เขตภูมิประเทศใดมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของทวีปยุโรปมากที่สุด

       
            ยุโรปนับว่าเป็นทวีปที่มีความเจริญทางด้านเศรษฐกิจอย่างมาก ทั้งด้านอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และพาณิชยกรรม การที่ทวีปยุโรปมีความเจริญทางด้านเศรษฐกิจมากกว่าทวีปอื่น เนื่องจากมีปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพร้อมอันได้แก่ ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ดิน น้ำ ป่าไม้ แร่ พลังงานต่างๆ ซึ่งนำมาใช้ได้ทั้งด้านการเกษตรและอุตสาหกรรม ความเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาการและเทคโนโลยี การมีประชากรที่มีคุณภาพ มีการศึกษาสูง เป็นตลาดการค้าใหญ่ มีแหล่งเงินทุนสำรองมาก และการมีเสถียรภาพทางการเมืองที่มั่นคง
ลักษณะทางเศรษฐกิจของทวีปยุโรป มีลักษณะแตกต่างกัน แบ่งได้ ดังนี้

เขตภูมิประเทศใดมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของทวีปยุโรปมากที่สุด

1.เกษตรกรรม 

        ยุโรปมีข้อจำกัดเรื่องขนาดพื้นที่และแรงงานทางภาคเกษตรกรรม แต่มีการใช้วิทยาการสมัยใหม่และเครื่องจักรกลเข้ามาช่วยมาก มีการคิดค้นเทคนิควิธีต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตโดยที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม การเกษตรในทวีปยุโรปมีลักษณะ ดังนี้

        1.1 การเพาะปลูก ยุโรปเป็นทวีปที่มีความเจริญก้าวหน้ามากทางด้านการเกษตร ใช้เครื่องมือจักรกลแทนแรงงานคน รวมทั้งใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาจัดการกับผลผลิตทางการเกษตร และมีการดูแลรักษาดินอย่างมีประสิทธิภาพ พืชที่ปลูกมากอยู่ในกลุ่มธัญพืช ได้แก่ ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโพด ข้าวโอ๊ต ข้าวไรน์ และมันฝรั่ง แหล่งเพาะปลูกสำคัญ ได้แก่ บริเวณที่ราบด้านตะวันตก ตอนกลางของยุโรป และบางส่วนของยุโรปตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณประเทศสเปน ฝรั่งเศส เยอรมนี เบลเยียม ออสเตรีย โปแลนด์ สหรัฐเช็ก ฮังการี โรมาเนีย ยูเครน และบางส่วนของสหพันธรัฐรัสเซีย

        นอกจากนี้มีการปลูกไม้ผลกระจายอยู่ทั่วไป ได้แก่ ส้ม มะกอก แอปเปิ้ล และองุ่น สำหรับทำไวน์ โดยเฉพาะประเทศที่อยู่ในเขตภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนมีการปลูกมาก เช่น พื้นที่บางบริเวณของประเทศสเปน โปรตุเกส อิตาลี ฝรั่งเศส กรีซ แอลเบเนีย เป็นต้น

        ส่วนพืชผักชนิดต่างๆและไม้ดอกนานาชนิด สามารถปลูกได้ทั่วยุโรป เนื่องจากสภาพอากาศที่มีความหนาวเย็น มีส่วนช่วยทำให้พืชผลเจริญงอกงามได้ดี

เขตภูมิประเทศใดมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของทวีปยุโรปมากที่สุด

            1.2 การเลี้ยงสัตว์ ทวีปยุโรปเป็นดินแดนที่มีการเลี้ยงสัตว์กันอย่างแพร่หลายในทุกประเทศ ลักษณะการเลี้ยงสัตว์มักทำกันเป็นความขนาดใหญ่แบบฟาร์มปิดควบคุมคุณภาพบางส่วนเลี้ยงควบคู่ไปกับการเพาะปลูกในลักษณะการเกษตรแบบผสมผสาน มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าช่วย เช่น การคัดเลือกพันธุ์ การผสมเทียม การติดตามอัตราการเจริญเติบโตของสัตว์ การแปรรูปผลผลิต เป็นต้น

         สัตว์เลี้ยงที่สำคัญของทวีปยุโรป ได้แก่ โคเนื้อ และโคนม ผลผลิตจากนมเอามาดื่มและนำไปแปรรูปเป็นนมผงสำเร็จรูป เนยแข็ง เนยแผ่น สัตว์ที่มีการเลี้ยงกันมากรองลงมา ได้แก่ แกะ สุกร ไก่ ม้า (เลี้ยงไว้ใช้งาน) และกวางเรนเดียร์ (ไว้ใช้ลากเลื่อนเป็นอาหาร)

