ข้อ ใด บอก ความ หมาย ของ URL ได้ ถูก ต้อง

Domain Name คืออะไร? แล้วต่างกับ URL ยังไง?

google.com
wikipedia.org
su.ac.th

เว็บไซต์ทั้ง 3 เว็บข้างต้นนี้ มีสิ่งที่เหมือนกันคือเป็นเว็บไซต์บนโลกออนไลน์เหมือนกันทั้งหมด แต่ก็มีสิ่งที่แตกต่างกันกันออกไปด้วย นั่นก็คือ ชื่อ และนามสกุลของเว็บไซต์ ซึ่งหลายๆ คนอาจเข้าใจว่ามันก็เหมือนๆ กัน จะใช้ชื่อ และตามหลังด้วย .com .net .co อะไรก็ได้ตามที่ต้องการ แต่แท้ที่จริงแล้วรายละเอียดทั้งหมดบน URL นั้น มีความหมายในตัวมันเองทั้งสิ้น วันนี้เราจึงจะมาอธิบายเรื่องราวของโดเมนเนม และรายละเอียดสำคัญที่คนทำเว็บต้องรู้ให้ทุกท่านได้รับชมกันครับ

Domain Name

ข้อ ใด บอก ความ หมาย ของ URL ได้ ถูก ต้อง

โดเมนเนม คือชื่อเฉพาะของเว็บไซต์นั้นๆ ที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อนำไปใช้งาน โดยปกติแล้วควรตั้งให้สั้น กระชับ และบ่งบอกความเป็นตัวเราได้ทันที และพึงระลึกเสมอว่าชื่อโดเมนยิ่งสั้น ยิ่งดี ถ้ายาวเกินไปจะทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือ โดยกลุ่มธุรกิจส่วนใหญ่มักใช้ชื่อแบรนด์ของตนเองเป็นโดเมนเนมเพื่อการจดจำที่ง่ายขึ้น ตัวอย่างชื่อโดเมน เช่น “apple”.com, “fullrichbride”.com หรือ “makewebeasy”.com เป็นต้น

หลังจากเลือกชื่อโดเมนได้แล้ว สิ่งที่ควรรู้ต่อมาก็คือ นามสกุล ที่สามารถดูได้จากส่วนขยายที่ต่อท้ายจากชื่อโดเมน ซึ่งก็คือบรรดา .com .net .co.th .org ฯลฯ ซึ่งนามสกุลเหล่านี้แม้ในทางเทคนิคจะไม่แตกต่างกันมาก และมีให้เลือกใช้กว่าพันแบบ แต่สกุลที่เราได้ยินกันบ่อยๆ อย่าง .com .net .ac .co .org นามสกุลเหล่านี้อยู่ในกลุ่มของ top-level domains (TLDs) หรือสกุลที่เป็นที่รู้จัก และคุ้นชินของผู้ใช้ทั่วโลกนั่นเอง ซึ่งนามสกุลแต่ละอันสามารถระบุประเภทของเว็บไซต์นั้นๆ ได้ในบางครั้งด้วย อันเนื่องมาจากการใช้งานส่วนใหญ่ของประเภทเว็บไซต์ที่ใช้งานกันมายาวนาน โดยอาจจำแนกเป็นประเภทได้ ดังนี้

.com – เว็บไซต์เชิงพาณิชย์ ร้านค้า หรือเว็บไซต์ทั่วไป
.net – เว็บไซต์เกี่ยวกับระบบ Network
.org – เว็บไซต์องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร
.ac.th – เว็บไซต์สถาบันการศึกษาในประเทศไทย
.co.th – เว็บไซต์องค์กรธุรกิจที่จดทะเบียนพาณิชย์ในประเทศไทย
.go.th – เว็บไซต์หน่วยงานของรัฐบาลไทย
.or.th – เว็บไซต์ราชการ หรือองค์กรเอกชนไม่แสวงหาผลกำไรในประเทศไทย

แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ นามสกุลที่ตามหลังชื่อโดเมนมีให้เลือกมากมายกว่าพันแบบ ซึ่งนามสกุลกลุ่มใหม่ๆ นี้อาจไม่ได้ถูกจัดอยู่ในกรุ๊ป TLDs แต่เป็นกลุ่มใหม่ เช่น tv.line.me หรือ www.thinkparty.agency เป็นต้น

