Show เครื่องปั่นอาหารเครื่องปั่นอาหาร เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนอย่างหนึ่งที่จะมาช่วยคุณแม่บ้านประหยัดเวลาและแรงในการทำอาหารเพราะสามารถบดและผสมวัตถุดิบให้เข้ากันได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพ ซุป หรือเมนูอาหารเหลวสำหรับเด็กและผู้สูงอายุก็สรรค์สร้างได้โดยไม่มีปัญหา การใช้งานของเครื่องปั่นอาหาร มีดังนี้
วิธีการเลือกซื้อเครื่องปั่นอาหาร มีดังนี้1. ความต้องการในการใช้งานก่อนอื่นเราต้องดูความต้องการของเราก่อนนะคะ ว่าเรานั้นต้องการเครื่องปั่นไปใช้ในการทำอะไร จะปั่นน้ำผลไม้ ปั่นเครื่องเทศอยู่ที่บ้าน หรือจะปั่นขายเป็นอาชีพเลย เพื่อที่จะได้กำหนดขอบเขตของคุณสมบัติเครื่องปั่นได้ค่ะ เครื่องปั่นนั้นจะมีอยู่สองแบบ คือแบบที่ไม่ใหญ่แต่เน้นไปในเรื่องของความความรวดเร็ว และสะดวกสบายในการพกพา และแบบขนาดใหญ่การใช้งานครบครันแต่ใช้งานได้แค่อยู่ในครัว 2. เลือกกำลังวัตต์เครื่องปั่นโดยทั่วไปจะมีกำลังวัตต์อยู่ที่ประมาณ 180 วัตต์ ไปจนถึง 900 วัตต์ เครื่องที่มีกำลังวัตต์สูงก็ยิ่งสามารถปั่นผักผลไม้ออกมาได้เนียนละเอียดมากขึ้นค่ะ 3. เลือกรูปทรงใบมีดให้เหมาะกับการใช้งาน
สำหรับรูปทรงของใบมีดนั้นมีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ คือใบมีดทรงแบนและใบมีดทรงคลื่นหรือทรงฟันหยัก ใบมีดทรงแบนเหมาะสำหรับสับหั่นผักหรือผสมเนื้อบดให้เข้ากัน หากสามารถถอดตัวใบมีดออกได้ก็สามารถนำมาลับให้คมเหมือนกับมีดทำครัวทั่วไปไม่ต้องกังวลเมื่อใบมีดเริ่มทื่อ 4. ความจุของโถปริมาณความจุของโถปั่นที่จุได้ในการปั่นหนึ่งครั้งก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องพิจารณาค่ะ หากต้องปั่นหลาย ๆ ครั้งเพื่อให้มีปริมาณเพียงพอต่อจำนวนคนในครอบครัวก็คงต้องเสียทั้งเวลาและแรงงานไม่น้อยเลยทีเดียว หากครอบครัวมี 3 คน ก็ควรเลือกเครื่องปั่นที่โถมีความจุประมาณ 600 มิลลิลิตรค่ะ ดังนั้นเราควรคำนึงถึงปริมาณอาหารหรือเครื่องดื่มที่ต้องการทำและความจุของโถที่ปั่นได้ในแต่ละครั้งให้ดีก่อนนะคะ 5. ความเงียบหากต้องใช้งานเครื่องปั่นทุกวัน เสียงจากการทำงานของเครื่องปั่นก็เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่เราควรระวังค่ะ เพราะหลาย ๆ ครั้ง เสียงของเครื่องปั่นกลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่เราไม่อยากใช้เครื่องปั่นในการทำอาหาร หากต้องการรู้ว่าเครื่องปั่นนั้นมีเสียงดังขนาดไหน วิธีการตรวจสอบที่ง่ายที่สุดก็คงต้องไปลองใช้ที่ร้านค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นตามร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีเสียงอื่น