บริเวณเลี้ยงสัตว์มาก ได้แก่ ยุโรปเหนือ (ในเขตประเทศนอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก) ยุโรปตะวันตก(ในเขตสหราชอาณาจักร ประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี เบลเยียม) ยุโรปตะวันออก (ในเขตประเทศรัสเซีย  ยูเครน โรมาเนีย  ฮังการี โปแลนด์ เบลารุส) ส่วนบริเวณยุโรปใต้มีเลี้ยงกระจายอยู่ในประเทศสเปน อิตาลี และกรีซ  แต่ปริมาณไม่มากเท่า 3 ภูมิภาคแรก

           1.3 การประมง เป็นอาชีพสำคัญของชาวยุโรป เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย เช่น มีชายฝั่งทะเลที่ยาวและเว้าแหว่ง มีแหล่งปลาชุกชุม มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย มีความรู้ความชำนาญสูง แหล่งปลาชุกชุมของยุโรปอยู่ในเขตดอกเกอร์แบงก์ (Dogger Bank) ที่ทะเลเหนือ ห่างจากฝั่งประมาณ 160 กิโลเมตร เป็นแหล่งที่มีแพลงก์ตอนซึ่งเป็นอาหารสัตว์น้ำไหลมากับกระแสน้ำชายฝั่ง 

             ปลาที่สำคัญ ได้แก่ ปลาคอด เฮริง  แมคเคอเรล แฮดอก แฮลิบัต และซาร์ดีน ปลาที่จับได้นอกจากจะจำหน่ายเป็นปลาสดแล้ว บางส่วนนำส่งเข้าโรงงานแปรรูปเป็นปลากระป๋องและปลาแห้ง

             ประเทศที่มีการทำประมงอย่างแพร่หลาย ได้แก่ สหราชอาณาจักร นอร์เวย์ สวีเดน เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี สหพันธรัฐรัสเซีย อิตาลี สเปน และกรีซ

             ปัจจุบันปริมาณสัตว์น้ำในเขตพื้นที่ใกล้ชายฝั่งยุโรปลดจำนวนลงมาก ทำให้ชาวประมงในทวีปยุโรปต้องแล่นเรือออกไปเพื่อจับปลาในพื้นที่ห่างไกลมากขึ้น เช่น กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ตอนเหนือของทะเลนอร์วีเจียน เรือประมงเหล่านี้มีเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น เรดาร์  โซนาร์ วิทยุ โทรศัพท์ผ่านเครือข่ายดาวเทียม ห้องเย็น  เป็นต้น จึงทำให้สามารถจับปลาอยู่ในกลางทะเลได้ครั้งละเป็นเดือน

เขตภูมิประเทศใดมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของทวีปยุโรปมากที่สุด

             1.4 การทำป่าไม้ป่าไม้ในทวีปยุโรปเป็นป่าไม้ที่ได้รับการดูแลอย่างดี มีการลงทุนในกิจการปลูกป่าอย่างแพร่หลาย การทำป่าไม้มีมากเฉพาะในยุโรปเหนือเท่านั้น เป็นป่าสนส่วนประเทศรัสเซียถึงแม้มีพื้นที่ป่าไม้มาก ในการทำป่าไม้ก็ยังไม่แพร่หลาย เนื่องจากเส้นทางการขนส่งลำเลียงยังไม่สะดวกและมีต้นทุนสูง การทำป่าไม้ในประเทศฟินแลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน เน้นหนักเพื่อการค้า มีการปลูกป่าแบบหมุนเวียน เพื่อนำไปทำเยื่อกระดาษ เมื่อมีการตัดไม้จะขนส่งซุงล่องไปตามแม่น้ำลำธารต่างๆ ซึ่งมีอยู่มากมาย โรงงานแปรรูปไม้และผลิตกระดาษส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำติดต่อกับชายฝั่งทะเล เช่น บริเวณชายฝั่งอ่าวบอมเนียในเขตประเทศสวีเดน และฟินแลนด์ผลิตภัณฑ์จากไม้มีทั้งไม้แผ่น เยื่อกระดาษ เครื่องเฟอร์นิเจอร์ และบ้านสำเร็จรูป

