หัวลำโพงครั้งที่ 2 ของเรา ครั้งแรกก็มากับพี่ปุ่น (แต่มีพี่อีกคนนึงมาด้วย 555) ละก็เป็นครั้งแรกที่เรากับพี่ปุ่นเจอกันด้วย ที่ MRT หัวลำโพง ที่นี่…..

รอบนี้เราเพิ่งสังเกตว่าที่ทางเข้าหัวลำโพง เค้าจะมีกล่องให้คนหย่อนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่นี่ ลูกไผ่: “เค้าไม่ให้เอาเหล้าขึ้นรถไฟเหรอคะ” พี่ปุ่น: “ก็ใช่น่ะสิ”

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ละก็เพิ่งสังเกตอีกเหมือนกันว่า ที่นี่เค้ามีบริการเข็นสัมภาระกันเป็นเรื่องเป็นราวด้วยอ่ะ!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

วันนี้เรามาช่วงพอดิบพอดี ที่เค้าล้างรถไฟกันพอดีเลย เราเลยเห็นพนักงานใส่ชุดสีฟ้าเดินไปเดินมาเต็มสถานีเลย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินต่อไปก็จะเจอชุมชนแม่ค้า มีทั้งขายส้มตำ ขายไก่ทอด ไอแบบที่เราเห็นเค้าเดินขึ้นไปขายบนรถไฟเวลาที่รถไฟจอดตามจุดต่างๆนั่นแหละ เวลาที่เค้าไม่ได้ขึ้นไปขาย เค้าตั้งขายเป็นกลุ่มเป็นก้อนอยู่ตรงนี้นี่เองเหรอเนี่ย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราว่าวันนี้เราคงมาในช่วงประจวบเหมาะที่เค้าทำความสะอาดรถไฟ บูรณะสถานีกันพอดีสินะนี่

ตอนแรกเราก็ว่าไอแท่งคอนกรีตที่วางอยู่บนชานชาลาเต็มไปหมดนี่มันอะไรกัน พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ อ๋อออ…เค้ากำลังเปลี่ยนหมอนรถไฟใหม่นี่เอง! คุณพี่ช่างเค้ากำลังทยอยวางหมอนรถไฟคอนกรีตใหม่เอี่ยมลงไปแทนหมอนเดิมที่เป็นไม้ (ผุๆ) ต่อไปนี้ชีวิตการนั่งรถไฟของเราจะปลอดภัยขึ้นอีกนิดแล้วสินะ เย้!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินมาสุดชานชาลา มีหัวรถไฟกำลังวิ่งมาพอดี ไผ่ว่าไผ่ถ่ายริงส์ไซด์ละนะ นู้น ดูคนนู้น นั่นคือแระ? จะเข้าไปถ่าย Texture รถไฟเหรอค้า!?

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

คราวที่แล้วเรามาก็ถ่ายตึกนี้ รอบนี้เรามาก็ยังคงถ่ายมันอีก คงสะดุดตาที่ความเก่าสุดๆของมันนี่แหละ ตอนแรกเราก็นึกว่าเป็นแฟลตอะไรซักอย่าง จริงๆแล้วมัน ‘ศูนย์ไปรษณีย์กรุงเทพ’ หูยย…นี่เป็นศูนย์แรกของไทยป่ะเนี่ย ถึงเก่าได้ขนาดนี้เนี่ย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ด้านซ้ายมือจะมีหัวรถจักรโบราณตั้งอยู่ โบราณก็จริงนะ แต่พื้นผิวนี่มันวับ ที่นี่เค้าคงดูแลขัดเป็นอย่างดี

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

สุดทางละ เราก็เลยเดินกลับกัน พี่ปุ่น: “ไผ่ๆ เดี๋ยวเราเดินไปทางนี้นะ เดี๋ยวเจอกัน” ลูกไผ่: “โอเคค่า” เดินไปซักพักเริ่มรู้สึกว่า รู้งี้เดินกลับทางพี่ปุ่นดีกว่า ทางนี้มันทางแคบๆ ใกล้ๆกับห้องเครื่องนี่ โคตรร้อนเลย! เอาวะ ปีนข้ามรถไฟไปอีกฝากละกัน

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

นี่คงเป็นรถไฟแบบนั่งหวานเย็น ทิงนองนอย สินะ ว่าแต่ทำไมมันเหม็นๆหว่า หันไปทางขวา เชี๊ยะ นี่มันห้องน้ำนี่ ทำไมต้องมาหยุดยืนถ่ายหน้าห้องน้ำรถไฟด้วยหะไผ่!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

อย่างที่บอก วันนี้คงเป็นช่วงเวลาทำความสะอาดของเค้าพอดี เราแอบเห็น ‘รถเครน’ (ไม่รู้มันเรียกรถอะไร ขอเรียกงี้ละกันนะ) ยกพนักขึ้นไปสู๊งงง สูง ตอนแรกเราก็ไม่ได้สนใจ พอมองๆไป เห็นเศษฝุ่นค่อยๆร่วงลงมา เฮ้ย เค้ากวาดหลังคา! โห…เค้าทำความสะอาดกันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย แล้วคิดดูนะ หลังคาหัวลำโพงใหญ่และกว้างมากก แล้ววิธีทำความสะอาดของเค้าคือ ใช้ไม้กวาดค่อยๆกวาดทีละซี่ของโครงหลังคา ป๊าดดดด…พี่โคตรพยายามเลยอ่ะ!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เห็นที่ชานชาลาเงียบๆ โล่งๆ นี่นึกว่าวันนี้ไม่ค่อยมีคนเดินทางซะอีก พอเดินเข้ามาในตัวอาคารเท่านั้น โห…คนเยอะเหมือนกันนะนี่

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราออกจากหัวลำโพง ข้ามสะพานมาอีกฝั่งนึง คราวที่แล้วก็ถ่ายมุมนี้ แต่ตอนนั้นดอกสีส้มนี่ยังไม่บานเลย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินผ่านตึกเก่าตรงหัวมุม ประเทศไทยนี่เป็นประทศที่สายไฟฟ้ารกรุงรัง ระโยงระยางเต็มไปหมดจริงๆ ไม่รู้สายอะไรเป็นสายอะไร จะเอาลงดินก็เรื่องใหญ่ต้องวางแผนกันนานอีก คงทำอะไรกับมันไม่ได้จริงๆอ่ะเนอะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราเดินมาเรื่อยๆตามทางที่เข้าซอยนานา พี่ปุ่น: “นี่ไง ใกล้ร้านที่เรามาเคยมาทานกันแล้ว” ลูกไผ่: “อ๊า ร้านที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอ่ะนะคะ” พี่ปุ่น: “ไม่ใจ้! แถวนี้จะเอาแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหนมาไผ่ 555 ร้านที่มากินกันตอนปีใหม่ไง” ลูกไผ่: “อ๋ออออ 55555”

ใช่ตอนปีใหม่เราแอบโดดงานปาร์ตี้ปีใหม่ที่ออฟฟิศเราแล้วมาเป็นติ่งติดสอยห้อยตามมาทานกับออฟฟิศพี่ปุ่นแทน 555 เรามาทานพิซซ่าข้างในซอยนี้ ซึ่งอร่อยมาก แต่ตอนเรามาวันนี้เค้ายังไม่เปิดแฮะ สงสัยจะเปิดค่ำๆ ทานเสร็จวันนั้นเราก็มาต่อกันที่ร้าน ‘เทพบาร์’ เป็นอีกร้านที่อยู่ในซอกหลืบแต่ก็มีคนตามมาทานเว้ย! ข้างในร้านจะเป็นบรรยากาศแบบไท๊….ไทย แม้แต่ดนตรีที่เล่นในร้านยังเป็นดนตรีไทยเลย ที่นี่เค้ามีสูตรเหล้ายาดองเยอะมาก ชื่อแปลกๆทั้งนั้นเลย ต้องลองไปดูนะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พี่ปุ่น: “ไผ่! แวะเข้ามาซอยนี้ก็ไม่บอกเรา เราเดินไปนู้น 555” ในซอยตอนนี้แสงแดดลอดลงกำลังสวยพอดี พี่ปุ่น: “ไผ่ๆมายืนตรงนี้สิ” เวลาไปไหนแล้วมีแดด ชอบให้เราไปยืนเป็นแบบกลางแดดตลอด ต้องเอาหน้าให้โดนแดดด้วยนะ พอถ่ายเสร็จไผ่หันไปดูข้างๆ ลูกไผ่: “อี๋…พี่ปุ่นๆ ขี้หมาๆ” กองเบ้อเริ่มเลยจ้า เรานี่ท่าจะดวงสมพงศ์กับขี้หมาไปไหนนี่เจอตลอดดดดด…T^T พี่ปุ่น: “Focus หลุดอ่ะ ไผ่ไปยืนอีกทีสิ” เราหันไปมองตาปริบๆ “ปี้ปุ่นๆ แต่ตรงนั้นมันมีขี้หมา” พี่ปุ่น: “ก็ยืนข้างๆ อย่าไปเหยียบมันสิ เร็วๆ ไปยืนเร๊ว” ลูกไผ่: T^T

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราเดินออกมาจากซอยไปเรื่อยๆ เห็นข้างทางมีรถโรงเรียนจอดอยู่ สะดุดตามาก นี่พี่ให้นักเรียนทุกคนที่ขึ้นรถวาดกราฟฟิตี้ลงรถพี่ใช่มั้ย พูด! สมกับเป็นรถโรงเรียนจริงๆ น่ารักดี 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินๆไปเริ่มรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในเมืองเก่าภูเก็ต พี่ปุ่น: “นี่เราเดินอยู่ภูเก็ตรึเปล่าเนี่ย 555”

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ตรงหัวมุมที่มีรถเข็นขายของกินเยอะๆ ตรงวงเวียน 22 จะคุณลุงนั่งเปิดเพลงลูกกรุง ตั้งโต๊ะขายน้ำอะไรซักอย่าง พี่ปุ่น: “ไผ่ดูดิๆ ผักไรอ่ะ” “เอาแก้วนึงครับ” หะ! ซื้อไปแล้ว? อย่างรวดเร็ว! เดินไปดูเค้าเขียนไว้ว่า ‘น้ำแช่เฉ้า’ เอาไว้กินแก้ร้อนใน แล้วที่สำคัญ แก้วละ 3 บาท!!!!! ลุงขายได้ไงคะนี่!!!!! มันยังมีน้ำราคานี้หลงเหลืออยู่บนโลก! น้ำมีรสหวานนิดๆ ละมีกลิ่นหอม จะว่าน้ำชาก็ไม่ใช่ ใบเตยก็ไม่เชิง แต่อร่อยดี ต้องไปลองเองนะ อุดหนุนลุงแกหน่อย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราเดินมาเรื่อยๆ ผ่านวงเวียน 22 หันไปเจอตึก LH Bank สีสวยดีเลยหันไปถ่าย แล้วก็ เอ๊ะ! ข้างๆ LH Bank คนเค้ามุงซื้ออะไรกัน ก่อนที่ไผ่จะเอ๊ะ พี่ปุ่นเดินข้ามถนนไปดูเรียบร้อยแล้วจ้า….

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

สรุปมันคือ ‘ร้านข้าวเหนียวมะม่วง’ กับ ‘ร้านก๋วยจั๊บ’ คนมุงเยอะเลย ‘ร้านข้าวเหนียวมะม่วง’ น่าจะเป็นร้านดัง เห็นเค้าเขียนป้ายว่าย้ายมาจากตรงไหนซักที่ จำไม่ได้ มีคนซื้อข้าวเหนียวกลับบ้านเต็มเลย คนขายนี่ตักใสถุงกันจ้าละหวั่นเลย เรากับพี่ปุ่นสั่ง ข้าวเหนียวมะม่วง ไปชุดนึง ชุดละ 100 บาท ระหว่างรอเค้าตักให้ อาม่าที่นั่งขายอยู่ก็ยกถุงข้าวเหนียวมะม่วงที่มีโลโก้ร้านขึ้นมาวางใกล้ๆหน้า แล้วยิ้มเฉ่ง บอกให้พี่ปุ่นถ่ายรูป อาม่าแกการตลาดนะเนี่ย 555 น่ารักดีอ่ะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ระหว่างรอข้าวเหนียวมะม่วง หันไปเจอร้านก๋วยจั๊บ หืมมม หมูกรอบ เครื่องในแน่นๆ วางเต็ม ไผ่กับพี่ปุ่นจะรอดเหรอ นั่งสิค้า รออะไร 5555 ก๋วยจั๊บ ชามละ 50 บาท อร่อยดี แต่ถ้าคนชอบรสชาติแบบเยาวราช ร้านนี้อาจจะไม่ค่อยมีรสพริกไทยซักเท่าไหร่ ต้องเหยาะใส่เอง

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

แน่นเลยทีนี้ ทั้งก๋วยจั๊บ ทั้งข้าวเหนียวมะม่วง ตอนนี้หันไปฝั่งตรงข้ามเจอข้าวขาหมู ก็ไม่สามารถทำอะไรเราได้อีกแล้ว พุงจะแตก อ๊ะ! เดินต่อไป ถือว่าเดินย่อย ใช่เหรอหว้า….ไม่ใช่ว่าจะเสียดท้องกว่าเดิม 555 เราเดินไปเรื่อยๆ ตัดผ่าน ‘วัดพลับพลาไชย’ ด้านข้างวัดมีคิวรถตุ๊กๆ จอดเป็นระเบียบ สวยเชียว

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ร้านค้าที่นี่เวลาเค้าขายอะไร เค้าจะขายเหมือนกันทั้งเส้นเลย อย่างวันนี้วันอาทิตย์ ร้านส่วนใหญ่ปิดก็จริง แต่เราเห็นป้ายร้านถนนตรงนี้ขายพวกอะไหล่รถยนต์ทั้งเส้นเลย สุดถนนเป็นแยกเรือนจำเก่า ที่ตอนนี้เค้าทำซะสวย เหมือนกำลังจะเตรียมทำเป็นพิพิธภัณฑ์อะไรซักอย่าง

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ด้านข้างเป็นสวนรมณีนาถ เป็นเรือนจำเก่า ที่ตอนนี้กลายเป็นสวนสุขภาพไปแล้ว มีคนมาออกกำลังเต็มเลย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราเดินตรงไปเรื่อยๆ โดยปักเป้าหมายสุดท้ายของวันนี้เป็น ‘ป้อมมหากาฬ’ พี่ปุ่น: “ซ้ายมือนี่เดินไปทะลุกับ เสาชิงช้า ได้นะ” “เราจะเดินไปเสาชิงช้ากันก่อนป่าว แล้วค่อยเดินกลับมาที่ ป้อมมหากาฬ” ลูกไผ่: “ได้ๆ ยังไงก็ได้ค่ะ” เราเลยเดินย้อนกลับเลี้ยวซ้ายมาที่ ‘เสาชิงช้า’ ก่อน

อย่างที่บอกถนนที่นี่ขายอะไรก็พร้อมใจขายเหมือนกันทั้งเส้น เส้นนี้ก็เหมือนกัน ขายพระพุทธรูป ทั้งเส้นเลย สุดทางถนนเราก็เจอ ‘เสาชิงช้า’

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราเดินไปถ่ายรูปตรงเกาะกลางถนนที่เสาชิงช้า พี่ปุ่น: “เตรียมยืนตรงเคารพธงชาตินะ” เฮ้ย 6 โมงเย็นแล้วเหรอเนี่ย เป็นการยืนเคารพธงชาติตรงเกาะกลางถนน หน้าศาลาว่าการกรุงเทพฯ แบบมีเพื่อนยืนด้วยเต็มเลย 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เคารพธงชาติเสร็จเราก็เดินข้ามไปตรงลานหน้าศาลากลางกรุงเทพฯ เราเลยขอพี่ปุ่นนั่งพักตรงนี้หน่อย ด้านหลังเราเป็นกลุ่มคุณลุงนั่งจับกลุ่มกัน ซักพักมีคุณลุงคนนึงเดินเข้ามาในกลุ่มอวดรองเท้าแตะสีขาวจั๊วคู่ใหม่ให้เพื่อนดู “สวยป่าวๆ 50 บาท” “เฮ้ย ดีๆ ซื้อต่อได้ป่าว” “45 ละกัน ใส่ไปแล้ว” 555 ฟังแกคุยกันๆ น่ารักดีนะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

นั่งพักพอแล้ว เราก็เดินเข้าไปในลาน ที่ลานมีครอบครัวพาลูกๆมาปั่นจักรยานเล่นกันหลายครอบครัวเลย ลมโชยๆ ลานกว้างๆ เฮ้ย มันดีมากอ่ะ ชิลสุดๆ เรานี่ติดใจลานนี้สุด พี่ปุ่นบอกว่า ตรงนี้จะมีรถขนของมาแจกให้พวก Homeless ที่เราเห็นนั่งๆ นอนๆ อยู่ตรงนี้ เราเลยนึกถึง Status นึง ที่เคยมีคนโพสบน Facebook ว่าวันเกิดเลยซื้อข้าวมาแจกพวก Homeless ที่นี่ ตอนแรกเค้าก็กล้าๆกลัวๆ แต่พอเค้าลงรถ Homeless เค้าก็ค่อยๆลุกขึ้นมาต่อแถวกันอย่างเป็นระเบียบมาก แถมเรียกเพื่อนข้างๆที่นอนอยู่ให้มาต่อแถวด้วย คนไหนที่เรียกแล้วไม่ยอมลุก เค้าก็หยิบข้าวไปเผื่อ วางไว้ข้างๆเพื่อนเค้าที่นอนอยู่ให้ เฮ้ยยย..อ่านแล้วรู้สึกดีมากอ่ะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้ววว เราต้องรีบเดินไปป้อมกันแล้วล่ะ ระหว่างทางเราเดินผ่านเส้นที่ ‘ร้านมนต์นมสด’ ตั้งอยู่ เป็นเส้นที่มีของกินเยอะมากกก อยากให้แถวคอนโดมีเยอะๆงี้ 555 และแล้วเราก็ไปเจอ ปลาหมึกย่างงงงงง!!!!!! ตอนเดินอยู่ยังบ่นกับพี่ปุ่นอยู่เลยว่าอยากทานปลาหมึกย่างเหมือนที่ภูเก็ต ได้ทานจริงๆด้วย ที่นี่ตัวเล็กกว่าภูเก็ตนิดหน่อย แต่ราคานี่พุ่งปรี๊ดนะค้า ไม้ละ 60 บาท พี่ปุ่น: “เอาจริงๆเราว่าไม่มีที่ไหนขายไม้ละ 20 ได้เหมือนที่ภูเก็ตหรอก มันถูกมากเลยนะ”

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ได้ปลาหมึกย่างแล้ว พอใจละ 555 ปะ เดินกันต่อ เราเดินผ่าน ‘อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย’ แล้วก็เดินอ้อมวงเวียนมาเรื่อยๆ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ถึงแล้ว ‘ป้อมมหากาฬ’ !!!!!! จุดหมายปลายทางสุดท้ายของเราวันนี้

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ฝั่งตรงข้ามเป็น ‘โลหะปราสาท’ พี่ปุ่น: “โลหะปราสาทนี่เมื่อก่อนเป็นสีดำนะ แต่เดี๋ยวนี้เค้าจะทานเป็นสีทองหมดแล้ว ไม่รู้ทำไม เราว่าสีดำเท่กว่าอีก” ลูกไผ่: “เออ จริงแฮะ สีดำดูเท่กว่าอีก”

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พี่ปุ่น: “ไผ่จะเข้าไปถ่ายรูปในป้อมป่าว” ลูกไผ่: “มองอยู่เหมือนกันอ่ะค่ะ แต่ว่าแสงหมดแล้วอ่ะ ไม่ถ่ายแล้วดีกว่าค่ะ” “แล้วเราไปไหนกันต่ออ่ะคะ” พี่ปุ่น: “เดินย้อนกลับไปหน้านิทรรศรัตนโกสินทร์ ที่ไผ่เห็นเค้าจัดงานเมื่อกี้ไง” ลูกไผ่: “โอเกก้า”

วันนี้เลยหน้านิทรรศรัตโกสินทร์มานิดนึง เค้ามีจัดงานขายของกิน ของ Handmade เล็กๆ แอบมีธงแบบงานวัดด้วย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินๆไป เอ๊ะ! คุ้นๆ “พี่ต้น!!! สวัสดีค่า” เจอคนรู้สึกซะงั้น พี่ต้นเป็น Graphic Designer ที่ลาออกจากงานประจำมาเปิด Food Truck ชื่อร้าน Foxili กับพี่ยิ้ม แฟนเค้า พี่เค้าขายสมูทตี้ เฟรนฟราย ละก็คร๊อกเก้ อันนี้อร่อยมาก ไผ่ชอบทานคร็อกเก้ 555 พี่ต้นบอกว่า ตรงนี้เค้าจัดทุกๆเสาร์ – อาทิตย์ แต่ว่าเดี๋ยวว่าวันที่ 15 นี้จะไม่มีแล้ว (ไม่ชัวร์นะ) งานนี้เป็นของ Workpoint จัด แอบถามพี่ต้นว่ากิจการเป็นยังไงบ้าง เห็นมีคนมาถ่ายรูปด้วยเต็มเลย ดาราก็มี อยู่ตัวแล้วใช่มั้ย พี่ต้น: “มันก็เรื่อยๆแหละไผ่ เพราะของเรามันไม่ได้เป็นร้านอยู่กับที่ ก็ต้องไปตามงานเรื่อยๆ แต่ก็มีคนรู้จักเรามากขึ้น” แล้วพี่ต้นก็เล่าว่าจากวันนี้เค้าไปขายที่ไหนอีกบ้าง ลูกไผ่: “โห…คิวยาว ไปหลายที่เลย แล้วพี่ต้นไปเอาข่าวที่เค้าจัดงานพวกนี้มาจากไหนอ่ะคะ” พี่ต้น: “เค้าก็จะมีบอกข่าวกันในกลุ่มของ Food Truck นี่แหละ บางทีคนจัดงานเค้าก็มาเลือกว่าจะจ้างคันไหนไปงานเค้าบ้าง บางทีเค้าก็จ้างเราไป บางทีเราก็จ่ายค่าเช่าที่ไปงานเค้า” โอ้…ความรู้ใหม่นะนี่ เราคิดว่าเราต้องไปเสียค่าเช่าที่เค้าเพื่อขายอย่างเดียวซะอีก ดูพี่ต้น พี่ยิ้ม ดูมีความสุขดี กับการที่ได้หลุดจาก comfort zone ออกมาทำอะไรเป็นของตัวเอง นี่สินะ อิสระที่คนทำงานประจำอยากได้กัน อยากมีมั่งจัง

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ปิดทริปการเดินเที่ยวเล่นเรื่อยเปื่อยของเรา 2 คนวันนี้ ฟ้ามืดพอดี ปะ เรียก Taxi กลับบ้านกัน – เราเสียค่า Taxi กลับบ้านอีก 85 บาท

เป็นทริปครึ่งวันที่เขียนได้ยาวมาก 555 วันไหนว่างๆลองออกมาเดินแบบเราดูสิ เชื่อดิ เดี๋ยวก็มีเรื่องเล่าเยอะแยะอย่างเรา…..

