เพราะเหตุใดบริเวณรอบๆมหาสมุทรแปซิฟิกจึงถูกขนานนามว่าเป็นวงแหวนไฟ

ทำความรู้จัก “แนวแผ่นดินไหว” และ “วงแหวนแห่งไฟ” เขย่าโลก


เผยแพร่ 14 พ.ย. 2559 ,17:54น.




หลายคนกังวลถึงความรุนแรงและความเสียหาย จากภัยพิบัติแผ่นดินไหวในอนาคต โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในแนว “วงแหวนแห่งไฟ” หรือ “The ring of fire” ซึ่งประเทศนิวซีแลนด์และประเทศเพื่อนบ้าน ใกล้กับไทยก็อยู่ในแนวนี้ด้วย !

เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.8  ความลึก 10 กม. บริเวณเกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์ในช่วงรุ่งเช้า ซึ่งตรงกับเวลาประมาณ 18.00 น. ในประเทศไทย สร้างความเสียหายกระจายในหลายพื้นที่ โดยหลังแผ่นดินไหวหลักผ่านไป ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง ครั้งใหญ่วัดความรุนแรงได้ถึง 6.2 และอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 10 กม. มีจุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองไครสต์เชิร์ช ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 120 กิโลเมตร ขณะที่เมืองไคคูร่าเกิดสึนามิขนาดเล็ก 2.5 เมตร ซัดเข้าชายฝั่ง และยังคงมีรายงานความเสียหายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น

เพราะเหตุใดบริเวณรอบๆมหาสมุทรแปซิฟิกจึงถูกขนานนามว่าเป็นวงแหวนไฟ

แม้ว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย แต่เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้น จากภัยพิบัติที่ไม่อาจพยากรณ์ได้แน่ชัด ทำให้หลายคนกังวลถึงความรุนแรงและความเสียหาย จากภัยพิบัติแผ่นดินไหวในอนาคต โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในแนว “วงแหวนแห่งไฟ” หรือ The ring of fire” ซึ่งประเทศนิวซีแลนด์และประเทศเพื่อนบ้าน ใกล้กับไทยก็อยู่ในแนวนี้ด้วย !

รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยธรณีวิทยาแผ่นดินไหวฯ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุด ที่เกิดขึ้นในประเทศนิวซีแลนด์ ระบุว่าถือเป็นเรื่องปกติเนื่องจากที่ตั้ง อยู่บนแนววงแหวนแห่งไฟและแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิก ซึ่งในแถบนี้มักเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวชุกชุมอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าวิตกกังวลมากนัก อย่างไรก็ตามเนื่องจากแนววงแหวนแห่งไฟ มีความเชื่อมโยงในพื้นที่โดยรอบที่ใกล้กับประเทศไทย ดังนั้น ผลกระทบจากแผ่นดินไหวรุนแรง อาจส่งผลสืบเนื่องต่อประเทศที่ตั้งอยู่ใกล้แนวเส้นได้บ้าง แต่ไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลมากจนเกินไป เนื่องจากจุดศูนย์กลางที่เกิดขึ้นในนิวซีแลนด์ ไกลจากประเทศไทยค่อนข้างมาก ส่วนแนวโน้มการเกิดแผ่นดินไหวแนวดิ่งในทะเล ซึ่งอาจก่อให้เกิดสึนามิลูกใหญ่ ซัดเข้าฝั่งนิวซีแลนด์ในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกหรือไม่นั้น ด้วยเทคโนโลยีไม่สามารถคาดเดาได้แน่ชัด แต่การเกิดสึนามิในแถบนั้นไม่น่าวิตกกังวล เท่ากับบริเวณหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย

เพราะเหตุใดบริเวณรอบๆมหาสมุทรแปซิฟิกจึงถูกขนานนามว่าเป็นวงแหวนไฟ

ข้อมูลรายงาน “สึนามิจากแผ่นดินไหว” กรมทรัพยากรธรณี ระบุว่าภายใต้ชั้นเปลือกโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ ลึกลงไปมีหินหนืดซึ่งเป็นสารเหลวหลอมละลาย เป็นแหล่งสะสมพลังงานความร้อนจำนวนมหาศาล พลังงานดังกล่าวที่อยู่ในชั้นนี้พยายามหาทางระบายออก จึงเกิดการผลักดันชั้นหินเปลือกโลกอยู่ตลอดเวลา ถ้าวันใดความร้อนนั้นดันทะลุเปลือกโลกส่วนใดส่วนหนึ่งขึ้นมาได้ เปลือกโลกส่วนนั้นก็จะเคลื่อนตัวทำให้เกิดความสั่นสะเทือนและเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ ทั้งบนบกและใต้พื้นทะเล เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ซึ่งอาจมีผลกระทบทำให้เกิดสึนามิได้ในบางครั้ง

ทั้งนี้ การแยกออกจากกันหรือการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก เป็นผลมาจากการผลักดันของพลังงานความร้อนใต้ชั้นเปลือกโลก และมักพบว่าท าให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ เปลือกโลกขนาดใหญ่มีอยู่ 13 แผ่นใหญ่ ได้แก่ แผ่นยูเรเซีย แผ่นแปซิฟิก แผ่นอินโด-ออสเตรเลีย แผ่นอเมริกาเหนือ แผ่นอเมริกาใต้แผ่นสโกเชีย แผ่นแอฟริกา แผ่นแอนตาร์กติก แผ่นนัซกา แผ่นโคโคส แผ่นแคริบเบียน แผ่นอาหรับ และแผ่นฟิลิปปินส์ ซึ่งแผ่นเปลือกโลกมีการขยับตัวและเคลื่อนที่อย่างช้าๆ อยู่ตลอดเวลา เฉลี่ยปีละ 5-6 เซนติเมตร

