พัดลม จัดเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญที่ต้องมีกันทุกบ้านอย่างแน่นอน ด้วยสภาพอากาศที่ร้อน อบอ้าวในเมืองไทย ทำให้พัดลมเข้ามาช่วยให้ความเย็นแก่บุคคลที่อยู่อาศัยภายในบ้าน ไม่แพ้กับแอร์หรือเครื่องปรับอากาศนั้นเอง Show
นอกจากนี้ยังช่วยถ่ายเทอากาศและบรรเทาความร้อนได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้ามอบความเย็นที่ประหยัดไฟกว่าเครื่องปรับอากาศอย่างมากและมีราคาถูก จับต้องได้ ดังนั้นเราชอบรีวิวจะพาคุณไปดูว่า 5 อันดับ พัดลม ยี่ห้อไหนดี ที่ประหยัดไฟ ทนทาน ใช้งานได้นาน เหมาะสำหรับใช้งานได้ทุกบ้านอย่างแน่นอน พัดลม ยี่ห้อไหนดี
อันดับ 1 พัดลม Clarte รุ่น CT830ST
อันดับ 2 พัดลม Hatari รุ่น HE-S18M1
อันดับ 3 พัดลม imarflex รุ่น IF-777
หากคุณไม่รู้ว่าจะพิจารณาเลือกซื้อ พัดลม ยี่ห้อไหนดี และไม่รู้ว่าคุณสมบัติของพัดลมที่ประหยัดไฟ มีความทนทานนั้นดูกันอย่างไร ซึ่งคุณมาถูกที่แล้ว เพราะเราจะพาคุณไปรับชมคุณสมบัติของ 5 อันดับ พัดลม ยี่ห้อไหนดี ให้คุณพิจารณาประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อได้ตามที่ต้องการดังนี้ 1. พัดลม Clarte รุ่น CT830STเริ่มต้นพัดลม ยี่ห้อไหนดีเครื่องแรกกับ พัดลม Clarte รุ่น CT830ST มีดีไซน์เรียบง่าย สวยงาม เป็นพัดลมขนาด 18 นิ้ว มีใบพัด 5 แฉก สามารถกระจายและทำความเย็นได้ทั่วถึงทุกมุมห้อง ซึ่งการทำงานของใบพัดให้ลมแรงและไร้เสียงรบกวนของใบพัด สามารถปรับความแรงลมได้ 3 ระดับ คือ Low, Medium, High นอกจากนี้ยังปรับระดับความสูงของพัดลมได้ 86-99 เซนติเมตร มีขาตั้งแข็งแรงทนทาน และเพิ่มลูกยางรองขาเป็น 6 จุด เพื่อให้ตั้งบนพื้นได้อย่างมั่นคงแข็งแรง อีกทั้งใช้กำลังไฟฟ้าเพียง 85W และได้รับมาตรฐานมอก.934-2558 พร้อมฉลากประหยัดไฟเบอร์5 ถือว่าประหยัดพลังงาน คุ้มค่าเกินราคา จุดเด่น
จุดควรพิจารณา
2. พัดลม Hatari รุ่น HE-S18M1พัดลม Hatari รุ่น HE-S18M1 มีดีไซน์แบบทั่วไปที่เห็นได้ตามท้องตลาด สามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย โดยมีขนาดใบพัด 18 นิ้ว มี 3 ใบพัด ช่วยกระจายแรงให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ใช้กำลังไฟฟ้า 61W ประหยัดพลังงานอย่างมาก และสามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับ คือ Low, Medium, High นอกจากนี้ยังปรับระดับความสูงของพัดลมได้ 93.9-117.9 เซนติเมตร มาพร้อมกับระบบมอเตอร์แบบ Ball Bearing ใช้ลูกปืนเสริมการทำงาน ทำให้ใบพัดหมุนได้แรงและมอบความเย็นได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งได้รับมาตรฐานมอก.934-2558 อีกด้วย จุดเด่น
จุดควรพิจารณา
