Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

สำหรับผู้ใช้งาน Computer ไม่ว่าจะเป็น PC ตั้งโต๊ะ, โน๊ตบุ๊ค หรือแล็ปท็อป ทุกคน ต้องรู้จักระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows กันอย่างแน่นอน แต่เพื่อนๆ รู้กันหรือไม่ ว่าวินโดว์ในเครื่องที่ใช้อยู่งานอยู่นั้น เป็นรุ่นไหน Version ไหน และเป็นของแท้หรือไม่ บทความนี้เราจะมาสรุปให้ทราบกันโดยละเอียด ว่า Windows คือ อะไร มีกี่แบบ กี่เวอร์ชั่น และมีวิวัฒนาการ ประวัติความเป็นมายังไง

สารบัญ

  • Windows คือ อะไร
  • ประวัติและวิวัฒนาการ
  • Windows มีกี่แบบ
  • ทำไมต้องแบ่งเป็น 2 เวอร์ชั่น
  • สรุป

Windows คือ ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ (OS = Operating System) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาให้เพื่อให้เราสามารถใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวกขึ้น เนื่องจากสมัยก่อนมีการใช้งานดอส (DOS = Disk Operating System) ซึ่งมีความยากในการใช้งาน เพราะเวลาใช้งาน ผู้ใช้ต้องป้อนชุดคำสั่งต่างๆ เข้าไปเป็นจำนวนมาก

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ไมโครซอฟต์เริ่มพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาใหม่ ใช้หลักการในการแบ่งงานเป็นส่วน หรือหน้าต่าง (Windows) จึงกลายเป็นระบบปฏิบัติการที่มีชื่อเรียกว่า “Windows” โดยมีการนำรูปแบบของสัญลักษณ์ทางกราฟิกภาพ เข้ามาแทนที่ชุดคำสั่งแบบเดิมๆ ที่ต้องป้อนทีละบรรทัด เป็นตัวหนังสือ มาสร้างเป็นหน้าต่าง และปุ่มต่างๆ ให้ผู้ใช้งาน สามารถใช้โปรแกรมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งมันก็ คือ GUI (Graphics User Interface) ที่ครอบทับอยู่บนระบบของ DOS อีกทีนึงนั่นเอง

แต่ปัจจุบัน Windows OS มีชุดคำสั่งใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อให้รองรับการทำงาน และหน่วยความจำที่สูงขึ้น โดยไมโครซอฟต์ได้เริ่มแยก DOS ออกไป (*แต่ยังคงมีชุดคำสั่งใช้งานอยู่) แล้วหันมาพัฒนา Windows NT ซึ่งเป็นชุดคำสั่งใหม่ ๆ รองรับการทำงานหลายๆ อย่างมากขึ้น และพัฒนาต่ออีกหลายปีจนเริ่มเป็น Windows XP ที่หลายท่านเคยใช้ เนื่องจากเป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และพัฒนาต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ จนถึง Windows 11 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดในขณะนี้นั่นเองครับ

Windows ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทไมโครซอฟต์ (Microsoft Corporation) ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรระดับโลก ที่มีการเติบโตเป็นอย่างมาก ปัจจุบันไมโครซอฟต์มีผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย ทั้ง Hardware และ Software เช่น Microsoft Surface, Microsoft XBOX (เครื่องเกม) และซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft Windows, Windows Server และโปรแกรมสำเร็จรูปอย่าง Microsoft Office เป็นต้น

> อ่านบทความ Windows Server คือ อะไร
> อ่านบทความ Microsoft Office คือ อะไร

เลือกซื้อ Windows ลิขสิทธิ์แท้กับเรา

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

Windows 11 Pro OEM

  • Windows 11 Pro สำหรับคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊ค
  • แบบซื้อขาด ลงกับตัวเครื่องถาวร
  • อัพเดตเวอร์ชั่นได้ตลอดไป
  • ลิขสิทธิ์สำหรับเครื่องใหม่เท่านั้น ไม่สามารถลงใช้กับเครื่องเก่าได้