2.การทำเหมืองแร่

            ยุโรปเป็นทวีปแรกที่มีการขุดแร่เพื่อนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะในยุโรปเหนือ ยุโรปตะวันตก และยุโรปตะวันออก เหมืองแร่มีการทำกันมากในภูมิภาคลอแรน ใกล้เมืองบริเยร์ในประเทศฝรั่งเศส ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเบลเยียม บริเวณแคว้นรูร์ ในประเทศเยอรมนี เมืองคิรูนาในประเทศสวีเดนเมืองบิลเบาในประเทศสเปน เมืองคริวอยรอกในประเทศยูเครน เมืองเชเลียบินสค์ในประเทศรัสเซีย เป็นต้น

            ถ่านหิน มีการทำเหมืองถ่านหินกันมากที่เมืองยอร์กเชียร์ นอตทิงแฮมเชียร์ในสหราชอาณาจักร แคว้นรูร์ แคว้นซาร์ และเมืองไลป์ซิกในประเทศเยอรมนี แหล่งโมเซลในประเทศฝรั่งเศส บริเวณลุ่มน้ำซอมเบรอเมิสในประเทศเบลเยียม เมืองตูลาในประเทศรัสเซีย เมืองคาโตวีตเซ ในประเทศโปแลนด์ เมืองอิดริยาในประเทศโครเอเชีย เป็นต้น

            นอกจากนี้ มีการทำเหมืองแร่อื่นๆ เช่น  เหมืองบ็อกไซต์ เหมืองทองแดง กระจายอยู่ในหลายประเทศ โดยเฉพาะทางยุโรปตะวันออก ในประเทศยูเครน โปแลนด์ สโลวีเนีย เบลารุส และรัสเซีย การทำเหมืองแร่ในยุโรปมีทั้งประเภทเหมืองเปิด (เหมืองบนดิน) และเหมืองใต้ดิน โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยทำการขุดเจาะและสำรวจสายแร่ อาทิ ดาวเทียม คอมพิวเตอร์ เครื่องมือกล แต่ปริมาณแร่ที่ขุดยังไม่เพียงพอกับความต้องการ เนื่องจากประเทศต่างๆในยุโรปมีการทำอุตสาหกรรมกันมาก และมีการขุดแร่ใช้กันมาเป็นเวลานานแล้ว ทำให้สินแร่มีเหลืออยู่น้อย

3.อุตสาหกรรม 

เขตภูมิประเทศใดมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของทวีปยุโรปมากที่สุด


            ทวีปยุโรปโดยเฉพาะยุโรปตะวันตกมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรมและแพร่หลายมาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 ก่อนดินแดนส่วนอื่นๆของโลกจนกล่าวได้ว่ายุโรปสามารถผลิตสินค้าอุตสาหกรรมได้เกือบทุกชนิด ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ใช้เทคโนโลยี แหล่งอุตสาหกรรมกระจายอยู่ตามเมืองใหญ่ๆ เกือบทุกประเทศในแต่ละภูมิภาคของทวีป

            แต่เดิมยุโรปผลิตสินค้าอุตสาหกรรมส่งไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆทั่วโลกแต่ภายหลังกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 มีประเทศอุตสาหกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะจากอเมริกาเหนือและแถบเอเชีย ประเทศเหล่านั้นได้เปรียบยุโรปในเรื่องของวัตถุดิบ ต้นทุน และค่าจ้างแรงงาน ส่งผลให้สินค้าของยุโรปที่มีราคาสูงมีปัญหาการจำหน่ายในต่างประเทศ ช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 ประเทศชั้นนำด้านอุตสาหกรรมของยุโรป ได้แก่ สหรัฐอาณาจักร ประเทศเยอรมนี สวีเดน ฝรั่งเศส อิตาลี เนเธอร์แลนด์ และรัสเซีย จึงปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมใหม่โดยหันมาผลิตสินค้าประเภทที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยแทน ซึ่งมีการผลิตน้อยชิ้นแต่ละชิ้นมีมูลค่าสูง เช่น เครื่องจักรกล รถยนต์ อาวุธยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม เครื่องบิน เครื่องมือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์การแพทย์ การต่อเรือ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการผลิตสินค้าที่เน้นในเรื่องความสวยงาม รูปแบบล้ำสมัย เช่น เสื้อผ้า เครื่องหนัง เครื่องประดับ เครื่องแก้ว นาฬิกา น้ำหอม เครื่องสำอาง เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้สามารถแข่งขันกับสินค้าอุตสาหกรรมจากทวีปเอเชีย โดยเฉพาะจากจีนที่มีราคาต่ำกว่ามากได้  ส่วนประเภทอื่นๆในยุโรป เน้นการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่มีลักษณะเฉพาะตัว เช่น รถยนต์นาฬิกา เครื่องแก้ว เครื่องหนัง น้ำหอม รวมทั้งอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร

            อุตสาหกรรมของยุโรปมีความเจริญก้าวหน้ามากในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ยุโรปใต้ ยุโรปเหนือ ขณะที่ยุโรปตะวันออกมีความเจริญทางอุตสาหกรรมน้อยกว่าภูมิภาคอื่น แต่ก็ได้มีการเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมให้ทันสมัย โดยมีการสร้างโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เป็นจำนวนมากในประเทศยูเครน เบลารุส โปแลนด์ และรัสเซีย ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการผลิตและเน้นไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

            แหล่งอุตสาหกรรมที่เด่นของยุโรปอยู่บริเวณเมืองใหญ่ของประเทศต่างๆ และบริเวณที่มีแร่สำคัญเช่น สหราชอาณาจักรมีอุตสาหกรรมอยู่ในแหล่งถ่านหิน เหล็ก เช่น เมืองเบอร์มิงแฮม เมืองแมนเชสเตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ มีการผลิตเครื่องจักร ยานพาหนะ เมืองกลาสโกว์ มีการต่อเรือ ประเทศฝรั่งเศส แคว้นอัลซาซ-ลอเรน เป็นแหล่งถ่านหินที่สำคัญ มีการผลิตเหล็กและเหล็กกล้า เมืองลียงมีอุตสาหกรรมทอผ้า ประเทศเยอรมนี บริเวณลุ่มน้ำไรน์และแม่น้ำรูร์ มีการผลิตเหล็กและเหล็กกล้า เครื่องจักร ยานพาหนะ ส่วนบริเวณเมืองท่ามีอุตสาหกรรมต่อเรือเครื่องใช้ไฟฟ้า และแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร ประเทศอิตาลี บริเวณลุ่มแม่น้ำโป มีการผลิตเหล็กกล้า ต่อเรือ เครื่องจักร ยานพาหนะ เป็นต้น

           นอกจากอุตสาหกรรมหนักที่กระจายอยู่ทั่วทวีปยุโรปแล้ว อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสร้างรายได้เป็นจำนวนมากให้กับประเทศต่างๆโดยแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางเข้าไปท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอยในเมืองสำคัญต่างๆ สาเหตุที่ผู้คนนิยมไปท่องเที่ยวในทวีปยุโรปมาจากปัจจัยหลายประการ อาทิ สภาพธรรมชาติที่มีความสวยงาม ซึ่งได้รับการดูแลรักษาไว้อย่างดี สภาพอากาศที่มีความหนาวเย็น มีความปลอดภัยสูง ผู้คนเป็นมิตร มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับทุกแห่ง การคมนาคมขนส่งที่ทั่วถึง ขั้นตอนในการท่องเที่ยวในยุโรปไม่ยุ่งยาก พื้นที่แต่ละประเทศไม่กว้างใหญ่มาก แหล่งเลือกซื้อสินค้ามีกระจายทุกเมือง แหล่งท่องเที่ยวมีความหลากหลายทางทางธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรม เมืองที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวสำคัญๆ เช่น กรุงลอนดอน กรุงปารีส กรุงโรม กรุงอัมสเตอร์ดัม กรุงเวียนนา กรุงเอเธนส์ กรุงมอสโก เป็นต้น

4.พาณิชยกรรม 

  ทวีปยุโรปเป็นดินแดนที่พาณิชยกรรมมีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ และในปัจจุบันก็มีความสำคัญมากขึ้นด้วยเรื่อยๆ ตลาดยุโรปเป็นตลาดที่นานาชาติมุ่งหวังทำการค้าขายด้วย เนื่องจากมีฐานะทางเศรษฐกิจดี ปริมาณการสั่งซื้อสินค้าแต่ละชนิดมีมูลค่าที่สูงมาก ยิ่งภูมิภาคยุโรปตะวันออก ประเทศแถบคาบสมุทรบอลข่าน ได้แยกตัวตั้งเป็นประเทศเอกราชหลายประเทศ มีการปฏิรูประบบเศรษฐกิจของประเทศจากระบบคอมมิวนิสต์มาสู่ระบบทุนนิยมแบบเสรี ส่งผลให้การค้าขายของยุโรปมีปริมาณมากยิ่งขึ้นไปอีก ยุโรปสั่งซื้อสินค้าประเภทวัตถุดิบ เช่น สินแร่ น้ำมันดิบ อาหารสำเร็จรูป ปุ๋ย ปูนซีเมนต์ ธัญพืช ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จากภูมิภาคอื่นๆของโลก แล้วส่งสินค้าอุตสาหกรรม เช่น เครื่องจักรกล ยานยนต์ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ นาฬิกา ซอฟแวร์ ยารักษาโรค กระดาษ ผลิตภัณฑ์จากนม อาหารสำเร็จรูป ไวน์ เป็นต้น เป็นสินค้าส่งออก ปริมาณสินค้าที่กลุ่มประเทศสหภาพยุโรปผลิตได้มีจำนวนมากปริมาณร้อยละ 35 ของโลก(ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ผลิตจากประเทศเยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สวีเดน เดนมาร์ก อิตาลีและสเปน)ประเทศคู่ค้าสำคัญของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ได้แก่ แคนาดา สหรัฐอเมริกา ประเทศแถบตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชีย และอเมริกาใต้