เพราะเหตุใดบริเวณรอบๆมหาสมุทรแปซิฟิกจึงถูกขนานนามว่าเป็นวงแหวนไฟ

ขอบคุณภาพจาก หน่วยปฏิบัติการวิจัยธรณีวิทยาแผ่นดินไหวและธรณีแปรสัณฐาน ผืนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับแนวแผ่นดินไหวของโลกมี 3 แนวหลัก ได้แก่

1. แนววงรอบแปซิฟิก เริ่มจากชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ขึ้นไปทางตอนเหนือชายฝั่งของทวีปอเมริกาเหนือ ผ่านปลายแหลมคัมชัตคาลงมา ผ่านประเทศญี่ปุ่นแล้วแยกออกเป็น 2 แนว แนวที่หนึ่งลงมาทางหมู่เกาะมาเรียนา แนวที่สองผ่านลงมาทางหมู่เกาะฟิลิปปินส์ เกาะนิวกินี ไปจนถึงนิวซีแลนด์ และมีแนวต่อไปจนถึงปลายแหลมอเมริกาใต้ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น เป็นที่รวมของแผ่นดินไหวของโลกพบภูเขาไฟเกิดร่วมด้วย จึงได้ชื่อว่า “วงแหวนแห่งไฟ (The ring of fire)”

2. แนวภูเขาแอลป์-หิมาลัย มหาสมุทรแปซิฟิก เริ่มจากหมู่เกาะชวาผ่านหมู่เกาะสุมาตราขึ้นไปทางเหนือ ผ่านหมู่เกาะอันดามัน ตะวันตกของพม่า อินเดีย ปากีสถาน ตุรกี ไปจนถึงยุโรป

3. แนวสันภูเขาไฟกลางมหาสมุทรแอตแลนติก จากขั้วโลกเหนือเรื่อยลงมาผ่านเกาะไอซแลนด์ผ่านกลางมหาสมุทรแอตแลนติกไปจนถึงขั้วโลกใต้

การเคลื่อนตัวของเปลือกโลกทั้ง 3 แนว ทำให้เกิดรอยเลื่อนขนาดใหญ่บนเปลือกโลกแผ่นต่างๆ มากมาย รอยเลื่อนเหล่านี้เมื่อขยับตัว จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวด้วยเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก 

รายงาน “สึนามิจากแผ่นดินไหว” กรมทรัพยากรธรณี

ภาพจาก YT HARYONO / AFP, MARK MITCHELL / POOL / AFP

ไม่พลาดทุกเหตุการณ์ติดตามข่าวจาก PPTV ได้ที่ Subscribe

เพราะเหตุใดบริเวณรอบๆแปซิฟิกถึงถูกขนานนามว่าเป็นวงแหวนแห่งไฟ

วงแหวนแห่งไฟ เป็นบริเวณในมหาสมุทรแปซิฟิก ที่เกิดแผ่นดินไหว และภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง มีลักษณะเป็นรูปเกือกม้า และวางตัวตามแนวร่องสมุทร แนวภูเขาไฟ และบริเวณขอบแผ่นเปลือกโลก โดยมีภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ภายในวงแหวนแห่งไฟทั้งหมด 452 ลูก และเป็นภูเขาไฟที่คุกรุ่น (active volcano) อยู่กว่า 75%

วงแหวนแห่งไฟ มีความสําคัญอย่างไร

วงแหวนไฟ คือ จุดที่มีรอยเลื่อนขนาดใหญ่ชนกันอยู่ ซึ่งจะเกิดแผ่นดินไหว มีภูเขาไฟอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ดังนั้นความเสี่ยงของประเทศที่อยู่บริเวณแนววงแหวนไฟที่จะเกิดแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟปะทุเป็นเรื่องธรรมดา สำหรับประเทศไทยถือว่าอยู่ห่าง ดังนั้นแผนบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติจึงไม่มีแผนเตรียมพร้อมภูเขาไฟ ส่วนสึนามิที่ ...

แนววงแหวนแห่งไฟพบมากที่สุดบริเวณใด

ประเทศที่ตั้งหรือมีพื้นที่บางส่วนอยู่ในแนววงแหวนไฟ ได้แก่ ประเทศเบลีซ โบลิเวีย บราซิล แคนาดา โคลอมเบีย ชิลี คอสตาริกา เอกวาดอร์ ติมอร์-เลสเต เอลซัลวาดอร์ ไมโครนีเซีย ฟิจิ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น คิริบาส เม็กซิโก นิวซีแลนด์ นิการากัว ปาเลา ปาปัวนิวกินี ปานามา เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย ซามัว หมู่เกาะโซโลมอน ...

วงแหวน แห่งไฟ พาดผ่าน กี่ ทวีป อะไร บาง

วงแหวนแห่งไฟเกิดจากการเคลื่อนที่และปะทะกันของแผ่นเปลือกโลก แบ่งเป็นด้านตะวันออกในทวีปอเมริกากลางและใต้ ด้านแปซิฟิกในอเมริกาเหนือ ด้านเหนือและตะวันตกเลียบแปซิฟิก ผ่านหมู่เกาะอะลูเชียน คาบสมุทรคัมชัทกะในรัสเซีย ไปถึงตอนใต้ของญี่ปุ่น ด้านใต้เป็นแผ่นเปลือกโลกขนาดเล็กประชิดกันอยู่ ตั้งแต่หมู่เกาะมาเรียน่า ฟิลิปปินส์ บูเกนวิ ...