เลือกซื้อสินค้า

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

Windows 11 Pro FPP

  • Windows 11 Pro สำหรับคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊ค
  • แบบซื้อขาด ลงกับตัวเครื่องถาวร
  • อัพเดตเวอร์ชั่นได้ตลอดไป
  • สามารถย้ายลิขสิทธิ์จากเครื่องหนึ่งไปยังเครื่องหนึ่ง กี่ครั้งก็ได้

เลือกซื้อสินค้า

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

Windows 11 Pro GGWA

  • Windows 11 Pro สำหรับคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊ค
  • ลิขสิทธิ ติดกับบริษัทที่สั่งซื้อ
  • ย้ายเครื่องไม่ได้ Downgrade ได้ทุก Windows Version
  • สั่งซื้อขั้นต่ำ 5 เครื่อง

เลือกซื้อสินค้า

ประวัติและการวิวัฒนาการ

หลังจากรู้แล้วว่า Windows คือ อะไร และ ทำหน้าที่อะไร เรามาทำความรู้จักกับวิวัฒนาการคร่าวๆ ของ Microsoft Windows กันต่อเลย ว่าก่อนหน้าจะมาเป็นเวอร์ชั่นปัจจุบันรุ่นล่าสุด มันมีกี่รุ่น มีประวัติความเป็นมายัไง โดยวินโดว์ มีอยู่หลายเวอร์ชั่น (Version) และมีการพัฒนาการมาอย่างยาวนานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีต มาจนถึงปัจจุบัน ดังนี้

Windows 1.0 – 2.0

โดยเริ่มต้นวางจำหน่ายมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1985 คือ Windows เวอร์ชั่นแรก หรือเรียกว่า Windows 1.0 แต่ยังไม่มีความสามารถในตัวเอง โดยการทำงานยังต้องมีระบบปฏิบัติการอย่าง DOS เป็นเป็นหลัก

วินโดวส์ 1.0 นี้ทำหน้าที่เป็นเหมือนกล่องชุดคำสั่ง และปุ่มต่าง ๆ ที่แสดงอยู่บนหน้าจอ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานกับ DOS ได้ง่ายขึ้น โดยจากรูป จะเห็นได้ว่าเป็นเวอร์ชั่น 1.01 มีลักษณะเรียบง่าย

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

Version 1.01

และเมื่อปี ค.ศ. 1987 ก็ได้เปิดตัว Windows 2.0 ออกมา ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนามาจากรุ่นแรก สามารถเปิดใช้งานได้หลายหน้าต่าง หรือหลายโปรแกรมพร้อมกันได้ และเริ่มมี Microsoft Word, Excel พร้อมกับปุ่มลัดต่าง ๆ เข้ามาให้ใช้งานกันในวินโดวส์ 2.0 แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่

Windows 3.0

Windows 3.0 ได้เปิดตัวเมื่อปี ค.ศ. 1990 เริ่มมีการออกแบบกราฟิก Interface ใหม่ และยังมีระบบการบริหาร การจัดการ ROM, RAM ที่ดีกว่ารุ่นก่อน

มีการปรับเปลี่ยนโปรแกรมบริการการจัดการไฟล์ต่าง ๆ และโปรแกรมชุดคำสั่งใน DOS ใหม่ทั้งหมด ทำให้เรียกใช้โปรแกรมต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้นและมีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงอย่างก้าวกระโดด

และยังมีการปรับปรุงมาเป็น Windows 3.1 ในปี ค.ศ. 1992 โดยรุ่นนี้มีแพลตฟอร์มเพื่อการพิมพ์มากขึ้น คือ มีการอัพเดตเป็น Windows 3.11 ในปี ค.ศ. 1993

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

Version 3.1

Windows NT (New Techonology)

และ Windows NT (New Technology) เปิดตัวเมื่อปี ค.ศ. 1993 คือ เป็นรุ่นที่มีความสามารถในการรองรับสถาปัตยกรรมทางคอมพิวเตอร์ได้หลายเภท แต่ก็ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าองค์กร หรือนักธุรกิจเท่านั้นที่ใช้ และผู้ใช้งานทั่วไป ใช้ Windows 3.1