           ทวีปยุโรปนับว่ามีพาณิชยกรรมที่ก้าวหน้าทั้งภายในและภายนอกทวีป ทำให้เกิดการรวมกลุ่ม เศรษฐกิจที่พัฒนามาเป็นสหภาพยุโรป(EN) ปัจจุบันมีภาคีสมาชิก 28 ประเทศ เป็นการรวมกลุ่มทางการค้าที่ เข้มแข็งมากที่สุดของโลก และมีอำนาจต่อรองทางการค้าหรือการเมืองอย่างสูง ซึ่งสภาพยุโรปยังพยายามที่จะพัฒนาการรวมกลุ่มให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยมีการรวมตัวกันเป็นยุโรปเดียวในอนาคต นั่นคือ การรวมกันทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ การต่างประเทศ และความมั่นคงภายในภูมิภาค

5. การคมนาคมขนส่ง

            ทวีปยุโรปมีระบบเส้นทางคมนาคมขนส่งกระจายเป็นโครงข่ายกับใยแมงมุมครอบคลุมอยู่ทั่วทั้งทวีป โดยเฉพาะยุโรปตะวันตกและยุโรปใต้ ซึ่งระบบการคมนาคมขนส่งของยุโรปได้ชื่อว่ามีประสิทธิภาพมาก ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ ทั้งการติดต่อภายในและภายนอกทวีปจำแนกได้ ดังนี้

เขตภูมิประเทศใดมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของทวีปยุโรปมากที่สุด

         5.1ทางบกเส้นทางถนนในยุโรป เป็นทางหลวง(super highway) ขนาด 4 และ8 ช่องทางจราจรเป็นส่วนใหญ่ มีโครงข่ายเชื่อมโยงกันระหว่างเมืองต่อเมือง และประเทศต่อประเทศเป็นระบบเดียวกัน สามารถใช้สัญจรได้ตลอดปี ถนนสายหลักที่เชื่อมต่อกันระหว่างประเทศ เช่น จากประเทศฝรั่งเศสผ่านเบลเยียมไปยังเยอรมนี มีการดูแลให้ใช้งานได้ดีตลอดเวลาบางช่วงที่มีเทือกเขาสูงกั้นขวางที่มีการขุดเจาะอุโมงค์ตัดถนนเข้าไป อาทิ อุโมงค์บล็องซึ่งเชื่อมเส้นทางระหว่างประเทศฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลีเข้าด้วยกัน หรือมีการขุดอุโมงค์ลอดข้ามช่องแคบโดเวอร์ เพื่อตัดถนนเชื่อมระหว่างสหราชอาณาจักรกับฝรั่งเศส ทำให้เส้นทางถนนระหว่างภาคพื้นยุโรปส่วนที่เป็นแผ่นดินใหญ่เชื่อมต่อเป็นเส้นทางเดียวกันกับหมู่เกาะ

        อย่างไรก็ตามเส้นทางถนนนี้ในบางบริเวณยังไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ เช่นยุโรปทางตอนเหนือและยุโรปตะวันออก เส้นทางมาตรฐานมีเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ๆเท่านั้น เช่น เส้นทางจากเฮลซิงกิผ่านเมืองเลนินกราดไปยังกรุงมอสโก เส้นทางจากกรุงเบอร์ลินผ่านกรุงวอร์ซอผ่านกรุงมินส์ก์ ไปยังกรุงมอสโก เป็นต้น เนื่องจากมีปัญหาด้านสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศและจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่น้อย

