เทคโนโลยี IEEE 802.11 มีหลายมาตรฐาน แต่ได้รับความนิยม 7 ชนิดด้วยกันประกอบด้วย
– IEEE 802.11a มีการรับส่งข้อมูลได้สูงสุด 56Mbps บนความถี่ 5Ghz ซึ่งมีคลื่นรบกวนน้อยกว่า 2.4Ghz แต่ด้วยการใช้ความถี่ในการส่งสัญญาณที่สูงทำให้ระยะในการส่งสัญญาณค่อนข้างไกล้กว่า 2.4Ghz ทะลุทะลวงสิ่งกีดขวางได้น้อยประมาน 35 เมตรในโครงสร้างปิด และ 120 เมตรในพื่นที่โล่ง (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมต่างๆด้วย)
– IEEE 802.11b มีการรับส่งข้อมูลได้สูงสุดที่ 11Mbps บนความถี่ 2.4Ghz ด้วยความถี่ที่ต่ำทำให้สามารถส่งสัญญาณและทะลุทะลวงสิ่งกีดขวางได้ดีกว่า 5Ghz โดยอยู่ที่ 38เมตร ในโครงสร้างแบบปิด และ 140เมตร ในพื่นที่โล่ง(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมต่างๆด้วย)
– IEEE 802.11g มีการรับส่งข้อมูลได้สูงสุดที่ 36-54Mbps สามารถปรับความเร็วลดลงได้ต่ำที่สุดอยู่ที่ 2Mbps บนความถี่ 2.4Ghz ด้วยความถี่ที่ต่ำทำให้สามารถส่งสัญญาณและทะลุทะลวงสิ่งกีดขวางได้ดีกว่า 5Ghz โดยอยู่ที่ 38เมตร ในโครงสร้างแบบปิด และ 140เมตร ในพื่นที่โล่ง(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมต่างๆด้วย)
– IEEE 802.11n มีการรับส่งข้อมูลได้สูงสุดที่ 300Mbps บนความถี่ 2.4Ghz และ 5Ghz สามารถส่งสัญญาณได้ในโครงสร้างแบบปิดอยู่ที่ 70เมตร และ 250เมตร ในพื่นที่โล่ง(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมต่างๆด้วย) เพิ่มความสามารถในการป้องกันสัญญาณรบกวนจากอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ความถี่ 2.4Ghz และรองรับอุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน IEEE 802.11b และ 802.11g ได้
– 802.11-2012 ในปี 2007 กลุ่มงาน TGmb ได้รับการอนุมัติให้รวบรวมการแก้ไขทั้งหมดให้เป็นเวอร์ชันที่เรียกว่า REVmb หรือ 802.11mb ที่ประกอบด้วย 802.11k, r, y, n, w, p, z, v, u, s ตีพิมพ์วันที่ 29 มีนาคม 2012
– 802.11ac มาตรฐาน 5Ghz สามารถรับส่งข้อมูลได้สูง 500Mbps ถึง 1Gbps ใช้ RF แบรนด์วิธที่กว้าง 80 – 160 MHz
– 802.11ad หรือ WiGig ใช้ความถี่ที่ 70Ghz ทรูพุททางทฤษฏีสูงสุดถึง 7Gbps
หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินหรือเห็นคำนี้บ่อยๆ จากการอ่านรายละเอียดเราเตอร์หรืออุปกรณ์ประเภทเครือข่าย และทุกๆ คนอาจสงสัยว่า IEEE ที่อยู่บนนั้นมันคืออะไรและบอกอะไรกับเราบ้าง ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไปรู้จัก IEEE ว่ามีอะไรบ้างและแต่ละตัวบอกอะไรกับเรา
IEEE คืออะไร
IEEE เป็นตัวย่อมาจาก Institute of Electrical and Electronics Engineers หรือก็คือสถาบันวิศวกรรมไฟฟ้าและวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์นานาชาติ ซึ่งองค์กรนี้ทำหน้าที่กำกับ ดูแล มาตรฐานงานวิจัยระบบโทรคมนาคม คอมพิวเตอร์ ตลอดรวมไปถึงการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับวิศกรรมไฟฟ้าต่างๆ พวกเขาได้กำหนดมาตรฐานสำหรับระบบเครือข่ายขึ้นมา ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
ในบทความนี้เราจะเน้นเนื้อหาในส่วนของมาตรฐาน IEEE 802.11 หรือ มาตรฐานเครือข่ายแบบไร้สายที่เราคุ้นเคยและใช้กันนั้นเอง ซึ่งมาตรฐานนี้สามารถแบ่งหัวข้อย่อยออกมาได้ ดังต่อไปนี้
มาตรฐาน IEEE 802.11a