Windows 95

Windows 95 มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1995 เป็นรุ่นที่พัฒนามากจาก Windows 3.1 โดยมีเป็นระบบปฏิบัติการที่สามารถทำงานได้ทั้งในสถาปัตยกรรมทั้ง 2 รูปแบบยอดนิยมในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ยุคสมัยนั้น คือ 16bit และ 32bit

เริ่มมีการจัดวาง interface ใหม่ โดยมีปุ่มสตาร์ทเมนูไว้มุมซ้ายล่าง และมีแถมทาสบาร์ (Taskbar) เพื่อแสดงโปรแกรมที่กำลังทำงาน และเครื่องมือต่าง ๆ เป็นครั้งแรก และยังเป็นช่วงเวลาที Internet Explorer (IE) ถูกสร้างเป็นครั้งแรกด้วย ทำให้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

จากรูปร่างหน้าตา จะเห็นว่าเริ่มมีความคล้ายคลึงกับวินโดวส์ในยุคปัจจุบัน โดยมีปุ่ม Start บริเวณ Bar ด้านล่าง และมีหน้า Desktop ที่ประกอบไปด้วย Icon โปรแกรมต่างๆ ให้เลือกใช้งาน

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

Version 95

Windows 98

Windows 98 เมื่อปี ค.ศ. 1998 คือ รุ่นที่พัฒนามาจาก Windows 95 รุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย และยังพัฒนาต่อเป็น Windows 98 SE (Second Edition) รุ่นปรับปรุงในปี ค.ศ. 1999

Windows ME (Millennium Edition)

ตามมาด้วย Windows 4.9 หรือ Windows Me (Millennium Edition) เปิดตัวในปี ค.ศ. 2000 คือ เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจาก Windows 98 แต่ในครั้งนี้เริ่มเป็นจาก 16, 32bit มาเป็น 64bit แล้ว สามารถรันโปรแกรมระดับสูงได้แล้ว แต่ก็พบกับความล้มเหลว เนื่องจาก Windows Me ไม่เสถียรนั่นเอง

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

เวอร์ชั่น ME

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

เวอร์ชั่น 2000 Professional

Windows 2000 Professional

ตามด้วย Windows 2000 Professional ที่เปิดตัวมาในปี ค.ศ. 2000 ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก Windows NT และทำออกมาเพื่อให้ใช้สำหรับกลุ่มธุรกิจ หรือองค์กรเท่านั้น

Windows XP

เป็น Windows รุ่นที่ได้รับความนิยมมาก หลังจากที่ไมโครซอฟต์ได้พัฒนามาตั้งแต่เวอร์ชั่นแรก โดย Microsoft Windows XP (experience) ได้วางจำหน่ายเมื่อปี ค.ศ. 2001 ในเวอร์ชั่นสถาปัตยกรรมมาตรฐาน คือ  32Bit และเวอร์ชั่น 64Bit

ในปี ค.ศ. 2005 Windows XP ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีจุดเด่นมากมาย ใช้งานง่าย และมีหน้าตาที่สวยงาม รองรับกิจกรรมต่างๆ คือ การดูหนัง ฟังเพลงผ่านโปรแกรม Windows Media Player และท่องโลกอินเตอร์เน็ตผ่าน Internet Explorer จึงเหมาะสำหรับสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์มือใหม่ ในช่วงเวลานี้ ก็เริ่มมีการแบ่งเวอร์ชั่นแตกเป็น 2 รุ่นคือ Windows XP Home Edition สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป และ Windows XP Professional Edition สำหรับกลุ่มผู้ใช้ในองค์กร

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

เวอร์ชั่น XP

Windows XP ได้รับความนิยมมายาวนาน ซึ่งทางไมโครซอฟต์ได้ประกาศหยุด Support ไปแล้วเมื่อ 8 เมษายน ค.ศ 2014 แต่ปัจจุบันบางบริษัทก็ยังใช้งานอยู่เนื่องจากเหตุผลบางประการ คือ บางโปรแกรมประจำองค์กรนั้นๆ ไม่รองรับบนวินโดวส์ใหม่ๆ และไม่อยากเสียงบประมาณในการพัฒนาระบบต่อนั่นเองครับ

