เศรษฐศาสตร์ตระหนักถึงความจำกัดของทรัพยากรของประเทศไทย และสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ Show
เนื้อหาสาระ
เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น วิชาเศรษฐศาสตร์ มุ่งศึกษาเรื่องการจัดสรรทรัพยากรที่ขาดแคลน เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ จัดว่าเป็นหัวใจสำคัญของวิชาเศรษฐศาสตร์ ความหมายของเศรษฐศาสตร์ จากความเป็นมา “economics” มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก ว่า “oikonomia” แปลว่า การบริหารจัดการของครัวเรือน ( skilled in the management household) เศรษฐศาสตร์หมายถึง เป็นการศึกษาถึงวิธีการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อผลิตสินค้าและบริการต่างๆเพื่อสนองตอบความต้องการของมนุษย์ซึ่งมีอยู่ไม่จำกัด โดยธรรมชาติมนุษย์มีความต้องการตลอดเวลา และไม่มีที่สิ้นสุด แต่จำนวนสินค้าและบริการมีจำกัด ทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างสินค้า บริการและความต้องการ จึงเกิดการเลือกที่จะต้องตอบสนองความต้องการ ในการเลือกทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งทำให้หมดโอกาสที่จะทำสิ่งอื่นไปโดยปริยาย เราเรียกว่าสูญเสียโอกาส จึงกล่าวว่าเมื่อตัดสินใจเลือกจะเกิดต้นทุนเกิดขึ้นพร้อมกันเราเรียกว่าต้นทุนค่าเสียโอกาส ดังนั้นการที่จะเลือกเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดมีต้นทุนต่ำสุด สรุปได้ว่า 1. ความต้องการมีไม่จำกัด (unlimited wants) 2. ทรัพยากรมีจำกัด (scarcity resources)..ทำให้เกิดความขาดแคลน
สินค้าและบริการ(goods and services) เป็นสิ่งที่มีอรรถประโยชน์(utility)คือสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคได้รับความพอใจโดยไม่คำนึงว่าผิดกฏหมายหรือผิดศีลธรรม สินค้าไร้ราคาหรือทรัพย์เสรี(free goods) มีตามธรรมชาติ เกินความต้องการของมนุษย์ ใช้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เช่น น้ำ อากาศ แสงแดด สินค้าทางเศรษฐศาสตร์หรือเศรษฐทรัพย์(economic goods) สินค้าที่มีต้นทุนการผลิต มีจำกัดเมื่อเทียบกับความต้องการ ต้องซื้อหรือจ่ายค่าตอบแทน การศึกษาและเข้าใจพฤติกรรมของหน่วยเศรษฐกิจต่างๆต้องเข้าใจพฤติกรรมของหน่วยเศรษฐกิจแต่ละหน่วย ในลักษณะที่เป็นส่วนย่อยและส่วนรวมของระบบเศรษฐกิจเพื่อเข้าใจการทำงานและปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจทั้งระบบได้ดียิ่งขึ้น สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ แบ่งเป็น 2 สาขา เศรษฐศาสตร์จุลภาค microeconomics เป็นการศึกษาพฤติกรรมทางเศรษฐกิจในส่วนย่อย ครัวเรือนหรือธุรกิจเพียงหน่วยใด หน่วยหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การบริโภค การกำหนดราคา การจำหน่ายจ่ายแจก เน้นไปทางการจัดสรรทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นการศึกษากิจกรรมทางเศรษฐกิจของบุคคล หรือกลุ่มของบุคคลเนื้อหาส่วนใหญ่ของเศรษฐศาสตร์จุลภาคเป็นเรื่องเกี่ยวกับราคาในตลาดแบบต่างๆ จึงเรียกอีกอย่างว่า ทฤษฏีราคา(price theory) เศรษฐศาสตร์มหภาค macroeconomics เป็นการศึกษาของเศรษฐกิจส่วนร่วม เป็นการศึกษาพฤติกรรมทางเศรษฐกิจทุกหน่วยในสังคมเช่นรายได้ประชาชาติ ระดับราคาสินค้า การกระจายรายได้ การคลังรัฐบาล การค้าระหว่างประเทศ การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ เป็นการศึกษากิจกรรมทางเศรษฐกิจระดับประเทศ ระหว่างประเทศ นักเศรษฐศาสตร์ที่สำคัญ อัลเฟรด มาร์แชล ผู้ริเริ่มทฤษฏีทางเศรษฐศาสตร์จุลภาคเป็คนแรก เขียนผลงานพฤติกรรมผู้บริโภค ผู้ผลิต (เสนอทฤษฎีว่าด้วยการผลิต) จอห์น เมนาร์ด เคนส์ ผู้ริเริ่มทฤษฏี ทางเศรษฐศาสตร์มหภาคเป็นคนแรก ได้รับยกย่องว่าเป็น “บิดาของวิชาเศรษฐศาสตร์มหภาค” โดยเสนอ นโยบายวิธีแก้ปัญหาการว่างงาน การเงิน การคลัง การออม การลงทุน อดัม สมิธ ชาวอังกฤษได้รับสมญา “บิดาแห่งวิชาเศรษฐศาสตร์” เขียนหนังสือ “An inquiry in to the Nature and causes of the Wealth of Nations” หรือ ความมั่งคั่งของประชาชาติ The Wealth of Nations เป็นหนังสือเศรษฐศาสตร์เล่มแรกกล่าวถึงทำอย่างไรประเทศจึงจะร่ำรวย พูดถึงเรื่องกลไกสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างสังคมกับธุรกิจให้ผลประโยชน์ร่วมกัน เรื่องกลไกของตลาด การกำหนดมูลค่าของราคาสิ่งของ การบริหารการคลัง การกระจายรายได้ การค้าระหว่างประเทศ ประเทศ ไทยมีหนังสือเกี่ยวกับวิชาเศรษฐศาสตร์เล่มแรกคือ “ทรัพย์ศาสตร์เบื้องต้น” เ รียบเรียงโดย พระยาสุริยานุวัตร เมื่อ พ.ศ. 2454 ต่อมาเปลี่ยนชื่อ เป็น “เศรษฐศาสตร์วิทยาภาคเบื้องต้น เล่ม 1” เราศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์เพราะอะไร?..เพื่อได้เข้าใจปรากฏการณ์ต่างๆทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั้งสาเหตุและผลกระทบต่อบุคคล สังคม เพื่อรู้แนวทางที่จำนำไปแก้ไขหรือประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมีเหตุผล ประโยชน์ของวิชาเศรษฐศาสตร์
การวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ – การวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์แบบใดที่ถือว่าเป็นวิทยาศาสตร์ เพราะเหตุใด
สอดแทรกความต้องการของสังคม มีการนำเอาค่านิยม จริยธรรม แนวคิดทางสังคมเข้าร่วมพิจารณา เช่น รัฐบาลต้องการเพิ่มภาษีสินค้ารถยนต์ นอกจากศึกษาถึงผลกระทบต่างๆแล้วสิ่งที่อาจเกิดขึ้นยังศึกษาว่าการขึ้นภาษีดังกล่าวเป็นธรรมหรือไม่ ให้ข้อชี้แนะแก่รัฐบาลว่าควรหรือไม่ควรขึ้นภาษีสินค้าชนิดนั้นหรือไม่ เศรษฐศาสตร์ที่ควรจะเป็นจะให้ข้อสรุปที่แตกต่างกันแล้วแต่การวินิจฉัยของบุคคลว่าอะไรถูก อะไรควร ไม่อาจกำหนดเป็นกฏเกณฑ์ที่ตายตัวได้ เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น1รูปภาพ
กราฟเศรษฐศาสตร์/เศรษฐกิจ ความรู้เบื้องต้นเกกี่ยวกับเศรษศาสตร์https://www.youtube.com/watch?v=JjRMzZ6zzxIเศรษฐศาสตร์ หมายถึง ศาสตร์หรือวิชาที่เกี่ยวข้องกับวิธีการนำทรัพยากรซึ่งมีอยู่จำกัดมากระทำให้เกิดสินค้าและบริการ เพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ซึ่งมีอยู่ไม่จำกัดเพื่อให้เราสามารถเข้าใจความหมายของเศรษฐศาสตร์ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น จึงควรศึกษาและทำความเข้าใจในเรื่อง ทรัพยากร สินค้าและบริการ และความต้องการ ซึ่งเกี่ยวพันกับเศรษฐศาสตร์อย่างใกล้ชิด ดังนี้๑.ทรัพยากร ในที่นี้ความหมายครอบคลุมถึง ทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งมายถึงแรงงาน ทรัพยากรเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ที่ดิน แม่น้ำ ลำคลอง แร่หินต่าๆ และทรัพยากรซึ่งมนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น เช่น เครื่องงจักร เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่างๆ๒.