       รถไฟ ส่วนใหญ่เส้นทางรถไฟของยุโรปเป็นรางมาตรฐานแบบเดียวกันทั้งทวีปทำให้สามารถเดินรถเชื่อมต่อระหว่างประเทศต่างๆได้ เช่น เส้นทางสายตะวันตก ตะวันออก จากกรุงปารีส (ฝรั่งเศส) ไปยังเมืองวลาดีวอสต็อก (รัสเซีย) เป็นต้น ชุมทางรถไฟของทวีปอยู่ที่กรุงปารีส กรุงลอนดอน กรุงเบอร์ลิน กรุงวอร์ซอ และกรุงมอสโก ปัจจุบันหลายประเทศได้มีการนำรถไฟความเร็วสูง(Train Grande Vitesse :TGV) ธงประเทศฝรั่งเศส ซึ่งวิ่งด้วยความเร็ว  320  กิโลเมตร ต่อชั่วโมง เข้ามาให้บริการวิ่งเชื่อมระหว่างเมืองสำคัญๆและวิ่งข้ามประเทศด้วย

           5.2 ทางอากาศ ทวีปยุโรปมีเส้นทางการคมนาคมขนส่งทางอากาศอย่างแพร่หลายทั่วทั้งทวีป เนื่องจากประชากรชาวยุโรปมีฐานะทางเศรษฐกิจดี รวมทั้งมีการทำธุรกิจอย่างกว้างขวางในแต่ละเมือง ทำให้การเดินทางภายในทวีปสะดวก คนส่วนใหญ่นิยมเดินทางโดยเครื่องบินเพื่อประหยัดเวลา ส่งผลให้ท่าอากาศยานหลายแห่ง เช่น ท่าอากาศยานชาร์ลเดอโกลล์ของประเทศฝรั่งเศส ฮีธโรว์ของสหราชอาณาจักร มาดริด-บาราฮัสของประเทศสเปน มีการจราจรทางอากาศคับคั่งมาก เมืองที่เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางอากาศ ได้แก่ กรุงลอนดอน  กรุงปารีส กรุงโคเปนเฮเกน กรุงมอสโก กรุงอัมสเตอร์ดัม กรุงวอร์ซอ กรุงเบอร์ลิน กรุงมาดริด และเมืองมิวนิก

          ประเทศต่างๆในยุโรปมีสายการบินประจำชาติบินเชื่อมกับประเทศต่างๆ ทั้งภายในทวีปทวีปทั่วโลกอีกด้วย สายการบินของทวีปยุโรปที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี เช่น แอร์ฟรานซ์ของประเทศฝรั่งเศส บริติชแอร์เวย์ ของสารัสอณาจักร ลุฟท์ฮันซาของประเทศเยอรมนี อาลิตาเลียของประเทศอิตาลีและสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินร่วมของประเทศสวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก เป็นต้น

           5.3 ทางน้ำการคมนาคมขนส่งทางน้ำของทวีปยุโรปส่วนใหญ่ใช้ในกิจการค้าและอุตสาหกรรม โดยการบรรทุกสินค้าที่มีปริมาณน้ำหนักมาก อาทิ ถ่านหิน แร่ ปูนซีเมนต์ ธัญพืช ใส่เรือลำเลียงมาทางแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านเขตอุตสาหกรรมและเขตพาณิชยกรรม ได้แก่ แม่น้ำไรน์ แม่น้ำเมิส แม่น้ำเอลเบ แม่น้ำโอเดอร์ แม่น้ำดานูบ ซึ่งเป็นแม่น้ำไรน์กับแม่น้ำดานูบเป็นเส้นทางการคมนาคมภายในทวีปที่มีปริมาณการเดินเรือคับคั่งมาก รวมทั้งยังมีการขุดทองเชื่อมแม่น้ำต่างๆ เพื่อให้สามารถเดินเรือได้สะดวกมากขึ้น เช่น  คลองเมนดานูบในประเทศเยอรมนี เชื่อมแม่น้ำไรน์กับแม่น้ำดานูบ  คลองไรน์-โรน  ในประเทศฝรั่งเศส เชื่อมแม่น้ำไรน์กับแม่น้ำโรน เป็นต้น

        นอกจากนี้ยังมีการเดินเรือพาณิชย์แล่นเชื่อมกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกโดยมีเมืองรอตเทอร์ดาม กรุงสตอกโฮล์ม กลาสโกว์ เบอร์มิงแฮม บาร์เซโลนา เนเปิลส์ วลาดีวอสตอค เป็นเมืองท่าสำคัญ