Windows Vista

ถือว่าเป็นไมโครซอฟต์ วินโดวส์ เวอร์ชั่น 6.0 ที่พัฒนาต่อมาจาก Windows XP และ Windows Server 2003 ซึ่ง Windows Vista นี้ได้รับการปรับปรุงให้มีความล้ำสมัยมากขึ้น คือ ทั้งรูปร่างหน้าตา (Interface) และฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ

นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงในเรื่องของความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น และระบบเน็ตเวิร์คงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และไมโครซอฟต์ได้ประกาศใช้ชื่อ Windows Vista อย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 2005 เริ่มวางจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าองค์กรเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2006 และกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปในปี ค.ศ. 2007 ครับ

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

เวอร์ชั่น Vista

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

เวอร์ชั่น 7

Windows 7

Microsoft Windows 7 คือ อีก Version ของวินโดวส์ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีหน้าตาสวยงาม น่าใช้ ดูเป็นมิตรกับผู้ใช้ รองรับการใช้งานที่สูงกว่า Windows XP และมีหน้าตาคล้ายกับ Windows Vista มาก แต่ก็ทำให้ผู้ใช้หลายคน งง ๆ เพราะ Windows 7 ตัวนี้มีรหัสรุ่นเป็น 6.1 ซึ่งคล้ายกับวินโดวส์วิสต้าที่เป็น 6.0 (แต่นั่นก็เป็นเพียงรหัสรุ่นในการพัฒนาเท่านั้น) แต่อย่างไรก็ตาม ชื่อที่ใช้ในการจำหน่ายอย่างเป็นทางการ คือ Windows 7 (Seven) นั่นเองครับ

ใน Windows 7 รองรับการทำงานทั้งสองสถาปัตยกรรม คือ 32Bit และ 64Bit และวางจำหน่ายแยกเป็น Windows 7 Home Edition และ Windows 7 Professional ซึ่งวินโดวส์ 7 นี้ใช้กันมาอย่างยาวนานมาก และในที่สุด ทาง Microsoft ก็ได้ประกาศหยุด Support ไปแล้วเมื่อ วันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา

Windows 8

เปิดตัวเมื่อปี ค.ศ. 2011 เป็นระบบปฏิบัติการที่มีที่ดูเปลี่ยนไปกว่า Windows 7 พอสมควร เพราะทาง Microsoft ตั้งใจทำออกมาให้ใช้กับ Tablet หรือหน้าจอระบบสัมผัส (Touch Screen) เพื่อจะเพื่อแข่งกับ iOS หรือ Android ในช่วงเวลานั้น แต่ก็ไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากผู้ใช้งานบางกลุ่มไม่ค่อยถนัด หรือไม่ชิน เพราะหน้าตาเปลี่ยนไปจากเวอร์ชั่นก่อนหน้าพอสมควรนั่นเองครับ

ต่อด้วย Windows 8.1 คือ เวอร์ชั่นที่มีการปรับปรุงจาก Windows 8 อีกที เปิดตัวเมื่อปี ค.ศ. 2013 มีการปรับแต่งเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนผู้ใช้งานมากขึ้น มีการปรับแต่งหน้า interface เพิ่มเติม โดยสามารถสลับไปมา ระหว่าง Mode Desktop แบบดั้งเดิมได้แล้ว ทำให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากวินโดวส์ 8 และ Windows 8.1 นี้ บางทีรุ่นนี้อาจจะเป็น Windows 9 ที่ Microsoft ได้ข้ามไปก็ได้ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าชื่อ Windows 9 ถูกใช้ไปแล้วกับ Windows 9x (95, 98) แล้ว เพราะหลังจากเวอร์ชั่นนี้ ก็จะเป็นวินโดวส์ 10 เลย

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

เวอร์ชั่น 8.0

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

เวอร์ชั่น 8.1

Windows 10

Windows 10 เปิดตัวเมื่อปี ค.ศ. 2014 เป็นวินโดวส์ ที่มีการอัพเดตบ่อยที่สุดจากรุ่นก่อนที่ผ่านๆ เลยก็ว่าได้ อัพทีไรก็อาจจะมีปัญหาตามมาบ้าง คือ เกิดปัญหาจอฟ้า (Blue Screen) อยู่บ้าง ทำให้บางองค์กรยอมถอย (Downgrade) กลับไปเป็น Windows 7 กันซะส่วนใหญ่

