เครื่องพ่นไอน้ำในห้องจะเป็นปอดบวมไหม

  • 15 พ.ค. 2559
  • 0

ติดตามข่าวสารได้ที่ http://www.tnews.co.th

วันนี้(15 พ.ค. 59) ในโลกออนไลน์มีการแชร์ข้อมูลเรื่องสุขภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก "ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว" โดยกล่าวถึงโรคปอดบวม (Legionnaires) ว่าคืออะไร และเกี่ยวอย่างไรกับพัดลมไอน้ำ โดยทางเพจระบุว่า..

หลังจากมีข่าวเรื่องโรงพยาบาลแห่งหนึ่งขอให้งดการใช้พัดลมไอน้ำในพื้นที่ เพราะผู้ป่วยที่ภูมิต่ำกว่าปกติอาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ Legionnaires disease ได้ เลยมีคำถามเกิดขึ้นว่าตกลงอะไรยังไง แล้วเราจะใช้ดีหรือไม่ใช้ดี วันนี้ขอสรุปสั้นๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ

1. Legionnaires disease คืออะไร
ในปี2519ที่ฟิลาเดเฟีย ได้มีงานทหารผ่านศึก มีทหารผ่านศึกจำนวนมากไปประชุมที่โรงแรมแห่งนึงหลังงานประชุม ก็กลับบ้านกันไป ปรากฎว่า หลังจากนั้น มีหมอรพ.นึงไปเจอเคสปอดบวมรุนแรง และไปพบว่าอาการเกิดพร้อมกับผู้ป่วยอีกรายที่เป็นทหารผ่านศึกเหมือนกัน พอพบว่าอาการเดียวกัน มาจากโรงแรมเดียวกัน เลยลองเช็คดู ปรากฎว่าทหารที่ไปงาน มีหลายคนที่ป่วยและเสียชีวิต
 

หลังจากผ่านไปหลายเดือน จึงได้พบว่าเป็นเชื้อชนิดใหม่ จึงได้ตั้งชื่อโรคนี้ว่า Legionnaires disease ... เพราะไปเกิดในงานทหารผ่านศึก (Legion - ทหาร) อัตราการเสียชีวิตตกอยู่ที่ 5-30% และการติดเชื้อเกิดในคนที่อายุมากกับมีโรคประจำตัว
 

2. มันมาจากไหน
หลังจากหากันนาน ก็พบว่าเชื้อมันซ่อนอยู่ในหอทำความเย็นของอาคาร โดยอาคารใหญ่ๆ จะมีหอปรับอากาศอยู่ที่ดาดฟ้า หอนี้จะพ่นน้ำลงมา เอาอากาศไปผ่านน้ำ จากนั้นอากาศที่เย็นจะหมุนลงไปที่ห้องในอาคาร พอหมุนลงไปที่อาคาร ไปเจอคน ไปเจอของร้อนๆ ก็จะดึงกลับขึ้นไป พ่นให่เย็นใหม่แล้ววนกลับลงไปอีก
 

ในขั้นตอนการพ่นน้ำแล้วลดอุณหภูมิอากาศ จะมีละอองน้ำที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าลอยไปด้วย ในหอปรับอากาศของโรงแรมนั้น บังเอิญมีเชื้อ Legionnaires นี้อยู่
มันเลยลงไปที่ห้องพัก และลอยเข้าไปกับอากาศที่หายใจลงปอดได้
 

3. แล้วมีเครื่องอื่นๆไหมที่นำเชื้อได้
มีรายงานวิจัยเรื่องเชื้อนี้ ว่าเจอการระบาดจากเครื่อง พัดลมไอน้ำ (mist machine) ในหลายประเทศ ... (ไม่ได้เจอบ่อย) และเจอการติดเชื้อจากเครื่องสร้างหมอควันแบบ Ultrasonic ในตึกเด็ก ส่วนพัดลมไอเย็น ... อันนี้หาข้อมูลไม่เจอ ... ส่วนนึงคือพัดลมไอเย็นมีหลายแบบด้วย บางแบบใช้แล้วไม่ปล่อยไอน้ำ บางแบบมีความชื้นออกมาด้วย
 

และในทางทฤษฎี เราพบว่า ละอองน้ำเล็กๆที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า สามารถนำเชื้อโรคได้ทั้งนั้น อย่างกรณีการระบาดของเชื้อSARS ที่ตึกเอมอยการ์เดน ก็มาจากละอองน้ำที่ลอยขึ้นจากท่อในห้องน้ำ งานวิจัยหลายชิ้นก็ระบุว่าละอองที่เกิดจากการกดชักโครก สามารถพาเชื้อโรคไปได้หลายเมตร
 

