โพสต์1 ส.ค. 2561 22:46โดยนายชัชวาล พรหมเรือง Show สวัสดีครับพี่น้องเพื่อครู สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ทุกท่าน และคิดว่าทุกท่านคงทราบเรื่องที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้เป็นอย่างดี นั้นคือ "วิธีการทางประวัติศาสตร์" ซึ่งมีอยู่ 5 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การกำหนดเป้าหมาย ขั้นตอนแรก นักประวัติศาสตร์ต้องมีจุดประสงค์ชัดเจนว่าจะศึกษาอะไร อดีตส่วนไหน สมัยอะไร และเพราะเหตุใด เป็นการตั้งคำถามที่ต้องการศึกษา นักประวัติศาสตร์ต้องอาศัยการอ่าน การสังเกต และควรต้องมีความรู้กว้างๆ ทางประวัติศาสตร์ในเรื่องนั้นๆมาก่อนบ้าง ซึ่งคำถามหลักที่นักประวัติศาสตร์ควรคำนึงอยู่ตลอดเวลาก็คือทำไมและเกิดขึ้น อย่างไร ขั้นตอนที่ 2 การรวบรวมข้อมูล ขั้นตอนที่ 3 การประเมินคุณค่าของหลักฐาน วิพากษ์ วิธีทางประวัติศาสตร์ คือ การตรวจสอบหลักฐานและข้อมูลในหลักฐานเหล่านั้นว่า มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ประกอบด้วยการวิพากษ์หลักฐานและวิพากษ์ข้อมูลโดยขั้นตอนทั้งสองจะกระทำควบ คู่กันไป เนื่องจากการตรวจสอบหลักฐานต้องพิจารณาจากเนื้อหา หรือข้อมูลภายในหลักฐานนั้น และในการวิพากษ์ข้อมูลก็ต้องอาศัยรูปลักษณะของหลักฐานภายนอกประกอบด้วยการ วิพากษ์หลักฐานหรือวิพากษ์ภายนอกการวิพากษ์หลักฐาน (external criticism) คือ การพิจารณาตรวจสอบหลักฐานที่ได้คัดเลือกไว้แต่ละชิ้นว่ามีความน่าเชื่อถือ เพียงใด แต่เป็นเพียงการประเมินตัวหลักฐาน มิได้มุ่งที่ข้อมูลในหลักฐาน ดังนั้นขั้นตอนนี้เป็นการสกัดหลักฐานที่ไม่น่าเชื่อถือออกไปการวิพากษ์ ข้อมูลหรือวิพากษ์ภายในการวิพากษ์ข้อมูล (internal criticism) คือ การพิจารณาเนื้อหาหรือความหมายที่แสดงออกในหลักฐานเพื่อประเมินว่าน่าเชื่อ ถือเพียงใด โดยเน้นถึงความถูกต้อง คุณค่า ตลอดจนความหมายที่แท้จริง ซึ่งนับว่ามีความสำคัญต่อการประเมินหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร เพราะข้อมูลในเอกสารมีทั้งที่คลาดเคลื่อน และมีอคติของผู้บันทึกแฝงอยู่ หากนักประวัติศาสตร์ละเลยการวิพากษ์ข้อมูลผลที่ออกมาอาจจะผิดพลาดจากความ เป็นจริง ขั้นตอนที่ 4 การตีความหลักฐาน การ ตีความหลักฐาน หมายถึง การพิจารณาข้อมูลในหลักฐานว่าผู้สร้างหลักฐานมีเจตนาที่แท้จริงอย่างไร โดย ดูจากลีลาการเขียนของผู้บันทึกและรูปร่างลักษณะโดยทั่วไปของประดิษฐกรรม ต่างๆเพื่อให้ได้ความหมายที่แท้จริงซึ่งอาจแอบแฟงโดยเจตนาหรือไม่ก็ตามในการ ตีความหลักฐาน นักประวัติศาสตร์จึงต้องพยายามจับความหมายจากสำนวนโวหาร