จักรพรรดิโรมันตะวันตกองค์สุดท้ายคือใคร

จักรวรรดิโรมัน (ละติน: Imperium Rōmānum [ɪmˈpɛri.ũː roːˈmaːnũː]; กรีก: Βασιλεία τῶν Ῥωμαίων; อังกฤษ: Roman Empire) เป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งของอารยธรรมโรมันโบราณซึ่งปกครองโดยรูปแบบอัตตาธิปไตย จักรวรรดิโรมันได้สืบต่อการปกครองมาจากสาธารณรัฐโรมัน (510 ปีก่อนคริสตกาล – ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตาล) ซึ่งได้อ่อนแอลงหลังจากความขัดแย้งระหว่างไกอุส มาริอุสและซุลลา และสงครามกลางเมืองระหว่างจูเลียส ซีซาร์และปอมปีย์[8] มีวันหลายวันที่ได้ถูกเสนอให้เป็นเส้นแบ่งของการเปลี่ยนแปลงระหว่างสาธารณรัฐและจักรวรรดิ ได้แก่

  • วันที่จูเลียส ซีซาร์ประกาศตัวเป็นผู้เผด็จการ (44 ปีก่อนคริสตกาล)
  • ชัยชนะของออคเตเวียนในยุทธนาวีที่อักติอูง (2 กันยายน 31 ปีก่อนคริสตกาล)
  • วันที่วุฒิสภาประกาศยกย่องออคเตเวียนให้เป็นเอากุสตุส (16 มกราคม 27 ปีก่อนคริสตกาล)

จักรวรรดิโรมัน


  • Senatus Populusque Romanus  (ละติน)
  • Imperium Romanum[n 1]  (ละติน)
  • Βασιλεία τῶν Ῥωμαίων (กรีกโบราณ)
    Basileía tôn Rhōmaíōn

27 ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ. 476 (วันที่ดั้งเดิม)[1][2]
ค.ศ. 395 – 476/480 (ตะวันตก)
ค.ศ. 395–1453 (ตะวันออก)

จักรพรรดิโรมันตะวันตกองค์สุดท้ายคือใคร

เว็กซีเลียม
ที่มีอินทรีจักรวรรดิ

จักรพรรดิโรมันตะวันตกองค์สุดท้ายคือใคร

อินทรีจักรวรรดิ

จักรพรรดิโรมันตะวันตกองค์สุดท้ายคือใคร

จักรวรรดิโรมันในช่วงสูงสุดเมื่อ ค.ศ. 117 ในช่วงที่จักรพรรดิไตรยานุสสวรรคต (รัฐบริวารเป็นสีชมพู)[4]

เมืองหลวง

  • โรม
    (โดยพฤตินัยและโดยนิตินัยใน 27 ปีก่อนคริสต์ศักราชถึง ค.ศ. 286 ส่วนนิตินัยอยู่ใน ค.ศ. 286 ถึง 476)
  • เมดีโอลานูง
    (ค.ศ. 286–402, ตะวันตก)
  • ราเวนนา
    (ค.ศ. 402–476, ตะวันตก)
  • นีโกเมเดีย
    (ค.ศ. 286–330, ตะวันออก)
  • คอนสแตนติโนเปิล
    (ค.ศ. 330–1453, ตะวันออก)

ภาษาทั่วไป

  • ภาษาลาตินและกรีก
  • ภาษาในภูมิภาค / ท้องถิ่น

ศาสนา

  • พหุเทวนิยมที่นำโดยลัทธิจักรวรรดิ
    (ก่อน ค.ศ. 274)
  • เข้าร่วมลัทธิสุริยะอติเทวนิยมของโซลอินวิกตุส
    (ก่อน ค.ศ. 380)
  • คริสตจักรไนซีน
    (ทางการ, ค.ศ. 380 เป็นต้นมา)

การปกครองราชาธิปไตยกึ่งโดยเลือกตั้ง, ตามระบบเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์
จักรพรรดิ 

 27 ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ. 14

เอากุสตุส (องค์แรก)

 ค.ศ. 98–117

ไตรยานุส

 ค.ศ. 270–275

ออเรเลียน

 ค.ศ. 284–305

ดิออเกลติอานุส

 ค.ศ. 306–337

คอนสแตนตินมหาราช

 ค.ศ. 379–395

เทออดอซิอุสที่ 1[n 2]

 ค.ศ. 474–480

ยูลิอุส แนโปส[n 3]

 ค.ศ. 475–476

โรมุลุส เอากุสตุส

 ค.ศ. 527–565

ยุสตินิอานุสที่ 1

 ค.ศ. 610–641

เฮราคลิอัส

 ค.ศ. 780–797

คอนสแตนตินที่ 6[n 4]

 ค.ศ. 976–1025

เบซิลที่ 2

 ค.ศ. 1449–1453

คอนสแตนตินที่ 11[n 5]
สภานิติบัญญัติวุฒิสภา
ยุคประวัติศาสตร์สมัยคลาสสิกถึงสมัยกลางตอนปลาย