ดูรูปทริปนี้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/wherewegopage/

แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าค่า

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ช่วงนี้รู้สึกว่าตัวเองเที่ยวบ่อยค่ะ เลยอยากลองเขียนเล่าแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อนๆได้ลองอ่านดูค่ะ

เริ่มกันเลย

“ไผ่ๆ เราไปแลก Big Point มา บินฟรีได้ตั้งหลายที่ ไปไหนดีน้าาา” เสียงพี่ปุ่นลอดมาจากหน้าคอมลอยๆ “ฮ่องกงมะ” “กระบี่ป่าว” “ภูเก็ต?” “มาเลเซีย?” “หรือว่าเราไปเวียดนามอีกรอบแมะ” . . “เอาจริงๆ ฮ่องกง เวียดนาม มาเลย์ไผ่อยากไปหมดแหละ แต่….. ช่วงนี้เราต้องประหยัดกันไม่ใช่เหรอคะพี่ปุ่น” “โอเค! งั้นเที่ยวในประเทศ ไปไหนดีอ่ะ” “ภูเก็ตมั้ยคะ พี่ปุ่นยังไม่เคยไปทะเลใต้นี่” “โอเค! งั้นภูเก็ตนะ จองเลย” “โอเค! จองเลย!”

‘โอเค ปะ ไป จองเลย’ เป็นประโยคบ้าจี้ที่เราสองคนเป็นตลอด ไม่เคยจะมีใครห้ามใครเลย…. – -”

ละนี่คือจุดเริ่มต้นของทริปภูเก็ตของเรา พี่ปุ่นใช้ point แลกได้แค่ขากลับ แต่ขาไปแลกไม่ได้

– เราก็เลยเสียค่าเดินทางไป-กลับภูเก็ตสายการบิน Air Asia ที่ประมาณ 1,800 บาท

เราอยากเปิดด้วยทริปนี้ เพราะทริปนี้เป็นทริปต่างจังหวัดที่เราไปด้วยกันแค่ 2 คนจริงๆทริปแรก! โหยยย….กะไปสวีทอ่ะดิ เปล่า! ชวนชาวบ้านไปด้วยไม่ได้ 5555

ก็ด้วยคิดกันเอง ตัดสินใจกันเอง จองกันเองเฉยเลย ไปช่วงใกล้เทศกาล (ก่อนชาวบ้านเค้าหยุดยาวกันด้วย!) วันที่ 6-12 เมษา ถามว่าแม้วที่ไหนมันจะไปด้วยได้

นั่นล่ะ สรุปไปกันสองคนตามนั้น

เวลาไปไหนเราเตรียมตัวกันดีมากกกก จองโรงแรมไว้พร้อม – นอน Hostel ในเมืองเก่า 2 คืน คืนละประมาณ 700 บาท – แล้วย้ายไปนอนที่หาดกระตะ 2 คืน คืนละประมาณ 500 บาท – แล้วกลับมานอนที่หาดไม้ขาว ใกล้สนามบิน 1 คืน คืนละประมาณ 1,100 บาท – สรุปเราเสียค่าที่พัก 6 วัน 5 คืน ไปคนละประมาณ 1,800 บาท เฮ้ย ประทับใจมันถูกมากอ่ะ

นอกจากจองที่พัก นอกนั้นแทบไม่มีข้อมูลอะไรเลย ไปตายเอาดาบหน้า จัดกระเป๋าเสื้อผ้า 15 นาที ก่อนออกบ้านไปสนามบิน

เป็นอย่างนี้…….ทุกทริป – -”

โอเค รู้ที่มาละนะ ปะ เดี๋ยวเราพาไปเที่ยวภูเก็ตแบบมั่วๆ ไม่มีแพลนของเรา

มาสิ ไม่ต้องกลัว เราเที่ยวมั่วๆงี้หลายทีแล้ว 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

Day1:: เราจัดกระเป๋า ออกคอนโด แวะทานข้าวหน้าคอนโดแปปนึง แล้วเรียก Taxi ไปดอนเมือง วันนี้รถไม่ค่อยติด เพราะคนเริ่มออกต่างจังหวัดหยุดยาวสงกรานต์กันบ้างแล้ว Check-in โหลดกระเป๋าเรียบร้อย ก็ไปซื้อชาที่ร้านกาแฟมวลชน เฮ้ย ร้านนี้เค้ามวลชนจริงๆนะ ถูกสุดในสนามบินละมั้ง แน่นอน เรานี่ลูกค้าประจำ แหมะ ฐานะอย่างเรา 555 . . ตัด shot ข้ามตอนมาตอนที่ถึงสนามภูเก็ต มี Taxi มารอลาก เอ้ย รอรับนักท่องเที่ยวเต็มเลยจ้า ซึ่งราคาไม่ต้องสืบ แพงมากกก ฐานะอย่างเรา ฮุ ฮุ ฮุ Airport Bus สิฮ้าาา 100 บาท ถึงตัวเมืองภูเก็ตแบบหวานเย็น ได้ดูทิวทัศน์ข้างทางแบบชัดๆ เก็บทุกรายละเอียด เพราะพี่คนขับใจเย็นมาก ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เราก็ถึงโรงแรมแรกของเรา

‘Fulfill’ เป็น Hostel ที่พัก 2 คืนแรกของเรา ตัว hostel เป็นตึกแถวเล็กๆ ห้องเดียว แต่จัดไว้ลงตัวและน่ารักมาก “พี่ปุ่นๆ เฮ้ยยย มันดีอ่ะ ห้องดี จัดดี น่ารักอ่าาา ประทับใจ” “ไม่เคยนอน Hostel อ่ะดิ เรานอนจนชินละ เฉยๆ” แล้วทำท่ายิ้มเยาะ – -” กวนตีนนนน

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เก็บของ พักเหนื่อยเสร็จ เราก็เตรียมตัวออกไปทานข้าวกลางวัน กัน ระหว่างทางที่นั่ง Airport bus เราก็ลอง search หาข้อมูลร้านอาหารไว้ พอเลือกว่าร้านนี้แหละ ก็มองข้างทางตอนอยู่บนรถไว้ แล้วปักหมุดในหัว เนี่ยแหละ เดี๋ยวจะเดินมาทานกัน! ระหว่างทางเราเจอ Agent ทัวร์ที่มีทัวร์เกาะพี พี เราเลยเข้าไปลองคุยด้วย ที่นี่ถ้านั่งเรือแฟรี่ไป-กลับ พีพี มีอาหารกลางวันให้ เค้าคิดคนละ 700 บาท เค้าเสนอให้เราซื้อทัวร์นั่งเรือ Speed Boat ไป 3 เกาะ มีอาหารกลางวันให้ คนละ 1,200 บาท คุ้มกว่า เราก็เลยบอกขอเดินคิดกันก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยว่ากัน ละคือเตรียมตัวกันมาดีมากไง ลูกไผ่: “พี่ปุ่น ไผ่ไม่มีชุดเตรียมมาลงน้ำอ่ะค่ะ รองเท้าแตะเราก็ไม่ได้เอามากันอ่ะ”

คุณป้า Agent ทัวร์แกก็เลยแนะนำเราว่า เดินผ่านหอนาฬิกาไป จะมีห้าง ละก็มีตลาดโต้รุ่ง ไปซื้อแถวนั้นได้ เราก็เลยตั้งใจว่าจะไปทานข้าวเย็นที่นู้น ไปหาข้าวแกงปักษ์ใต้ อาหารพื้นเมืองทานกัน!

ออกจากโรงแรม เดินมาทางซ้าย แล้วก็เลี้ยวซ้ายอีกที เราจะเจอตึกชิโนโปตุกีสสีเหลือง เด่นเป็นสง่า กลางสีแยกเล็กๆ เป็นตึกแรกที่เราเจอ เลยขอแช๊ะถ่ายรูปเก็บไว้ซะหน่อย จริงๆตึกตรงข้ามเค้าน่าจะตั้งใจออกแบบให้ล้อกันไป แต่ตอนที่เราไป ชั้นล่างเค้ากำลังปิดก่อสร้างอะไรซักอย่าง เสียดายจุง เลยมีสังกะสีบังเลย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินๆ ไปเรื่อยๆ อ๊ะ ถึงแล้ว! ร้านวันจันทร์ ร้านอาหารมื้อแรกของเรา! ในร้านใช้ของเก่ามาวางตกแต่ง สวยดีๆ ตอนเราไปคนยังไม่เยอะมาก (ตอนเย็นๆเราเดินผ่านมาอีกที โห…คนแน่นร้านเลย ร้านเค้าคงเป็นร้านดังแฮะ)

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พี่ปุ่นเลือกสั่ง “หมูฮ้อง” หน้าตาก็แบบที่เห็นนี่แหละ รสชาติพี่ปุ่นบอกว่า “เหมือนหมูพะโล้เลยอ่ะ” แต่เราว่าเหมือนแกงฮังเลของทางเหนือมากกว่า แต่หวานกว่า

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ส่วนเราสั่ง “แกงปูใบชะพลู” เฮ้ยยย มันดีอ่าาาา อร่อยมากกก ตักตรงไหนก็เจอปู ประทับใจมาก

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราสั่งอาหารมา 2 อย่างละก็ข้าวเปล่า ซึ่งดีแล้ว เพราะกล้องข้าวน้อยฆ่าแม่มาก ทานกันเกือบไม่หมด ตบท้ายด้วย “โอ้เอ๋ว” ของหวานของเมืองภูเก็ต เรานี่เล็งไว้ตั้งแต่ดูรีวิว มันเป็นวุ้นใสๆ ใส่แตงโมปั้นก้อนกับลูกชิด แล้วโปะด้วยน้ำแข็งใสราดเฮลสบลูบอย ทานแก้ร้อนได้ แต่เราชอบเฉาก๊วยมากกว่า 555 (โอ้เอ๋วที่ร้านนี้ถ้วยละ 40 บาท แต่ถ้าเดินซื้อที่ร้านข้างทางธรรมดา จะอยู่ที่ถ้วยละ 15 – 20 บาท แต่ก็ต้องให้ค่าสถานที่ ค่าแอร์เค้าหน่อยเนอะ) – สรุปมื้อแรกเราหมดไปคนละประมาณ 400 บาท

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เติมพลังเสร็จแล้ว โอเค! พร้อมออกเดินถ่ายรูปที่เมืองเก่ากันแล้ว ปะ เราไปดูตึกโบราณแบบชิโนโปรตุกีสกัน!

ตึกโบ…ราณ

ตึก….โบราณ เอ่อะ….. – -” นี่มันกราฟิตี้นี่! ไหนล่ะตึกโบราณ!?

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

หันมาฝั่งซ้ายหน่อย…..อ่าาา โอเคคค เจอแล้วตึกโบราณ เราเข้าแหล่งละ 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินต่อไปเรื่อยๆ ตามถนนเยาวราช จ่ะ อ่านไม่ผิดหรอก ภูเก็ตก็มีถนนเยาวราชจ้าาา ก็จะเจอตึกโบราณ สีสัน colorful สร้างเรียงกันเต็มไปหมด เค้าก็พร้อมใจกันสร้างไปในทางเดียวกันดีนะ แต่เสียดาย ถ่ายตรงไหนก็จะติดรถที่จอดอยู่ตรงหน้าตึก อ่ะ สถาปัตยกรรมแบบผสมผสานแงะ ไม่รู้จักเหรอไผ่! เอออออ….โอเคๆ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินไปเรื่อยๆ ก็ไปสะดุดตากับบ้านดีไซน์โบราณหลังใหญ่สวยมาก พี่ปุ่น: “นี่มันอะไรอ่ะ เค้าให้เราเข้าไปถ่ายรูปได้ป่าว” พอเราเพ่งเข้าไปดูป้ายที่ติดอยู่หน้าตึก

‘สำนักงานทนายความ’

ลูกไผ่: “เออะ…น่าจะบ้านเค้านะคะพี่ปุ่น” พี่ปุ่น: “นั่นสิ เค้าคงไม่ให้เราเข้าไปหรอกเนอะ” หึ หึ เราหันมาพยักให้กัน “ปะ ไปกันเถอะ” 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินๆไปก็เจอรถสีแดงเหลืองคันเล็ก จอดเด่นอยู่ข้างทาง เลยหยุดถ่ายรูปกัน พี่ผู้ชายที่อยู่ที่รถฝั่งตรงข้ามส่งยิ้มหวานให้จากอีกฝั่งของถนนมาแต่ไกล ตอนนั้นเราก็คิดกับพี่ปุ่น เอ้อ คนที่นี่เค้า friendly ดีเนอะ ละพี่แกก็ข้ามถนนเดินมาหาเรา คุณพี่คนนั้น: “มาจากไหนกันเหรอครับ” พี่ปุ่น: “กรุงเทพครับ” คุณพี่คนนั้น: “อยู่แถวไหนกันเหรอ” ลูกไผ่: (เริ่มตะหงิดๆละ) “พระราม 9 อ่ะค่ะ” คุณพี่คนนั้น: “อ๋อ ผมรู้จัก เคยอยู่แถวนั้น ตรงสะพานแขวนใหญ่ๆใช่มั้ย” เราหันมามองหน้าพี่ปุ่น แล้วยิ้มอ่อน “เหอ เหอ เหอ ไม่ใช่ละค่ะ อันนั้นมันฝั่งธนละค่ะพี่” คุณพี่คนนั้น: “อ้าว เหรอๆ ละนี่จะไปเที่ยวไหนกัน taxi มั้ย” นั่นไง! กุว่าละ ละพี่แกก็ร่ายยาววว กว่าจะปฎิเสธละหลุดมาได้ ยาวเลย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอหลุดมาเราก็เดินๆ กันต่อ เมืองเก่าไม่ได้กว้างอะไรมากมายเลย เดินวนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็วนครบแล้ว ถ้าไม่นับแดดเดือนเมษาที่ร้อนเปรี้ยงๆนะ เดินชิลเลย ในตัวเมืองก็มีร้านขายของเยอะแยะเลย เราไปสะดุดตาที่ร้านนี้ เค้าเป็นร้านขายภาชนะ จาน ชาม ปิ่นโต สีสันน่ารักดี ของก็จะออกแนว Antiqueๆ หน่อย พี่ปุ่น: “ซื้อไปวางที่บ้านมั้ยไผ่ 555” ลูกไผ่: “เข้ากันมากกกกค่ะ” (ได้ข่าวว่าบ้านจะทำแบบ Muji)

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

อันนี้เป็นตึกในซอยรมณีย์ ซอยนี้ตึกสีสวยๆทั้งนั้นเลย ถ้าใครเคยดู “I Wanna be ‘Sup ‘Tar” ที่ดีเจพุฒเล่นกับยิปโซ Ep. ที่ทุกคนจิกหมอนกัน เราว่าเค้าคงมาถ่ายซอยนี้แหละ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินไปเรื่อยๆ เราก็เห็นผู้ชายผอมๆ แต่งตัวประมาณเด็กแว๊น ลากรองเท้าแตะคีบ ตะโกนภาษาจีนข้ามถนน เหมือนพยายามกำกับอะไรซักอย่างอยู่อีกฝากถนน พอมองตามไปก็เห็น เจ้าบ่าว – เจ้าสาว มาถ่าย Pre Wedding เราหันกลับไปมองเด็กแว๊นที่ตะโกนเมื่อกี้ ที่คอห้อยกล้อง DSLR กระบอกเลนส์เทพเชียว เชี้ยยยย…นี่มันตากล้อง! เท่าที่เราเดิน วันนี้เราเจอคู่ Pre Wedding 3 คู่ได้ และตากล้องแต่งตัวสไตล์เดียวกันทุกคน นี่ถ้ามีมอไซค์ให้บิดนี่พี่ใช่เลยนะ ชิท! ตากล้องจีนนี่เค้ามีสไตล์เป็นของตัวเองจริงๆ

เมืองมันไม่ใหญ่ แต่ด้วยแดดประเทศไทย ที่อย่างกะมีพระอาทิตย์ห้อยติดตัว ก็เล่นเอาเหงื่อโทรมเลย หมดแรงกันไม่ใช่เล่น เอ้อ ที่เมืองเก่านี่เรายังไม่เห็น 7-11 ซักกะร้านเลย กะจะเข้าไปหาซื้อน้ำซะหน่อย ทำไมมันหายากงี้…เดินไปจนเกือบถึงโรงแรม เจอร้านกาแฟร้านนึง

“เฮ้ยย พี่ปุ่นๆ ไผ่เห็นโค้กกระป๋องในร้านนั้น” “จริงดิ” “เข้าเลยมั้ยคะ หรือว่าเผื่อว่าข้างหน้าจะมีร้าน” “ไม่ต้องหรอก เข้าไปเลย เดี๋ยวข้างหน้าไม่มี”

เราก็เลยเข้าไปนั่งทานโค้กกระป๋องละ 45 บาท ละพี่ปุ่นทานชาเย็นแก้วละ 85 บาท พักเหนื่อยหายละ เดินไปอีกไม่กี่ก้าวร้านเยื้องๆโรงแรม มีร้านโชว์ห่วย ขายน้ำเหมือนใน 7-11 เลย ชิท!

เราหลับกันไปพักใหญ่ ตื่นมาอีกทีเกือบๆทุ่ม น้อง Reception ที่ Hostel บอกว่าวันนี้มีถนนคนเดินเล็กๆ ทางฝั่งซ้ายนะคะ ลองไปเดินดู เราก็เลยกะไปเดินเล่นก่อนไปตลาดโต้รุ่งอีกฝั่ง ของกินเยอะมากกก แต่ไม่มีอาหารพื้นเมืองที่เราอยากทานเลยจ้าาา นี่มันตลาดเด็กอินดี้ HIpster นี่แก๊…จะมีข้าวแกงปักษ์ใต้ที่ไหนให้ทาน ที่นี่ไผ่ไปสะดุดตาร้านขายปลาหมึกย่างร้านนึง เฮ้ยยย ปลาหมึกชิ้นใหญ่มากกก มีทั้งหนวด ทั้งตัว ทั้งไข่ให้เลือก แล้วที่สำคัญ ขายไม้ละ 20! ป๊าดดดด…นี่ถ้าเป็นกรุงเทพนะ ไม้ขนาดนี้อย่างต่ำก็ไม้ละ 60 ไผ่เลยเสร็จปลาหมึกย่างที่นี่ไป ด้วยความหวังว่าจะไปหาอาหารปักษ์ใต้พื้นเมืองที่ตลาดโต้รุ่ง แต่พี่ปุ่นไม่หวังน้ำบ่อหน้าละ อิ่มเต็มพุงตั้งแต่ที่นี่ละ 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ตอนกลางคืน ตึกในภูเก็ตจะเปิดไฟเป็นสีๆ สวยมาก พี่ปุ่น: เดี๋ยวทานข้าวเสร็จ เรากลับไปเอาขาตั้งกล้องมาถ่ายรูปดีกว่า ไผ่นอนที่โรงแรมได้นะ เราไปเองได้ ลูกไผ่: ไม่เอา ไผ่ไปด้วยๆ ไผ่ก็อยากถา่ย พี่ปุ่น: โอเคคค

ทางเดินไปตลาดโต้รุ่งไกลไม่ใช่เล่นเลยนะนี่ ดีนะที่เป็นตอนกลางคืน อากาศไม่ค่อยร้อนแล้ว เลยเดินได้เรื่อยๆ ระหว่างทาง ก็มีร้านกาแฟประปราย แต่ที่เห็นเยอะเลยคือร้านนวด นวดจริงๆนะ ไม่ใช่นวดกระปู๋ เย้! ถึงแล้ววว ตลาดโต้รุ่ง อาหารพื้นเมืองปักษ์ใต้ของเรา!!! ‘อาหารตามสั่ง’ ‘ข้าวหน้าเป็ด’ ‘ก๋วยเตี๋ยว’ ‘บะหมี่หมูแดง’ ไหนฟระ! อาหารพื้นเมืองปักษ์ใต้ของเรา!!!!! ข้าวราดแกงหน้าคอนโดเรายังมีความใต้มากกว่าอี๊กกกก…. จบด้วยอาหารตามสั่ง ‘ข้าวผัดเผ็ดหมูป่า’ กับ Pepsi ขวดเล็กอีก 1 ขวด – มื้อนี้ 80 บาท! เชี้ยะ! อาหารตามสั่ง 80 บาท!

