วิเคราะห์คุณค่าจากบทละครในเรื่อง อิเหนา คุณค่าด้านเนื้อหา แนวคิด เรื่องอิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง เป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงความรักของพ่อที่มีต่อลูก รักและตามใจทุกอย่าง แม้นกระทั่วตัวตายก็ยอม ฉาก ตอนศึกกะหมังกุหนิงจะปรากฎฉากรบที่ชัดเจน มีการตั้งค่าย การใช้อาวุธ และการต่อสู้ของตัวละครสำคัญ ปมขัดแย้ง ตอนศึกกะหมังกุหนิง มีหลายข้อแย้ง แต่ละปมปัญหาเป็นเรื่องที่อาจเกิดได้ในชีวิตจริง และสมเหตุสมผล เช่น ปมแรก คือ ท้าวกุเรปันให้อิเหนาอภิเษกกับบุษบา แต่อิเหนาหลงรักจินตะหราไม่ยอมอภิเษกกับบุษบา ปมที่สอง คือ ท้าวดาหาขัดเคืองอิเหนา ยกบุษบาให้จรกา ทำให้ท้าวกุเรปันและพระญาติทั้งหลายไม่พอพระทัย ปมที่สาม ท้าวกะหมังกุหนิงมาสู่ขอบุษบาให้วิหยาสะกำ แต่ท้าวดาหายกให้จรกาไปแล้ว จึงเกิดศึกชิงนางขึ้น ปมที่สี่ อิเหนาจำเป็นต้องไปช่วยดาหา จินตะหราคิดว่าอิเหนาจะไปอภิเษกกับบุษบา จินตะหราขัดแย้งในใจตนเอง หวั่นใจกับสถานภาพของตนเอง ปมที่สามเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด เมื่อท้าวกะหมังกุหนิงคิดจะทำสงครามกับกรุงดาหาเพื่อชิงนางบุษบามาให้วิหยาสะกำโอรสองพระองค์ ท้าวกะหมังกุหนิงหารือกับระตูปาหยังและท้าวปะหมันผู้เป็นอนุชา ทั้งสองทัดทานว่าดาหาเป็นเมืองใหญ่ของกษัตริย์วงศ์อสัญแดหวาผู้มีฝีมือเลื่องลือในการสงคราม ส่วนกะหมังกุหนิงเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ คงจะสู้ศึกไม่ได้ แต่ท้าวกะหมังกุหนิงก็ไม่ฟังคำทัดทานเพราะรักลูกมากจนไม่อาจทนเห็นลูกทุกข์ทรมารได้ แม้จะรู้ว่าอาจสู้ศึกไม่ได้ แต่ก็ตัดสินใจทำสงครามด้วยเหตุผลที่บอกแก่อนุชาทั้งสองว่า แม้วิหยาสะกำมอดม้วย พี่ก็คงตายด้วยโอรสา ไหนไหนจะตายวายชีวา ถึงเร็วถึงช้าก็เหมือนกัน ผิดก็ทำสงครามดูตามที เคราะห์ดีก็จะได้ดังใฝ่ฝัน พี่ดังพฤกษาพนาวัน จะอาสัญเพราะลูกเหมือนกล่าวมา คุณค่าด้านวรรณศิลป์ คุณค่าด้านสังคม คุณค่าด้านแนวคิดและคติชีวิต สะท้อนภาพชีวิตของบรรพบุรุษ - การแบ่งชนชั้นวรรณะ เช่น การไม่ยอมไปเกลือกกลั้วกับวงศ์ตระกูลอื่นนอกจากวงศ์เทวาด้วยกัน ทำให้เกิดการแต่งงานระหว่างพี่น้องสายเลือดเดียวกัน ความเข้าใจธรรมชาติมนุษย์ ท้าวดาหา อิเหนา เป็นวรรณคดีที่เป็นมรดกของชาติที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานตามเนื้อเรื่อง ความไพเราะของรสวรรณคดี และสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของบรรพชนที่ได้ถ่ายทอดสภาพของสังคมไทย ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ความคิด ความเชื่อแบบไทย ๆ สอดแทรกไว้ได้อย่างมีศิลป์ ทั้งยังแฝงด้วยข้อคิด คติธรรมที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตอีกด้วย
|