 สงครามครั้งสุดท้ายของ
สาธารณรัฐโรมัน

32–30 ปีก่อนคริสต์ศักราช

 ก่อตั้งจักรวรรดิ

30–2 ปีก่อนคริสต์ศักราช

 คอนสแตนติโนเปิล
กลายเป็นเมืองหลวง

11 พฤษภาคม ค.ศ. 330

 การแบ่งตะวันออก-ตะวันตกครั้งสุดท้าย

17 มกราคม ค.ศ. 395

 การปลดจักรพรรดิโรมุลุส เอากุสตุส

4 กันยายน ค.ศ. 476

 การสังหารจักรพรรดิยูลิอุส แนโปส

25 เมษายน ค.ศ. 480

 สงครามครูเสดครั้งที่ 4

12 เมษายน ค.ศ. 1204

 การพิชิตคอนสแตนติโนเปิลอีกครั้ง

25 กรกฎาคม ค.ศ. 1261

 การเสียกรุงคอนสแตนติโนเปิล

29 พฤษภาคม 1453

 เตรบีซอนด์ล่มสลาย

15 สิงหาคม ค.ศ. 1461
พื้นที่
25 ปีก่อนคริสต์ศักราช[5]2,750,000 ตารางกิโลเมตร (1,060,000 ตารางไมล์)
ค.ศ. 117[5][6]5,000,000 ตารางกิโลเมตร (1,900,000 ตารางไมล์)
ค.ศ. 390[5]4,400,000 ตารางกิโลเมตร (1,700,000 ตารางไมล์)
ประชากร

 25 ปีก่อนคริสต์ศักราช[7]

56,800,000
สกุลเงินเซ็ซเตรีอุส, เอาเรอุส, โซลีดุส, โนมิสตา
ก่อนหน้า ถัดไป
จักรพรรดิโรมันตะวันตกองค์สุดท้ายคือใคร
สาธารณรัฐโรมัน
จักรวรรดิโรมันตะวันตก
จักรพรรดิโรมันตะวันตกองค์สุดท้ายคือใคร
จักรวรรดิโรมันตะวันออก
จักรพรรดิโรมันตะวันตกองค์สุดท้ายคือใคร

จักรพรรดิโรมันตะวันตกองค์สุดท้ายคือใคร
จักรวรรดิโรมันในช่วงเวลาต่างๆกัน

จักรวรรดิโรมันเคยมีดินแดนอยู่ในการครอบครองมากมาย ได้แก่ อังกฤษและเวลส์ ยุโรปส่วนใหญ่ (ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไรน์และทางใต้ของเทือกเขาแอลป์) ชายฝั่งของแอฟริกาเหนือ บริเวณมณฑลใกล้เคียงของอียิปต์ แถบบอลข่าน ทะเลดำ เอเชียไมเนอร์ และส่วนใหญ่ของบริเวณลิแวนต์ ซึ่งดินแดนเหล่านี้ จากตะวันตกสู่ตะวันออกในปัจจุบันได้แก่ โปรตุเกส สเปน อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี แอลเบเนียและกรีซ แถบบอลข่าน ตุรกี ภาคตะวันออกและภาคตะวันตกของเยอรมนี ทางภาคใต้จักรวรรดิโรมันได้รวบรวมตะวันออกกลางไว้ ซี่งในปัจจุบันก็ได้แก่ซีเรีย เลบานอน อิสราเอล จอร์แดน จากนั้นในภาคตะวันตกเฉียงใต้ จักรวรรดิได้รวบรวมอียิปต์โบราณไว้ทั้งหมด และได้ทำการยึดครองต่อไปทางตะวันตกซึ่งเป็นบริเวณชายฝั่งทะเลซี่งในปัจจุบันคือประเทศลิเบีย ตูนิเซีย แอลจีเรียและโมร็อกโก จนถึงตะวันตกของยิบรอลตาร์ ประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในจักรวรรดิโรมันเรียกว่าชาวโรมัน และดำเนินชีวิตภายใต้กฎหมายโรมัน การขยายอำนาจของโรมันได้เริ่มมานานตั้งแต่ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และเรืองอำนาจสูงสุดในสมัยจักรพรรดิทราจัน ด้วยชัยชนะเหนือดาเซีย (ปัจจุบันคือประเทศโรมาเนียและมอลโดวา และส่วนหนึ่งของประเทศฮังการี บัลแกเรียและยูเครน) ในปี ค.ศ. 106 และเมโสโปเตเมียในปี ค.ศ. 116 (ซึ่งภายหลังสูญเสียดินแดนนี้ไปในสมัยจักรพรรดิฮาดริอานุส) ถึงจุดนี้ จักรวรรดิโรมันได้ครอบครองแผ่นดินประมาณ 5,900,000 ตารางกิโลเมตร (2,300,000 ตารางไมล์) และห้อมล้อมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งชาวโรมันเรียกทะเลนี้ว่า mare nostrum ("ทะเลของเรา") อิทธิพลของโรมันได้ส่งผลต่อการพัฒนาทางด้านภาษา ศาสนา สถาปัตยกรรม ปรัชญา กฎหมายและระบบการเมืองมาจนถึงทุกวันนี้

จักรวรรดิถูกแบ่งออกเป็นฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกในสมัยของจักรพรรดิไดโอคลีเชียน และถือว่าจักรวรรดิโรมันล่มสลายลงในช่วงเวลาประมาณวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 476 เมื่อจักรพรรดิโรมุลุส เอากุสตุส จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายของจักรวรรดิโรมันตะวันตกถูกขับไล่และเกิดการจลาจลขึ้นในโรม (ดูในการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน) อย่างไรก็ตาม จักรวรรดิโรมันตะวันออก หรือที่รู้จักกันในชื่อจักรวรรดิไบแซนไทน์ ก็ได้รักษากฎหมาย ขนบธรรมเนียมประเพณีแบบกรีก-โรมัน รวมถึงศาสนาคริสต์นิกายออโธดอกซ์ไว้ได้ในอีกสหัสวรรษต่อมา จนถึงการล่มสลายเมื่อเสียกรุงคอนสแตนติโนเปิลให้กับจักรวรรดิออตโตมัน ในปีค.ศ. 1453