สวัสดี อาหารพื้นเมืองปักษ์ใต้ของฉัน T^T

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินกลับมาถึงโรงแรม สลบทั้งคู่จ้าาา พยายามลากตัวเองลุกมาอาบน้ำตอนตี 1 รูป เริบ ไม่ถ่ง ไม่ถ่ายมันละ พรุ่งนี้ละกัน 555

Day 2:: จากที่เมื่อคืน เรากลับโรงแรมมาแล้วได้หาข้อมูลที่เที่ยวนิดหน่อย วันนี้เราเลยปักหมุดไว้ 3 ที่ คือ เขารัง วัดฉลอง ละตอนเย็นกะจะไปสะพานหิน ที่แม่บอก

เราตื่นแต่เช้า เพื่อลงมาทาน Breakfast ของ Hostel แล้วจะรีบไปทานติ่มซำเก่าแก่ที่คุณป้า Agent ทัวร์แนะนำให้ทัน เพราะคนที่นี่ทานติ่มซำเป็นอาหารเช้า ประมาณ 10 โมงของก็หมดแล้ว ทานเสร็จเราก็ออกเดิน เดิน เดิน และเดินตาม google ไปเรื่อยๆ เป็นการเดินที่ร้อนมาก ขนาดช่วงเช้า แดดก็เปรี้ยงแล้ว เดินไปจนใกล้ถึง เหหห ไหนหว่า ร้านติ่มซำที่ว่า ไม่เห็นมีเลย ทำไมพี่ google ทิ้งเราไว้กลางทางล่าาา เลยลองเดินไปถามคุณลุงขายผลไม้ ดีนะคุณลุงแกรู้จัก เราก็เดินตามที่แกบอก ถึงแล้ว!

‘ร้านจ่วนเฮียง’ (ร้านนี้เค้ามี 2 สาขานะ สาขาที่เราไปเป็นสาขา 2 สาขาแรกจะเดินไปทางหอนาฬิกา) ที่นี่เค้าให้เดินไปเลือกติ่มซำที่หน้าร้านแล้ว แล้วพนักงานจะเอามาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ รสชาติก็อร่อยดี แต่เอาจริงๆเราชอบ Canton House ที่กรุงเทพมากกว่า แต่ร้านนี้ราคาถูกกว่า ถ้าเป็นพวกขนมจีบราคาเข่งละ 10 – 15 บาทเอง – มื้อนี้เราหมดไปคนละประมาณ 180 บาท

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ทานเสร็จ ก็มาถึงจุดหมายแรกของเราวันนี้ “เขารัง” เราเดินย้อนกลับไปทางเก่า พยายามหารถประจำทาง เวลาที่เราหาอะไร เรามักจะไม่เจอ แต่เวลาเราไม่ได้หานี่นะ มากันตรึมเชียว! เดินกันกลางแดด จนไปเจอรถประจำทางสีน้ำเงิน เฮ้ย ดีใจมาก เดินไปถามเค้า เค้าบอกว่า รถคันนี้ไม่ได้ไปเขารัง ให้ไปขึ้นถประจำทางสีชมพู ตรงท่ารถ เราก็กัดฟันเดินตาม google map กันต่อ จนมานั่งพักกันที่ร้านกาแฟ เพราะยังไม่เห็นวี่แววของท่ารถ ก็เลยถามเจ้าของร้านกาแฟดู เค้าก็ชี้ไปข้างหน้า อ้าว มันอยู่ใกล้ๆตรงนี้นี่เอง! พักจนหายเหนื่อย ก็เดินกันต่อ เดินไปถึงท่ารถ เห็นไอรถ Taxi สีแดงเหลือง กับรถประจำทางสีน้ำเงินเต็มไปหมด แต่ไม่เห็นรถสีชมพูซักกะคัน เลยไปถามคุณลุงขับรถน้ำเงิน แกบอกว่าต้องรอ เดี๋ยวมันก็ผ่านมา แต่เขารังมันอยู่ข้างหน้านี้เองนะ เดินไปก็ถึง แต่ต้องไปหารถขึ้นไปข้างบนแถวนั้นเองนะ อ้าว! เราก็เลยตัดสินใจว่า ไหนๆก็ต้องหารถขึ้นไปอยู่แล้ว ก็จ้างตั้งแต่ตรงนี้เลยละกัน เราก็เลยเดินวกกลับไปถาม Taxi สีแดงเหลืองว่าไปเขารังเท่าไหร่ 200 บาท! เฮ้ย คือแบบ มันอยู่ข้างหน้านี้เอง เดินไปก็ถึง นี่พาขึ้นอย่างเดียวนะ ไม่ได้รอรับกลับด้วย พี่ปุ่น: “แล้วถ้าไป-กลับเท่าไหร่ครับ” คุณคนขับ: “ไป-กลับ เหรอ …… 350 ละกัน” พี่ปุ่น: “โห ลดหน่อยไม่ได้เหรอพี่ แค่นี้เอง” คุณคนขับส่ายหัว ไม่แคร์ เราก็เลยเดินหนีจ้าาา ลูกไผ่: “แพงอ่ะพี่ปุ่น นี่ถ้าเค้ายอมลดให้ เค้าก็ได้ตังค์ไปละ ขับไปแค่นี้เอง ดีกว่าจอดเฉยๆไม่ได้ซักกะบาท” พี่ปุ่น: “นั่นดิ”

ยังคงหาทางขึ้นเขารังกันต่อไป เดินๆไปเจอวินมอไซค์ 2 คน เราก็เลยเดินไปถาม คนที่แก่กว่าก็บอกมาว่า “คนละ 100 ละกัน” (อันนี้แค่พาขึ้นนะ) เชี้ยยย….ขูดเลือดกันมาก เรากับพี่ปุ่นมองหน้ากัน เดินหนี กะว่าไปตายเอาดาบหน้าก็ได้วะ พอหันหลังไปเท่านั้นนั้น ก็ได้ยินเสียง “คนละ 50 ละกัน” ไม่ถึง 1 นาที ตัดราคากันขนาดนี้เลอออ!!!?? เราก็เลยโอเคกับพี่วินคนที่เด็กกว่า ระหว่างทางแกก็บ่นให้พี่ปุ่นฟังว่า ลุงนั่นน่ะ ชอบคิดแพง เค้าก็เคยเตือนแล้ว แกก็ไม่ฟัง นั่น! มีแฉหวะ

ถึงซักที ‘เขารัง’! กว่าจะเล่าเรื่องการเดินทางจบ 555 เราก็เลยบอกพี่วินว่า พี่รอมั้ย เราอยู่กันไม่เกินครึ่งชั่วโมง แกนี่ยิ้มดีใจใหญ่ ใช่สิ นั่งรอเย็นๆใต้ต้นไม้แกก็ได้ตังค์ขาลงไปด้วยละ ไม่ต้องตีรถเปล่ากลับลงไป ข้างบนเขารัง อากาศค่อยเย็นสบายกว่าข้างล่างหน่อย คงเพราะอยู่สูง ละมีต้นไม้เยอะ ข้างบนไม่มีอะไรเลย นอกจากจุดชมวิวที่เห็นเมืองภูเก็ตทั้งเมือง ถ้าไม่ลำบากเรื่องการเดินทาง แวะขึ้นมาถ่ายรูปก็โอเคอยู่นะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ระหว่างทางที่หารถมาที่เขารัง พี่ปุ่น search ไปเรื่อยๆ แล้วไปเจอ ‘บ้านชินประชา’ สวยมาก อยู่ไม่ไกลเขารังด้วย เราเลยเปลี่ยนเป้าหมายจาก ‘วัดฉลอง’ ซึ่งอยู่ไกลมาก มาที่นี่ โดยให้พี่วินแหละมาดรอปเราที่นี่ ทางเข้าบ้านร่มรื่นมาก มีต้นไม้เต็มเลย แค่ได้มุมหน้าบ้าน ก็รู้สึกว่า เฮ้ย สวยมากแล้ว ตอนเราไปไม่มีนักท่องเที่ยวเลยด้วย เงียบสงบมาก

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราเดิน ด่อมๆ มองๆ ถ่ายรอบๆบ้าน เพราะเล็งอยู่ว่า เข้าไปได้ป่ะว้าาา พี่ปุ่นลอง search ข้อมูลดู ในเน็ตบอกว่าเสียค่าเข้าคนละ 100 บาท เราก็เลยตัดสินใจว่า ไม่เข้าก็ได้ กำลังเดินๆถ่ายรูปรอบๆบ้านอยู่ก็มีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มเดินมาตรงทางเข้าบ้านที่เป็นเหมือนบาร์ร้านอาหาร พนักงานก็ออกมาต้อนรับ “เชิญเข้ามาดูในบ้านได้นะครับ เข้ามาถ่ายรูปได้เลย” แล้วเค้าก็หันมาเห็นเรา เค้าก็เชิญเข้าบ้านใหญ่เลย

ลูกไผ่: “เอ่อ…เสียค่าเข้าป่ะคะ” พนักงาน: “ไม่เสียเลยครับ เราสนับสนุนการท่องเที่ยวภูเก็ตอยู่แล้วครับ”

อ้าว เข้าสิคะ รออะไร

ทางเข้าบ้านขวามือจะเป็นบาร์ cocktail modern ดู contrast กับบ้าน แต่ก็เข้ากันอย่างบอกไม่ถูก

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินเข้าไปอีกนิด จะเป็นส่วนที่ขายพวกผลิตภัณฑ์ธรรมาชาติ ถัดจากห้องนั้นจะเป็นห้องจัดเลี้ยง เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอบันไดขึ้นชั้น 2 โชคดีที่ในนี้มีแอร์ วันที่ 2 ของเราเลยมีช่วงเย็นสบายอยู่บ้าง 555 ข้างบนจะมีห้องจัดเลี้ยง และห้องโถงที่มองออกไปเห็นวิวหน้าบ้าน เดินไปสุดทาง เจอพนักงานแอบนอนกลางวันอยู่จ้า พี่ปุ่นนี่ไม่พลาด เดินไปถ่ายรูปเค้าเฉย 555 เดินๆ นั่งๆ ทั่วชั้นสองก็ลงมาข้างล่าง เจอแผ่นพับรูป ‘บ้านชินประชา’ ตอนกลางคืน เปิดไฟสวยมาก! เราเลยตั้งใจว่าคืนนี้เราจะกลับมาถ่ายรูปที่นี่อีก ถ่ายครบทุกซอก ทุกมุมก็เดินกลับกัน รู้สึกคุ้มมากกับที่นี่

เราเดินกลับผ่านเมืองเก่าที่เราเดินเมื่อวาน แอบแวะถ่ายรูปบางจุดที่เราไม่ได้ถ่ายเมื่อวาน อย่างศาลเจ้านี้

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เที่ยงแล้ว พี่ปุ่นเริ่มหิวนิดหน่อย เลยแวะร้าน โกปี้เตี๊ยม ที่ดูแล้ว ‘หมี่ฮ้กเกี้ยน’ ดูจะเป็นเมนูขายดีของที่นี่ พี่ปุ่นเข้าไปสั่ง ‘หมี่ซั่ว’ เราก็แย่งทานสิค้าา อิ่มติมซำเมื่อเช้าอยู่เลย สั่งอีกจานก็ท่าจะทานไม่หมด ถึงแม้ว่าจานนี้มันจะอร่อยมากก็เถอะ – จานนี้ 80 บาทจ้า

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ทานเสร็จ ด้วยอากาศร้อนๆที่ทำให้เราเดินกันจนเหงื่อท่วม บวกกับว่าเราไม่มีที่ไปต่อแล้ว เพราะกะจะไปสะพานหินกันตอนเย็นๆ เราเลยกะว่าจะไปนั่งหาอะไรเย็นๆทานที่ร้านหนังสือ (ร้านเดียวในเมืองเก่า) ที่เราแวะเมื่อวาน นั่งกันจนหายเหนื่อย ก็เดินกลับโรงแรมกันต่อ ละกลับไปนอนพัก โดยที่กะตื่นมาประมาณ 5 โมงเพื่อไปสะพานหิน

พอนาฬิกาปลุก 5 โมง พี่ปุ่น: “ปะ ไผ่อยากไปอยู่มั้ย” ลูกไผ่: “เอาจริงๆก็ไม่ค่อยอ่ะค่ะ ไผ่ดูรูปแล้วไม่ค่อยมีอะไรอ่ะ อีกอย่าง เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้ไปทะเลจริงๆแล้ว” พี่ปุ่น: “เราก็ดูรูปแล้ว มันแค่เอาหินมาเรียงๆกันเป็นทางเลยเรียกว่าสะพานหิน ไม่ไปละกันเนอะ” ลูกไผ่: “อื้อ เดี๋ยวไปเดินถ่ายรูปเมืองตอนกลางคืนดีกว่า”

จบไป เป้าหมายที่ 3 ของเราวันนี้ 555

เราออกมาจากโรงแรมตอนเย็นๆ แวะที่ร้าน Agent ทัวร์ เพื่อซื้อทัวร์ Speed Boat ก่อนไปทานข้าว เราตัดสินใจซื้อเพราะมันคุ้มกว่า และขากลับเค้าบอกว่า เค้าสามารถให้รถไปส่งเราที่โรงแรมที่หาดกระตะได้เลย เฮ้ย ดีดิ! เรายังไม่รู้เลยว่าเราจะไปหาดกระตะกันยังไง 555

เราแวะทานก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่พี่ปุ่นเล็งไว้เมื่อวาน ชามเราไม่ใส่ผักมันอาจจะไม่น่ากินหน่อยนะ แต่มันโอเคเลยนะร้านนี้

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ทานเสร็จ เริ่มมืดๆ ตึกเริ่มเปิดไฟพอดี พี่ปุ่นก็แบกขาตั้งกล้องเดินกันไป เราเดินผ่านเมืองเก่า (อีกครั้ง) เพื่อเดินไป ‘บ้านชินประชา’

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ระหว่างทาง พี่ปุ่น: “กลางคืนเค้าจะให้เราเข้ารึเปล่าหว่า” ลูกไผ่: “เออ นั่นสิ” ไผ่ก็ก้มหน้าก้มตากดหาข้อมูลในมือถือ หาเจอละเงยหน้ามาอีกที ลูกไผ่: “เค้าบอกว่าปิด 4 โมงอ่ะค่ะพี่ปุ่น พี่ปุ่น: ไม่เป็นไรหรอก เดินไปดูก็ได้ อีกนิดเดียวเอง ลูกไผ่: อ้าว เฮ้ย ถึงแล้วนี่นา พี่ปุ่น: ใช่น่ะสิ ลูกไผ่: ทำไมเดินตอนกลางคืนแล้วมันใกล้จุง

ประตูก็ไม่ได้ปิด เดินเข้าไปถึงได้รู้ว่า เค้ามีจัดเลี้ยงกันนี่เอง ถึงว่าเห็นตอนกลางวันเค้าเตรียมโต๊ะไว้ ตอนเราเข้าไปก็มีรถทยอยเข้ามากัน รถเข้ามาที ก็มีน้องหมาเห่าขู่จ้า ตอนแรกเราก็กลัวๆ อยู่ แต่เดินๆถ่ายไป เค้าก็ไม่เห่าเรานี่นา ดูน่ารักดีด้วย กลางคืน ที่นี่สวยจริงๆ! คุ้มที่เดินกลับมา คุ้มที่โดนยุงกัดไปหลายตุ่ม มันสวยมาก!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ยืนถ่ายให้ยุงกินเลือกดจนอิ่มท้อง แล้วก็เดินกลับกัน ระหว่างทางกลับได้ยินเสียงรถพยาบาลตลอดเลย (ไม่ชอบเลย) แล้วเราก็หยุดถ่ายที่จุดนี้ พี่ปุ่นข้ามไปยืนถ่ายอืกฝากถนน แล้วเดินกลับมา พี่ปุ่น: “ดีแล้ว ที่ไผ่ไม่ข้ามไปถ่ายฝากนู้น มีซากหนูไส้แตกตายอยู่ 555” ไผ่มองตามไป เดชะบุญที่ contact lens มันไม่ชัด เลยเห็นเป็นกองอะไรซักอย่างอยู่บนถนน อาเมน….. พี่ปุ่น: “รถพยาบาลเค้าต้องมาเก็บซากหนูแน่ๆเลย” ลูกไผ่: “เออ จริง 555”

เดินกันจนมาถึงตึกชิโน ตึกแรกที่เราถ่ายรูปกัน เอ่อม…เวลาพี่ปุ่นถ่ายรูปแต่ละที เราก็เป็นห่วงนะ นู้น ไปยืนอยู่เกาะกลางถนน (อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะเคอะ) เดินกลับมานี่เราโล่งงงงเลย

กลางคืนตึกนี้ก็สวยนะ

พอกลับมาจากทริปนี้ ก็เห็นข่าวว่าเราหลังจากที่เราย้ายจากเมืองเก่าไปกระตะ เค้าก็ให้ศิลปินมาวาดรูปตรงผนังตึก ความคิดเห็นส่วนตัวนะ เราว่าไม่ได้เข้ากันเลย ปล่อยให้มันเป็นตึกโบราณของมันอย่างนี้แหละ สวยแล้ว…..

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินถึง Hostel เจอร้านข้างๆ ขายบะหมี่ นั่น รอบดึกก็มา 555 เฮ้ยยย มีร้านบะหมี่อร่อยขนาดนี้ แถมราคาไม่แพงอีกต่างหากอยู่ข้าง Hostel ทำไมเราเพิ่งมาค้นพบตอนที่อีกวันจะย้ายที่แล้วววววว!!!!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

Day 3:: วันนี้เราตื่นเช้าอีกเช่นเคย เพราะทัวร์บอกว่าจะมารับที่ Hostel ตอน 8 โมงครึ่ง เราเก็บของเสร็จ ลงมา 8 โมง 15 กะทาน Breakfast ที่โรงแรมก่อน พอลงมาข้างล่าง ก็เจอลุงที่พาเราไปเกาะเดินมาอย่างรีบร้อน ลุง: “เอ้า อยู่นี่เอง ขึ้นรถเร็ว” เราก็งงๆ กุก็ไม่ได้ลงมาเลทนี่หว่า พี่ปุ่น: “ยัง..ไม่…ได้…ทานข้าวเลยอ่ะครับ” ลุง: “คุณจะมาทานข้าวอะไรอีก เค้านัดคุณกี่โมง” พี่ปุ่นตอบไปแบบหมั่นใจ “8 โมงครึ่งครับ” ลุงดูนาฬิกาแล้วนิ่งไปพักนึง ประมาณว่า อ้าว กุเหวี่ยงพลาด แล้วก็เนียนเหวี่ยงต่อ ลุง: “ไม่ทันแล้วเรือจะออกอยู่แล้วเนี่ย ยังจะกินอะไรอีก” เราก็เลยจำใจเดินตามไป พลางคิดในใจ แหมะ คราวหลังก็หัดนัด 8 โมงสิคะ!

พอถึงท่าเรือ ไกด์ก็แนะนำตัว ละบอกว่าเค้ามี โอวัลติน กาแฟ และขนมให้ทาน เราก็ไปทานรองท้องกัน

นั่งรออยู่ครึ่งชั่วโมงกว่าๆจ้าาา กว่าเค้าจะเรียกขึ้นเรือ จ่ะ ไม่ทันแล้ว เรือจะออกแล้วจ่ะ -“-

เพื่อนร่วมทางเรา ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งทุกคนพร้อมมาก มีชุดว่ายน้ำ มีรองเท้าแตะ ครีมกันแดด ส่วนเรา บอกแล้วว่าพร้อมมาก เสื้อยืด กางเกงขาสั้น และรองเท้าผ้าใบ ครีมกันแดดอยู่ในกระเป๋าเดินทางฝากไว้บนรถตู้ 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เรือออกแล้ววววว

ละเราก็มาถึงที่แรก พีพี เบย์ ไกด์ให้เวลาเราที่นี่ 25 นาที ทัวร์วันนี้เรากับพี่ปุ่นเท้าเปล่าทั้งวันจ้า เวลาเจอทรายร้อนๆนี่กระโดดหยองๆกันเป็นจิงโจ้เลย 555 – เราเสียค่าขึ้นเกาะคนละ 40 บาท ไกด์แอบบอกว่าชาวต่างชาติเค้าคิด 400 นะ โอ้…..

ไกด์บอกว่าตรงนี้แหละที่ ลีโอนาร์โด มาถ่ายเรื่อง The Beach

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราเดินตามทางที่ป้ายบอกทางเขียนว่า ‘โลซามะ’ ป่าที่นี่เขียวชะอุ่มมาก เวลาเดินๆไปต้องระวังหน่อยนะ ตอนเราเดินไป เห็นนักท่องเที่ยวผู้หญิงที่เดินนำหน้าเรากรี๊ด แล้วกระโดดไปเกาะแฟน เราก็มองตามไป

เฮ้ย…งูจ้าาาา เลื้อยตัดหน้าไปเลย

ดีนะที่เจ้ส่งสัญญาณเตือนเรากับพี่ปุ่นก่อน ไม่งั้นเราอาจจะโดนฉกไปแล้วก็ได้

นี่ไง ‘โลซามะ’ ที่เค้าว่ากัน

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอดูนาฬิกา อ้าว เชี๊ยะละ เหลืออีก 5 นาที วิ่งสิค้าาา…. พอมาถึงหน้าหาด ค่อยยังชัวร์เรือยังไม่มา อ๊ะ หรือเค้าจะทิ้งเราไปแล้วหว่า ไม่ ไม่ ไม่ เมื่อกี้เรายังเห็นชาวต่างชาติที่นั่งมากับเรายังถ่ายรูปอยู่ที่ โลซามะ อยู่เลยเฟ้ย!