ๆ คอยแทรกอยู่ตลอดเวลาแถมยังไม่ได้ลองฟังเสียงการใช้งานที่แท้จริงเพราะไม่ได้ใส่วัตถุดิบลงไปปั่นด้วย ดังนั้นจึงให้คำนึงว่าเสียงที่ได้ยินที่ร้านค้าจะเบากว่าเสียงที่เกิดขึ้นจริงเมื่อใช้งานที่บ้าน ถ้าได้ลองฟังที่ร้านค้าแล้วมีเสียงดังเกินไปเราก็ไม่ควรจะซื้อมาใช้ค่ะ 6. ตรวจสอบว่าเครื่องปั่นมีฟังก์ชันรักษาความปลอดภัยหรือไม่เครื่องปั่นส่วนใหญ่จะมีใบมีดติดตั้งมาให้อยู่แล้ว พอเสียบปลั๊กใบมีดก็หมุนใช้งานได้เลยแม้ไม่ได้ปิดสวิตซ์ ดังนั้นจึงควรระวังและศึกษาให้ดีทั้งตอนก่อนเริ่มใช้งานและตอนถอดอุปกรณ์มาทำความสะอาดนะคะเพราะอาจเกิดอันตรายได้หากเกิดความผิดพลาดขึ้น ทางที่ดีควรเลือกเครื่องปั่นที่มีฟังก์ชันเพื่อความปลอดภัยอย่างเช่นเครื่องจะไม่ทำงานหากปิดฝาไม่สนิทหรือวางตัวโถไม่ลงล็อคตามตำแหน่ง บางคนเข้าใจว่าถ้าซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพง ก็จะมีฟังก์ชันความปลอดภัยดังกล่าวมาให้อยู่แล้วแน่นอนแต่จริง ๆ ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสนอไปแนะนำให้ตรวจสอบให้ดีก่อนเลือกซื้อค่ะ 10 อันดับเครื่องปั่นอาหารยี่ห้อไหนดีที่ควรเลือกซื้อ1. เครื่องปั่นอาหาร PHILIPS รุ่น HR2118 (สีขาว)เครื่องปั่นอาหาร PHILIPS รุ่นนี้ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ มีความแข็งแรง ทนทาน และทนต่อการใช้งาน ไม่แตกหักง่าย ช่วยให้คุณสะดวกในการเตรียมอาหาร สามารถเตรียมอาหารได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ เครื่องดื่มเย็นปั่น เครื่องดื่มสมูทตี้เนื้อเนียนละเอียด ซุป การเตรียมพริก กระเทียม สำหรับทำเครื่องแกง ด้วยมอเตอร์กำลังไฟขนาด 600 วัตต์ สามารถตั้งความเร็วเครื่องปั่นได้ถึง 5 ระดับ ให้คุณเลือกใช้ให้เหมาะกับชนิดของอาหารที่คุณต้องการ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริม ได้แก่ โถบดอเนกประสงค์ สำหรับบดและสับส่วนผสมแข็งและอ่อน ที่กรองแยกกากและเมล็ดออกจากน้ำผลไม้ และเครื่องสับสำหรับสับส่วนผสมหลากหลาย ให้คุณสนุกไปกับการทำอาหาร ไม่ว่าจะปั่นเมนูไหนก็ทำได้อย่างไร้ขีดจำกัดค่ะ ข้อดี
ข้อด้อย
2. เครื่องปั่นอาหาร STROMMIX รุ่น 3500 วัตต์ 40,000 รอบต่อนาทีเครื่องปั่นอาหาร Strommix ใช้กำลังไฟฟ้า 3500 วัตต์ มีความเร็วรอบสูงสุดถึง 40,000 รอบ/นาที สามารถปั่นได้ทุกรูปแบบในโถเดียว ทั้งแบบปั่นเนื้อสัตว์ พริกแกง ธัญพืช สมูทตี้ รับรองความละเอียด และความเนียน ความจุโถ 2.5ลิตร ผลิตจากโพลีคาร์บอเนตทนความร้อนได้สูง มีระบบป้องกันความปลอดภัยอัตโนมัติ และป้องกันความร้อนสูงสำหรับมอเตอร์ ใบมีดเป็นสแตนเลส ออกแบบมาพิเศษไว้สำหรับปั่นเนื้อสัตว์ และน้ำแข็งก้อนให้ละเอียดและฟู เป็นพิเศษ มีการรับประกันมอเตอร์ 2 ปี กรณีมีปัญหาสามารถส่งเปลี่ยนมอเตอร์ใหม่ตามใบรับประกันในกล่อง กรณีสินค้าชำรุดสามารถคืนสินค้าได้ฟรีภายใน 7 วัน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ ข้อดี
ข้อด้อย
3. เครื่องปั่นอาหาร TEFAL BLENDFORCE รุ่น BL307 สีขาวเครื่องปั่นอาหาร TEFAL BLENDFORCE รุ่น BL307 มีรูปทรงที่สวยงาม ทันสมัย สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย รวมทั้งชิ้นส่วนทุกชิ้นควบคุมการผลิตอย่างพิถีพิถัน ด้วยขนาดที่พอเหมาะพอดี จึงทำให้จัดวางได้ง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน มาพร้อมเทคโนโลยีใบมีด Tripl’Ax 6 ใบมีด 3 ระดับ เพื่อการปั่นที่สมบูรณ์แบบ Blendforce พลังปั่นที่เหนือกว่า และเทคโนโลยี Tripl’Ax อันล้ำสมัยเพื่อมอบผลลัพธ์การปั่นที่สมบูรณ์แบบ ปั่นส่วนผสมได้ทุกชนิด ขนาดเหมาะมือและใช้สะดวก ด้วยระบบล็อคนิรภัยอัจฉริยะ เครื่องปั่นจะเริ่มทำงานเมื่อโถปั่นล็อคเข้าที่แล้วเท่านั้น มีความเร็ว 2 ระดับ เหมาะสำหรับส่วนผสมทุกประเภท สามารถทำความสะอาดง่ายเนื่องจากใบมีดและโถปั่นพลาสติกสามารถถอดออกได้ และไร้กังวลเมื่อใช้กับเครื่องล้างจาน โดยมีกำลังไฟ 400 วัตต์อันทรงพลังที่จะช่วยปั่นส่วนผสมของคุณได้อย่างรวดเร็ว ข้อดี
ข้อด้อย
4. เครื่องปั่นอาหาร ELECTROLUX ความจุ 1.5 ลิตร รุ่น EBR3416เครื่องปั่นอาหาร Electrolux ความจุ 1.5 ลิตร รุ่นนี้ มีดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา เหมาะกับทุกครัวเรือน ที่เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานอันครบครัน ให้คุณสนุกสนานกับการทำอาหารทั้งการปั่นน้ำหรือปั่นแห้ง ไม่ว่าจะเป็นการปั่นผลไม้ ปั่นพริก ปั่นเนื้อและปั่นเครื่องแกง ก็สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า เเละคุ้มราคา ตัวโถปั่นเป็นโถปั่นพลาสติก BPA Free มาพร้อมมอเตอร์ขนาด 400 วัตต์ ขณะที่ใบพัดเป็นใบมีดสแตนเลส 4 แฉก สามารถถอดทำความสะอาดได้ สามารถใช้ปั่นน้ำแข็งก้อนใหญ่หรืออาหารแข็ง ๆ ได้ละเอียดยิ่งขึ้น เลือกปรับความเร็วได้ 3 ระดับและปั่นชั่วขณะได้ นอกจากนี้ยังมีระบบล็อคโถปั่นนิรภัยและจะตัดไฟอัตโนมัติเมื่อมอเตอร์ทำงานหนักค่ะ ข้อดี
ข้อด้อย
5. เครื่องปั่นอาหาร OTTO เครื่องปั่นทรงพลังสีแดง รุ่น BE-127A