สาเหตุที่เว็บไซต์ส่วนใหญ่เลือกใช้นามสกุลเดิมๆ เป็นเพราะว่า ชื่อเหล่านั้นคุ้นหูผู้ใช้อยู่แล้ว จดจำง่าย และภาพลักษณ์ดูน่าเชื่อถือ ซึ่งถ้าหากลองเปลี่ยนไปใช้นามสกุลอื่นที่ไม่คุ้นหู ผู้ใช้ก็อาจจะไม่เชื่อถือเว็บไซต์นั้นๆ ก็เป็นได้

URL (Universal Resource Locator)

ข้อ ใด บอก ความ หมาย ของ URL ได้ ถูก ต้อง

URL คือรายละเอียดที่อยู่ที่จะสามารถนำทางไปยังเว็บไซต์นั้นๆ ได้ สมมติง่ายๆ ให้เว็บไซต์เป็นบ้านที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง Domain Name คือชื่อบ้านหลังนั้น ส่วน URL คือเส้นทางที่จะพาไปยังบ้านหลังนั้นนั่นเอง โดย URL จะประกอบไปด้วย

ส่วนแรก – ระบบรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์ที่เรียกว่า SSL ซึ่งเว็บไซต์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยนี้จะมีชื่อ https อยู่ด้านหน้า URL (อ่านเรื่อง SSL อย่างละเอียดต่อได้ที่นี่)

ส่วนที่สอง – ชื่อโดเมนของเรา เช่น www.makewebeasy

ส่วนที่สาม – นามสกุลต่อท้าย เช่น .com .net .co.th เป็นต้น

ถ้ารวมข้อมูลทั้งสามส่วนเข้าด้วยกันจะได้ผลลัพธ์เป็น https://www.makewebeasy.com ซึ่งถ้าเรานำเอา URL ทั้งหมดไปใส่ในช่องกรอก URL ก็จะเป็นการนำทางไปยังเว็บไซต์ของเรานั่นเอง

Website

ข้อ ใด บอก ความ หมาย ของ URL ได้ ถูก ต้อง

แม้ว่าคุณจะซื้อชื่อโดเมนเรียบร้อยแล้ว มี URL แล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณมีเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว เพราะ Website เป็นจุดหมายปลายทางในโลกออนไลน์ที่ต้องสร้างขึ้นมาอีกทีหนึ่ง ถ้าจะอธิบายง่ายๆ ก็คือ เปรียบเทียบเว็บไซต์เป็นร้านขายสินค้า ชื่อโดเมนคือชื่อร้านค้า, URL คือที่อยู่ของร้าน ส่วน Website คือตัวร้านจริงๆ ที่มีสินค้าให้เลือกซื้อ

นอกจากนี้ ภายใน Website ยังจะต้องมีคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น บทความ, บทสัมภาษณ์, รายละเอียดสินค้าหรือบริการ, รูปภาพ หรือสื่ออื่นๆ ที่สามารถใส่ลงไปได้

หลังจากที่ได้รู้จักกับความแตกต่างของ Domain Name, URL และ Website กันไปแล้ว หวังว่าท่านผู้อ่านจะเข้าใจส่วนประกอบของเว็บไซต์มากขึ้นก่อนลงมือทำ แม้ว่ารายละเอียดของหลายๆ ส่วนนั้นจะดูยาก แต่ในปัจจุบันการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาสักหนึ่งเว็บ เรียกได้ว่ามีความง่ายมากๆ หากเทียบกับในสมัยก่อน ซึ่งเจ้าของธุรกิจหลายรายหันมาทำเว็บไซต์เพื่อสู้กับคู่แข่งในโลกออนไลน์กันมากขึ้น และสำหรับบางธุรกิจ การมีเว็บไซต์ก็ทำให้ผลประกอบการของพวกเขาเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดด้วย ในบทความหน้า เราจะนำเอาเทคนิคดีๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์มาฝากทุกท่านกันนะครับ

Settawut Prasit