องค์ประกอบทางการตลาด ความจำเป็นหรือความต้องการสามารถเปลี่ยนเป็นความต้องการซื้อได้ถ้ามีอำนาจซื้อและมีความเต็มใจซื้อมาประกอบกัน ความจำเป็น ความต้องการและความต้องการการซื้อเป็นจุดเริ่มต้นของการตลาด ทำให้เกิดความคิดที่จะเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์ เพื่อที่จะสนองความต้องการของบุคคล ดังนั้นจุดเริ่มต้นของการตลาดก็คือการวิเคราะห์และวิจัยถึงความต้องการของบุคคลที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองแล้ว จึงจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อที่จะสนองความต้องการเหล่านั้น 2ธุรกิจต้องเสนอผลิตภัณฑ์ (product)เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์ (product) หมายถึง สิ่งที่นำเสนอต่อตลาด เพื่อตอบสนองความจำเป็น หรือความต้องการของผู้บริโภค อาจเป็นสิ่งที่มีลักษณะทางกายภาพ ซึ่งเรียกว่าสินค้า (good) และรวมถึงบริการ (services) ซึ่งเป็นกิจกรรมหรือผลประโยชน์ที่มีการเสนอขาย นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ยังหมายถึงความรู้ ความชำนาญ บุคคล สถานที่ องค์การ ข้อมูลและแนวคิด ดังนั้นผลิตภัณฑ์จึงมีความหมายกว้างมาก ผลิตภัณฑ์ที่สนองความต้องการของผู้บริโภคได้นั้น อาจเป็นสิ่งที่สนองความต้องการของร่างกาย เช่น อาหารที่ทำให้อิ่ม อาจเป็นสถานที่ซึ่งมีบรรยากาศเป็นที่ต้องการ เช่น ริมน้ำที่ได้กลิ่นของแม่น้ำ อาจเป็นเหตุการณ์ซึ่งมีผลต่อประสบการณ์ของผู้บริโภคเอง เช่น ดูภาพยนตร์บางเรื่องที่ทำให้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อยังเด็ก อาจเป็นความบันเทิงหรือเพลิดเพลิน เช่น การฟังเพลง ความคิดซึ่งเป็นที่ยอมรับ เช่น นโยบายของพรรคการเมือง สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทั้งนั้น ดังนั้นการเสนอผลิตภัณฑ์จึงควรคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับมากกว่าที่จะเป็นตัวผลิตภัณฑ์ ที่มา https://sites.google.com/site/groupmarketingsites/tidtx-rea/kar-wangphaen-klyuthth-kar-tlad-smay-him/kar-sng-serim-kar-khay/kar-khosna/naew-khwam-khid-thangkar-tlad/kar-tlad-rahwang-pra-thes/kar-sng-serim-kar-tlad/hnathi-thangkar-tlad/kar-tlad-pheux-sangkhm/klyuthth-thangkar-tlad-4-ps/xngkh-prakxb-thangkar-tlad เมนูนำทาง เรื่อง
การทำตลาดออนไลน์ (Online Marketing) ถือว่าเป็นแนวทางที่มาแรงมากในยุคนี้ทางบริษัทตัวแทนโฆษณาคือกลุ่มบริษัทไอไอเอ็มซีคอร์ปอเรชั่นจึงพิจารณากันใหม่โดยสร้างเป็นนวัตกรรมหนึ่งทางด้านการ ตลาดก็คือ จะแบ่งเป็น 2 แนวทางคือ 1. การตลาดแบบ Offline Marketing คือ การสื่อสารการตลาดโดยใชเครื่องมือกลุ่มAbove the line และ กลุ่ม Below the line Activities กล่าวคือ กิจกรรมทางโฆษณา การตลาดและการขายที่มองเห็นไม่เกี่ยวกับอินเตอร์เนต จับต้องได้นั่นเอง 2. การตลาดแบบ Online Marketing คือ การตลาดทีมีกิจกรรมบนไซเบอร์หรือระบบอินเตอร์เนตทั้งหมดนั่นเองไม่ว่า จะเป็นการซื้อการขาย การโฆษณาหรือการวางแผนการตลาดผ่านทางอินเตอร์เนต ซึงปัจจุบันจะมีความสำคัญมากและสามารถลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมากทีเดียว ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ การทำตลาดออนไลน์ ในช่วงเริ่มต้นนั้นการตลาดอาจเป็นเรื่องยากของผู้ประกอบการหน้าใหม่ รวมถึงผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจอยู่ แต่การศึกษาหาข้อมูล และการทำความเข้าใจในวิธีการการตลาดจะสามารถนำเอาข้อมูลดังกล่าวไปใช้เพิ่ม เติมความเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้อย่างตรงกลุ่มเป้า หมาย การใช้อิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องมือเชิงพาณิชย์นั้น สามารถช่วยให้ผู้ขายประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งในเรื่องของสินค้า พนักงานขาย และให้บริการได้ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง โดยเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีผู้ใช้ทั่วโลกกว่า 600 ล้านคนทำให้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่ทั้งนี้ ผู้ขายจะต้องศึกษาเรื่องของสินค้า, ช่องทางการประชาสัมพันธ์ ตลอดจนกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อให้การใช้สื่อประเภทนี้มีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นการมีเว็บไซต์เพื่อจำหน่ายสินค้าจึงไม่ใช่เครื่องรับประกันความสำเร็จทาง ธุรกิจ เพราะยังมีองค์ประกอบที่เป็นตัวแปรสำคัญ คือ “การตลาด” แต่เดิมนั้น หลายท่านอาจจะรู้จักส่วนผสมทางการตลาดเพียง 4 P คือ Product, Price, Place, Promotion แต่ปัจจุบันท่านต้องรู้จักกับอีก 2 P ใหม่คือ Personalization และ Privacy เพื่อให้เกิดแนวคิดประยุกต์ใช้องค์ประกอบการตลาดดั้งเดิม บวกกับความสามารถพิเศษของเทคโนโลยี ทำให้เกิดองค์ประกอบการตลาดแบบใหม่ได้ องค์ประกอบที่ 1 ผลิตภัณฑ์ (Product) ปัญหาสำคัญของการซื้อขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตคือ ลูกค้าไม่สามารถทดลองสินค้าได้ก่อน แม้ว่าสินค้านั้นจะดีจริง ลูกค้าส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าจากร้านที่เขาเคยได้ยินชื่อมาก่อน หรือมิฉะนั้น สินค้าจะต้องมีตรายี่ห้อ เพื่อจะได้มั่นใจในคุณภาพสินค้า และการสร้างความน่าเชื่อถือของร้านค้า ว่าจะไม่ทุจริต เพราะจำนวนเงินธุรกรรมที่ผู้บริโภคซื้อผ่านเว็บไซต์ บางครั้งก็ไม่คุ้มที่จะฟ้องร้องหากผู้ขายทุจริต นอกจากนั้น ผู้ขายจะต้องคำนึงถึงการจัดส่งสินค้าให้อยู่ในสภาพที่ดีด้วย องค์ประกอบที่ 2 ราคา (Price) องค์ประกอบที่ 3 ช่องทางการจัดจำหน่าย (Place) องค์ประกอบที่ 4 การส่งเสริมการขาย (Promotion) องค์ประกอบที่ 5 การให้บริการแบบเจาะจง (Personalization) องค์ประกอบที่ 6 การรักษาความเป็นส่วนตัว (Privacy) ทั้งนี้ส่วนผสมทางการตลาดทั้ง 6 องค์ประกอบนี้ ผู้ขายหรือผู้ผลิต ควรมีการวางแผน และสร้างกิจกรรมที่สัมพันธ์กัน ตั้งแต่การเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดกลุ่มเป้าหมาย ในระดับราคาเหมาะสม และมีชื่อโดเมนเนมที่ผู้ซื้อจดจำได้ง่าย สะกดผิดยาก มีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ชื่อเว็บไซต์ให้ลูกค้ารู้จัก และมีบริการหลังการขายที่ดีให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ อยากกลับมาใช้บริการอีกครั้ง และต้องรักษาความลับลูกค้าได้ เพียงเท่านี้ การทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้ประสบความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม ขอขอบคุณที่มา : www.thaibizcenter.com |