อย่างไรก็ตาม วินโดวส์ 10 ก็ยังเป็นที่นิยมต่อจาก Windows 7 เพราะมีหน้าตาค่อนข้างคล้ายกัน โดยมีการรวมระหว่าง Windows 7 และ Windows 8 เข้าด้วยกัน ทำให้มี Interface ที่สวยงาม ลงตัว และน่าใช้ ไม่ต้องสลับ Mode ไปมาให้ยุ่งยากเหมือน Windows 8.1 และยังมีการปรับเปลี่ยน IE (Internet Explorer) เป็น Microsoft EDGE อีกด้วย มีระบบความปลอดภัยที่ดี ไม่ต้องติดตั้ง Anti Virus เพิ่ม เนื่องจากมี Windows Defender ที่สามารถป้องกันไวรัสต่างๆ ได้

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

เวอร์ชั่น 10

ถึงจะมี Windows รุ่นใหม่เปิด และวางจำหน่ายแล้ว Windows 10 ยังคงเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงอยู่ และยังคงได้รับการอัพเดตระบบความปลอดภัยไปอีกหลายปี

Windows 11

Windows 11 เป็นรุ่นล่าสุด ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2021 เป็นวินโดวส์ที่ปรับปรุงใหม่ ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แลบท๊อป หรือ Tablet PC เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยน คือ ในส่วนของหน้าตา (Interface) ใหม่ ทำให้ดูสวยงามขึ้น น่าใช้ รองรับการใช้งานสำหรับหน้าจอสัมผัสได้ดียิ่งขึ้น หากเป็นผลิตภัณฑ์จากทางไมโครซอฟต์ อย่าง Microsoft Surface ก็จะยิ่งสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะเป็นหน้าจอสัมผัส พร้อมรองรับการใช้ปากกาอยู่แล้ว และยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยขั้นสูง สามารถ Upgrade และ Downgrade ไปมากับ Version 10 ได้ฟรี

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

เวอร์ชั่น 11

ทาง Microsoft ยังเปิดให้ผู้ใช้งาน Windows 10 อัพเกรดเป็น Windows 11 ได้ฟรีจนถึงวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2022 แต่คอมพิวเตอร์ที่จะอัพเกรดได้ก็จะต้องมีชิป TPM 2.0 (Trusted Platform Module) อีกด้วย และนั่นทำให้คอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ครุ่นเก่า ๆ ไม่สามารถอัพเกรดเป็น Windows 11 ได้ ทำให้ต้องใช้ Windows 10 เป็นเวอร์ชั่นสุดท้าย ใครที่อยากใช้ Windows 11 ก็จำเป็นต้องซื้อเครื่องใหม่ แต่ก็ยังมีวิธีที่จะทำให้คอมพิวเตอร์รุ่นที่ไม่มี TPM 2.0 สามารถติดตั้งได้อยู่เช่นกัน แต่ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ เนื่องจากอาจจะมีปัญหาด้านความปลอดภัย คือ ข้อมูลรั่วไหลตามมานั่นเองครับ

> อ่านบทความ Windows 11 มีอะไรใหม่บ้าง
> อ่านบทความ TPM 2.0 คืออะไร

Windows License มีขายกี่แบบ

Windows License จะมีขายอยู่หลายแบบด้วยกัน แต่ในนี้จะพูดถึง 3 แบบหลักๆ มีรุ่นอะไรบ้างที่น่าสนใจ มาดูกัน

OEM License

OEM หรือ Original Equipment Manufacturer ส่วนใหญ่จะเป็น Windows License ที่ Bundle ติดตั้งมาให้จากโรงงาน โดยจะมาพร้อมกับเครื่องใหม่ หากสังเกตดี ๆ จะมีสติ๊กเกอร์ Microsoft แปะติดตัวเครื่องมาให้เลย มีทั้ง Windows Home และ Pro แต่จะเป็น License ฝังใน BIOS เลย เรียกง่ายๆ คือ Windows แท้ติดเครื่อง ไม่ต้องจด หรือจำคีย์ เมื่อท่านติดตั้ง Windows ใหม่ตรงตามรุ่น เช่น Home, Pro ตัว Windows ก็จะ Activate ให้เองอัตโนมัติ