ดังนั้น อะไรก็ตามที่ปล่อยความชื้นออกมาในรูปละอองน้ำ แม้ไม่เห็นด้วยตาเปล่าก็เสี่ยงได้ทั้งนั้น
 

4. จะป้องกันยังไง
เชื้อนี้ไม่ได้เจอง่าย เพราะต้องอาศัยหลายปัจจัยคือ เช่นต้องมีเชื้อตัวนี้ / ต้องมีเชื้ออีกชนิดนึงประกอบและเชื้อก็ไม่ได้อยู่ดีๆเกิดเอง แต่ต้องติดมาจากที่อื่น
 

ดังนั้นวิธีป้องกันก็คือ
- ใช้น้ำที่สะอาดในเครื่องใดๆที่ปล่อยไอน้ำ หรือทำความเย็นแบบที่มีความชื้นเพิ่มขึ้น
- ใครใช้เครื่องทำความเย็นพวกพัดลมไอเย็นแล้วไม่แน่ใจว่ายังไง ลองเอาตัวจับความชื้นไปวางในห้องแล้วเปิด ถ้าความชื้นขึ้นชัดเจน ก็ระวังไว้ก่อน เพราะการมีความชื้นขึ้น ก็แปลว่าไอน้ำมันก็ออกมาด้วยได้
- ล้างเครื่อง / ล้างภาชนะใส่น้ำ ให้สะอาด ... ในบางครั้ง ไม่เจอเชื้อในน้ำ แต่ไปเจอเชื้อเกาะอยู่ตรงจุดที่มีลมพัดผ่านหรือตัวกรอง
 

5. เรื่องนี้มันน่ากลัวกับคนทั่วไปไหมไม่รู้แต่ว่าใช้กันมาตั้งนานหลายที่ ไม่เห็นมีใครป่วยแบบโรคระบาด ในงานวิจัยตรงข้อ 3 ลองไปอ่านๆดู บางอันพบว่าพนักงานมีภูมิต่อเชื้อในขั้นสูงแบบไม่มีอาการ (แปลว่าติดเชื้อนี่แหละ แต่ไม่เป็นไร)
 

เอาเป็นว่า ล้างให้สะอาด ใช้น้ำให้ดี อย่าไปใช้กับคนที่ป่วยหรือภูมิต่ำก็แล้วกันครับ

Tags

แตกตื่น แต่อย่าตื่นตูม! พัดลมไอน้ำไอเย็น แหล่งแพร่เชื้อตัวแม่?

เผยแพร่: 15 พ.ค. 2559 17:19   โดย: MGR Online


กรณีโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ประกาศขอให้ญาติผู้ป่วยงดใช้ พัดลมไอน้ำไอเย็น เพราะเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยสูงวัยและผู้ป่วยทางเดินหายใจ

สร้างความตกอกตกใจให้กับคนไทยทั้งประเทศในชั่วข้ามคืน เนื่องจากหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาท่ามกลางอุณหภูมิสูงทะลุ 40 องศาเซลเซียส ประชาชนชาวไทยจำนวนมากแห่แหนไปสอยพัดลมไอน้ำไอเย็น ยิ่งบางยี่ห้อจัดโปรโมชันหั่นราคาแหลก ด้วยความรู้สึกว่าเย็นกว่าพัดลม ประหยัดไฟกว่าแอร์ โดยหารู้ไม่ว่าเป็นแหล่งแพร่เชื้อตัวแม่ ถ้าใช้ไม่เป็น?!

รพ.ออกประกาศเตือน ตื่นตูมกันทั้งประเทศ

รพ.สงขลานครินทร์ได้ติดประกาศขอให้ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยงดใช้พัดลมไอน้ำไอเย็น เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ญาติผู้ป่วยห้องพักรวมนำพัดลมไอน้ำมาใช้กับผู้ป่วย ทีนี้หน่วยควบคุมการติดเชื้อรพ.สงขลานครินทร์เรียกประชุมปรึกษาหารือโดยศึกษาผลงานวิจัยพบว่า พัดลมไอน้ำไอเย็นเป็นแหล่งกระจายของเชื้อ Legionnaires app.ซึ่งมาจากละอองน้ำที่มีการปนเปื้อนเชื้อในภาชนะบรรจุน้ำภายในเครื่องที่ไม่ได้ทำความสะอาด

เชื้อดังกล่าวถูกทำลายยาก เพราะทนต่ออุณหภูมิที่ต่ำกว่า 70 องสาเซลเซียส เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 50 ปีและมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังด้วย