3. พัดลม imarflex รุ่น IF-777พัดลม imarflex รุ่น IF-777 มีดีไซน์เรียบง่าย เป็นพัดลมขนาดใบพัด 16 นิ้ว มี 5 ใบพัด โดยทางแบรนด์การันตีว่าจะทำให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน ให้แรงลมที่ต่อเนื่อง ไม่สะดุด พร้อมปรับระดับความแรงได้ 3 ระดับ สามารถถ่ายเทความร้อนได้เป็นอย่างดี ทำให้อากาศเย็นสบาย พร้อมฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และใช้กำลังไฟเพียง 80W มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อมอเตอร์ทำงานจนมีอุณหภูมิสูงจนเกินไปด้วย Thermal Fuse ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัยได้ อีกทั้งผ่านการรองรับมาตรฐานมอก.934-2558 อีกด้วย จุดเด่น
จุดควรพิจารณา
4. พัดลม Mitsubishi รุ่นR16A-GBอันดับรองสุดท้ายกับ พัดลม Mitsubishi รุ่น R16A-GB มีดีไซน์ค่อนข้างทันสมัย มีสีแดงตัดกับสีดำดูสวยงาม หรูหรา ซึ่งเป็นพัดลมตั้งพื้นกึ่งตั้งโต๊ะ เพราะมีฐานพัดลมค่อนข้างเล็ก ทำให้วางบนโต๊ะได้สบาย มีขนาดใบพัด 16 นิ้ว มี 3 ใบพัด ใช้กำลังไฟฟ้า 46W และมอเตอร์เป็นรูปแบบปิดให้พลังลมแรง ป้องกันฝุ่นละออง และสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่มอเตอร์ พร้อมปรับระดับความสูงในการใช้งานได้ 83,93 และ 103 เซนติเมตร นอกจากนี้มีระบบ Thermal Fuse ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อมอเตอร์มีอุณหภูมิสูงจนเกินไป และระบบ CURRENT FUSE ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อไฟฟ้าลัดวงจร อีกทั้งใช้ชิ้นส่วนระดับ Premium Safety ป้องกันไฟลุกลามและผ่านมาตรฐานมอก.934-2558 อีกด้วย จุดเด่น
จุดควรพิจารณา
5. พัดลม Xiaomi Mijia Smart Standing Fanมาถึงพัดลม ยี่ห้อไหนดีเครื่องสุดท้ายกับ พัดลม Xiaomi Mijia Smart Standing Fan มีดีไซน์และรูปทรงทันสมัย โดยมีใบพัด 2 ด้าน ซึ่งด้านในมี 5 ใบพัดและด้านนอก 7 ใบพัด ทำให้กระจายทิศทางลมได้ทั่วถึง พร้อมกับมอเตอร์ DC brushless ทรงประสิทธิภาพ ทำให้พัดลมหมุนได้แรง สามารถปรับทิศทางของลมหมุนได้ 30, 60, 90, 120, 140 องศา นอกจากนี้สามารถควบคุมการทำงานด้วยระบบ Wi-Fi 2.4Ghz และผ่าน Application XiaoAI ซึ่งใช้สั่งการทำงานด้วยเสียงได้เช่นกัน ทั้งนี้ใช้กำลังไฟฟ้าเพียง 24W เท่านั้น และมีปุ่มปรับระดับความสูงได้ตั้งแต่ 62.5-100 เซนติเมตร ใช้งานง่ายด้วยการกดปุ่มเดียวเท่านั้น จุดเด่น
จุดควรพิจารณา