ระหว่างรอเรือ พี่ปุ่น popular กับนักท่องเที่ยวจีนมาก ยื่นกล้องมาให้ช่วยถ่ายกันใหญ่เลย 555

พอขึ้นเรือ เราก็เก็บกล้อง เพราะเดี๋ยวต้องตัวเปียกดำน้ำกันแล้ว จุดต่อไปเค้าพาเราไป \=> ถ้ำไวกิ้ง ซึ่งตอนนี้เราไม่สามารถเข้าไปได้แล้ว เพราะแบรนด์ รังนก เค้าซื้อไว้เป็นกรรมสิทธิ์ของเค้าแล้ว \=> จากเกาะไวกิ้ง ก็เป็นจุดปล่อยให้เรากระโดดน้ำเล่น \=> แล้วก็พาไปเกาะลิง ซึ่งวันนี้เราลงไปเดินไม่ได้ เพราะน้ำขึ้นสูง แต่เห็นลิงเกาะตามภูเขาเต็มเลย \=> จากนั้นก็พาไปจุดดำน้ำ ที่มีปลากับปะการังให้ดูเยอะแยะเลย ตรงจุดนี้แนะนำว่าควรลงน้ำทุกคน เพราะถ้าอยู่บนเรือ เรือมันโคลงมาก อาจอ้วกได้จ้า \=> ถึงมื้อเที่ยงแล้ว มื้อเที่ยงเค้าแวะให้เราทานข้าวแบบบุฟเฟ่ต์ที่เกาะพีพี

และก็มาถึงจุดหมายสุดท้ายของทัวร์นี้ เกาะไข่ใน!!!! น้ำทะเลที่เกาะไข่ในใส่มาก ใส่มากจริงๆ ใสที่สุดในทริปนี้นะเราว่า บนเกาะมีนักท่องเที่ยวเยอะมาก พี่ปุ่นนี่เริงร่าเลยจ้า พี่ปุ่น: “สนุกจัง ชอบๆ” แล้วก็เอากล้องไปถ่ายจ่อนักท่องเที่ยวเค้า สนามเด็กเล่นเค้าล่ะ ไผ่ถ่ายซักพัก เริ่มสู้แดดไม่ไหว ลูกไผ่: พี่ปุ่น ไผ่ไปนั่งเตียงผ้าใบในร่มนู้นนะคะ พี่ปุ่น: โอเคๆ (ยิ้มหน้าตามีความสุขมาก) ละก็เดินถ่ายจนหมดเวลาจริงๆนะ มีเดินแวะมาดูไผ่เป็นพักๆ แล้วก็ออกไปถ่ายต่อ เชื่อเค้าเลย 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เรากลับมาถึงที่พักที่ 2 ของเรา ‘Aloha Residence’ ที่หาดกระตะ ประมาณ 6 โมงเย็น ที่พักโอเคเลยนะ สำหรับราคา 500 บาท/คืน เสียอย่างเดียว เตียงปวดหลังมากกก

เราอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็เดินมาแถวๆถนนเลาะหาดเพื่อหาอะไรทาน ทางที่นี่จะคดเคี้ยว แล้วเป็นเนินขึ้นๆลงๆ พอเดินมาถึง เราตัดสินใจกันว่า ปะ เข้า 7-11 กันเถอะ 555 อาหารแพงมากก เราเดินไปแทบไม่เจอคนไทยเลย ทุกร้านไม่มีใครทักเราเป็นภาษาไทยเลย ซื้อของ 7-11 หมดไป 300 กว่าบาท ได้ของมาเพียบ เอากลับมาทานที่โรงแรม แล้วก็สลบจ้า

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

Day 4: วันนี้เราตื่นสายหน่อย เพราะไม่ต้องรีบไปไหน เป้าหมายหลักๆของเราวันนี้มี 2 ที่ หาดราไวย์ และแหลมพรหมเทพ ตอนแรกเรากะว่าจะหารถประจำทางไปหาดราไวย์ แต่เดินไปได้ซักพักไม่มีวี่แววของรถเลย เราเลยตัดสินใจเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่กันไปเองเลยยยย

– ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ 250 บาท/ วัน (ไม่รวมน้ำมัน) ที่ร้านเช่าเค้าเล่าให้เราฟังว่าร้านให้เช่าส่วนใหญ่ที่นี่ไม่ค่อยให้คนไทยเช่า เค้าให้แต่ต่างชาติ มีแต่ร้านเค้าเนี่ยแหละให้ (ไม่รู้จริงป่าว 555)

มีมอไซค์แล้วไปไหนก็ได้ 555 เราขี่แวะไปที่หน้าหาดกระตะก่อน พี่ปุ่นบอกว่า ทะเลที่หาดนี้สวยแฮะ เดินๆไปดูของกินก็ยังคงแพงเหมือนถนนเลียบหาดเมื่อคืน พอดี๊ พอดีเราไปเจอร้านไก่ทอดชิ้นละ 20 บาท ก็เลยซื้อรองท้องกันไปก่อน แล้วก็แว๊นกันต่อจ้า

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ระหว่างทางเจอที่พักจุดชมวิว ที่นี่จะเห็นวิวทะเลของหาดกระตะ สวยมาก

เวลาจอดรถ แล้วมาขึ้นนั่งอีกทีตูดกับขาแทบไหม้ หลังๆพี่ปุ่นเลยเอาหมวกกันน็อควางตรงที่นั่งไผ่ไว้ให้ เลยร้อนน้อยลงหน่อย 555 เราแอบมอไซค์ฝรั่งคันหน้าเอาผ้าขนหนูปูรองเบาะไว้ เฮ้ย! นี่พี่เชี่ยวกว่าคนไทยอีกนะ! นี่บ้านพี่ใช่มั้ย พูด!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

และแล้วเราก็งมทางกับพี่ Google มาจนถึง ‘Rawai Seafood Market’ เวลา search ใน google ให้ search คำนี้นะฮ้าาา อาหารทะลเยอะมาก ตัวใหญ่ๆทั้งนั้นเลย ที่นี่คนจะซื้ออาหารทะเล แล้วเอามาให้ร้านอีกฝั่งนึงทำ ร้านเค้าคิดค่าทำ 0.5 kg. 75 บาท 1 kg. 100 บาท

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ที่นี่มีอาหารทะเลทุกอย่าง กุ้ง หอย ปู ปลา ไปจนถึง Lobster ที่เห็นในรูปนี่ของจริงตัวใหญ่มากนะ ใหญ่กว่าแขนเราอีก คนขายบอกว่าตัวนี้ชั่งได้ 2.7 kg. ขายราคาคนไทยที่ตัวละ 7,500!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ที่นี่มีอาหารทะเลทุกอย่าง กุ้ง หอย ปู ปลา ไปจนถึง Lobster ที่เห็นในรูปนี่ของจริงตัวใหญ่มากนะ ใหญ่กว่าแขนเราอีก คนขายบอกว่าตัวนี้ชั่งได้ 2.7 kg. ขายราคาคนไทยที่ตัวละ 7,500!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

สรุปเรากับพี่ปุ่นหน้ามืดตามัวซื้อ – กุ้งลายเสื้อ 1 โล (10 ตัว) – ปลากระพงขาว ตัวละ 7 ขีด – หอยแคลง 0.5 โล – ปูม้า 0.5 โล (3 ตัว) ไปจ้างเค้าทำ นี่ทานกัน 2 คนนะ หันไปมองโต๊ะข้างๆ ฝรั่งมากัน 3 คน ยังทานน้อยกว่าอิคนไทย 2 คนนี่อีก 555 – มื้อนี้หมดไป 2 คน ประมาณ 1,500 บาท คุ้มมากสำหรับเรา

ทานเสร็จ พี่ปุ่นพุงแทบแตก 555 เราก็เดินมาถ่ายรูปตรงสะพานที่เราจอดรถไว้ ระหว่างทาง เห็นมีปลาหมึกตากแห้งตัวเล็กๆ ตากแห้งไว้ ถามได้ความว่าเค้าเอาไว้ใส่แกง รู้สึกเค้าจะขายตัวละ 25 บาทนะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ตลาดอาหารทะเลที่ราไวย์ คนไม่ค่อยเยอะ เรากับพี่ปุ่นยังแปลกใจอยู่เลย ทั้งๆที่นี่เป็นจุดปักหมุดอีกที่ที่ควรต้องมามากๆในภูเก็ต แต่ตอนเราหาข้อมูลในเน็ต เราไม่เจอที่นี่เลย ที่เรารู้เพราะว่าเจ้านายพี่ปุ่นเป็นคนภูเก็ตบอก ไม่งั้นก็คงไม่ได้มาทานอาหารทะเลอร่อยๆ ราคาถูกที่นี่แล้ว เราขอปักหมุดว่าที่นี่ The Must มากค่ะ

วิวที่ถ่ายได้จากบนสะพาน บนเกาะนู้นนนมีต้นมะพร้าวเต็มเลย เราให้มันเป็น ‘เกาะมะพร้าว’ ละกัน นั่น! มั่วอีกละ 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ช่วงนี้น้ำขึ้นจริงๆด้วย ตรงกลางทะเล เราเห็นเด็กลงไปเดินได้ด้วยอ่ะ จริงๆตรงนี้มันคงเคยเป็นหาดตอนน้ำลด หันไปมองพระอาทิตย์ อ๊ะ! เราควรต้อง move ไปแหลมพรหมเทพได้แล้ว เดี๋ยวจิไปดูพระอาทิตย์ตกไม่ทัน เราเลยต้องเดินไปตามตัวพี่ปุ่นที่เดินถ่ายรูปชาวบ้านที่นั่งตกปลาตรงปลายสะพานอยู่ “ปะ ไปกันค่ะ”

จากตลาด นิดเดียวก็ถึงแหลมพรหมเทพแล้ว ตอนแรกเดินขึ้นไปเป็นจุดชมวิว เราก็งงกัน ไหนหว่า ไม่เห็นมีแหลมพรหมเทพแบบที่เห็นในรูปเลอออ เดินเลาะไปตามทางเดินด้านซ้าย อ๋อออ มันอยู่ตรงนี้นี่เอง ตรงปลายแหลมที่เห็นสุดนู้นนน มันมีทางเดิน เดินไปได้นะ แต่เรากับพี่ปุ่นเดินไปครึ่งเดียวก็ดูแล้ววิวคงสู้ข้างบนนี้ไม่ได้ คงไม่คุ้มที่ต้องปีนตอนขากลับมา

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ตอนเราไปถึงคนยังไม่เยอะมาก เพราะพระอาทิตย์ยังไม่ใกล้จะตก พอลงไปที่แหลมแล้วเดินกลับมาเท่านั้นแหละ ป๊าดดด นี่คนทั้งจังหวัดภูเก็ตมาอยู่ที่นี่ช่ายม๊ายยยย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอพระอาทิตย์ใกล้ตก พี่ปุ่นเก็บกล้อง แล้วบอกว่า “พอละ นั่งดูของจริงดีกว่า” นี่เลยเป็นรูปสุดท้ายที่เราถ่าย ก่อนจะเก็บกล้องแล้วนั่งดูพระอาทิตย์ตกด้วยตาเปล่ากับพี่ปุ่น

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

Day5: วันนี้เราจะย้ายโรงแรมไปนอนที่หาดไม้ขาวกัน เมื่อวานเราลองถามดูว่า taxi นั่งจากหาดกระตะไปหาดไม้ขาวเท่าไหร่ เค้าบอกว่าราคาคนไทย 1,200 บาท ป๊าดดด นี่พี่ขับส่งข้ามประเทศเหรอคะ 1,200 เนี่ย! เราได้ข้อมูลจากร้านเช่ามอไซค์เมื่อวานนิดหน่อยว่ามีรถประจำทางขับเข้าในเมืองภูเก็ต อยู่ตรงหัวโรงแรมกระตะ รีสอร์ท เราก็เดินลากกระเป๋ากันไป เจอจริงด้วย! ค่าโดยสารแค่ 35 บาทเอง! แม่เจ้า! ระหว่างพี่ปุ่นเดินไปซื้อน้ำกับของกินมารองท้องให้เรา ก็มีคุณลุงชาวเยอรมันคนนึงขึ้นรถมา เราก็ได้คุยกับเค้านิดหน่อย เค้าบอกว่าเค้ามาเที่ยวที่นี่บ่อย เวลาอากาศหนาวที่เยอรมันเค้าก็หนีมานี่ เค้าเลยรู้ว่าขึ้นรถประจำทางที่นี่ได้ ละเค้ายังบอกอีกว่า “ป่าตอง อีส เวอรี่ บิ๊ก มันนี่” ป๊าดดด เราว่าที่นี่แพงแล้วนะ ป่าตองแพงกว่านี้อีกเหรอ!

นั่งรถไป ก็มีคนท้องถิ่นภูเก็ตขึ้นรถมาคุยกับพี่ปุ่นว่า ไม่ต้องไปลงถึงในตัวเมือง มันไกลท่ารถ Airport Bus ให้ลงระหว่างทาง เดี่ยวรถมันจะผ่านมาเอง เราก็ลงละนั่งรอพักใหญ่ ก็มี Taxi มาถามว่าไปไหน ตกลงราคากับพี่เค้าได้ที่ 400.- พอขึ้นรถปุ๊ป Airport Bus ก็วิ่งตามหลังมา 555 เอาน่า ขอนั่งสบายๆซักครั้งนึงนะทริปนี้ – สรุปเราเสียค่าเดินทางจากหาดกระตะมาโรงแรมที่หาดไม้ขาว 2 คน 470 บาท (ถูกกว่านั่ง Taxi ที่นู้นมาตั้งเยอะ!)

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ถึงแล้วโรงแรมที่ 3 ของเรา .’จินดา รีสอร์ท’ เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดใน 3 ที่เราพักมา 555 แต่มีข้อเสียใหญ่ๆคือ ถ้าไม่มีรถมันเดินทางลำบากมาก ใช้การเดินไม่ได้เลย เราถามที่ Reception ดูว่า Taxi ไปหาดไม้ขาวเท่าไหร่ เค้าบอกว่า 500 บาทจ้าาาา อยากจะยื่นแขนให้ อ๊ะ ขูดเลือดเราไปเลย! เราเลยตัดสินใจเช่ามอไซค์กันอีกคนครั้งในราคาเดิม

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

หาดไม้ขาวแทบจะเป็นที่แรกที่เราปักหมุดว่าเราจะมาในทริปนี้ เพราะเราอยากมาถ่ายเครื่องบินแบบ Close up! เราตามพี่ Google ไปจนถึงหาดไม้ขาว เอ๊ะ ทำไมดูไม่เหมือนในรูป เอ๊ะ ทำไมดูจะไม่มีเครื่องบิน เอ๊ะ แต่มันก็สวยดีนะ เอ๊ะ มันเงียบสงบ และแทบไม่มีคนเลย

ที่นี่ ลมโชย ไม่มีคน เงียบ สงบ ละก็มีหญ้าอะไรซักอย่าง เราจำชื่อไม่ได้อ่ะขึ้นเต็มไปหมดเลย สวยมากๆ มองออกไปตรงด้านซ้ายของหาด ก็เริ่มคลับคล้ายคลับคลากับวิวที่เค้าไปถ่ายเครื่องบินกัน เราเลยขี่มอไซค์เลอะหาดไปเรื่อยๆ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ละก็จริงด้วย พี่ google พาเราไปที่ท้ายหาดมา จริงๆถ้าจะมาตรงนี้ให้ search ไปเลยว่า ‘จุดถ่ายเครื่องบิน’ 555 ติดกับต้นหาดที่เรามาถ่ายเครื่องบินมีโรงแรม Centara Grand ติดหาดเลย ดูดี มีชาติตระกูลมาก 555 หาดอยู่ด้านหลังสนามบินพอดี ติดกับรั้วสนามบินมีคลองน้ำสวยมากๆ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

วิวที่หาดนี้โล่งกว้าง ถ่ายหลบน้ำหน่อยนี่นึกว่าอยู่ทะเลทราย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราก็รอ ร๊อ รอ เครื่องบิน รอแล้ว รอเล่า พี่ปุ่นเดินไปถ่ายคนก็แล้ว ถ่ายปูก็แล้ว เครื่องบินก็ยังไม่มา รอกันจนพระอาทิตย์จะตกจนเราเริ่มถอดใจ ว่า ปะ กลับกันเถอะ แล้วเครื่องบินก็มาจ้าาา ละนี่…คือ รูป เครื่อง บิน ที่ เรา ถ่าย ได้ อะไรก๊านนนน ทำไมไม่เหมือนในรูปที่เค้าถ่ายได้ก๊านนนน เรามารู้ตอนที่กลับมาแล้วว่า ถ้าจะถ่ายเครื่องบินให้ได้ Close up อย่างนั้น ต้องถ่ายตอนที่เครื่อง landing ซึ่งต้องมาตอนประมาณเที่ยงถึงบ่ายโมง นอกจากนั้นต้องดูทิศทางลมของวันนั้นด้วยว่าเครื่องจะลงได้ทิศไหน

เค้าต้องมีการเตรียมตัว พร้อมจะมาถ่ายเฟ้ย ไม่ใช่จู่ๆก็มาอย่างแก๊!!!!

โอเค 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ไม่เป็นไร ถ่ายเครื่องบินไม่ได้ มาถ่ายพระอาทิตย์ตกก็ได้ สวยเหมือนกัน ฟินเหมือนกัน แถมหาดนี้ชิลกว่าแหลมพรหมเทพด้วย เพราะคนไม่เยอะมาก อ่าาา สวยจัง…..

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

Day 6: วันนี้ต้องกลับกรุงเทพแล้วววว เราแค่ตื่นมาทาน Breakfast แล้วก็เตรียมตัวเก็บของออกไปสนามบินกัน เราสอบถามราคาTaxi ที่จะไปส่งเราที่สนามบินไว้เมื่อวาน เค้าคิด 200 บาท ซึ่งพอนั่งมาถึงสนามบินแล้ว เฮ้ย 5 นาที 200 บาท โอเค ไม่มีทางเลือก จำยอม

เป็นทริปที่ให้ประสบการณ์อีกทริปนึง เมื่อก่อนเราไม่ค่อยได้เที่ยวลุยๆอย่างนี้หรอก กลับมานี่ตัวดำเลย แต่เราว่าคุ้ม

รูปที่ถ่ายมา ก็สวยได้เท่าที่มันเป็นรูป สู้ของจริงไม่ได้หรอก

มีโอกาสต้องไปดูกับตากันเองนะ……..

ดูรูปเพิ่มเติมของทริปนี้ได้ที่ https://www.facebook.com/wherewegopage

เจอกันทริปหน้านะค้า

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

‘ไปถ่ายช้างกัน’

เป็นประโยคที่พิมพ์กันบ่อยใน Group Line ถ่ายรูปพักนึง จนมานัดกันจะไปถ่ายได้เป็นเรื่องเป็นราวเมื่อช่วงต้นเมษาที่ผ่านมา แหมะ นัดกันได้ฤดูร้อนพอดี๊…พอดี

พอเค้าตกลงจะไปกันได้ เค้าก็ move ไปคุยใน Group ผู้ชายกัน ไผ่ก็เลย Lost Trip นี้ไปพักนึง จนพี่ปุ่นมาบอกว่า

“เดี๋ยวอาทิตย์นี้จะไปถ่ายช้างกันนะ”

ลูกไผ่: “อ่าาา ไปถ่ายที่เขาใหญ่เหรอคะ” พี่ปุ่น: “เอ๊…ไม่แน่ใจนะ แต่รู้สึกว่าจะเป็นเขาแหลมหญ้านะ” ลูกไผ่: เหหห ที่นั่นมีช้างเยอะเหรอคะ พี่ปุ่น: ที่โล่งๆฟ้าเปิดก็ถ่ายได้ทั้งนั้นแหละไผ่

??? ช้างมันชอบอยู่ที่โล่งๆ ฟ้าเปิดๆเหรอวะเนี่ย ???

ลูกไผ่: “นึกว่าจะไปถ่ายที่เขาใหญ่ซะอีก ตอนไผ่ไปออกกอง เค้าก็บอกว่าเขาใหญ่มีช้างออกมาเดินด้วย” ยัง ยัง ยังไม่เลิกความตั้งใจ พี่ปุ่น: เดี๋ยวๆๆนะ ช้างที่ว่านี่เค้าหมายถึง ‘ทางช้างเผือก’ นะ 555

อ้าววววว ก็นึกว่าถ่ายช้างเป็นโขลงๆมาตลอดเลยยย

โอเคๆ ไผ่ก็กะว่าเค้าคงอยากไปถ่ายแบบผู้ชายๆกัน ไม่อยากไปให้มีห่วง จะได้ถ่ายรูปกันเต็มที่ แต่สรุปว่าน้องที่จะไปด้วยกันจะเอาแฟนไปด้วย ไผ่ก็เลยลังเลอยู่พักนึง ใจนึงก็อยากไป แต่อีกใจนึงก็ขี้เกียจขับรถ มันตั้งระยองนู้นนนแน่ะ ยังไม่เคยขับไปเลย

สุดท้าย ต้านทานความอยากเที่ยวตัวเองไม่ได้

“พี่ปุ่นๆ ไผ่ไปด้วยยยย” 555

ปะ เดี๋ยวจะพาไปถ่ายช้าง!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

สรุปทริปนี้ไปกันทั้งหมด 6 คน เอารถไป 2 คัน คันของ ‘พี่โด่ง’ จะไปรับน้องๆอีก 3 คนที่ชลบุรี ส่วนคันไผ่มีไผ่กับพี่ปุ่น พี่โด่งนัดออกจากกรุงเทพ 9 โมง กะว่าไปเจอกันที่ชลบุรีประมาณ 11 โมง

โอเค ได้เลยค่ะ ตามนี้!