เครื่องพ่นไอน้ำในห้องจะเป็นปอดบวมไหม

“พอดูข่าวจบ แม่ก็เดินไปปิดพัดลมไอน้ำทันที พร้อมหันมาด่า-บอกแล้วว่าอย่าซื้อ เห็นมั้ย แพงก็แพง มีเชื้อโรคอีก"
ตัวอย่างกระทู้ในโลกโซเชียล ที่ผวากันสุดฤทธิ์

“ต้องบอกตาให้หยุดใช้ค่ะ”

“เพิ่งซื้อมาใช้เหมือนกัน เกือบ 9,000 มาอ่านเจอสติเกือบหลุดเหมือนกัน แต่ที่ใช้มาก็ไม่มีอาการอะไรทั้งที่ปกติเป็นภูมิแพ้”

ขณะเดียวกัน มีคนจำนวนไม่น้อยมาแชร์ประสบการณ์การใช้ และได้รับผลข้างเคียง

“เคยเอามาใช้ที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งครับ อาทิตย์ต่อมาเด็กขาดเกือบครึ่งโรงเรียน ติดไข้หวัดใหญ่กันหมด”

“เราเป็นภูมิแพ้อากาศ ตอนแรกนอนแอร์ แฟนไปซื้อพัดลมไอเย็น ที่มันต้องเติมน้ำเข้าไปด้านหลังมาให้แทน พอตื่นมาน้ำมูกไหลยิ่งกว่าเดิม แล้วคัดจมูกหายใจไม่ออกมาสองสามวันแล้ว ไม่รู้จะเกี่ยวกันมั้ย”

“ไม่ชอบนอนแอร์เพราะตื่นมาคอแห้งเจ็บคอ แต่ทนร้อนไม่ไหว ซื้อพัดลมไอเย็นมาใช้ได้ 2 ปีกว่าแล้ว ไม่มีปัญหานะ ห้องนอนเปิดหน้าต่างอากาศถ่ายเท ล้างทำความสะอาดถังเติมน้ำทุกวัน แต่พัดลมไอน้ำนี่ไม่ไหว มันชื้นมาก เหนียวตัวแล้วรู้สึกจะเป็นหวัดตลอดเลย”

“เคยไปเข้าค่าย แล้วใช้พัดลมไอน้ำ คือมันเย็นมาก ตัวเองนอนตรงกับเครื่องพอดี ตื่นมาผื่นขึ้นเต็มตัวเลย”

ความต่างของพัดลมไอน้ำกับไอเย็น

ก่อนอื่น ต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างพัดลมไอน้ำกับพัดลมไอเย็น

หน้าตาพัดลมไอเย็นเป็นตู้สี่เหลี่ยม มีลิ้นชักด้านหลังไว้เติมน้ำ บางยี่ห้อแถมเจลเย็นไว้ให้ใช้วางแทนน้ำแข็ง วิธีการทำงานคือ ดึงเอาน้ำจากถาดมาราดแผงข้างหลังแล้วดูดลมผ่านเป่าออกมาเป็นไอเย็น ไม่มีละอองน้ำ เป็นการแลกเปลี่ยนความร้อนของน้ำกับอากาศ พอมีความชื้นอยู่บ้าง เหมาะกับห้องที่มีอากาศถ่ายเท นั่นหมายถึงว่าเวลาเปิดพัดลมไอเย็น ควรเปิดหน้าต่างไว้ด้วย

ขณะที่รูปลักษณ์พัดลมไอน้ำก็เหมือนกับพัดลมทั่วไป แต่พ่นละอองน้ำออกมาเป็นไอ ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในที่โล่งแจ้ง ลานกว้าง เพราะสเปรย์น้ำที่พ่นออกมาจะช่วยลดความร้อนในบริเวณนั้น

สังเกตได้ว่า พัดลมทั้งสองชนิดไม่เหมาะกับการใช้งานในสถานที่ปิดทึบ ไม่มีอากาศถ่ายเท

แพทย์เตือนอันตรายจากพัดลมไอน้ำ

จากบทความ bioabac.com ระบุฟันธงเลยว่า กลุ่มคนที่ไม่ควรใช้พัดลมไอน้ำ ได้แก่ ผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ อาทิ เป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด นอนกรน ถุงลมโป่งพอง หลอดลมอักเสบ ฯลฯ ยิ่งถ้านำไปใช้ในตอนนอนแล้ว อาจจะทำให้เกิดเป็นโรคปอดบวมได้ด้วย และห้ามนำพัดลงไอน้ำนี้ไปใช้กับสถานบันเทิงเด็ดขาด