ทัศนคติความเชื่อ ฯลฯ ของผู้เขียนและสังคมในยุคสมัยนั้นประกอบด้วย เพื่อทีจะได้ทราบว่าถ้อยความนั้นนอกจากจะหมายความตามตัวอักษรแล้วยังมีความ หมายที่แท้จริงอะไรแฝงอยู่ ขั้นตอนที่ 5 การสังเคราะห์และการวิเคราะห์ข้อมูล ในการนำเสนอครั้งนี้เป็นองค์ความรู้ ของการศึกษาประวัติศาสตร์มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ กาลเวลาและนักประวัติศาสตร์ ดังนั้นจำเป็นต้องมีการรวบรวมค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์หาเหตุผล และข้อสรุป ซึ่งจะเป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด โดยวิธีการทางประวัติศาสตร์ ในครั้งต่อไปจะนำวิธีการเหล่านี้ นำไปใช้ในการปฏิบัติจริง และจะนำผลการปฏิบัติมาแลกเปลี่ยนกับพี่น้องเพื่อนครู ศน.ปู อ้างอิง https://sites.google.com/site/kruchuychay/home ข้อใดคือการวิพากษ์ภายในการวิพากษ์ภายใน (internal criticism) คือการตีความเนื้อหาที่ปรากฏในหลักฐาน ซึ่งการวิพากษ์ ภายนอกนั้นเป็นเพียงขั้นต้นเพื่อให้เรามั่นใจว่าผู้แต่ง เวลาและสถานที่ของหลักฐานที่เราจะศึกษานั้นมีความ ถูกต้อง ขั้นต่อมาเราจึงพิจารณาสิ่งที่เนื้อหาในหลักฐานบอกแก่เรา การวิพากษ์ภายในนี้อาจเรียกอีกอย่างหนึ่ง ว่าการวิพากษ์ข้อสนเทศ ...
วิพากษ์วิธีคืออะไรการประเมินคุณค่าของหลักฐาน หรือการวิพากษ์วิธีทางประวัติศาสตร์ คือ การตรวจสอบหลักฐานและ ข้อมูลในหลักฐานเหล่านั้นว่า มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ประกอบด้วยการวิพากษ์หลักฐานและวิพากษ์ข้อมูลโดย ขั้นตอนทั้งสอง จะกระท าควบคู่กันไป เนื่องจากการตรวจสอบหลักฐานต้องพิจารณาจากเนื้อหา หรือข้อมูล ภายในหลักฐานนั้น และในการวิพากษ์ข้อมูล ...
ข้อใดเป็นการวิพากษ์ข้อสนเทศส่วนการตรวจสอบภายในหรือการวิพากษ์ข้อสนเทศของพระราชพงศาวดารฉบับนี้ ก็คือ การศึกษาเนื้อหาในพระราชพงศาวดารทั้งหมดว่าบอกเกี่ยวกับเรื่องอะไร หมายความว่าอย่างไร ตลอดจนถึงศึกษาลึกลงไปว่าผู้เขียนเขียนขึ้นเพื่อหวังสิ่งใด เขียนขึ้นโดยอยู่บนความยุติธรรมหรือไม่ ดังนั้นการตรวจสอบภายในหรือการวิพากษ์ข้อสนเทศจึงหมายถึง การพยายามตีความ ...
ข้อใดหมายถึง วิพากษ์วิธีทางประวัติศาสตร์วิพากษ์วิธีทางประวัติศาสตร์ คือ การตรวจสอบหลักฐานและข้อมูลในหลักฐานเหล่านั้นว่า มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ประกอบด้วยการวิพากษ์หลักฐานและวิพากษ์ข้อมูลโดยขั้นตอนทั้งสองจะกระท าควบคู่กันไป เนื่องจากการตรวจสอบหลักฐานต้อง พิจารณาจากเนื้อหา หรือข้อมูลภายในหลักฐานนั้น และในการวิพากษ์ข้อมูลก็ต้องอาศัยรูปลักษณะของหลักฐานภายนอก ...
|