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

หน้าตาวินโดว์ OEM

OEM License จะขายพร้อมเครื่องใหม่ หรือเครื่องที่ยังไม่เคยติดตั้ง Windows ก่อนเท่านั้น หากท่านซื้อเครื่องกับตัวแทนจำหน่ายมา แต่เครื่องรุ่นนั้นไม่มี Windows ติดตั้งมาให้ ท่านสามารถซื้อ OEM License เพื่อให้ทางตัวแทนติดตั้งลงในเครื่องให้ท่านได้เช่นกัน หรือหากจะนำมาติดตั้งเอง  ก็จะได้มาเป็นแบบซอง พร้อมแผ่น DVD

ข้อดีคือ มีราคาค่อนข้างถูกกว่าแบบ FPP แต่ Windows แบบนี้ ก็มีข้อเสียอยู่ คือ จะไม่สามารถย้ายเครื่องได้ ติดตั้งเครื่องไหนแล้ว ก็จะฝังอยู่กับเครื่องนั้นเท่านั้น แต่ในกรณีที่เมนบอร์ดเครื่องนั้นเสีย License Key ก็จะหายไปด้วย

> ซื้อ Windows 11 Pro OEM (FQC-10528) ราคาถูกที่นี่

FPP License

แบบกล่อง FPP Microsoft Windows License โดย FPP ย่อมาจาก Full Package Product แบบนี้จะมีราคาแพงกว่าแบบแรก (OEM) มาพร้อมกับกล่องสีสันสวยงาม ในนั้นจะมีสติ๊กเกอร์รับรอง COA (Certificate of Authenticity) และ License Key พร้อมด้วย USB Flash Drive ที่มีไฟล์ติดตั้งเอาไว้ สามารถนำไปติดตั้งกับเครื่องต่าง ๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องโหลดไฟล์ติดตั้งใหม่ หรือหากท่านติดตั้งแบบ Trial อยู่แล้ว ก็สามารถนำ Windows License Key ในกล่อง ไปกรอกเพื่อ Activate ก็ได้เช่นกัน

FPP Windows License ก็จะมีขายอยู่ 2 เวอร์ชั่น คือ Windows Home ที่มักจะนิยมกันใช้ตามบ้าน หรือนักเรียนนักศึกษา และ Windows Pro จะใช้กับองค์กรเป็นหลัก เพราะสามารถ Join Domain กันได้ มีความปลอดภัยในการเข้ารหัส Drive หรือ Bit locker มาให้ แต่ก็จะมีราคาที่สูงกว่าแบบ Home

> ซื้อ Windows 10 Pro FPP (HAV-00060) ราคาถูกที่นี่

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

หน้าตาวินโดว์ FPP

ข้อดีของ FPP Windows License คือ สามารถนำคีย์นี้ไปติดตั้ง หรือใช้กับเครื่องไหนก็ได้ หรือเรียกว่า ย้ายเครื่องได้ หากเครื่องของคุณเสีย หรือเมนบอร์ดพัง ก็สามารถนำ Windows Key นี้ไปใช้กับเครื่องใหม่ของคุณได้เช่นกัน เนื่องจากคีย์ไม่ได้ฝังอยู่ใน BIOS เหมือนกับแบบ OEM นั่นเอง จะมีประโยชน์สำหรับบริษัทที่มีนโยบายติดตั้งวินโดว์ของแท้ให้เครื่องพนักงาน ซึ่งแน่นอน ว่าต้องมีการเปลี่ยนผ่านบ่อยๆ

ข้อเสียคือ มีราคาสูงกว่าแบบอื่น และต้องเก็บ License ไว้เอง หากทำหาย หรือลืม ก็จะไม่สามารถ Activate ได้อีก