“พัดลมไอน้ำนั้นมีทั้งประโยชน์และข้อเสีย ประโยชน์ของมันก็คือเหมาะใช้คลายร้อนในช่วงหน้าร้อน โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอุณหภูมิสูงมาก จะทำให้เราได้รับความชุ่มชื้นจากไอน้ำ แต่พัดลมชนิดนี้ไม่เหมาะที่จะใช้ในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว เนื่องจากอากาศมีความชื้นสูงอยู่แล้ว”

นิตยา จันทร์เรือง มหาผล โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ บอกอีกว่า

ที่สำคัญคือ พัดลมไอน้ำไม่เหมาะที่จะใช้กับผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ และจะทำให้เกิดผลเสียขึ้นได้ เพราะการทำงานของร่างกายคนเรานั้น จะมีการปรับสมดุลกันระหว่างร่างกายกับสภาพอากาศ ซึ่งผู้มีปัญหาระบบทางเดินหายใจนั้น ร่างกายจะทำงานไม่สมดุลอยู่แล้ว และถ้าใช้พัดลมไอน้ำด้วยแล้ว ร่างกายก็จะทำงานที่หนักขึ้น

ทั้งนี้เนื่องจากการนำไอน้ำจากพัดลมเข้าไปในร่างกาย จะทำให้ปอดมีน้ำอยู่ในปริมาณมาก และจะทำให้เกิดเป็นโรคปอดบวมได้ ยิ่งถ้านำไปใช้ในเวลานอนด้วยแล้ว ก็จะทำให้เป็นโรคปอดบวมได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากเวลานอนเป็นช่วงที่ร่างกายต้องพักผ่อน แถมยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคที่ปอดได้อีก เช่น อาจทำให้เป็นโรคปอดอักเสบ

สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ การใช้พัดลมไอน้ำก็มีโอกาสทำให้เกิดโรคปอดบวมได้เช่นกันหากได้รับไอน้ำในปริมาณมาก ดังนั้นพัดลมไอน้ำจึงมีประโยชน์เฉพาะบางฤดูกาลและเฉพาะบางคนเท่านั้น

น.พ.จรัล ตฤนวุฒิพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การใช้พัดลมไอน้ำหลังจากที่เรานอนหลับไปแล้ว จะทำให้ร่างกายได้รับไอน้ำโดยที่เราไม่รู้สึกตัว อาจจะทำให้เราไม่สบายหรืออาจเกิดปอดบวมได้ จึงขอเตือนคนที่ใช้พัดลมชนิดนี้ช่วงกลางคืน ควรให้ร่างกายอบอุ่นด้วย อย่านอนหลับเพลินจนปล่อยให้ร่างกายได้รับไอน้ำจากพัดลมมากเกินไป อาจจะทำให้ร่างกายเราปรับตัวไม่ทันจนเกิดโรคต่างๆ ได้ ซึ่งในที่นี่ยังรวมไปถึงเครื่องปรับอากาศและพัดลมธรรมดาด้วย

ปัจจุบันมีการนำพัดลมไอน้ำไปใช้ตามสถานบันเทิงต่างๆ ทำให้คนไปเที่ยวสถานบันเทิงมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ มากมาย เพราะนอกจากในสถานบันเทิงจะมีสารพิษจากควันบุหรี่จำนวนมาก และมีมลภาวะที่เป็นพิษคือเสียงเพลงที่ดังมาก โดยสารพิษต่างๆ และมลภาวะทางเสียงนั้น เราก็รู้กันอยู่แล้วว่าจะทำให้เราเป็นโรคมะเร็งและอาจหูหนวกได้ เมื่อเจอพัดลมไอน้ำเข้าไปอีก ก็อาจทำให้เราเป็นโรคปอดบวมได้อีกด้วย ถ้าได้รับไอน้ำมากไป

พัดลมไอเย็นปลอดภัย ถ้าใช้ในที่โปร่ง-หมั่นทำความสะอาด

เพจดัง Drama Addict ซึ่งเชี่ยวชาญความรู้ทางการแพทย์แนะนำไว้ว่า

อ่านข่าวนี้แล้วไม่ต้องตื่นเต้นตกใจไป คือ อาจารย์เขาหมายถึงการใช้พวกพัดลมไอน้ำในบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ในโรงพยาบาล ซึ่งมีผู้ป่วยที่ไม่สบาย ภูมิต้านทานไม่ค่อยดีอยู่เยอะ...