OTTO เครื่องปั่นทรงพลังสีแดง รุ่น BE-127A ตัวโถมีความจุ 2 ลิตรทำจากพลาสติก ABS อย่างดี มาพร้อมใบมีดสแตนเลสมี 6 แฉก สามารถปั่นน้ำแข็ง ของแห้ง เมล็ดถั่ว เมล็ดกาแฟ เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ ฯลฯ ปั่นได้ทั้งอาหารแห้งและเปียก และสามารถปรับความเร็วได้ หลายระดับ มาพร้อมปุ่ม Pulse สำหรับหยุดชั่วคราว และช่วยในการบดน้ำแข็ง ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบ Safety Locks ที่ฐานโถและระบบตัดการทำงานอัตโนมัติเมื่อมอเตอร์ร้อน นอกจากนี้ OTTO เครื่องปั่นทรงพลังสีแดง รุ่น BE-127A ยังมีช่องตรงกลางฝาสำหรับใส่ส่วนผสมเพิ่มพร้อมแท่งคนอาหาร ข้างโถมีสเกลเป็นลิตร / มิลลิลิตร และ อีกด้านเป็น ออนซ์ / ถ้วย ตอบโจทย์ทุกการใช้งานให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น และมาพร้อมการรับประกันนาน 1 ปีอีกด้วยค่ะ ข้อดี
ข้อด้อย
6. เครื่องปั่นอาหาร PHILIPS รุ่น HR2115 (สีขาว)เครื่องปั่นอาหาร PHILIPS รุ่นนี้มีรูปลักษณ์เรียบง่ายไม่ได้มีความหรูหราอะไร มีกำลังไฟแรงกำลังที่ 600 W มีปุ่มแยกความเร็ว 5 ระดับซึ่งระบุไว้ที่ตัวเครื่องอย่างชัดเจนเข้าใจง่ายว่าระดับไหนใช้ปั่นอะไร ใบมีดเป็นแบบหยักสามารถใช้ทำได้ทั้งน้ำผลไม้ ซุป หรือเครื่องแกง โถเป็นโถพลาสติก มีความแข็งแรงทนทาน และสามารถเอาเข้าเครื่องล้างจานได้ จุดเด่นอีกอย่างของเครื่องปั่นอาหาร PHILIPS คือมีปุ่ม Quick Clean ที่ใช้ทำความสะอาดใบมีดและโถปั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย เหมาะกับคนที่อยากได้เครื่องปั่นกำลังกลาง ๆ เน้นใช้งานง่ายมาใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ ข้อดี
ข้อด้อย
7. เครื่องปั่นอาหาร SUPER GENIC รุ่น MULTI BLENDER BLACK SERIESเครื่องปั่นอาหาร Super Genic รุ่นนี้มีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย ได้แก่ การบด สับ ปั่น และมีกำลังแรงในการปั่นมากถึง 23,000 รอบ/นาที ปั่นเร็วขึ้น แรงขึ้นด้วยมอเตอร์ 380 วัตต์ ใบมีดมีความแข็งแรงทนทาน สามารถบดสับอาหารที่มีความแข็งได้ดีเยี่ยม และมีดีไซน์สวยงามทันสมัยตัวเครื่องทำงานด้วยมอเตอร์ AC มีความเร็วสูงและแข็งแรง มีระบบตัดไฟเพื่อความปลอดภัยเมื่อมอเตอร์ร้อน สามารถปรับความแรงได้ 2 ระดับ และมีปุ่ม Pulse สำหรับการปั่นเป็นจังหวะ และสามารถปั่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ให้ละเอียดได้ด้วยเวลาเพียงไม่กี่นาที และเลือกบดสับเนื้อสัตว์ ผัก หรือ อาหารได้ตามต้องการ เครื่องเดียวที่ทำให้คุณได้ทำอาหารได้อย่างอร่อยละไม่มีเบื่อเมื่อต้องทำอาหารค่ะ ข้อดี
ข้อด้อย