สินค้าและบริการ หมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจากการผลิตโดยอาจเป็นสิ่งที่จับต้องได้และไม่ได้ เนื่องจากสินค้าและบริการเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากกาผลิต จึงอาจจะเรีียกว่า ผลผลิต๓.ความต้องการ หมายถึง ความอยากได้หรืออยากเป็นเจ้าของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความต้องการของมนุษย์มีหลายลักษณะ บางลักษณะเป็นความต้องการที่ไม่สิ้นสุด เช่น ต้องการมีบ้านมีรถยนต์ มีโทรทัศน์ เมื่อมีแล้วความต้องการก็อาจไม่หมดไป แต่ต้องการที่จะมีบ้านหลังใหญ่มากกว่าเดิม ต้องการมีรถยนต์เพิ่มอีก ๑ คันเศรษฐศาสตร์เป็นวิชาที่มีความสำคัญสำหรับมนุษย์ เนื่องจาเป็นวิชาที่มีขอบข่ายครอบคลุมการจัดการทรัพยากรที่มีความเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตมนุษย์ ตั้งแต่ระดับบุคคล ระดับครอบครัว และระดับประเทศ มนุษย์ทุกคนจะดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข ย่อมต้องการสิ่งต่าง ๆ ที่สามารถสนองความต้องการ หรืออำนวยประโยชน์แก่ตนได้ และภายใต้เงื่อนไขที่ทรัพยากรในโลกมีจำนวนจำกัด การมีความรู้ตวามสามารถในการจัดสรรทรัพยากรให้สามารถสนองความต้องการของมนุษย์ซึ่งมีไม่จำกัดในลักษณะที่ประหยัดที่สุด และให้ประโยชน์สูงสุดต่อบุคคลและต่อส่วนรวม จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในระดับบุคคล มนุษย์ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในครัวเรือนหริอหัวหน้าครอบครัว ในฐานะผู้บริโภคจะต้องรู้วิธีการจัดหาสิ่งต่าง ๆ เพื่อสนองความต้องการของตนและสมาชิกในครัวเรือนได้โดยตรง สามารถจัดสรรเงินและเลือกซื้อสินค้าและบริการที่ตนต้องการได้อย่างเหมาะสม บุคคลในฐานะแรงงานจะต้องสามารถเลือกและตัดสินใจทำงานหารายได้ไว้เพื่อจับจ่ายใช้สอย ส่วนบุคคลในฐานะผู้ประกอบการ นักธุรกิจ หรือผู้ผลิตจะต้องสามารถเลือกและตัดสินใจที่จะประกอบการหรือทำการผลิตสินค้าและบริการที่ให้ผลตอบแทนสูง และสามารถสนองความต้องการบริโภคอุปโภคของบุคคลอื่นในสังคมการทำงาน การประกอบธุรกิจ การซื้อขายแลกเปลี่ยน และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรทรัพยากรดังกล่าว จะต้องดำเนินภายใต้กฎระเบียบของสังคม ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับส่วนอื่น ๆ ของสังคม อาทิ ประเพณี ค่านิยม วัฒนธรรม การศึกษา สาธารณสุข การเมือง การปกครอง สวัสดิการสังคม ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ทั้งนี้โดยมีคณะบุคคลซึ่งทำหน้าที่รัฐบาลเป็นผู้คอยกำกับดูแลหากมนุษย์สามารถตัดสินใจในการจับจ่ายใช้สอย การทำงานและการประกอบธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมมีหลักเกณฑ์และมีเหตุผล ย่อมก่อให้เกิดความผาสุกในการดำรงชีวิต ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องในเรื่องราวขององค์ประกอบและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ตามสถานภาพที่ตนมีความเกี่ยวข้องทั้งโดยตรงและโดยอ้อม มนุษย์ส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจจากประสบการณ์และความคุ้นเคย แต่การมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจอย่างเป็นเรื่องเป็นราวตามที่นักวิชาการได้นำมาสรุปเป็นบทเรียนและเรียกกันว่าวิชาเศรษฐศาสตร์ ซึ่งปรากฏในรูปแนวคิด ทฤษฎีต่าง ๆ ทั้งที่เป็นพื้นฐานขั้นต้นและขั้นสูง