...แต่ถ้าเป็นการใช้ในครัวเรือนทั่วไป ก็เอาถาดใส่น้ำออกมาล้างบ่อยๆ แต่บ้านไหนที่มีคนป่วยเป็นโรคเรื้อรัง หรือภูมิต้านทานไม่ค่อยดีก็ควรระวังหน่อยนะครับ

ชาวเน็ตหลายท่านที่ใช้พัดลมไอเย็นก็พากันแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความคิดเห็น เพื่อการใช้อย่างถูกต้องปลอดภัย

“เปลี่ยนน้ำทุกวันครับ ถ้ากลัวเชื้อโรค ส่วนผมเปลี่ยนทุกวันอยู่แล้ว เพราะต้องเอาน้ำจากที่แช่ตู้เย็นไว้มาใส่ 555 ”

“ปัญหาไม่เคยล้างอันนี้ ถอดล้างก็น่าจะจบ แต่ที่น่ากังวลคือ แบบที่ปั๊มให้น้ำไหลผ่านแผ่นกระดาษรังผึ้งเพื่อให้เกิดการระเหย เวลาใช้ไปนานๆ จะเกิดคราบเมือกหรือเชื้อราที่กระดาษ อันนี้ถอดล้างค่อนข้างยาก ถ้าเชื้อโรคจะสะสม ส่วนใหญ่ก็น่าจะอยู่บริเวณนี้แหละ”

“ตอนเราใช้ เราก็ถอดล้าง ถ่ายน้ำทุกอาทิตย์ แต่ปรากฏว่าล้อหัก เพราะลากไปถ่ายน้ำตรงระเบียง (ซื้อมาได้ปีเดียวเรียกช่างประมาณ 4-5 ครั้ง เพราะล้อพังกับวงจรช็อต)”

ผู้จัดการ Live เพิ่งถอยพัดลมไอเย็นมายี่ห้อหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งรุ่นโปรโมชันที่ซื้อมาไม่สามารถถอดถาดไปเทได้เลยเนื่องจากติดตัวปั๊ม เค้าทำรูระบายมาให้ด้านล่าง แต่ความที่วางพัดลมกับพื้นทำให้ระบายไม่ได้ จึงต้องคอยตักน้ำที่เหลือไปเททิ้ง และเช็ดทำความสะอาดก่อนเปิดใช้ใหม่ทุกครั้ง

“ช่วงนี้อากาศร้อนใช้พัดลมธรรมดามันจะพัดเอาไอร้อนมาสู่เรา บางครั้งถึงกับขนลุก ใช้พัดลมไอเย็นแล้วรู้สึกสบายขึ้นเยอะ ใช้งานตามคู่มือที่เขาแนะนำก็คงแก้ปัญหาได้บ้างเช่น ก่อนเลิกใช้งานให้ปิดระบบน้ำไหลเวียนแล้วเปิดพัดลมทิ้งไว้สักประมาณ 15 นาที เพื่อให้แผ่น pad cool แห้งเสียก่อน”

“พัดลมไอน้ำมันไม่เหมาะอยู่เเล้วในห้อง เพราะมันปล่อยละอองน้ำ พัดลมไอเย็นรุ่นใหม่ๆ เค้าเเก้ปัญหาตรงเรื่องความชื้นได้เเล้ว จึงไม่มีปัญหาลองอ่านดูในใบที่เค้าให้มา

“คนใช้เยอะ ผู้ผลิตเขาบอกมาครบถ้วนแล้ว ให้ใช้ในพื้นที่อากาศถ่ายเทได้ เปลี่ยนน้ำบ่อยๆ ล้างแผ่นน้ำเลี้ยงให้สะอาด ก็ปลอดภัยดี แค่นี้อะไรกันหนักหนา แอร์ก็เหมือนกันถ้าสกปรก มันก็ไม่ต่างกันเลย”

อย่างไรก็ตาม หลายสัปดาห์แห่งอากาศร้อนเว่อร์ ยอดขายพัดลมไอน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัดลมไอเย็นพุ่งปรี๊ด ยี่ห้อใหม่ๆ ชื่อแปลกๆ ผุดขึ้นราวดอกเห็ด แข่งขันจำหน่ายทั้งทางห้างฯ และเว็บไซต์ออนไลน์ บางยี่ห้อมีคู่มือการใช้สอดมาในกล่อง บางยี่ห้อแนบมาแค่หนึ่งแผ่นพับระบุสั้นๆ แบบขอไปที โดยไม่ใส่ใจให้ความรู้จริงจังเลย

ลูกค้าผู้อุปโภคบริโภคต้องมะงุมมะงาหราหาข้อมูลกันเอง!

ขอบคุณ FB: Drama Addict


มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!

และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่:
หรือ Fax 0-2629-4754