ESD License

ESD คืออะไร ESD ย่อมาจาก Electronic Software Delivery คือ Widnows อีกหนึ่งรูปแบบการจำหน่าย License Key ของ Microsoft ในรูปแบบของดิจิตอล คุณสมบัติทุกอย่างจะเหมือนกับ FPP License ทุกอย่าง แต่แบบ ESD License นั้น ตัว License Key จะถูกส่งผ่าน Email ให้กับลูกค้าโดยตรง จะไม่มีกล่องหรือสติ๊กเกอร์มาให้ ทำให้สามารถดาวน์โหลด (Download) และติดตั้งได้ทันที ไม่ต้องรอส่งของ หรือกล่องผลิตภัณฑ์นั่นเอง (*ระยะเวลาในการสั่งซื้อ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของตัวแทนจำหน่าย โดยปกติแล้ว ลูกค้าจะได้รับ License Key ภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากสั่งซื้อสำเร็จ)

ข้อดีคือ ลูกค้าไม่ต้องเก็บกล่อง หรือสติ๊กเกอร์สำหรับติดที่เครื่อง โดย License Key จะถูกเก็บไว้ที่ Email ของลูกค้าโดยตรง หากเครื่องเสีย ก็สามารถนำไป Activate กับเครื่องใหม่ได้ทันที

> ซื้อ Windows 11 Pro ESD (FQC-10572) ราคาถูกที่นี่

GGWA License

แบบ Open License (OLP) หรือ GGWA ย่อมากจา Get Genuine Windows Agreement เป็นช่องทางการจำหน่ายให้กับลูกค้าองค์กร ที่มีเครื่องอยู่แล้ว แต่ยังไม่มี Windows License แต่ต้องมีขั้นต่ำ 5 เครื่องขึ้นไป เพราะ OLP นี้จะจำหน่ายขั้นต่ำที่ 5 License นั่นเอง หลายๆ ที่ จึงเรียกวินโดว์ประเภทนี้ ว่าแบบ Volume License นั่นเอง

ปัจจุบัน เมื่อไม่นานมานี้ ทางไมโครซอฟท์ได้ประกาศเปลี่ยนวอร์ชั่น GGWA เป็นชื่อเวอร์ชั่นว่า CSP ย่อมาจาก Cloud Solution Provider ซึ่งเป็นโปรแกรมการขายในรูปแบบของ  Cloud Service ของ Microsoft ที่จะมอบกรรมสิทธิ์ให้กับตัวแทนจำหน่ายเป็นคนบริหารให้ตั้งแต่ซื้อ License เพื่อนำไปจัดจำหน่ายให้กับลูกค้าองค์กรต่างๆ

ตัวแทนจำหน่าย จะทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล และให้คำปรึกษาด้านต่างๆ ให้กับลูกค้า และผู้ใช้งานทั้งหมด โดยที่ไม่ผ่าน Microsoft และ License ที่ได้ก็จะเหมือนกับ OEM License คือไม่สามารถย้ายเครื่องได้ เปรียบเสมือน Electronic License ข้อดี ของ Windows ประเภทนี้ คือ ไม่ต้องเก็บกล่อง หรือจดคีย์ไว้ เนื่องจากทางตัวแทนจำหน่ายจะเป็นผู้ดีแลให้ทั้งหมด จึงเหมาะกับองค์กร ที่มีคอมพิวเตอร์จำนวนหลาย ๆ เครื่องครับ

> ซื้อ Windows 10 GGWA (FQC-09478) ราคาถูกที่นี่

ทำไมต้องแบ่งเป็น 2 Version

ที่ต้องแบ่งเป็น 2 เวอร์ชั่น Home และ Pro เพราะ Microsoft ได้แบ่งลักษณะการใช้งาน ราคาในการจำหน่าย ซึ่ง Windows Home จะทำออกมาเพื่อกลุ่มลูกค้าทั่วไป หรือ Home Use เป็นหลัก เช่น ใช้งานตามบ้าน หรือนักเรียน นักศึกษา และมีราคาค่อนข้างถูกกว่ารุ่น Pro เนื่องจาก Windows Home version โดนตัดคุณลักษณะบางอย่างออกไป เช่น BitLocker (คือการเข้ารหัสไปยังระบบและอุปกรณ์และระบบ เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูล ในกรณีที่เครื่องหายหรือโดนขโมย) และการจัดการ การเข้าถึงหรือเชื่อมต่อกับระบบขององค์กร เช่นการเข้าร่วมโดเมน เป็นต้น นอกนั้นก็สามารถทำงานได้อย่างปกติ ไม่มีผลต่อการทำงานทั่ว ๆ ไปครับ