ทำความรู้จักเกี่ยวกับพัดลมว่ามีกี่ประเภท?หากพูดถึงประเภทของพัดลมจะมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน ซึ่งนำไปใช้งานได้แตกต่างกันหลายรูปแบบ และเราจะมาทำการให้ความรู้กับคุณว่าพัดลมมีกี่ประเภท เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อในอนาคตได้อีกด้วย ดังต่อไปนี้ 1. พัดลมตั้งพื้นเป็นประเภทพัดลมที่เราพบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งจะมีความยาวของตัวพัดลมและมีใบพัดให้เห็นอย่างชัดเจน โดยในปัจจุบันมีการออกแบบพัดลมตั้งพื้นชนิดไร้ใบพัด ทำให้ไร้เสียงรบกวนในการใช้งานได้อีกเช่นกัน ทั้งนี้พัดลมตั้งพื้นคนเรามักนิยมใช้งานกันมากที่สุด เพราะตั้งใช้งานได้ง่าย ซึ่งมักจะอยู่ตามห้องนอน ห้องทำงาน และห้องนั่งเล่น เป็นต้น เพื่อให้มีถ่ายเทอากาศหายใจสะดวกและพร้อมให้ความเย็นสบายแทนเครื่องปรับอากาศได้อีกด้วย 2. พัดลมตั้งโต๊ะพัดลมตั้งโต๊ะมีความคล้ายคลึงกับพัดลมตั้งพื้น แต่ทว่ามีขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบา เพื่อให้คุณสามารถตั้งวางพัดลมใช้งานบนโต๊ะ โดยที่โต๊ะของคุณไม่เกิดการเสียหาย ซึ่งมีลักษณะเด่นอย่าง ขนาดหน้าใบพัดค่อนข้างกว้าง ลำตัวพัดลมสั้น ส่วนใหญ่เป็นพัดลมอเนกประสงค์ที่เราพบเห็นได้ตามร้านแผงลอย นอกจากนี้มีราคาค่อนข้างถูก จับต้องได้ง่ายอีกด้วย 3. พัดลมติดเพดานพัดลมติดเพดานหรือพัดลมติดผนัง เป็นพัดลมแนวดิ่งที่ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งกับสิ่งก่อสร้างโดยเฉพาะ ซึ่งตัวพัดลมจะไม่มีขาสำหรับวางบนโต๊ะหรือพื้น มีเพียงขาที่ใช้ยึดติดกับเข้าเพดาน ส่วนใหญ่ใช้พัดลมติดเพดานในบริเวณห้องเล็กๆหรือห้องไม่กว้างมากนัก เพื่อให้กระจายทิศทางลมและถ่ายเทอากาศให้หายใจได้สะดวกยิ่งขึ้นนั่นเอง 4. พัดลมไอน้ำเป็นพัดลมที่พ่นหมอกหรือไอน้ำมีให้เลือกใช้ทั้งในและนอกอาคาร ซึ่งให้ความเย็นได้ดีกว่าพัดลมทั่วไป แต่ไม่เหมาะสำหรับใช้งานในห้อง ควรใช้สำหรับที่โล่งกว้าง เพราะไอน้ำสามารถก่อให้เกิดความชื้น อาจทำให้สิ่งของเสียหายได้ นอกจากนี้ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเป็นรูปแบบพัดลมไอเย็น เสมือนใช้เครื่องปรับอากาศ เคลื่อนที่ขนย้ายสะดวกได้ง่าย โดยสามารถทำอุณหภูมิได้ไม่แพ้เครื่องปรับอากาศอีกด้วย 5. พัดลมดูดอากาศพัดลมดูดอากาศหรือพัดลมระบายอากาศ เป็นพัดลมที่ช่วยในการระบายอากาศโดยเฉพาะ เพื่อทำให้อากาศหมุนเวียนและถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น โดยพัดลมจะดูดอากาศที่เป็นของเสียออกสู่นอกห้อง ซึ่งมักจะใช้กันเพื่อระบายกลิ่นอับและระบายความชื้น มักจะเห็นได้ตามอุตสาหกรรม, โกดังเก็บสินค้า เป็นต้น วิธีพิจารณาเลือกซื้อ พัดลม ยี่ห้อไหนดี ให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด1. ตามวัตถุประสงค์ในการใช้งานการเลือกซื้อพัดลม ยี่ห้อไหนดี ควรดูวัตถุประสงค์ในการใช้งานของคุณว่าไปใช้งานในรูปแบบใด เช่นตั้งพื้น ตั้งโต๊ะ หรือพัดลมไอน้ำ เป็นต้น ซึ่งแต่ละประเภทพัดลมนำไปใช้งานที่แตกต่างกัน หากต้องการพัดลมที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและตั้งไว้ในห้องได้ ควรเลือกซื้อแบบตั้งพื้น เพราะสามารถใช้งานง่าย กระจายทิศทางลมได้ทั่วทุกมุมห้องอีกด้วย 2. ฉลากเบอร์ 5 และมาตรฐานมอก.