Day 1: 11 โมงของวันเสาร์ ไผ่กับพี่ปุ่นเพิ่งตื่นจ้าาาา 555 รีบ line ไปบอกพี่โด่ง พี่ปุ่น – เดี๋ยวเจอกันระยองเลยนะพี่โด่ง พี่โด่ง – พี่กะไว้ละ 555 นั่นไง พี่เค้าคงชินกับอิ 2 ตัวนี้แล้วสินะ ตื่นสายทุกทริป 555

พี่โด่ง – รถติดมากก พี่ยังไม่ถึงชลบุรีเลย

โอเค อย่างน้อยพี่โด่งก็ยังไม่ถึงชลบุรี เราก็ชิลกันไป ตื่นมา อาบน้ำ แต่งตัว จัดของลงกระเป๋า (ก่อนออกบ้านอีกแล้ว) โดยกะว่าคืนนี้ต้องนอนเต๊นท์แน่ๆ เสร็จเดินออกมาทานข้าวหน้าคอนโด แล้วก็ออกเดินทางประมาณเที่ยงครึ่ง เป็นคนตรงต่อเวลาเคอะ! 555 ไผ่เลือกใช้เส้นทางด่วนบูรพวิถี เอาแบบไม่ผ่านมอเตอร์เวย์ เพราะกลัวไปเจอรถติด พอพ้นทางด่วนก็พึ่งพี่ Google งมทางกันไป ทางไประยองเป็นทางขึ้นๆลงๆ สองข้างทางวิวสวยดีอ่ะ ขับๆไป ประมาณบ่ายสามโมงครึ่งก็ถึงระยอง ระหว่างทางก็คุยกับพี่โด่งเรื่อย สรุปเราเข้าระยองมาเวลาไล่เลี่ยกันเลย 555

พอเข้าระยอง เราก็พึ่งพาพี่ google กันต่อไป พอ search ว่าเขา ‘อุทยานเขาแหลมหญ้า’ มันก็ปักไปที่เกาะเสม็ด เอาละไง ลูกไผ่: “แล้วเราต้องเอารถไปจอดไว้ไหนอ่ะคะ” “ละมันจะมีเรือข้ามฟากไปใช่ป่ะคะ” “พี่ปุ่นลองถามพี่โด่งดูสิคะ” พี่ปุ่น: “เดี๋ยวลองถามดู”

น้องในกรุ๊ปตอบแทนมาว่า ‘เอารถเข้าไปจอดข้างในอุทยานได้เลยพี่’

มันเป็นเกาะ แล้วจะเอารถเข้าไปจอดในอุทยานยังไงหว่า หรือว่ามันมีทางที่รถขับไปได้ไม่ต้องนั่งเรือ งมๆกันไป เชื่อพี่ google บ้าง ดูป้ายข้างทางบ้าง อ้าว นี่ไง อุทยานเขาแหลมหญ้า! ก็ไม่ต้องข้ามเกาะนี่ เอาอีกแล้วนะ google เล่นกุอีกแล้วนะ -“-

ค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท ละต้องเสียค่ารถยนต์เข้าไปอีกคันละ 30 บาท – สรุปเราเสียค่าเข้าไป 110 บาท

อุทยานเปิดให้เข้าไปข้างในได้ถึง 6 โมงเย็น ถ้าจะออกมาต้องออกมาก่อน 4 ทุ่มนะ

พอขับรถขึ้นไปข้างบน พี่เจ้าหน้าที่อุทยานก็กั้นไม่ให้เราขับรถลงไปที่หาด เราก็เลยต้องจอดตรงที่จอดรถด้านบน มองไปรถคันที่จอดฝั่งตรงข้าม มีลิงนั่งอยู่บนหลังคา ปีนไป ปีนมา นั่งเคี้ยวอะไรซักอย่างหยุบหยับๆ อย่างสบายใจ

เดี๋ยวรถเราก็คงชะดากรรมเดียวกันสินะ – -”

เราจอดรถแล้วก็เดินตามถนนลงมา ทางชันน่าดู ไผ่ขับลงมานี่น่าจะมีหวาดเสียวอยู่

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ที่หาดคนไม่เยอะอย่างที่คิด ลมโชย เงียบสงบดี เราโทรหาพี่โด่ง แกบอกว่าให้เดินมาตาม ‘เส้นทางศึกษาธรรมชาติ’ มันเป็นทางเลาะทะเล ที่มีสะพานไม้ให้เดิน สลับกับต้องปีนโขดหินเอาเอง

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราเลยเดินตามไป กะว่าจะ survey เส้นทางก่อน ละพี่ปุ่นจะกลับไปเอาขาตั้งกล้องมาถ่ายจริงจัง ทางเดินเลาะทะเลก็อย่างที่เห็น มีโขดหินที่ต้องปีนป่ายกันไป ไผ่นี่ขาล้าจากขับรถมาก็ปีนแบบเก้ๆ กังๆ

พี่ปุ่น: “เหยียบไปเลยไผ่ มั่นใจๆ ละเดินไปเลย อย่าไปลังเล” สิ้นเสียงนั้น พี่ปุ่นก็กระโดดโหยงๆ ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

เกิดเป็นแฟนพี่ปุ่นต้องหัดช่วยเหลือตัวเองให้ได้สินะ! โขดหง โขดหินก็เกาะๆมันไป สู้ต่อไปนะไผ่ T^T

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ปีนๆเก้ๆกังๆกันไป เราก็มาเจอพี่โด่งและน้องๆที่ปลายทาง ‘เขาแหลมหญ้า’ ข้างบนเป็นเขา มีหญ้าแห้งเต็มไปหมด ลมแรง ปลายหญ้าก็ไหวตามลม เพราะอย่างนี้รึเปล่าหว่า เค้าถึงชื่อว่า ‘เขาแหลมหญ้า’

พอเจอกัน พี่โด่งก็บอก “มาๆๆ มาถ่าย selfie หมู่กันหน่อยสิ โทรศัพท์ใครถ่ายสวยอ่ะเอามาถ่ายหน่อย”

คือ…การ selfie หมู่เนี่ย มันไม่ใช่แค่ที่โทรศัพท์ใครถ่ายสวยแงะ แต่ถ้าใครควักโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเนี่ย ต้องเป็นผู้เสียสละพลีชีพ หน้าบานอยู่หน้าสุดไง

ทุกคนนิ่งเงียบ ไม่มีใครควักโทรศัพท์ซ้ากกกคน 555 เอาวะ ไผ่ก็ได้วะ หน้าก็บานอยู่แล้ว มาอยู่ข้างหน้าคิดว่าจะเหลือเหรอ เต็มจอสิค้า ใครจะลง ลงไปเลยค่า ไผ่ไม่ลง จบนะ! ขอจบการพลีชีพแต่เพียงเท่านี้ 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ช่วงที่เราเดินสำรวจเส้นทาง เป็นช่วงเย็นพอดี พระอาทิตย์สะท้อนน้ำกำลังสวยเลย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอปีนสูงขึ้นไปอีก วิวก็ยิ่งสวยมากๆ น้ำทะเลมันสีน้ำเงินเข้ม แจ่มมากจริงๆ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ถ่ายรูปพอเป็นพิธี ก็เดินกลับไปเอาขาตั้งกล้องกัน ทางเดินกลับเราไม่ต้องเดินย้อนกลับทางโขดหินทางเดิมก็ได้ แต่เราปีนเขากลับอีกทางได้จ้า เลือกเอาจะปีนโขดหิน หรือ ปีนเขา อ่ะ ลองเส้นทางใหม่ละกัน ไหนๆก็มาละเดินมันให้ครบ!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอผ่านพ้นช่วงปีนป่ายเขาขึ้นมาได้แล้ว เราจะเจอทางเดินเป็นอุโมงต้นไม้ ค่อยเดินสบายหน่อย ทางร่มรื่น ไม่ลาดชันมาก

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

มีต้นไม้ใหญ่บังแดดให้นี่มันดีจริงๆ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราเดินตรงทางอุโมงค์ต้นไม้พักใหญ่ๆ ก็มาโผล่ตรงต้นทาง จะเรียกว่าจุดชมวิวอย่างไม่เป็นทางการก็ได้ เพราะมันมองลงไปเห็นสะพานด้านล่างรับกับทะเลที่กวาง กว่าง กว้าง กว๊างงงงงสุดลูกหูลูกตา จริงๆ ทางมันทะลุกันหมด เราจะเดินจากทางอุโมงค์ต้นไม้แล้วเดินกลับทางโขดหินก็ได้ เลือกเดินได้ตามใจชอบเลยจ้า

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ที่นี่เค้าจะมีเต๊นท์ของอุทยานกางไว้ให้นักท่องเที่ยวเช่าอยู่ริมทะเลเเลย แบบว่าตื่นเช้าโผล่หน้ามาจากเต๊นท์นี่ได้เห็นวิวทะเลจะๆ เลย นี่มันวิวดีกว่าโรงแรมฝั่ง sea view อีกนะนี่! แต่ตอนเราไปถึงเต๊นท์อุทยานเต็มหมดทุกหลังแล้วจ้าา สวัสดี T^T แต่แล้ว โชคก็ช่วยเรา น้องที่มาด้วยกันเค้าเดินไปถามร้านค้า (ซึ่งมีอยู่ 2 ร้านในอุทยาน ร้านนึงขายน้ำ ขนม และมาม่า ส่วนอีกร้านขายเหมือนกัน แต่ว่าเป็นร้านอาหารด้วย) เค้ามีเต๊นท์ของเจ้าหน้าที่ให้เราเช่าอีก 2 เต๊นท์! สรุปเราเสียค่าที่พักไป – เต๊นท์ หลังละ 200 บาท – เสื่อ ผืนละ 30 บาท – ผ้าห่ม ผืนละ 30 บาท 2 ผืน – หมอน ใบละ 20 บาท 2 ใบ เบ็ดเสร็จแล้ว ค่าที่พักคืนนี้ 330 บาท

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอจัดการเรื่องเต๊นท์เสร็จ พี่โด่ง น้องๆ พี่ปุ่น ก็เดินขึ้นไปที่รถเพื่อไปหยิบขาตั้งกล้อง พอลงมาแล้ว ทุกคนก็ซื้อมาม่าคัพมาทานเป็นข้าวเย็น ละก็พากันเดินย้อนไปที่ ‘เส้นทางศึกษาธรรมชาติ’ เพื่อถ่ายรูปกันอีกครั้ง ยกเว้น….เราและพี่ปุ่น 555 พี่ปุ่น: “ร้านอาหาร (ซึ่งมีร้านเดียว) รู้สึกว่าเค้าจะเขียนไว้ว่าปิด 6 โมงนะ” ลูกไผ่: “โห งั้นเราไปเดินลงมาเค้าท่าจะปิดแล้วแน่เลยค่ะนี่” พี่ปุ่น: “นั่นสิ ไผ่หิวมั้ย” ลูกไผ่: “ก็นิดนึงอ่ะค่ะ แค่กลัวว่าลงมาแล้วเดี๋ยวจะไม่มีอะไรทานแล้วอ่ะค่ะ” พี่ปุ่น: “ปะ งั้นทานก่อนเลยละกัน ละเดี๋ยวค่อยเดินตามไป”

นั่นไง…กองทัพมันต้องเดินด้วยท้องไง

สังข้าวผ่านไปเกือบชั่วโมง ข้าวก็ยังไม่มา จนแสงจะหมดละ

ลูกไผ่: “พี่ปุ่นคะ เค้าลืมของเราป่าว แสงจะหมดแล้วนะ เดี๋ยวพี่ปุ่นไม่ได้ไปถ่ายรูป” พี่ปุ่น: “ไม่เป็นไรหรอก เราไม่ซีเรียส เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยถ่ายก็ได้” ชิลตลอด 2 ตัวนี้ ตั้งแต่ตอนออกตัวจากกรุงเทพละ – -” ลูกไผ่: “เฮ้ยยย นานไปแล้วอ่ะ เดี๋ยวไผ่ไปถาม” คือเราเห็นเค้าทำข้าวกล่องเป็น 20 กล่องให้คนที่มาทีหลังไปหลายคนแล้วแงะ ลูกไผ่: “โทษนะคะ เมื่อกี้สั่งไปยังไม่ได้เลยอ่ะค่ะ คือนานมากแล้วอ่ะค่ะ” แม่ค้า: “สั่งอะไรไปนะ” เราก็บอกเมนูไป แม่ค้าก็มาดูที่จดไว้ แล้วหันไปหาแม่ครัว “อุ๋ย นี่ลืมทำของเค้าน่ะ” “เดี๋ยวทำต่อให้เลยค่ะ” ณ จุดนั้น เราเริ่มโมโหหิว เสียงเริ่มขุ่นขึ้นมา สีหน้าเริ่มไป ลูกไผ่: “อีกนานมั้ยอ่ะคะ” “คือได้ทำไปบ้างรึยังคะ” พี่ปุ่นเห็นท่าจะไม่ดี “ไผ่ๆ มานั่งๆ เดี๋ยวเราคุยเอง” ไปละผู้เจรจา เสียงเป็นมิตรต่างจากเราลิบลับ 555 ในที่สุดเราก็ได้ทาน เย้!

ทานเสร็จฟ้าก็มืดตึ๊ดตื๋อ เราก็เลยมาเดินถ่ายรูปรับลมตรงสะพานแทน เราไม่มีขาตั้งกล้อง เราก็เลยใช้วิธีนั่งลงกับพื้นแล้วเอากล้องวางบนเข่า ก็เลยได้รูปกล้อมแกล้มมาอย่างที่เห็น

เฮ้ยยย นั่นมันแสงเหนือเหมือนที่ไอซ์แลนด์เลยนี่!

เปล่า! ไฟจากเรือไดหมึกมันสะท้อนขึ้นฟ้าอ่ะ 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

นั่งๆถ่ายไป เราก็ได้กลิ่นตุๆลอยมา ลูกไผ่: พี่ปุ่นๆ ไผ่ได้กลิ่นขี้หมาอ่ะ พี่ปุ่น: เราไม่เห็นได้กลิ่นเลย

เราเริ่มหันสาย หันขวา นั่นไง ห่างแค่เพียงเอื้อมมือออ…. เรานี่กระโดดตัวลอยลุกขึ้นมาเลย

ลูกไผ่: อี๊….นี่ไง ไผ่ว่าละ ไผ่ได้กลิ่นมาจากไหน ดีนะไผ่ไม่นั่งทับไป

ใครจะไปถ่ายรูปตรงสะพานตอนกลางคืน ระวังขี้หมาด้วยนะแจ๊ะ เราเจองี้ไป 2 รอบ แต่ละกองนี่ฉิวเฉียดทั้งน๊านนน เดชะบุญที่ไม่นั่งทับ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ถ่ายไปซักพัก พี่ๆน้องๆก็ลงมากันแล้ว เราเลยว่าจะเดินกลับไปสมทบ พอเราเดินหันหลังไปเท่านั้นแหละ แคล่ก…คลุก คลุก คลุก แก๊ง แก๊ง……!!! เราตกใจรีบหันไปมอง “อะไรอ่ะคะ!” พี่ปุ่น: กล้องร่วง กล้องกับขาตั้งพี่ปุ่นโดนลมพัดตกเนินหินลงไปทั้งเซ็ต! พี่ปุ่น: โอย…. ข้อดีของพี่ปุ่นคือเป็นคนคุมสติดีมาก ไม่มีร้อง ไม่มีโวยวาย คือทั้งเซ็ทนั่นน่ะ ไม่รู้กี่หมื่น พี่ปุ่นก็ยังค่อยๆเดินลงไปเก็บ แล้วพยายามฉายไฟหายชิ้นส่วนน็อตตัวเล็กๆ

เลิก เดินกลับไปสำรวจความเสียหาย 555

โชคดีที่กล้องไปเป็นไร แต่เลนส์นี่ส่งซ่อมไปเรียบร้อยจ้า

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอกลับมานั่งคุยๆกับชาวแก๊งค์ซักพัก เราก็แยกย้ายไปอาบน้ำกัน อาบน้ำเสร็จพี่โด่งกับน้องผู้ชายอีก 2 คนเค้าบอกจะไม่นอน จะไปตั้งกล้องรอถ่ายช้าง ส่วนไผ่กับพี่ปุ่นและแฟนของน้องแยกย้ายเข้าเต๊นท์นอนจ้า 555 เนื่องจากนี่ไม่ใช่การนอนเต๊นท์ในฤดูหนาว เราเลยต้องเปิดหน้าต่างเต๊นท์ทั้ง 2 ด้านให้ลมเข้า ไม่งั้นอาจมีหายใจไม่ออกกันไปข้าง นี่เป็นการนอนเต๊นท์ในรอบ 10 ปีของเราเลยนะ ไม่ได้นอนมานานมากแล้ว

Day2: เช้ามาพี่ปุ่นตื่นไปถ่ายวิวแต่เช้า ส่วนไผ่นู้นตื่นมาตอน 7 โมงครึ่ง ไม่ได้เพราะอยากตื่นนะ พออาทิตย์ขึ้น แสงก็มา ความร้อนก็มา แถมรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงคนเดินรอบเต๊นท์เต็มไปหมด โอเค เราตื่นก็ได้ข่า!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอเก็บของกันเสร็จ พี่โด่งและน้องๆ จะกลับกันแล้ว เพราะอยู่ถ่ายช้างกันทั้งคืน แทบจะไม่ได้นอน เห็นว่าพอได้ช้างมานิดหน่อย แต่เมื่อคืนช้างไม่ค่อยโผล่มาให้เห็นซักเท่าไหร่ แต่ไผ่กับพี่ปุ่นกะจะเดินทางถ่ายรูปตรง ‘เส้นทางศึกษาธรรมชาติ’ ที่เมื่อวานพลาดไปก่อน เราก็เลยแยกย้ายกันตั้งแต่เช้าเลย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอแยกย้ายกัน ไผ่กับพี่ปุ่นก็เริ่มออกเดินถ่ายรูป ตอนนั้นนี่ประมาณ 10 โมงได้ แดดนี่เปรี้ยงมาก! ร้อนยิ่งกว่าเมื่อวานตอนเย็นอี๊กกก

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ตอนนี้เลยเหมือนเดินอยู่ริมทะเลส่วนตัว ไม่มีคนเลย วิวโล่งมาก

ก็คนบ้าที่ไหนเค้าจะเดินกันตอนแดดเปรี๊ยงอย่างแก๊!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เหนือคนบ้า ยังมีคนบ้ากว่า นั่นไง เห็นมั้ยที่ยืนตั้งกล้องกลางแดดนั่นน่ะ พี่ปุ่นหยุดถ่ายอย่างนี้อยู่หลายจุด จุดละเกือบครึ่งชั่วโมงได้ ไผ่นี่ต้องเอาตัวรอดเองนะ หาไปสิร่มไม้ใบหญ้าที่มันมีอยู่น้อยนิดระหว่างทางน่ะ กลับจากทริปนี่ คำว่า ‘ขาว’ คืออะไร เราไม่รู้จัก T^T

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

แต่ที่นี่มันน่าหยุดถ่ายรูปจริงๆนั่นแหละ ดูดิขนาดฝืมือถ่ายรูปกากๆอย่างเรา มันยังสวยเลย พอไปดูรูปจากกล้องพี่ปุ่น เอออออ….มันคุ้มที่พี่ปุ่นไปยืนตากแดดถ่ายจริงๆ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราก็เดินบ้าง หยุดถ่ายรูปบ้างมาจนสุดทาง ที่ด้านบนของ เขาแหลมหญ้า จะมีก้อนหินวางเรียงๆกันอยู่ ไม่รู้ว่าใครมาเรียงไว้ อ๊ะ! หรือจะเป็นมนุษย์ต่างดาว! มั่วอีกแล้วนะไผ่ – -”

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ตอนที่เราขึ้นไปถึง มีคนบ้าแบบเราด้วยอ่า! มีอยู่กลุ่ม 2 กลุ่มได้ที่บนเขา ความต่างคือ เค้าดูพร้อมมาก มีหมวกกันแดดพร้อม แล้วอิ 2 คนนี่คือไร กางเกงขาสั้นแบกกล้องถ่ายรูป บอกแล้ว พวกเราเตรียมพร้อมเสมอ….หราาาาา

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่มาสำรวจเส้นทาง เราเลยปีนขึ้น ปีนลงตรงนี้อยู่นาน

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

วิวที่ได้มันก็คุ้มจริงๆนะ สวยมากจริงๆ แต่อย่างที่บอก… รูปมันก็สวยได้เท่าที่มันเป็นรูป สู้ของจริงไม่ได้หรอก มีโอกาสต้องลองมากันนะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ถ่ายรูปเสร็จตอนปีนขึ้นมาตรงทางอุโมงค์ต้นไม้ เรานี่แทบจะเป็นลม ต้องนั่งพักอยู่นาน พี่ปุ่นก็เหนื่อยนะ แต่อยากเข้าห้องน้ำเลยนั่งพักกนานไม่ได้ ลูกไผ่: “พี่ปุ่นไปก่อนเลยค่ะ เดี๋ยวไผ่โอเคแล้วเดินตามไป พี่ปุ่น: เฮ้ย เดี๋ยวมาเป็นลมข้างหลังจะทำไง ลูกไผ่: เฮ้ยยย ไผ่โอเค ไปเองได้ ไม่ต้องห่วงๆ นั่งรออยู่พักใหญ่คงอยากเข้าห้องน้ำจริงๆ ก็เลยเดินขึ้นไปก่อน ไผ่ก็นั่งพักอยู่พักใหญ่มาก ก็ได้ยินเสียง

“ไผ่มายัง”

เฮ้ยยย พี่ปุ่นยังนั่งรออ่ะ อ้ออ๊อย….