ส่วน Windows Pro นั้น จะสามารถทำงานได้ครบทุกฟังก์ชั่น และมาพร้อมระบบความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล ในระดับสูง โดยปกติแล้ว Windows Pro Version มักจะใช้ในกลุ่มของภาคธุรกิจ หรือองค์กรต่าง ๆ แต่ก็มาพร้อมกับราคาที่ค่อนข้างสูงนั่นเองครับ

> อ่านบทความ Windows Home vs Pro ต่างกันยังไง

ตัวอย่างโฉมใหม่ของ Windows 11

Windows ถูกสร้างขึ้นโดย Microsoft ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 โดยเริ่มจากใช้ DOS เป็นชุดคำสั่งหลัก Windows เปรียบเสมือน Interface ที่มีหน้าตาและปุ่มต่างๆ ที่ครอบทับอยู่บน DOS อีกที เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน  และปี ค.ศ. 1993 ทางไมโครซอฟต์ก็ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ อย่าง Windows NT (New Technology) คือ เป็นระบบปฏิบัติการใหม่ และได้แยกการทำงานระหว่าง DOS กับ Windows ออกจากกัน และรุ่นต่อ ๆ ไป ก็ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows NT เช่น Windows 2000, Windows XP, Windows Vista, Windows 7, Windows 8, Windows 10 และ Windows 11 เป็นต้น

ในส่วนของการ License สำหรับการขายในปัจจุบันนั้น จะแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ แบบ OEM License, FPP License (Full Package Product) และ CSP (Cloud Solution Provider)

> อ่านบทความ วิธีลง Windows ที่นี่
> อ่านบทความ วิธีเช็ควินโดว์แท้ ที่นี่

และในแต่ละรุ่น จะถูกแบ่งออกเป็น 2 เวอร์ชั่น คือ Windows Home เช่น Windows 10 Home และ Windows Pro อย่าง Windows 10 Professional, Windows 11 Professional เป็นต้น ดังนั้นการจะเลือกซื้อ Windows License สำหรับการใช้งานนั้น ต้องคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก และเลือกให้เหมาะสมต่อการใช้งานของแต่ละประเภท เวลาโดนตรวจสอบมา จะได้ไม่มีปัญหาตามมา หากขาดตก บกพร่องข้อมูลในส่วนไหนไป ทางผู้เขียนต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

Add In Business

จำหน่าย อุปกรณ์ไอทีราคาถูก

ภายใต้บริษัท แอด อิน บิซิเนส จำกัด ตัวแทนจำหน่าย
ได้รับการแต่งตั้งโดยตรงจากแบรนด์ชั้นนำ
ราคา พิเศษ ส่งฟรี

สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่หน้า Contact

หรือ

Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง
 
Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง
 
Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง
 
Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง
 
Windows 10 ฟรี ต่างกัน ยัง ไง

สรุป

หวังว่าบทความนี้จะทำให้ผู้อ่านได้รู้จักกับ Microsoft Windows มากขึ้น ว่ามัน คือ อะไร มีกี่แบบ มีกี่เวอร์ชั่น มีประวัติการพัฒนามาอย่างไร และควรเลือกซื้อ License แบบไหนไว้ใช้งาน เว็บไซต์ Addin.co.th ของเรา นอกจากจะมีบทความเกี่ยวกับวงการไอทีดีๆ ให้อ่านกันแล้ว ยังมีสินค้าไอทีครบวงจรจำหน่ายในราคาพิเศษอีกด้วย หากท่านผู้อ่านมีความสนใจเพิ่มเติมในการสั่งซื้อสินค้าอุปกรณ์ไอที สอบถามข้อมูล หรือขอใบเสนอราคา ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของอุปกรณ์ใดๆก็ตาม สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่

Facebook Inbox : https://goo.gl/9wo8oL
Hotline : 063-819-7299
โทร : 02-713-2261
[email protected] : @addinonline
Email : [email protected]

ผู้เขียน