แน่นอนว่าการใช้งานพัดลมต้องได้รับมาตรฐานมอก.และต้องมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะหากคุณเลือกซื้อพัดลมที่ไม่มีมาตรฐานและไม่มีฉลาก อาจก่อให้เกิดเสี่ยงอันตราย เพราะสินค้าไม่มีคุณภาพ ไม่ผ่านการรับรอง ดังนั้นหากคุณต้องการความสะดวกสบาย ไร้กังวล ควรเลือกซื้อพัดลมที่มีมาตรฐานมอก. เช่นเลขมอก.934-2558 เป็นต้น และต้องมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพื่อให้ได้รับพัดลมที่มีคุณภาพ ประหยัดไฟนั่นเอง 3. ขนาดใบพัดขนาดใบพัดของพัดลมก็เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อไปใช้งาน เพราะยิ่งมีขนาดใบพัดใหญ่ก็จะช่วยให้สร้างแรงลมได้ดียิ่งขึ้นและกระจายทิศทางลมให้ทั่วถึงได้ทุกมุมห้องได้ นอกจากนี้จำนวนของใบพัดยิ่งมีมากก็จะช่วยให้พัดลมทำงานไร้เสียงรบกวนได้ เช่น จำนวน 3 ใบพัด กับ 5 ใบพัด ถ้าใช้งานระบบ 5 ใบพัดจะได้รับลมที่แรง กระจายกระแสลมได้ทั่วถึง พร้อมเสียงเงียบกว่าจำนวน 3 ใบพัดนั่นเอง 4. กำลังไฟฟ้าในปัจจุบันการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าคงต้องดูกันที่กำลังไฟฟ้า เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการประหยัดพลังงาน ซึ่งจริงๆแล้วการเลือกซื้อพัดลมควรดูกำลังไฟฟ้าที่ไม่เกิน 100W เพราะกำลังไฟฟ้าเป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนมอเตอร์ให้ทำงานเสถียรมากยิ่งขึ้น หากมีกำลังไฟที่เหมาะสมไม่มากหรือน้อยจนเกินไป จะทำให้รับพัดลมที่ประหยัดพลังงาน ถ้าให้เราแนะนำควรเลือกซื้อกำลังไฟประมาณ 60-80 ถือเป็นกำลังไฟที่พอดี จ่ายไฟได้เสถียร และประหยัดพลังงานอย่างแน่นอน บทสรุปเลือกซื้อ พัดลม ยี่ห้อไหนดี ประหยัดไฟ ทนทาน ปี2022สำหรับบทสรุปเลือกซื้อ พัดลม ยี่ห้อไหนดี ที่ประหยัดไฟ ลมแรง และทนทาน เราขอแนะนำพัดลม Clarte รุ่น CT830ST เป็นพัดลมขนาด 18 นิ้ว มีใบพัด 5 แฉก สามารถกระจายและทำความเย็นได้ทั่วถึงทุกมุมห้อง ใช้กำลังไฟฟ้า 85W พลังลมแรง และสามารถปรับความแรงของลมได้ 3 ระดับคือ Low, Medium, High มีขาตั้งแข็งแรงทนทาน และเพิ่มลูกยางรองขาเป็น 6 จุด เพื่อให้ตั้งบนพื้นได้อย่างมั่นคง ซึ่งปรับความสูงของพัดลมได้ 86-99 เซนติเมตร นอกจากนี้ได้รับมาตรฐานมอก.934-2558 พร้อมฉลากประหยัดไฟเบอร์5 ถือว่าประหยัดพลังงาน ราคาถูกจับต้องได้ คุ้มค่าใช้งานได้นานอย่างแน่นอน |