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ตอนแรกเราแพลนไว้ว่าจะไปทานห่อหมก ‘ป้าจิ๋ว’ ที่บ้านเพตอนเช้า แล้วตอนกลางวันจะไปทานอาหารทะเลสดๆที่เค้าเพิ่งลากขึ้นมา แต่กว่าเราจะออกจากอุทยานก็เกือบเที่ยงแล้ว เพราะฉะนั้น ป้าจิ่ว จบไป ของหมดแล้วแน่นอน ที่นี้ก็เหลือแต่อาหารทะเลที่เค้าลากมาสดๆสินะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราลองพยายาม search ดูว่าที่ไหนมีสะพานปลาที่เค้าลากขึ้นมากันบ้าง ก็เจอว่ามีที่ ‘บ้านเพ’ พอขับรถไปถึง ไหนหว่า สะพานปลา? พอถามคุณป้าที่นั่งขายเปลือกหอยอยู่ แกก็บอกว่า

“ที่นี่เค้าลากมาช่วงเช้า มีคนซื้อไปหมดแล้วลูก ที่นี่เค้ามีขาประจำมารอซื้ออยู่แล้ว ซื้อไม่ทันเค้าหรอก ลองไปดูที่หาดต้นสนดู ที่นั่นน่าจะเพิ่งขึ้น เค้าขายคนทั่วไปไม่ได้มีเจ้าประจำ ลองไปดูนะ”

ณ จุดนั้น หิวกันมากแระ ไม่ต้องที่ลากขึ้นมาสดๆก็ได้วะ ร้านอาหารทะเลอะไรก็ได้ ร้านข้าวราดแกงยังได้เลยเอ้า!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

สุดท้ายเราเลยมาทานที่ ‘ร้านครัวบ้านทะเล’ ด้วยความหิวสั่งไป 4 อย่าง มีต้มยำกุ้ง, น้ำพริกไข่ปู, ปูม้านึ่งครึ่งกิโล, หอยหวานเผา มันกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่นะเนี่ย อิ่มมาก! – ร้านนี้ถือว่าไม่แพงเลย มื้อนี้เราจ่ายไป 700 บาท

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ถึงไม่ใช่ที่ลากขึ้นมาสดๆจากเรือ แต่อาหารทะเลร้านนี้สดและอร่อยมาก วิวดี ลมโชย เวลาได้ทานของอร่อยๆ ลมเย็นๆ หลังจากไปปีนเขามาเหนื่อยๆนี่มันดีจริงๆ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

อิ่มแล้ว เราเลยลองขับรถไปดูที่หาดต้นสน ที่หาดมีต้นสนต้นเบ้อเริ่มข้างทางเต็มไปหมด หาดนี้ไม่ค่อยมีเก้าอี้ให้เช่านั่ง เอาจริงๆแทบจะไม่มีหาดเลยด้วยซ้ำ ใครอยากนั่งชิลต้องเอาเสื่อ เอาเก้าอี้มากันเองนะ ขับๆไปยังไม่เห็นวี่แววของสะพานปลา ละแดดที่พี่ปุ่นไปยืนตากมาเมื่อเช้าเริ่มออกฤทธิ์ละ เราเลยตัดสินใจกันว่ากลับกันเถอะ ขากลับเราขึ้นทางด่วน บูรพวิถี เหมือนเดิม ก่อนขึ้นทางด่วน ไผ่ขับรถไปตกหลุมใหญ่ๆ ไปรอบนึง เลยทำให้วิตกจริตตลอดทางว่ารถเป็นอะไรรึเปล่าหว่า ขับบนทางด่วน เวลาเหยียบเร็วๆ แล้วรู้สึกว่ารถส่าย

“พี่ปุ่นไผ่ว่าล้อรถมันเป็นไรรึเปล่าคะ ไผ่เหยียบแล้วมันรู้สึกส่ายๆ” (จริงๆน่าจะเป็นจากที่แกเหนื่อยจากตากแดดเมื่อเช้าเลยขับรถแล้วล้าๆมากกว่านะ!)

ขับๆไปสักพัก มีควันออกจากช่องแอร์ “พี่ปุ่น มีควันออกจากช่องแอร์ด้วยอ่ะค่ะ รถมันเป็นไรรึเปล่า หม้อน้ำมันแห้งรึเปล่า! เฮ้ย มันจะเป็นอะไรมั้ยอ่ะ” (จริงๆคือ อากาศข้างนอกกับข้างในรถมันต่างกันมาก ละอาจจะต้องล้างแอร์บ้างไรบ้างไง)

นี่งะ ตัว panic จนแทบจะพาพี่ปุ่น panic ตาม

พี่ปุ่น: “ไผ่ ทริปหน้านั่งรถตู้ หรือไม่ก็รถทัวร์นะ ไม่ต้องขับรถมา” – -”

ดูรูปเพิ่มเติมของทริปนี้ได้ที่ https://www.facebook.com/wherewegopage/

เจอกันทริปหน้าค่า

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

“ป้า เราจะแต่งงานแล้วนะ” “หะ!!!………………..เฮ้ยยยย เมื่อไหร่ๆๆ” “กุมภานี้แหละ” เพื่อนจะแต่งงาน!!!! ก็ใช่ไง เพื่อนแต่งงานตื่นเต้นอะไรนักหนา ถ้าเป็นเพื่อนทั่วไปก็คงไม่ได้รู้สึกอะไร แต่นี่เพื่อนสนิท โตมาด้วยกันตั้งแต่อนุบาล 1 ใช่! อ่านไม่ผิดหรอก คบกันมาตั้งกะอนุบาล 1 ตั้งแต่หนีครูไม่ยอมนอนกลางวัน ไปนั่งเล่นแปลงร่างเป็นจูเรนเจอร์ แล้วพอกลับมา นมของว่างหมด เหลือถุงเดียวครูต้องมาตัดแบ่งให้กินด้วยกัน แหมะ…พูดถึงเรื่องสมัยเด็กเยอะๆนี่มันรู้สึกได้ถึงความแก่จริงๆ 555 เพื่อนเราจัดงานแต่งงานที่ จ.ลำปาง พอดีว่าเพื่อนรู้จักกับน้องสาวเราก็เลยเชิญไปงานด้วย ตอนแรกน้องสาวเราก็เลยแพลนว่า เสร็จจากงานแต่งที่ลำปาง แล้วจะไปเที่ยว ‘Camp meeting’ ที่เชียงใหม่ต่อ น้องก็มาชวน เอารูปมาให้ดู เค้าจัดเป็นเหมือนแคมป์อินเดียนแดงน่ารักๆ มีปิ้งย่างทานกันริมน้ำ เฮ้ย! น่ารักมาก ไป! เราจองตั๋วเครื่องบินผ่าน App Traveloka พอดีน้องสาวส่งมาให้ ช่วงนั้นมี Promotion ลด 50%! Trick ในการจอง Traveloka ตอนนั้น ต้องจองขาไปก่อน แล้วอีกวันค่อยมาจองขากลับอีกที มันจะใช้ส่วนลดได้ 2 รอบ – ตอนนั้นเรากับพี่ปุ่นเลยได้บินไปกลับ กรุงเทพ – ลำปาง ด้วย Nokair แค่คนละ 1,768 บาท

แต่!…….. ช่วงใกล้ๆวันเดินทาง น้องเรา line ช่าวมาให้ดูว่า ‘Camp meeting’ ประกาศปิด เนื่องจากโดนแจ้งว่าทำลายสิ่งแวดล้อม อ้าว เชี๊ยยยยย….มาปิดอะไรตอนนี้!!!!! หมด หมดกัน เคว้งเลย แล้วจะไปไหนล่ะนี่ ปะ ไปงานแต่งก่อนละกัน แล้วค่อยว่ากัน!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

วันก่อนออกเดินทาง เรามีออกกองพอดี ส่วนพี่ปุ่นมี setup พี่ปุ่น set up งานเสร็จตี 4! ส่วนเราลากยาว เลิกกองตี 5! เป็นการออกกองที่ยาวนานที่สุดของเราละ ประเด็นคือเราบิน 8:55! เราควรต้องถึงสนามบินกัน 6:55 กองเราอยู่แถวๆลำลูกกา เลิกแล้วต้องรีบเหยียบกลับพระราม 9 เพื่อเก็บของ จัดกระเป่า แล้วนั่ง Taxi วกกลับมาสนามบิน สภาพเป็น Zoombie มาขึ้นเครื่องกันทั้งคู่จ้า สว่างคาตา 555 เรานั่งเครื่องมาลงลำปาง เรานอนที่นี่ 2 คืนเพื่องานแต่งของเพื่อนเรา แล้วถึงจะออกเดินทางไปเชียงใหม่

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ก่อนจะข้ามไปที่เชียงใหม่ เราของแชร์ wedding presentation ของเพื่อนเราที่เป็นที่มาของทริปนี้หน่อยเถอะนะ ขอเถิดดด เป็น wedding presentation ที่เราชอบมากกกที่สุดตั้งแต่เคยดูมา ไม่รู้ว่าเพราะเป็นของเพื่อนสนิทเรารึเปล่าไม่รู้ถึงอินขนาดนี้

ดูวีดีโอ Wedding Presentation ที่นี่จ้า

Day1: เมื่อคืนเรา พี่ปุ่น พลับ น้องสาวเรา และ พี่ฟิล์ม แฟนน้องสาวเรา พักที่โรงแรมที่จัดงานแต่งเพื่อนเรา เรานัดกันว่าจะตื่น 8 โมงเช้า แต่งตัวเสร็จแล้วออกเดินทาง พอตื่นมา ไร้วี่แววไอพลับจ้า เอ๊ะ หรือพลับจะยังไม่ตื่น เอ๊ะ หรือพลับจะไปหาอะไรทานแถวนี้ โทรจ้า ปรากฎว่าพลับกับพี่ฟิล์มออกไปหาย่าในเมืองก่อน ละเดี๋ยวกลับมารับ มันบอกว่ามาเคาะประตูน้องแล้วไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ก็เลยออกไปธุระก่อนดีกว่า เป็นพวกนอนดึก ตื่นยากอีกแล้วสินะคู่ฉัน – -“ เราเก็บของแต่งตัวเสร็จพลับกลับมารับพวกเราพอดี เย้! ก่อนออกไปเชียงใหม่ เราแวะทานชาเย็นตอกไข่เจ้าอร่อย ข้างโรงเรียนบุญวาทย์ เติมพลังกันก่อน ร้านนี้เป็นร้านรถเข็นเปิดมานานมากกกก มากแล้วจริงๆตั้งแต่สมัยเรายังเรียนมัธยม (และอาจจะเปิดมาก่อนหน้านั้นอีก) พี่ฟิล์มเช่ารถฟอร์จูนเนอร์จากเชียงใหม่ (พอดีว่าพลับกับพี่ฟิล์มลงเครื่องที่นู้น แล้วเช่ารถขับกลับมาลำปางเมื่อวันงาน) – ค่าเช่ารถฟอร์จูนเนอร์ 2,400 บาท / วัน ป๊าดด 2,400!!!! ตอนแรกเราฟังก็ตกใจ คือมาคราวก่อนเราเช่าแค่ Attrage ไง วันละ 900 ขึ้นเขาทีนี่แทบจะอยากลงไปช่วยเข็น

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอถึงเชียงใหม่ เราไปแวะรับ ‘ปุก’ เพื่อนพลับ ซึ่งจะกลายเป็นเพื่อนเราไปแล้วด้วย ผู้ร่วมทริปอีก 1 คน ที่โรงแรมยาหยี ‘ยาหยี’ เป็นโรงแรมชิคๆ ตั้งอยู่ในซอยนิมมานเหมิน ข้อเสียหลักๆเลยคือ ไม่มีที่จอดรถจ้า แต่ถ้าใครไม่ได้ใช้รถก็ควรค่าแก่การมาพัก สวยจริงๆ แต่คงต้องจองลวงหน้าหน่อยนะ ได้ข่าวว่าเต็มตลอด ส่วน ปุก เหตุผลของการมาพักที่นี่คือ “เผื่อว่าจะเจออนันดา เอเวอร์ริ่งแฮมจ้า” 555 ใช่! อนันดาเป็นเจ้าของโรงแรมนี้อยู่ค่า โอเค สมาชิกครบ 5 คน ปะ เราไปที่แรกของวันนี้กัน ‘ม่อนแจ่ม’

เราขับรถออกไปทางแม่ริม แล้วตามพี่ google เค้าไปเรื่อยๆ ซักพักใหญ่ๆ เราก็ถึงม่อนแจ่ม ที่ม่อนแจ่มจะมีที่สำหรับจอดรถ คิดค่าจอดรถ 30 บาท จากนั้นต้องเดินขึ้นเนินชันๆขึ้นไปกันเอง เนินมันชันมาก และชันมากจริงๆ ตรงต้นเนินถึงขึ้นมีพี่วิน มอไซค์รับจ้าง ขอรับนักท่องเที่ยวขึ้น – ลงนะฮ้า รู้สึกว่าจะคิดค่าบริการที่ 20 บาท หึ หึ ไม่ได้เงินเราหรอกเฟ้ย! เนินแค่นี้เอง! . . “พี่ปุ่นๆ ไผ่เดินลงไปนั่งมอไซค์ได้มั้ยคะ” “อะไรไผ่ แค่นี้เอง ขึ้นมาเร็ว” T^T ไงล่ะ ไม่ได้เงินไผ่หรอกเฟ้ย! โคตรเหนื่อย! (ไอพวกไม่ค่อยออกกำลังกายก็เงี๊ยะ) ถึงบนม่อนซักที!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เนื่องจากเรามาช่วงกุมภาของประเทศไทย ในพ.ศ.2559 ซึ่งมันห่างไกลคำว่า ‘ฤดูหนาว’ ไปมากแล้ว ข้างบนม่อนเลยแดดเปรี้ยงมาก!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ถามว่าบนม่อนแจ่มมีอะไร เราถือว่ามันเป็นจุดชมวิวที่มีการปลูกดอกไม้ตกแต่งไว้ละกัน แต่มาช่วงนี้ ดอกไม้ก็ไม่ได้บานสะพรั่งสวยเท่าที่ควรแล้ว คงเพราะแดดมันแรงมาก ต้นไม้ ดอกไม้บนนี้เลยแห้งๆไปซะส่วนใหญ่ แต่ก็ยังพอมีให้เราได้ถ่ายรูปกันบ้าง

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ปุกดูจะกลมกลืนเข้ากับที่นี่สุดด้วยชุดเด็กดอยที่ใส่มา ซึ่งไผ่เพิ่งมาเห็นว่ามันฮิตมากตอนนี้ รู้งี้ซื้อกับปุกตั้งแต่ตอนนั้นละ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

จากม่อนแจ่มมองลงไปจะเห็นเป็นวิวการปลูกพืชแบบขั้นบันได จำได้ว่าเรามาตอนเดือนตุลา ปีที่แล้ว อากาศและวิวสวยกว่านี้เยอะ ไว้เราจะเอารูปตอนนั้นมาให้ดูนะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราเดินถ่ายรูปกลางแดดกันครบทุกมุมละก็ ปะ หาน้ำดื่มกันเถอะ บนม่อนแจ่มมีร้านกาแฟอยู่ร้านนึง เราซื้อโค้กกระป๋องนึงที่ร้านนี้ แน่นอนว่าราคาแพงกว่าข้างล่าง ก็ต้องให้ค่าขนส่งเค้าไปล่ะนะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เป้าหมายต่อไปของเราคือ ‘โรงแรม Veranda’ พักที่ Veranda เหรอ? เปล่า! ฐานะอย่างเราจะมีตังค์จ่ายค่าห้องเค้ามั้ยหะ! ไอพลับจะมาดูสถานที่จัดงานแต่งงาน ใช่! นอกจากเพื่อนสนิทเราจะแต่งงานไปเมื่อวาน น้องสาวเราก็จะแต่งงานสิ้นปีนี้เหมือนกัน! เออ! แต่งกันเข้าไป ทิ้งเรากันไปหมดแล้วววว T^T (ดราม่าก็มา) “พี่ปุ่น เมื่อไหร่แต่งอ่ะคะ” “ใครบอกว่าจะแต่งอ่ะไผ่” T^T ระหว่างที่รอพลับกับพี่ฟิล์มคุยกับเซลล์โรงแรม เราหิวเลยสั่ง ‘ปอเปี๊ยะพะแนงกุ้ง” มาทานรองท้อง ถามว่าอร่อยมั้ย “พลับๆ ตอนงานแก อาหารเราไม่เอาปอเปี๊ยะพะแนงกุ้งนะ โอเคนะ” 5555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราทานเสร็จเซลล์ก็กำลังจะพาเดินไปดูสถานที่พอดี วีรันด้าเป็นโรงแรมที่ค่อนข้างกว้างใช้ได้เลย เดินครั้งแรกอาจมีหลงได้ ข้างในมีสวนต้นไผ่ปลูกข้างทางเดินไปโถงโรงแรม

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

โถงโรงแรมเป็นแบบเปิดโล่ง มีสระบัวใหญ่ๆตั้งอยู่ตรงกลาง

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอว่าที่เจ้าบ่าว เจ้าสาวคุยรายละเอียดเสร็จ ก็ถึงเวลากลับเข้าเมือง พี่ฟิล์มนัดเพื่อนไว้ พอดีพี่ฟิล์มเป็นคนเจียงใหม่เจ้า เพื่อนพี่เค้าเลยจะพาเราไปทานข้าว ตกลงกันไป ตกลงกันมา ก็ได้ความว่า มื้อเย็นนี้เราจะไปทานสลัดกัน ตอนแรกเราก็นึกว่าเป็น ‘ร้าน Salad Concept’ ร้านดังตรงนิมมาน แต่ไม่ใช่แฮะ พี่เค้าพาเราไปทานที่ ‘ร้าน Salad Terrace’ เค้าบอกว่าอร่อยกว่า พอเข้าไปเปิดเมนูในร้าน ทุกคนสตั๊นท์ไปแปปนึง หน้าตาบ่งบอกว่า “กุจะสั่งอะไรดีวะเนี่ย” เมนูร้านนี้เรียกว่า เราไม่ค่อยจะคุ้นเคยดีกว่า มีการ fusion แบบแปลกๆ คงจะเป็นสูตรของร้านเค้า เราก็เลยเลือกกันมาคนละอย่าง ณ จุดนั้นอะไรก็ได้ เพราะว่าหิวมากกก

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ทานเสร็จได้เวลาไปส่งปุกที่ ยาหยี และเข้าที่พักของเรากันซักที เรา พี่ปุ่น พลับ พี่ฟิล์ม จองโรงแรม ‘The Core’ ไว้ ตอนที่จองเรารู้คร่าวๆแค่ว่ามันอยู่แถวๆหน้ามอ พอมาถึงโรงแรม เฮ้ย นี่มันอยู่ติดกับตลาดหน้ามอเลยนี่ ทำเลดีมาก! ตัวโรงแรมน่ารักมาก อาจจะเสียตรงที่ที่จอดรถอาจจะน้อยไปหน่อย แต่ตอนเราไปก็ไม่ได้มีปัญหานะ พนักงานที่โรงแรมเค้าก็หาที่จอดให้ได้ ห้องพักที่ ‘The Core’ สะอาด และเตียงนอนสบายมาก พูดได้เลยว่าเราประทับใจที่นี่กันมาก – เราจองโรงแรมผ่าน Agoda ไว้ที่คืนละ 1,458 บาท

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราเก็บของกันเสร็จ ก็ลงมาโบกรถแดงไปหาปุกที่ยาหยี ปุกชวนพวกเราไปนั่งชิลที่บาร์ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมยาหยี โรงแรมไม่ได้ใหญ่มาก บนดาดฟ้าเลยเป็นดาดฟ้าเล็กๆ แต่ลมโชย เห็นวิว นั่งชิลได้อยู่ ข้างบนเค้าจะมีทั้งโต๊ะใหญ่นั่งล้อมวงกัน ละก็โต๊ะเคาน์เตอร์ที่วางไว้รอบๆขอบดาดฟ้า พอดีว่าเราไปกันหลัง 2 ทุ่ม ครัวปิดแล้ว เลยสั่งได้แค่เครื่องดื่ม นั่งชิลล์กันสักพัก 5 ทุ่มละ ก็ได้เวลากลับไปพักผ่อน เราเดินออกจากซอยนิมมานเรื่อยๆ เพื่อมาเรียกรถแดงที่ถนนใหญ่ เดินไปเดินมา ลูกไผ่: “พี่ปุ่นๆ ไผ่หิว” พี่ปุ่น: “หะ หิวอีกแล้วเหรอ” ลูกไผ่: “แกๆ เดี๋ยวไปทานมนต์นมสดกันมั้ย หิวอ่ะ” พลับ: “เออ ได้ดิๆ” เดินไปถึงข้างหน้า มนต์นมสดปิดแล้วจ้า ตอนนี้คงจะเหลือเพียงร้านอาหารอิสานรถเข็นข้างหน้ามนต์ นมสด เป็นความหวังเดียวของเราแล้วแหละ ตอนเรากำลังดูเมนู ก็ได้ยินเสียงโต๊ะข้างหลัง “ป้าๆ มีตับหวานมั้ย” “ตอนนี้เหลือแค่ส้มตำ กับคอหมูย่าง” ป้าแกตอบไปล้างหม้อ ล้างจาน เตรียมปิดร้าน บอกเป็นนัยๆว่า พวกแกมาทานกันตอนนี้ ยังจะสั่งอะไรเยอะแยะ มีให้กินก็ดีแล้ว! เรามองหน้ากัน แล้วก็ “ป้าคะ เอาส้มตำ กับคอหมูย่างค่ะ” ไม่ต้องดูมันละเมนง เมนู

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

Day 2: เราตื่นมา 9 โมง เพราะนัดกับบริษัทเช่ารถให้เอารถมาส่งที่โรงแรม – ค่าเช่ารถ Nissan Amera 1,000 บาท / วัน

วันนี้เรากับพลับแยกกันเที่ยว เพราะว่าวันนี้พลับจะไปคุยธุระเรื่องงานแต่งต่อ เรารับรถแล้วก็เลยเลยขึ้นไปทานอาหารเช้าของโรงแรมที่ชั้นดาดฟ้า เมื่อวานเราว่าเราประทับใจกับด้านล่าง และห้องพักของโรงแรมแล้ว พอมาเห็นห้องอาหาร เฮ้ยยย มันดีอ่ะ! เราขอแนะนำ ถ้าใครจะมาเชียงใหม่ ต้องลองมาพักดู เราประทับใจจริงๆ ทานเสร็จ เราลงมาเก็บของ แล้วเตรียมตัวออกเดินทาง เมื่อวานเรา search ที่เที่ยวไว้ ละปักหมุดไว้ว่า วันนี้เราจะไป ‘แกรนด์แคนย่อน’ กัน! ระหว่างรอ Check out ก็มีแขกอีกกลุ่มนึง เหมือนกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอกเหมือนกัน แต่รอชาวคณะอยู่ เอ๊ะ ผู้หญิงที่นั่งรออยู่สวยจัง หน้าตาคุ้นๆ นั่งคิดๆไป อ๋ออออ….เนย เนโกะ จั๊มป์ (เอ๊ะ รึอาจจะเป็นแจม?) ถ้าอยากเจอ อนันดา ให้ไปยาหยี แต่ถ้าอยากเจอ เนโกะ จั๊มป์ ให้มา The Core นะ ไม่ใช่แล้ว! แกบังเอิญเจอเฟ้ย!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ก่อนไป ‘แกรนด์แคนย่อน’ เราแวะทานข้าวที่ร้าน ‘Salad Concept’ ที่นิมมาน ล้างแค้นที่เมื่อวานอยากทานแล้วไม่ได้ทานกันก่อน ที่ร้านคนเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติซะเยอะ เราเลยต้องออกมานั่งโต๊ะด้านนอก เราสั่ง ‘สลัดเนื้อย่าง’