มาตราฐานนี้เครือข่ายทำงานในย่านความถี่ 5 GHz มีความเร็วในการรับส่งข้อมูล 54 Mbps สามารถทำการแพร่ภาพวิดีโอและข้อมูลที่ต้องการความละเอียดสูงได้ โดยอัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลสามารถปรับระดับให้ช้าลงได้ เพื่อเพิ่มระยะทางการเชื่อมต่อให้มากขึ้น เช่น 54, 48, 36, 24 และ 11 Mbps เป็นต้น
มาตรฐาน IEEE 802.11b
มาตรฐานนี้เครือข่ายทำงานในย่านความถี่ 2.4 GHz มีความสามารถในการรับส่งข้อมูลที่ความเร็ว 11 Mbps มีระยะทางในการรับส่งข้อมูลครอบคลุมค่อนข้างไกล ทำให้ไม่สิ้นเปลืองอุปกรณ์ Access Point ที่ใช้เป็นจุดรับส่งสัญญาณ ทำให้เป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะในประเทศไทย
มาตรฐาน IEEE 802.11e
มาตรฐานนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับข้องกับมัลติมีเดียอย่าง VoIP (Voice over IP) รับประกันคุณภาพการใช้งานคลื่นความถี่ตามหลักการ QoS(Quality of Service)
มาตรฐาน IEEE 802.11f
มาตรฐานนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อจัดการกับผู้ใช้งานที่ข้ามเขตการให้บริการ Access Point หนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง เพื่อให้บริการ Roaming สัญญาณระหว่างกัน มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Inter Access Point Protocol (IAPP)
มาตรฐาน IEEE 802.11g
มาตราฐานนี้เครือข่ายทำงานในย่านความถี่2.4 GHz สามารถรับส่งข้อมูลที่ความเร็ว 36 - 54 Mbps ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงกว่ามาตรฐาน 802.11b โดยมาตรฐาน 802.11g สามารถปรับระดับความเร็วในการสื่อสารลงเหลือ 2 Mbps ได้ ตามสภาพแวดล้อมของเครือข่ายที่ใช้งาน
มาตรฐาน IEEE 802.11h
มาตรฐานนี้ถูกออกแบบมาใช้สำหรับอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายที่ใช้งานย่านความถี่ 5 GHz เพื่อให้มีความสอดคล้องกับข้อกำหนดการใช้ความถี่ของกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปเป็นหลัก ดังนั้น จึงไม่ค่อยมีความเกี่ยวข้องกับการผู้ใช้งานคลื่นความถี่ภายในประเทศไทยมากเท่าใดนัก
มาตรฐาน IEEE 802.11n
มาตรฐานนี้เป็นมาตรฐานที่สามารถทำงานบนคลื่นความถี่ คือ 2.4 GHz และ 5 GHz ในการรับส่งสัญญาณข้อมูลไร้สาย ซึ่งเราเรียกการส่งสัญญาณแบบนี้ว่า “Dual-Band” ทำความเร็วสูงสุดที่ 150 Mbps และ 300 Mbps สามารถรองรับอุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน IEEE802.11b และ IEEE802.11g ได้
มาตรฐาน IEEE 802.11ac
มาตรฐานนี้พัฒนามาจาก 802.11n เพิ่มศักยภาพในการรับ-ส่ง ข้อมูล ที่มีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก ตลอดจนสามารถส่งข้อมูลได้พร้อมกันหลายช่องทางเนื่องจากสัญญาณมีความเสถียร คลื่นความถี่นี้ใช้เทคโนโลยีในการเพิ่ม Channel Bonding จาก 40 MHz เป็น 80 และ 160 MHz ส่งผลให้รับ-ส่ง ข้อมูลได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ละยังเพิ่ม MIMO ให้รองรับการส่งข้อมูลได้มากถึง 8 Spatial Streams ซึ่งมีความเร็วในการรับ-ส่ง ข้อมูลสูงสุดมากถึง 6.9 Gbps
ในยุคปัจจุบันเครือข่ายไร้สายนับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นใจภาคธุรกิจ การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม มาตรฐานดังกล่าวที่บทความนี้ได้นำเสนอ เกิดขึ้นมาเพื่อควบคุมการใช้งานเครือข่ายไร้สายให้เป็นไปอย่างสอดคล้องกับบรรทัดฐานระหว่างประเทศ และเพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้งานทั่วโลก