8. เครื่องปั่นอาหาร SHARP ความจุ 1 ลิตร รุ่น EM-14เครื่องปั่นอาหาร SHARP รุ่นนี้มีมอเตอร์ทรงพลังขนาด 350 วัตต์ ปั่นเร็ว ทันใจ ด้วยความจุ 1.0 ลิตรโถปั่นและโถบดแห้ง ผลิตจากพลาสติก FOOD GRADE มีไม้พายสำหรับคนอาหารให้เข้ากันให้ทั่วขณะปั่น มาพร้อมใบมีดสแตนเลสปลอดสนิม 4 แฉก มีความคมกริบ และมีปุ่ม PULSE เพื่อให้การปั่นง่ายยิ่งขึ้น สามารถปรับระดับความเร็วได้ 1 ระดับ มีระบบนิรภัยพิเศษ 2 ระบบ มีระบบ MOTOR SAFETY ช่วยป้องกันมอเตอร์ไหม้ เครื่องจะหยุดทำงาน หากใส่อาหารมากเกินไป มีระบบ SAFETY LOCK เครื่องจะไม่ทำงาน หากวางโถปั่นไม่เข้าที่ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานค่ะ ข้อดี
ข้อด้อย
9. Philips 3000 Series Blender เครื่องปั่นPhilips 3000 Series Blender เครื่องปั่น ที่ออกแบบตามหลักสรีสศาสตร์และทนทานต่อการใช้งานที่ง่ายดาย พร้อมทั้งยังดูทันสมัยและมีสไตล์ มีขนาดที่เหมาะกับห้องครัวทุกประเภท มีใบมีดสแตนเลสสตีลอันทนทานอยู่ภายในโถปั่นที่มีรูปทรงจับถนัดมือ และปุ่มหมุนช่วยให้ใช้งานได้ง่าย ทำความสะอาดง่าย สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องล้างจานได้อีกด้วย ข้อดี
ข้อด้อย
10. เครื่องปั่นอาหาร SHARP 600W รุ่น EM-ICE POWERเครื่องปั่นอาหาร SHARP 600 วัตต์ รุ่นนี้เหมาะกับทุกครัวเรือน และมาพร้อมมอเตอร์ขนาด 600 วัตต์ และมอเตอร์มีความเร็วสูงถึง 17,200 รอบ/นาที ขณะที่ใบพัดเป็นแบบใบมีดฟันปลา 6 แฉก สามารถใช้ปั่นน้ำแข็งก้อนใหญ่หรืออาหารแข็ง ๆ ได้ละเอียดยิ่งขึ้น และสามารถเลือกปรับความเร็วได้ 2 ระดับ และมีปุ่ม Reset ที่อยู่ใต้ฐานเครื่อง เพื่อให้เครื่องทำงานได้อีกครั้งหลังจากระบบนิรภัยตัดการทำงานอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีระบบนิรภัย Mortor Safety เพื่อป้องกันมอเตอร์ไหม้ โดยเครื่องจะหยุดทำงานเมื่อใส่อาหารมากเกินไป และระบบ Safety Lock ซึ่งเครื่องจะไม่ทำงานหากวางโถปั่นไม่ลงล็อค และมีการรับประกันมอเตอร์นาน 1 ปีค่ะ ข้อดี
ข้อด้อย
บทสรุปเป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลังจากที่เราได้แนะนำ 10 อันดับเครื่องปั่นอาหารยอดนิยมให้คุณได้ดูกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปั่นอาหารรุ่นไหน ๆ ก็สามารถทำอาหารได้หลากหลายเมนู และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเครื่องปั่นอาหารทั้ง 10 อันดับที่เราแนะนำให้คุณไปนั้นจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อของคุณได้ง่ายขึ้นนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ ให้คะแนนพวกเรา! Average rating 5 / 5. Vote count: 1 No votes so far! Be the first to rate this post. |