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ส่วนพี่ปุ่นสั่ง ‘สลัดปลาแซลม่อน’

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

อร่อยยยย โอเค เติมพลังเรียบร้อยแล้ว ปะ ไปกันต่อ เราตามพี่ google มาเรื่อยๆ จนเริ่มเข้าสู่ถนนที่เป็นดินแดง ฝุ่นตลบๆ อ้อ เรามาถึงแล้วสินะ แกรนด์แคนย่อน ที่นี่เสียค่าเข้าด้วยนะ เราก็เพิ่งรู้ตอนไปถึง – ค่าเข้าแกรนด์แคนย่อนคนละ 50 บาท

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

แกรนด์แคนย่อนเป็นบ่อดินเก่า ที่เค้าดินไปขายเป็นทำให้เกิดเป็นหลุ่มใหญ่ๆ พอฝนตกลงมาก็เลยมีน้ำขังอยู่ น้ำที่นี่ใสมาก สีเขียวสวยเลย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เข้ามาข้างในจะเจอแต่ ชาวต่างชาติ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ชาวต่างชาติ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ชาวต่างชาติ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

และชาวต่างชาติเต็มไปหมด เรียกว่า 80% ของที่นี่เป็นชาวต่างชาติทั้งนั้นเลย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราอยู่ถ่ายรูปที่นี่พักใหญ่ ใช่ไง ฝรั่งเยอะ สนุกพี่ปุ่นเค้าล่ะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ระหว่างนั้นเราก็ search หาเป้าหมายใหม่ที่จะไปกัน แต่ดูแต่ละที่ที่น่าจะแลดูจะไกลออกไปจากตัวเมือง ตอนนั้นก็บ่ายแก่ๆ แล้ว ละเย็นนี้เราต้องขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพกันด้วย เรา search ไปเจอที่นึงชื่อว่า ‘กาดฝรั่ง’ เออ ชื่อแลดูแปลกดี น่าไปแฮะ ไปที่นี่ละกัน

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอไปถึง ‘นี่ คือ กาด ฝรั่ง’ เอ่อม…เอาจริงๆ landmark ของที่นี่คือ Starbucks สาขาใหญ่ที่ทำให้เป็นดีไซน์ล้านนา แค่นี้ช่ายม๊ายยยย!!!! หะ!!!! กาดฝรั่ง! ปะ ไปเป้าหมายสุดท้ายของเราวันนี้กันเถอะ พอละกาดฝรั่ง!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

‘อ่างแก้ว’ ข้างใน มช. (ม.เชียงใหม่) เป็นเป้าหมายสุดท้ายของเราในวันนี้ ทุกครั้งที่มาเชียงใหม่ เรามักจะอยากมาเดินชิลล์ที่นี่ตอนเย็นๆ คงเพราะเราเรียนที่นี่มั้ง ก็เลยคิดถึง อยากมาทุกครั้งที่มาเชียงใหม่ แต่ก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสได้มาเท่าไหร่ รอบนี้มากับพี่ปุ่น สบ๊ายยย อยากไปไหนก็ได้ไป 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

สมัยเรียนเพื่อนจะชวนกันว่า “ปะ ไปอ่างแก้วกัน ไปดู ‘เขาอิงกัน’” ตอนแรกเราช้าไง อะไรวะ ‘เขาอิงกัน’ พอไปแล้วเพื่อนบอก “นั่นไงไผ่ ‘เขาอิงกัน’ มีตั้งหลายคู่” อ๋ออออ….อย่างนี้นี่เองงงงง 5555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ช่วงที่เราไป มีดอกสีชมพูนี่บานเป็นพุ่มๆ เต็มเลย ดูไกลๆ เอ๊ะ! นี่มัน ‘ซากุระ อ่างแก้ว’ รึเปล่า นั่นไง มั่วไง สรุปมันดอกอะไร ใครรู้บ้าง

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

แสงหมด ได้เวลาต้องเตรียมตัวไปสนามบินแล้ว เราโทรนัดพลับกับพี่ฟิล์มมาทานข้าวเย็นที่ ‘โจ๊กสมเพชร’ ร้านดังของเชียงใหม่ ต้องมาหนาเจ้า ลำแต้ๆ อิ่มท้องกันแล้ว ได้เวลาไปสนามบิน กลับกรุงเทพกันแล้ว เป็นทริปของแถมจากงานแต่ง 2 วัน 1 คืน ที่ชาร์ตแบตก่อนกลับกรุงเทพได้ดีเลย ดูรูปทริปนี้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/wherewegopage/

อ่า….ไม่ทันไรก็อยากไปเที่ยวอีกแล้ว เจอกันทริปหน้านะค้า

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

“ปีใหม่นี้ไปไหนดีอ่ะ?” พอใกล้ปีใหม่คำถามนี้ก็เริ่มลอยขึ้นมาตั้งแต่ต้นๆธันวา มันต้องรีบคิด รีบจองตั๋วแล้วไง เป็นที่รู้ๆกัน ช่วงวันหยุดเทศกาล นอกจากตั๋วจะแพงมากกกแล้ว เผลอๆ มันจะไม่มีตั๋วให้ไปเอา ลูกไผ่: “ไปปายมั้ยคะพี่ปุ่น พี่ปุ่นยังไม่เคยไปเลยนี่นา ไผ่ชอบๆ” พี่ปุ่น: “อื้ม น่าสนใจ” ……………………………………….. พี่ณดา: “ปีใหม่นี้ไปอ่างขางกันมั้ย พี่อยาก backpack นอนเต๊นท์” อ่า…ขอแนะนำให้รู้จัก ‘พี่ณดา’ ผู้ร่วมทริป backpack ตะลุยสังขละ ทริปในตำนานของเรา (ไว้เราจะมาเล่าทริปนี้ให้ฟัง) ตั้งแต่ทริปนั้น เราก็หาเรื่องเที่ยวกันตลอด ละดูพี่ณดาจะติดอกติดใจทริป backpack เหลือเกิน อ่างข่าง?…………นอนเต๊นท์?……ช่วงเทศกาล? ม่ายเอาอ่ะ คนต้องมหาศาลแน่นอน “ไปไหนดีอ่ะ?” เราเริ่มถามคำถามนี้กันทุกวัน จนวันนึงมันเริ่มจวนตัวจริงๆละ กลับบ้านต่างคนต่างเปิดคอม นั่งเปิดเวปสายการบิน นั่งไล่เลยว่าเราไปไหนได้บ้าง พี่ปุ่น: “เวียดนามมั้ย” ลูกไผ่: “พี่ปุ่นเคยไป ‘ซาปา’ มาแล้วนี่คะ” พี่ปุ่น: “ไปฮอยอันกัน เราว่ามันน่าไปอยู่นะ” ลูกไผ่: “โอเค ปะ ไป! จองเลย!

ละนึกขึ้นได้ว่า พี่ณดาก็มาชวนเที่ยวปีใหม่อยู่นี่นา เออ! ชวนไปเวียดนามด้วยกันเนี่ยแหละ นึกได้ก็ line ไปหาตอนห้าทุ่ม ลูกไผ่: “พี่ณดา ไปเวียดนามกัน ไปฮอยอันค่า ไปป่าว” พี่ณดา: ไป! นั่น! บ้าจี้พอกัน สรุปปีใหม่ที่ผ่านมา เราก็เลยไป ‘ฮอยอัน’ กัน จองสิค้า รออะไร เราไป 25-29 ธันวา เลือกไปช่วงก่อนปีใหม่ เอาแบบว่ากลับมาทัน countdown กับที่บ้าน – ค่าตั๋วเครื่องบินสายการบิน Jet Airway ไป-กลับ กรุงเทพ – โฮจิมินห์ คนละ 4,000 บาท – ค่าตั๋วเครื่องบินสายการบิน Viet Jet ไป-กลับ โฮจิมินห์ – ดานัง คนละ 2,300 บาท ฮอยอัน เป็นเมืองที่อยู่ภาคกลาง ไม่มีบินตรงไปลง (มีลงแค่ที่ โฮจิมินห์ กับ ฮานอย) เราเลยเลือกบินลงที่โฮจิมินห์ แล้วไปต่อสายการบินภายในอีกที จริงนอกจากการเดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศแล้ว ยังเดินทางด้วย รถเมล์ และรถไฟ ได้ด้วย แต่เราค้นข้อมูลดูแล้ว 2 อย่างนี้ใช้เวลาเดินทาง เกือบ 20 ชั่วโมง คือแบบหลับไปไม่รู้กี่ตื่นกว่าจะถึง แถมค่าเดินทางพอๆกับนั่งเครื่องบินที่ใช้เวลาบินประมาณชั่วโมงเดียว เอ่อม…เวลาเรามีน้อย พี่ขอนั่งเครื่องเลยละกันนะ หลังจากจองตั๋วเครื่องบินเราก็ทยอยจองโรงแรมไว้ – คืนแรกลงเครื่องดึก นอนค้างที่ดานัง 1 คืน คืนละ 660 บาท – แล้วย้ายมานอนที่ฮอยอัน 2 คืน คืนละ 750 บาท – คืนสุดท้ายมาค้างที่ โฮจิมินห์ ก่อนบินกลับกรุงเทพ คืนละ 1,500 บาท สรุป 5 วัน 4 คืน เราเสียค่าที่พักคนละ 970 บาท ส่วนที่เที่ยว ที่กินไปตายเอาดาบหน้า (เหมือนเดิม 555) ปะ พร้อมละ คืนคริสมาสต์ เดินทางกัน!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

Day 1: เรานัดเจอกันที่สุวรรณภูมิ กะว่า check-in เสร็จ แล้วพี่ปุ่นบอกว่าจะพาลงไปทาน Food court ของสุวรรณภูมิที่ชั้นล่าง เราก็เพิ่งรู้จากพี่ปุ่นเนี่ยแหละว่าสุวรรณภูมิมี food court แถมราคาถูกมากอยู่ด้วย นี่แบบโง่ทานอิที่แพงๆข้างบนมาตั้งนาน พอรู้นี่ก็แบบว่าหมายหมั่นปั้นมือจะไปทานสุดฤทธิ์ เรา check-in เรียบร้อย พี่ปุ่น check-in เรียบร้อย แล้วเรื่องตื่นเต้นก็มาตั้งแต่ยังไม่ทันออกจากประเทศ พี่ณดาชื่อที่จองไม่ตรงกับ Passport!

เรื่องของเรื่องคือพี่ณดาแกเปลี่ยนชื่อ ตอนจองตั๋ว แกก็ให้ชื่อใหม่เรามาจอง แต่แกยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อใน Passport เอาแล้วไง นี่ก็ยืนพยายามหาทางแก้กันหน้า counter อยู่พักใหญ่ ขอจ่ายเงินเพิ่มเพื่อเปลี่ยนชื่อก็ไม่ได้ เอาแล้วไง พี่ณดา ก็ตั้งใจ เตรียมตัวจะไปเที่ยวเต็มที่แล้วไง หน้าหงอยเลย เค้าก็เริ่มถอดใจละ “ก็ไม่เป็นไร พวกแกก็ไปกันเลย อย่างมากพี่ก็เรียก taxi กลับบ้าน” คือ เข้าใจอารมณ์คนบิ้วตัวเอง เตรียมมาเที่ยวเต็มที่ป่ะ ละมา เฮ้ยยย จะไม่ได้ไป ตอน last minute อ่ะ มันเฟลมากนะแก๊!!! รอเรื่องกันอยู่นานมาก ผลสรุป ทางแก้ที่ยังพอทำได้มีทางเดียว คือ พี่ณดาต้องทิ้งตั๋ว แล้วซื้อตั๋วใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่แค่นั้นนะ พี่ณดาต้องวิ่งให้ทัน เพราะ counter จะปิดแล้ว ต้องรีบวิ่งไปซื้อตั๋วให้ทัน ไม่งั้น จบ! เตรียมเรียก taxi กลับบ้านเลยจ้า ระหว่างที่พี่ณดาวิ่งซื้อตั๋ว อิ 2 ตัวนี่ก็วิ่งไปแลกเงินสิค้า คือแบบ ชิลไง ไม่ได้แลกมาก่อน กะว่าเหลือเวลาเหลือเฟือ ค่อยมาแลกที่สนามบิน สรุปคือเป็นวันที่วิ่งวุ่นเป็นหนูติดจั่นที่สนามบินมาก ไม่ต้องพูดถึง food court สุวรรณภูมินะ แซนวิชยังไม่มีเวลาไปซื้อกันเลย พอแลกเงินเสร็จวิ่งขึ้นมาหาพี่ณดา สรุปว่าได้ไฟลท์แล้ว แต่บินตามเราไป เฮ้อออ โอเค หาทางไปได้แล้ว เราก็มองนาฬิกา ชิท! นี่มันเวลา boarding ของเรากับพี่ปุ่นนี่หว่า! เขี๊ยะ! ตอนนี้ไม่ใช่พี่ณดาแล้วที่จะตกเครื่อง แต่เป็นกรูทั้งสองเนี่ยแหละ วิ่งสิค้า รออะไร!

ในที่สุดเราก็เข้ามาอยู่ใน gate แล้วนั่งอยู่บนเครื่องโดยสวัสดิภาพ เฮ้อออ…ขาทั้งสองข้างที่พาเราวิ่งมาทันเวลา ( – -“) นี่เป็นครั้งแรกที่เราเดินทางโดย Jet Airway ละก็เพิ่งรู้ว่าเป็นสายการบินแขก การบริการดีมาก มีอาหารบนเครื่อง หน้าตาแปลกดี อร่อยรึเปล่าไม่รู้ จุดนั้นหิวมาก ฟาดเรียบ ฟ้าบนเครื่องวันนี้สวยมาก…………

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ไม่นานเราก็มาถึงสนามาบินนานาชาติโฮจิมินห์ ลงเครื่องมาเราก็เงอะๆ งะๆ ต้องไปทางไหนอะไรยังไงต่อ เห็นชาวต่างชาติเค้าเดินไปเข้าแถวเอา immigration form เราก็เดินตามเค้าไป อ้าว แล้วฟอร์มเอาตรงไหนหว่า เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ เค้าเลยบอกมาว่า “คนไทยไม่ต้องกรอก ไปต่อแถวที่ ตม ได้เลย” อ่อ….อย่างนี้นี่เอง ระหว่างรอตรวจ ตม พี่ปุ่นก็ snap เก็บรูป ซักพัก มีคนไทยที่ต่อแถวอยู่อีกแถวแอบกระซิบบอกว่า “ในนี้เค้าห้ามถ่ายรูปนะครับ” น่านนน โชว์ความ Thailand Only เลยเรา ผ่าน ตม แล้วไปเอากระเป๋า เรียบร้อย ก็งมทางกันต่อไป ประเด็นคือเราก็ล่กกันด้วย เพราะเราต้องรีบไปต่อเครื่อง domestic เพื่อบินไปดานังต่อ สายการบิน International กับ Domestic ของที่นี่จะอยู่คนละตึกกัน แต่ก็เดินลากกระเป๋าไปได้ ไม่ไกลมาก พอเข้าไปถึงส่วนของ Domestic เท่านั้นแหละ โอ้ แม่เจ้า…นี่มันหมอชิตบ้านเราหรือเปล๊า……สาบานได้ว่านี่สนามบิน คนเยอะมาก ตัวอาคาร counter การจัดการ เหมือนหมอชิตบ้านเราเลยค้า พอดูจากแถวคนที่ยาวคดเคี้ยวเป็นงูแล้ว เรากับพี่ปุ่นก็เริ่มกลัวแล้วว่า เราจะ check-in ทันเหรอว้า “เราเลยตัดสินใจเดินไปถามเจ้าหน้าที่ว่า เราบินไฟลท์นี้ แต่แถวยาวมาก เราจะทำยังไงได้บ้าง” เค้าก็บอกว่า ให้เข้าแถวไป ถ้าใกล้เวลาเรียกขึ้นเครื่อง เดี๋ยวจะมีคนชูป้ายเรียกเอง บร๊ะ นี่มันวิถี local จริงๆ เห็นสภาพแล้ว เราก็คุยกันว่า “เรายังดีนะมากัน 2 คน แล้วพี่ณดาจะเป็นไงมั่งเนี่ย” 555 ในที่สุดเราก็หลุดเข้ามาหน้า Gate จนได้ วันนี้คนเดินทางเยอะจริงๆ เราก็ลืมไปว่านี่มันคืนวันนคริสมาสต์ ใกล้จะปีใหม่นี่นา ใครๆเค้าก็เดินทางกลับบ้านกันทั้งนั้นนี่เนอะ เราเดินมาหาของทานรองท้องข้างในสนามบิน ดูเหมือนของในสนามบินนี่จะแพงกว่าที่บ้านเรานะ เราได้แซนวิชกับ Pepsi มา กระป๋อง Pepsi เวียดนาม หน้าตาสวยดี แต่ราคาไม่ค่อยสวยตามนะ กระป๋องนี้ราคา 20,000 ดอง (36 บาท)

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ปรากฎว่าความพยายามที่เรารีบทั้งหมดทั้งปวง เพราะกลัวมาต่อเครื่องไม่ทันน๊านนนน….เครื่องดีเลย์ชั่วโมงกว่าค่า! ละไม่มีการบินว่าจะดีเลย์ด้วยนะ คือแบบบินตามใจฉัน เครื่องมาเมื่อไหร่ก็ออกเมื่อนั้นแหละคู้ณณณณ สวัสดีที่นี่เวียดนาม…..

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ในที่สุดเราก็มาถึง ‘ดานัง’ ตอนประมาณ 5 ทุ่ม เราใช้บริการ taxi นั่งจากสนามบินมาที่โรงแรม พอเราเอาของขึ้นไปเก็บในที่พักโรงแรมแรกของเรา ‘โรงแรมบัค เกียง’ เรียบร้อยแล้ว เราก็เดินลงมาข้างล่าง กะหา 7-11 เพื่อซื้อของใช้ ปรากฎว่า มืด เงียบ ทุกตึก ทุกบ้านปิดไฟหมด อย่าว่าแต่ 7-11 เลยจ้า จุดนี้ minimart ซักที่ก็ยังหาไม่เจอ เราก็เลยสุ่มเดินตามถนนข้ามแยกกันไปเรื่อยๆ อากาศดีมาก ถนนโล่ง ละเราก็เจอ ทะเล! เฮ้ยยย มีทะเลอยู่ใกล้ๆโรงแรมเราแค่นี้เอง แถวข้างทางตรงหาดก็มีรถเข็นของกินด้วย เรากับพี่ปุ่นไม่รอช้า เดินพุ่งเข้าไปเลยจ้า ที่นี่มีของกิน กับตั้งโต๊ะขายริมหาดก็จริง แต่ไม่เหมือนบางแสน หรือพัทยาบ้านเรานะ คนที่มากินส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นก็จริง แต่ไม่เสียงดัง โหวกแหวก ริมหาดก็สะอาด ละอีกอย่าง ท้องฟ้าที่ดานังสว่างมาก ถึงจะไม่มีแสงไฟ ก็เห็นวิวรอบข้างได้สบายๆ ไม่มืดเลย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราเลือกเดินไปสั่งของกินที่รถเข็นนึง ก็ใช้ภาษามือ กับชี้ๆไปที่วัตถุดิบกันไป 555 เพราะว่าในเมนูเป็นภาษาเวียดนาม ถึงจะมีภาษาอังกฤษด้วย เราก็ไม่รู้หรอกว่าไอเมนูที่ว่านั่นหน้าตาเป็นไง สรุปเราก็ได้อาหารมาตามที่เห็นในรูป มีต้มหอยลาย (คิดว่าคือหอยลายนะ) ที่มีน้ำซุปอร่อยมากกก มีความเผ็ดร้อนนิดๆ เมนูนี้อร่อยเลย แต่พอทานไปเรื่อยถึงตรงก้น จะเห็นว่าน้ำเริ่มดำๆ ประมาณว่าเศษดินจากหอยแหละ 555 แต่ทานได้ไม่ตายหรอก เราลองมาแล้ว ละก็มีข้าวโพดเหมือนผัดกับเนย ใส่กระเทียม ก็รสชาติแปลกๆดี นอกจากนั้นก็เป็นลูกชิ้นทอดทั่วไปเหมือนบ้านเรา เป็นมื้อที่ชิล ลมโชยริมทะเล อิ่มและอร่อยมากกก ไม่รู้ว่าพวกเราหิวหรืออะไร 555 ทานเกือบเสร็จพี่ณดาก็โทรเข้า line มาพอดี อ้อ ลืมบอก ตอนลงเครื่องจากสนามบิน เราแวะซื้อซิมชั่วคราวของที่นี่ไว้ เล่นเน็ต 3G ได้ และโทรออกได้นิดหน่อย แต่ทั้งทริปก็ไม่ค่อยได้โทรกันหรอก เราเดินกลับมายืนรอพี่ณดาที่หน้าโรงแรม แล้วเดินขึ้นไปสลบเลยจ้า

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

Day 2: เราตื่นมาอาบน้ำ แต่งตัว เก็บของกันเสร็จ ก็ลงมา check-out แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่ counter กะว่าจะเดินไปถ่ายรูปกันที่ทะเล แล้วก็หาอะไรทานกันก่อนที่จะเดินทางไป ‘ฮอยอัน’ กันต่อ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ท้องฟ้าที่ ดานัง สว่างจริงๆ นี่เกือบ 11 โมงแล้วยังไม่มีแดดเลย อากาศดีมากๆ ระหว่างทางเราเจอตู้ขายขนมปัง Baguette ที่มีอยู่ทุกๆ 1 เมตร ถี่ยิ่งกว่า 7-11 บ้านเราอีก (ซึ่งเรายังคงไม่เจอ 7-11 ที่นี่เลย) พี่ปุ่นกับพี่ณดา ก็เลยเสร็จ Baguette ไปคนละ 1 ชิ้น อร่อยดีนะ (ชั้นแย่งพี่ปุ่นกินแงะ!) รสชาติคล้ายๆขนมปังเวียดนามที่ขายอยู่ในร้านอาหารเวียดนามบ้านเราแหละ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ถ่ายรูปกันเสร็จ ก็เดินไปหาของกินกัน แถวนั้นมีร้านอาหารทะเลเต็มไปหมด

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

“ร้านนี้มั้ย คนเยอะดี ท่าจะอร่อย” “นั่นสิ มีของทะเลสดหน้าร้านเต็มเลยด้วย น่าจะมีอะไรให้ทานหลายอย่าง” พอเข้าไปนั่งป๊าป ร้านนี้ไม่มีเมนูจ้า บวกกับพนักงานก็คุยกับเราไม่รู้เรื่อง ร้านนี้เหมือนกับว่าต้องเลือกของทะเลแล้วบอกร้านว่าจะทานเอะไร ลำบากละ เรา 3 คนมองหน้ากัน “ปะ ลุกกันเถอะ เปลี่ยนร้านๆ” 5555 สุดท้ายมาได้ร้านอาหารทะเลตรงหัวมุมอีกร้าน ร้านนี้ดีหน่อย มีเมนูให้เราเลือกจิ้มๆได้ เราเลยจิ้ม ข้าวผัดปู

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ผัดเนื้อ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ละก็ปลา (อะไรซักอย่าง) ต้มน้ำปลา เมนูนี้ พนักงานเค้าไปช้อนกันสดๆ หน้าร้านแล้วเอามาให้เราดูว่า “ตัวนี้นะ?”