ย่อมช่วยให้มนุษย์สามารถเรียนรู้และเข้าใจปรากฏการณ์ต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจทั้งในระดับตรัวเรือนและระดับประเทศได้รวดเร็วและง่ายขึ้น ซึ่งทำให้การเลือกและการตัดสินใจในเรื่องราวเกี่ยวกับเศรษฐกิจตามบทบาทของตนทั้งในฐานที่เป็นแรงงาน ผู้ผลิต ผู้บริโภค ผู้ประกอบการหรือรัฐบาล สามารถเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสมมีหลักเกณฑ์ มีเหตุผลและส่งผลดีทั้งต่อมนุษย์ในระดับส่วนบุคคล ครอบครัว และส่วนรวม เศรษฐศาสตร์ จึงเป็นวิชาที่มีความสำคัญทั้งต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ระดับบุคคล และต่อการพัฒนาประเทศส่วนรวมการศึกษาเศรษฐศาสตร์ในระดับเบื้องต้นมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้เรียนหรือผู้ศึกษาเศรษฐศาสตร์หรือบุคคลโดยทั่วไปมีความรู้ ความเข้าใจ มีทัศนคติ และมีพฤติกรรมทางเศรษฐกิจที่ถูกต้อง และเหมาะสมกับสถานภาพทางเศรษฐกิจของตน และสถานภาพของสังคมทั้งในปัจจุบันและในภายหน้า ไม่ว่ามนุษย์จะมีสถานภาพเป็นผู้บริโภค ผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้ผลืต ผู้ประกอบการ เจ้าของที่ดิน เจ้าของทุน เจ้าของแรงงาน ผู้บริหารประเทศ ต้องสามารถดำรงชีวิตประจำวันโดยคำนึงถึงหลักการสำคัญทางเศรษฐศาสตร์ คือ ทรัพยากรในโลกมีจำนวนจำกัด บุคคลในสังคมจะต้องเป็นที่มีเหตุผลที่เหมาะสมในการเลือกกระทำการต่าง ๆ โดยเฉพาะการเลือกใช้ทรัพยากรซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด อย่างประหยัด และก่อให้เกิดผลที่คุ้มค่าแก่ตนเองและสังคม โดยไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นและแก่สังคม ในกรณีที่จำเป็นต้องกระทำการใด ๆ ที่ก่อให้เกิดทั้งผลดีและผลเสียแก่ตนและสังคม มนุษย์จักต้องเลือกกระทำการดังกล่าวในลักษณะที่ก่อให้เกิดทั้งผลเสียต่อตนเองและต่อสังคมน้อยที่สุด และควรใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด เพื่อให้บุคคลอื่นและบุคคลรุ่นหลังได้มีโอกาสใช้ประโยชน์จากทรัพยากรด้วย อาทิ บุคคลในครัวเรือนไม่ควรเปิดน้ำประปาทิ้งโดยไม่ใช้ประโยชน์ ผู้ประกอบการไม่ควรปล่อยน้ำเสียจากโรงงานลงในแม่น้ำลำคลองโดยปราศจากการบำบัด รัฐบาลไม่ควรจัดสรรงบประมาณรายจ่ายในโครงการตัดถนนในหมู่บ้านชนบทในลักษณะที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่นักการเมือง หรือข้าราชการ แต่เกิดประโยชน์ในการใช้งานน้อยองค์การเศรษฐกิจระหว่างประเทศ หมายถึง องค์การที่มีบทบาทและอิทธิพลมากที่สุดในกระบวนการกำหนดนโยบายทางด้าน เศรษฐกิจของสังคมโลก ซึ่งองค์การเหล่านี้จะทำหน้าที่ดูแลให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตามกติกาของสังคม โลก อีกทั้งผลักดันให้ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเสรีนิยม และมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการให้เหมาะสม ขณะเดียวกันส่งเสริมให้ภาคเอกชน มีบทบาททางเศรษฐกิจ ตลอดทั้งมีการถ่ายโอนการผลิตไปสู่เอกชน (Privatization) โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งเสริมให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในแต่ละประเทศเพื่อให้ ระบบทุนนิยมโลกขยายตัวและเป็นองค์การที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางทางการเงิน ตลอดจนอำนวยความสะดวกทางด้านการเงินระหว่างประเทศ ดังรายละเอียดดังนี้ 1.กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF) |