ข้อ ใด ไม่ ได้ จัด เป็นยุคทองของ

การจัดเก็บส่วยสาอากรทั้ง 4 ประเภท ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้ถูกกำหนดเป็นรูปแบบการจัดเก็บต่อเนื่องมาจนถึงสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี และตอนต้นรัชกาลที่ 1 - รัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จนถึงในสมัยรัชกาลที่ 3 พระบามสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทร์ รัฐบาลมีความจำเป็นที่ต้องการใช้เงินในราชการมากกว่าแต่ก่อนพระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเป็นผลให้เกิดการจัดเก็บภาษีขึ้นใหม่ 38 ประเภท ทั้งนี้โดยเป็นภาษีที่เก็บจากการพนัน และจากผลผลิตประเภทต่างๆ จำแนกได้ดังนี้
ต้องขายจุดเด่นของตัวเอง รักษาตัวตน สร้างความน่าเชื่อถือ และต้องไม่หยุดพัฒนา เตือน!!! คู่แข่งมีจำนวนมากขึ้น ราคาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการแข่งขันอย่างดุเดือด

 

                                             กระทรวงพาณิชย์ แนะพ่อค้า-แม่ค้าขายของยุคโควิด-19 ทางออนไลน์ ต้องขายจุดเด่นของตัวเอง รักษาความเป็นตัวตน สร้างความน่าเชื่อถือ และต้องไม่หยุดพัฒนา เตือน!!! คู่แข่งในตลาดมีมากขึ้น ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มขึ้น ราคาและการบริการจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการแข่งขันอย่างดุเดือด ทั้งราคาสินค้าและอัตราค่าส่งสินค้า เกิดการเปรียบเทียบคุณสมบัติผู้ค้า ความน่าเชื่อถือ สินค้า แพคเกจจิ้ง ราคา การขนส่งที่รวดเร็ว และการสื่อสารกับลูกค้า ผู้ขายที่มีคุณสมบัติครบถ้วนมีโอกาสเติบโตและทำกำไรระยะยาว พร้อมเชิญชวนลงทะเบียนขอรับเครื่องหมาย DBD Registered สร้างความมีตัวตนในโลกออนไลน์ สร้างโอกาสและความได้เปรียบทางการตลาดให้ธุรกิจ

 

                                               นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เป็นยุคทองของการค้าออนไลน์อย่างแท้จริง เนื่องจากคนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้านเพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อโรค ประกอบกับการสั่งสินค้าออนไลน์ในปัจจุบันมีองค์ประกอบเกื้อหนุนที่ช่วยให้การซื้อสินค้ามีความสะดวกสบายมากขึ้น เช่น การจ่ายเงินผ่านระบบ e-Payment ผู้ให้บริการขนส่งมีให้เลือกหลากหลาย ผู้ค้าในตลาดมีเป็นจำนวนมากทำให้เกิดการแข่งขันด้านคุณภาพและราคา ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบและเลือกซื้อสินค้า/บริการจากผู้ขายที่มีคุณสมบัติเหมือนกันแต่ราคาย่อมเยากว่า และเข้าถึงผู้บริโภคในยุคนี้ได้อย่างโดนใจ"

 

                                          "การขายสินค้าออนไลน์ให้ได้รับผลกำไรและอยู่ในธุรกิจระยะยาวต้องมีการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดี เนื่องจากปัจจุบันตลาดออนไลน์มีคู่แข่งจำนวนมาก มีช่องทางการขายที่หลากหลายทั้งบนเว็บไซต์เฉพาะ แพลตฟอร์มอี-มาร์เก็ตเพลส หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งทุกช่องทางล้วนแล้วแต่มีกลุ่มเป้าหมาย/กลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน แต่ก็มีโอกาสที่กลุ่มลูกค้าจากช่องทางหนึ่งจะไปเปรียบเทียบราคาหรือคุณภาพสินค้ากับอีกช่องทางหนึ่ง เพื่อให้ได้สินค้าและราคาที่โดนใจมากที่สุด รวมถึงความพึงพอใจที่ได้รับจากผู้ค้า เช่น ความน่าเชื่อถือ แพคเกจจิ้ง การขนส่งที่รวดเร็ว และการสื่อสารกับลูกค้าแบบทันทีทันใด (Real Time) ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภค"

 

                                          รมช.พณ.กล่าวต่อว่า "การสร้างรอยัลตี้ให้เกิดขึ้นกับการค้าออนไลน์จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยผู้ขายต้องปรับตัว เปลี่ยนวิธีนำเสนอสินค้าให้มีความทันสมัยและสอดรับกับเทรนด์ของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะคอนเท้นต์ที่ใช้โปรโมทหรือขายสินค้าต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะสินค้าออนไลน์เป็นสินค้าที่ไม่สามารถสัมผัสจับต้องได้ ผู้ซื้อจะตัดสินใจซื้อสินค้าจากสิ่งที่เห็น คอนเท้นต์ และรายละเอียดที่ได้รับ ดังนั้น ถ้าคอนเท้นต์โดนใจก็มีโอกาสที่จะขายสินค้าชิ้นนั้นได้ไม่ยาก ขณะเดียวกัน ผู้ขายต้องมีความจริงใจ มีวิธีการขายที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นจุดเด่นของตัวเอง รักษาความเป็นตัวตนไว้ให้ได้ และต้องไม่หยุดพัฒนารูปแบบการขาย เช่น การ Live ขายสินค้า แทนที่จะนำสินค้าไปถ่ายภาพและโพสต์ขึ้นขายเพียงอย่างเดียว"

 

                                             "นอกจากนี้ ในกรณีที่ขายสินค้าไม่ได้ ต้องมาวิเคราะห์หาสาเหตุ โดยเฉพาะตัวสินค้าว่าเป็นที่ต้องการและโดนใจผู้บริโภคหรือไม่ ราคาเป็นอย่างไร ช่องทางการจำหน่ายมีความหลากหลายครอบคลุมกลุ่มลูกค้าและพื้นที่หรือไม่ ตลอดจนบรรจุภัณฑ์ได้รับการออกแบบมาให้เหมาะกับการค้าออนไลน์หรือไม่ กล่าวคือ ต้องสวยงามและสามารถส่งมอบสินค้าไปถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัยไม่ชำรุดเสียหาย การบริการทั้งก่อนและหลังการขายก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การช่วยตอบข้อสงสัยหรืออธิบายเกี่ยวกับสินค้าอย่างกระชับฉับไว จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้น เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่จะช่วยส่งเสริมให้การค้าออนไลน์ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก"

 

                                          "การปรับตัวให้ทันสถานการณ์และทันกระแสนิยมเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ เนื่องจาก ผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ส่วนใหญ่มีการเปิดรับข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งข่าวสารที่เผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์จะมีความรวดเร็ว และเกิดเป็นกระแสขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้น การติดตามข่าวสารและปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ปรับตัวให้ทันแฟชั่น ทันคู่แข่ง ทันตลาด ปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอสินค้าให้มีความหลากหลาย ก็จะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะทำให้ได้เปรียบคู่แข่งขันในตลาด"

 

                                               "พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ต้องเตรียมรับมือกับคู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งคู่แข่งรายเก่า (ที่มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การขาย) และรายใหม่ (ขยายช่องทางการตลาดจากหน้าร้านสู่ช่องทางออนไลน์ และจากพนักงานประจำมาขายสินค้าออนไลน์เป็นอาชีพ) ราคาและการบริการจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการแข่งขันอย่างดุเดือด ดังนั้น ผู้ขายที่มีความพร้อมในทุกด้านมากที่สุดจะสามารถยืนหยัดบนโลกออนไลน์ได้ในระยะยาว และสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง"

 

                                                "และที่สำคัญมากที่สุดที่ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ คือ การสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดแก่ร้านค้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น จึงขอเชิญชวนผู้ที่กำลังค้าขายออนไลน์อยู่ขณะนี้ และยังไม่ได้ขอรับเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ DBD Registered จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สามารถขอรับเครื่องหมายฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.trustmarkthai.com ทั้งนี้ เครื่องหมาย DBD Registered เป็นเครื่องหมาย ที่แสดงถึงความมีตัวตนของผู้ขายในโลกออนไลน์ ผู้ซื้อสามารถดูรายละเอียดของผู้ขายสินค้าได้ ซึ่งจะสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นแก่ผู้ขาย และสร้างความมั่นใจในการซื้อสินค้าของผู้ซื้อ เป็นการสร้างโอกาสและความได้เปรียบทางการตลาดให้ธุรกิจอีกทางหนึ่ง" รมช.พณ.กล่าวทิ้งท้าย

 

                                                  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร 0 2547 5959-60 e-Mail : [email protected] สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th

 

#วีรศักดิ์ดูแล#WeerasakTakeCare

************************************************

ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์                                        ฉบับที่ 44 / วันที่ 22 มกราคม 2564

ข้อใดคือยุคทองของวรรณกรรมไทยสมัยอยุธยา *

ในสมัยอยุธยาตอนต้น ถือเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ยุคทองของวรรณคดีไทย โดยมีวรรณคดีหลายเรื่องได้แก่ ลิลิตโองการแช่งน้ำ ลิลิตยวนพ่าย มหาชาติคำหลวง ลิลิตพระลอ

รัชสมัยใดถือเป็นยุคทองของวรรณคดี

รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้รับการยกย่องว่าเป็นยุคทองแห่งวรรณคดี เพราะมี นักปราชญ์ราชกวีและวรรณคดีเกิดขึ้นมากมายในเวลาเพียงรัชกาลเดียวนี้ นับแต่องค์พระมหากษัตริย์ คือ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช จนถึงบุคคลชั้นผู้น้อย ทั้งชายหญิง เช่น นายประตูต่างพากันสนใจ วรรณคดีและสามารถสร้างสรรค์วรรณคดีสําคัญหลายเรื่อง ราชสํานักของ ...

รัชกาลใดไม่ได้จัดเป็นยุคทองของกวี

รัชกาลใดมิได้จัดเป็นยุคทองของการกวีและวรรณคดี พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

เป็นยุคทองของการละครวรรณคดี" คือข้อใด

ยุคทองของวรรณคดี อยู่ในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง มีกวีเอกหลายคน คือ พระมหาราชครู สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระโหราธิบดี ศรีปราชญ์ พระศรีมโหสถและขุนเทพกวี มีวรรณคดีเกิดขึ้นหลายเรื่อง เช่น เสือโคคําฉันท์ สมุทรโฆษคําฉันท์ โคลงพาลีสอนน้อง จินดามณี อนุรุทธ์คําฉันท์กาพย์ห่อโคลงและฉันท์ดุษฎีสังเวย ...