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

มื้อนี้ อย่าเรียกว่าอิ่ม เรียกว่าจุกกันเลยดีกว่า นี่ขนาดจุกนะ ระหว่างนั่งทาน ก็จะมีรถมอไซค์เอาผลไม้มาเสนอขายเราเป็นระยะๆ คันแล้วคันแล้ว จนสุดท้าย “อุ่ย พี่เอาทุเรียนดีกว่า” พี่ณดาซื้อทุเรียนอีกจ้า โอเค เอาเลยค่ะ เอาให้เต็มท้อง 555 ทานเสร็จเราแวะ minimart ที่หาโคตรยากกกที่นี่ เพื่อซื้อของใช้ ดูป้ายที่หน้าร้าน คือเค้าปิดตั้งแต่ 4 ทุ่มไง ถามว่ามาถึง 5 ทุ่มเมื่อคืน แกจะเจออาร๊าย!!!!!

แล้วเราก็มาเอากระเป๋าแล้วให้โรงแรมช่วยเรียก Taxi ไปฮอยอัน ให้ จากที่นี่ไปฮออยอัน ไม่ไกลกันมากนัก แต่ด้วยพี่ Taxi ขับแบบ ทิง นอง นอย มาก เข้าใจว่าแกคงอยากให้เราได้ดูวิวทิวทัศน์ข้างทาง เลยใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ กว่าจะถึงฮอยอัน ค่า Taxi ถ้าเราจำไม่ผิด ประมาณ 1,000 บาท หาร 3 คนแล้วก็ถือว่าโอเคอยู่ และแล้วก็มาถึง ‘โรงแรม ฐานบิน’ โรงแรมที่ 2 ของเรา ด้วยราคาตอนแรกเราก็กังวลนิดๆว่าจะดีรึเปล่า แต่ เฮ้ย มันดีเลย เป็นโรงแรมตึกแถวเล็กๆ สไตล์จะออกจีนๆ หน่อย ห้องพักของเราอยู่ชั้น 1 โรงแรมอยู่ตรงเมืองเก่าเลย เดินได้ สะดวกเลย เราเก็บของกันเสร็จ พักแพพ แล้วก็ออกมาเดินเล่นในเมืองเก่ากัน

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ฮอยอันเรียกได้ว่าเป็นเมืองเก่า ที่เป็นเมืองถนนคนเดินเลยจริงๆ ส่วนของเมืองเก่า เราจะเจอแค่จักรยานกันมอเตอร์ไซค์ และคนเดินเต๊มมมมมไปหมด ชาวต่างชาตินี่ไม่ต้องพูดถึงเพียบ! อากาศช่วงที่เราไปนับได้ว่าดีมาก ประมาณ 24 องศาได้ ไม่มีแดดเลย เดินกันสบายๆเลย เดินไป 5 ก้าว หยุดถ่ายรูป เดินต่ออีก 3 ก้าว หยุดถ่ายรูป เดินอีก 2 ก้าว หยุดถ่ายรูป คือไม่พ้นหน้าโรงแรมซักที จนพี่ปุ่นบอกว่า “เอ่อ…เดินกันก่อนมั้ย จะมืดแล้ว มีที่ให้ถ่ายอีกเยอะ” 5555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินกันไปซักพัก ยังไม่ทันพ้นรัศมีโรงแรมเลย ก็มีป้าหาบผลไม้ยิ้มแป้น เดินพุ่งตรงมาหาเราจากอีกฝากถนน “Take photo Take photo No money” แล้วแกก็เอาที่หาบมาวางพาดบนบ่าเรา ถอดงอบแกมาใส่หัวเรา แล้วยิ้มเฉ่ง “Take photo Take photo” เราก็แบบ เฮ้ยยย ที่นี่เค้า friendly อ่ะ นี่มันเมืองมิตรแท้นักท่องเที่ยวนี่!

พอถ่ายรูปกันเสร็จ คืนหาบ คืนงอบแกเท่านั้นแหละ แกหยิบผลไม้ยัดใส่ถุง ยัดใส่มือเรา เก็บตังค์ทันทีจ้า มาถึงจุดนี้ละ รูปก็ถ่ายไปละ ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่ เราก็เลยบอก “เอาแค่นี้พอ ถือแค่ถุงส้มถุงเดียว แล้วก็คืนอย่างอื่นหมด ส้ม 3 ลูก 70,000 ดองจ้า (127 บาท) คือแบบ ป้าไปเก็บมาจากป่าหิมพานเหรอค้า! นี่คือแบบบวกค่า Pro Fee ที่เราถ่ายรูปไปแล้วสินะ ทำอะไรไม่ได้ ก็จำใจต้องจ่ายไป นั่นไง วันแรกที่ฮอยอัน ชื่อเสียงที่เคยอ่านๆมาในเน็ตของเวียดนามก็แพลงฤทธิ์ซะแล้ว ส้มที่จำใจซื้อมา ไม่ได้อยากทานเลยนะ แต่พี่ณดานี่แกะเคี้ยวยุบยับๆ ตลอดทางเลย 555 ลูกไผ่: “อร่อยมั้ยคะพี่ณดา” พี่ณดา: (เคี้ยวตุ้ยๆเต็มป้า ตอบหน้านิ่งๆ) “ก็ดีนะ แต่จืดไปหน่อยอ่ะ” เป็นมนุษย์ที่ทานได้ตลอดเวลาจริงๆ 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เดินกันต่อไปเรื่อยๆ ฮอยอัน เป็นเมืองน่ารัก ทุกมุมในเมืองถ่ายรูปได้หมด แทบทุกซอก ทุกมุมของเมือง เป็นร้านนั่งเก๋ๆ สถาปัตกรรมและการตกแต่งของที่นี่จะออกแนวจีนๆ หน่อย เน้นสีเหลืองซะเป็นส่วนใหญ่

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราเดินกันไปจนสุดถนนจะเจอแม่น้ำ ที่มีสะพานพาดข้ามให้ไปอีกฝั่ง ซึ่งทางโรงแรมบอกว่าเป็นถนนคนเดิน “ไปทางไหนกันต่อดีอ่ะ”

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

“ซ้ายละกัน” เรายังไม่ข้ามสะพานไป แต่เดินต่อไปทางซ้ายเรื่อยๆ ตอนนั้นเป็นช่วงเย็นๆ แล้ว เริ่มมีร้านมาตั้งริมทาง ร้านค้าต่างๆบางร้านเริ่มเปิดไฟละ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

มีขนมหน้าตาแปลกๆ บนรถเข็นขายข้างทาง ลูกไผ่: “อึ๊ย นี่อะไรอ่ะ น่าลองเนอะ” “ไผ่ลองๆ เอาชิ้นนึงมาทานด้วยกัน” พี่ณดา: “พี่เอาด้วยๆ”

– ขนมชิ้นละ 20,000 ดอง (36 บาท) จริงๆมันคือ ปูชุบแป้งทอด, กล้วยชุบแป้งทอด (อันนี้หวานๆ อร่อยๆ ไผ่ชอบ) ทานร้อนๆ อร่อยเลย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอดึกๆ หน่อย เราเลยลองเดินข้ามไปดูอีกฝากนึง ที่เค้าบอกว่าเป็นถนนคนเดิน ถนนคนเดินที่นี่ จะเห็นขายโคมไฟซะส่วนใหญ่ มีหลายร้านเลยตรงหน้าทางเข้าถนน นอกนั้นก็จะเป็นพวกของที่ระลึกเอาไว้ขายชาวต่างชาติ เราเดินๆไป ได้ยินเหมือนมีเสียงงานคอนเสิร์ตดังมากอยู่ปลายถนน ยังคิดอยู่เลย เฮ้ยยย นี่เรามาประจวบได้ดูคอนเสิร์ตเวียดนามด้วย! พอเดินเข้าไปถึงหน้างาน เปล่า! งานแต่งงานเฟ้ย! เฮ้ยยย จัดกันในถนนคนเดินงี้เลย แถมตอนนี้เจ้าบ่าวกำลังร้องเพลงอย่างเมามันส์อยู่บนเวที เสมือนว่าเป็นพี่ตูน บอดี้แสลม พี่คงกะใช้งานแต่ง เป็นงานเปิดตัวพี่ใช่มั้ย พูด! เยื้องๆกับงานแต่งงาน หันไปเจอ ร้านเฝอ ข้างทางพอดี local มากๆ นั่นแหละความหิวก็มา นั่งสิคะ รออะไร เฮ้ยยย มันอร่อยเหอะ ราคาก็ไม่แพงด้วย เสียดาย พี่ณดาได้แต่นั่งมองตาปริบๆ เพราะมันเป็น เฝอเนื้อ พี่ณดามิทานเนื้อค่า แต่ไม่ต้องห่วงพี่ณดาไปนะเคอะ เดี่ยวแกก็หาอะไรทานได้สุดทางอ่ะค่ะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

จริงๆ เราว่าถนนคนเดินฝั่งนี้ไม่ค่อยมีอะไรนะ ฝั่งที่เราอยู่ยังมีอะไรให้เดินมากกว่าอีก เราเดินชิวริมน้ำกันซักพัก ก็เดินข้ามกลับกัน

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ตรงกลางแม่น้ำตรงนี้ จะมีเรือที่มีกระทงใส่ประทีปวางอยู่คอยเรียกลูกค้าให้ไปนั่งล่องเรือถ่ายรูปกันเต็มไปหมด แม้แต่ข้างทางก็มีกระทงประทีปพวกนี้วางขาย มองตอนกลางคืนนี่สวยเลย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

อ่า อีกอย่าง ฮอยอัน เป็นอีกเมืองที่คนฮิต มาถ่าย Pre-Wedding กัน ดูดิ ดึกแล้วก็ยังถ่ายกันอยู่เลย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอข้ามกลับมา ตอนนี้เราจะเห็นร้านขายเหมือนพวกปอเปี๊ยะ กับไก่ย่างเสียบไม้ตั้งวางขายริมแม่น้ำ มีโต๊ะให้คนมานั่งทานเต็มขอบฝั่งเลย น่าทานทุกร้าน มาถึงแล้วก็ต้องลองให้มันครบๆ พุงจะแตกก็อย่าไปกลัว!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ทานเสร็จ ก็เดินเล่นกันต่อ ระหว่างทางไปเจอร้านขายขนมหวาน อารมณ์มีถังไม้วางอยู่กับพื้นข้างทาง เหมือนเฉาก๊วยบ้านเราอ่ะ ก็เลยไปลองนั่งดู เค้ามีขนมหลักๆ ที่ขายเหมือนๆกันทุกร้านอยุ่ 2 อย่าง อันนึงจะเป็นสีดำสนิท รถชาติมันเหมือนเป็นงาดำบดหวานๆ กับอีกอันนึงเป็นสีขาวใส่น้ำเชื่อม เอาจริงๆ เหมือนเต้าฮวยบ้านเรา – ขนมราคาถ้วยละ 18,000 ดอง (32 บาท)

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

“เดินเยอะละ เราไปหาร้านกาแฟนั่งกันแมะ นั่งกันชิลๆก่อนแล้วค่อยเข้าโรงแรม” ละก็มาหยุดที่ร้านกาแฟหน้าตาดูดี ‘Hoi An Roastery’ ร้านดูดีจริง ของในร้านดีจริง แต่! พนักงานแย่มากค่า! คือ…เข้าใจว่าที่นี่เวียดนาม ไมใช่สยามเมืองยิ้ม จะไม่เจอคนหน้าตายิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เฮ้ย แต่นี่พูดจาแย่อ่ะ คือ เราสั่งไปแล้วว่าเราจะเอาอะไร แต่พนักงานหน้าบูดถามกระโชกใส่เราประมาณ “แล้ว you อ่ะ เอาไร” คือ 1. คุณไม่สนใจสิ่งที่แขก order ไปแล้ว 2. คุณยังมาชักสีหน้าใส่ประมาณ เมื่อไหร่จะสั่งซักที แล้วถามกระโชก อย่างงี้ เราจะไม่พูดถึงคำว่า ‘Service mind’ น่ะมีมั้ย เพราะดูแล้ว พนักงานคนนี้คงไม่เคยได้ยินคำนี้เลยมาทั้งชีวิต ร้านไหนดีเราก็บอกดี ร้านไหนไม่โอเค ก็คือไม่โอเค นั่งชิลกันถึง 4 ทุ่ม เราก็กลับโรงแรมกัน คือ Reception ที่โรงแรมนี่ปูนที่นอนหน้า counter กันเรียบร้อยแล้วนะจ๊ะ ตอนเรากลับมาเนี่ย ที่นี่ 4 ทุ่ม ทุกอย่างก็เงียบสงบแล้ว ทุกคนแยกย้ายกันเข้าที่พักนอนค่า!

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

Day 3: เราตะเกียกตะกายตื่นแต่เช้าจากเตียง แปรงฟัน แล้วเดินออกมาเลยทั้งสภาพอย่างนั้น เพื่อไปทานอาหารเช้ากัน ตอนแรกที่พวกเรามาเช้าพัก เราก็ยังสงสัยกันอยู่ว่าโรงแรมนี้เค้าจัด breakfast กันตรงไหน เพราะเล็งแล้วเล็งอีก ก็ดูไม่น่าจะมีห้องอาหาร มาถึงบางอ้อ ตอนที่ reception บอกว่า ต้องเดินไปทานที่ ‘โรงแรมฐานบิน3’ นะฮ้า อ้อออ…เพิ่งรู้ตอนนี้นี่เองว่า โรงแรมฐานบินมีทั้งหมดตั้ง 3 สาขาแน่ะ ที่ที่เราอยู่เป็น ฐานบิน1 ก็เดินต๊อกๆ ข้ามถนนในตัวเมืองฮอยอันในสภาพชุดนอน ใส่แว่น หัวกระเซิง เดินไปทาน breakfast 555 คือ…สภาพตอนนั้นเรียกว่ากากมาก คนที่ปั่นจักรยาน ขี่มอเตอร์ไซค์ เค้าคงประมาณ ‘3 ตัวนี่คือไร นี่พวกแกเพิ่งตื่นกันเหรอ ชั้นตื่นมาทำงานได้ไปตั้งหลายอย่างแล้ว’ โรงแรมฐานบิน 3 ใหญ่กว่าของเรามาก มีสระว่ายน้ำด้วย! เอาน่า แลกมากับความใกล้ถนนคนเดินในเมืองเก่าอ่ะนะ พูดอย่างกะมีสระแล้วจะลงว่ายงั้นแหละ – -“ ทานเสร็จก็เดินกลับโรงแรมมาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมเดินเล่นกันต่อ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

อากาศที่ ฮอยอัน แปลกมาก ตอนเช้าแดดจะเปรี้ยงมาก แต่พอหลังเที่ยงไปไม่มีแดดเหลือให้เห็นเลย ละอากาศจะเย็นสบายมาก วันนี้เราตั้งใจจะเดินเก็บตรอก ซอกซอยที่เราไม่ได้เดินเมื่อวาน ซอยเล็ก ซอยน้อย เดินมันให้หมด

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอกลางวัน เราข้ามแม่น้ำ ลองไปหาร้านอาหารฝั่งถนนคนเดินเมื่อคืนทานดู

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอเป็นตอนกลางวัน ฝั่งนี้เงียบมากกก เราลองจิ้มเลือกเข้าไปซักร้าน ข้าวกลางวันวันนี้เราทาน basic มาก มีข้าวผัดรวมมิตร

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ผัดทะเลรวมมิตร

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ปลา (อะไรซักอย่าง) ราดซอส

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ละก็ ทะแดนนนน!!!! ต้มหอย เหมือนตอนที่เราทานข้างหาดที่ดานังเลย! แต่สะอาดกว่า 555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ทานเสร็จ เราข้ามฝากกลับมานั่งชิลรอเวลา ระหว่างทางเจอจักรยานขายของทานเล็ก คนมุงกันเต็มเลย แต่ตอนนั้นเราพุงจิแตกแล้ว เลยไม่ได้ลองซื้อชิมเลย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เย็นนี้เราจะปั่นจักรยานออกนอกเมือง ไปทะเลกัน! เรานั่งฆ่าเวลาที่ร้านกาแฟร้านนึง ร้านที่จะคล้ายกันอยู่อย่างคือ หน้าร้านจะมีหลังคาปิดมิด แต่พอเข้าไปข้างใน ตรงกลางตัวร้านจะเป็นที่เปิดโล่ง มันดีตรงที่ที่นี่ไม่มีแดด ถึงไม่มีหลังคาก็นั่งชิลกันเย็นสบายเลย

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

ซักบ่าย 3 เกือบ 4 โมง อ่ะ ได้เวลาไปปั่นจักรยานกันละ เราเดินไปเช่าจักรยานที่ตรงหัวมุมข้างๆโรงแรมเรา – ค่าเช่าจักรยาน 20,000 ดอง (36 บาท) แต่ต้องเอามาคืนตอน 1 ทุ่มนะ พี่ณดานี่ชิลเลย ปกติปั่นอยู่แถวบ้านบ่อยๆ สกิลการปั่น มิต้องพูดถึง ส่วนเราเหรอ มีพี่ปุ่นนี่ค้า จะปั่นเองทำไม 5555

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พอปั่นออกมานอกตัวเมืองแล้ว อากาศดียิ่งขึ้นไปอีก ชิลมาก วิวข้างทางก็เป็นทุ่ง ธรรมชาติสุดๆ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

พี่ปุ่น: “เอ้ย ทุ่มตรงนั้นสวยอ่ะ น่าถ่ายรูป” ลูกไผ่: “เดี๋ยวเรามาแวะตอนขากลับมั้ยคะ” พี่ปุ่น: “เรากลัวแสงมันจะหมดก่อนน่ะสิ” อ่ะ โอเค กลับรถค่า ปั่นเข้ามาตรงกลางทุ่ง แหมะ แดดริมไลท์กำลังสวยเลย ยืนถ่ายรูปกันตรงทุ่งนี่เป็นชั่วโมงค่า ได้มาเป็น 100 รูปมั้งน่ะ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เฮ้ยยย แต่มันสวยจริง ฮอยอันมานี่ครบมาก มีเมืองน่ารักๆ มีทุ่งนา ละยังมีทะเลอีก

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เราปั่นกันต่อไปเรื่อยๆ ไม่ถึงซักทีแฮะ ดูจากในแผนที่มันไม่น่าไกลขนาดนี้นี่ เริ่มไม่แน่ใจกันละว่ามันมีทะเลจริงป่าวว้า แต่เราก็เชื่อในพี่ google จนในที่สุด เฮ้ยยย มีทะเลจริงๆด้วย! ลมทะเลนี่แรงมว๊ากกก ตัวแทบปลิว

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

บนหาดจะมีของบางอย่างลักษณะคล้ายๆไม้สานเป็นทรงถ้วยขนาดใหญ่วางอยู่หลายอันเลย อันนี้มันคือเรือที่ชาวประมงที่นี่ใช้สำหรับออกไปหาปลาแหละ

Traveloka ซ อ airasia แล วอยากซ อน ำหน กเพ ม

เรามาถึงก็เย็นมากแล้ว เดินถ่ายรูปชิลๆ ซักพัก ก็คุยกันว่า กลับกันเถอะ เดี๋ยวฟ้าจะมืดแล้วจะปั่นกลับกันลำบาก

ทราเวลโลก้า เช็คอินออนไลน์ได้ไหม

1. เข้าสู่ระบบ บัญชี Traveloka. 2. เปิดตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ผ่านหน้า การจองของฉัน 3. กด เช็คอินออนไลน์

โปร 0 บาท Airasia มีช่วงไหนบ้าง 2566

Airasia ตั๋ว 0 บาท เริ่มจองเมื่อไร? สามารถจองตั๋ว Airasia ราคา 0 บาท ได้ตั้งแต่ 16 ต.ค. 2566 เวลา 09.00 น. - 25 ต.ค. 2566 เวลา 22:59 น. และสามารถเดินทางได้ตั้งแต่ 4 มี.ค. 2567 - 19 มี.ค. 2568. ช่วงเวลาการเดินทาง

จองตั๋วเครื่องบิน Airasia ที่ไหน

ผู้โดยสารสามารถสำรองที่นั่งผ่านทางเว็บไซด์ www.airasia.com, ทางมือถือ airasia Super App, สำนักงานจำหน่ายตั๋วและเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วที่สนามบิน, ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต หรือตู้คีออส(เปิดบริการเฉพาะบางแห่งเท่านั้น)

แอร์เอเชียมีแอแไหม

1. ดาวน์โหลด airasia Superapp ผ่าน App Store (iOS), Play Store (Android) หรือ AppGallery (Huawei). 2. เลือกสินค้าหรือบริการได้จากไอคอนด้านบนของหน้าแอพ 3. เรียบร้อย! แค่นี้ก็พร้อมรับความสนุกที่รอคุณอยู่ใน airasia Superapp แล้ว!