การปกครองสมัยสุโขทัย Show อาณาจักรสุโขทัยเมื่อแรกตั้งเป็นอาณาจักรเล็กๆสมัยที่รุ่งเรืองที่สุดคือสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชมีอาณาเขต ทิศเหนือจรดเมืองลำพูน ทิศตะวันออกเฉียงเหนือจรดเทือกเขาดงพญาเย็นและภูเขาพนมดงรัก ทิศตะวันตกจรดเมืองหงศาวดีทางใต้จรดแหลมมลายู มีกษัตริย์ปกครองเป็นเอกราชติดต่อกันมา 6 พระองค์ g อาณาจักรสุโขทัยเสื่อมลงและตกเป็นเมืองขึ้นของกรุงศรีอยุธยาเมื่อสมัยพญาไสลือไทโดยทำสงครามปราชัยแก่พระบรมราชาที่ 1 แห่งกรุงศรีอยุธยาในปีพ.ศ.1921 และราชวงศ์พระร่วงยังคงปกครองในฐานะประเทศราชติตต่อกันมาอีก 2พระองค์ จนสิ้นราชวงศ์ พ.ศ.1981 ลักษณะการปกครองสมัยสุโขทัย แบ่งออกเป็น 2ช่วง คือ การปกครองสมัยสุโขทัยตอนต้นและการปกครองสมัยสุโขทัยตอนปลาย ดังต่อไปนี้ 1.การปกครองสมัยสุโขทัยตอนต้นเมื่อขอมปกครองสุโขทัยใช้ระบบการปกครองแบบนายปกครองบ่าวเมื่อสถาปนากรุงสุโขทัย ขึ้นใหม่พ่อขุนศรีอินทราทิตย์จึงจัดการปกครองใหม่เป็นแบบบิดาปกครองบุตรหรือพ่อปกครองลูก หรือ ปิตุลาธิปไตย ซึ่งมีลักษณะสำคัญ 4 ประการ คือ 1. รูปแบบราชาธิปไตย หมายถึงพระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้ปกครองสูงสุด ทรงใช้อำราจสูงสุดที่เรียกว่า อำนาจอธิปไตย 2. รูปแบบบิดาปกครองบุตร หมายถึงพระมหากษัตริย์ทรงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประชาชนมากจึงเปรียบเสมือนเป็นหัวหน้าครอบครัว หรือพ่อจึงมักมีคำนำหน้าพระนามว่าพ่อขุน 3. ลักษณะลดหลั่นกันลงมาเป็นขั้นๆเริ่มจากหลายครอบครัวรวมกันเป็นบ้านมีพ่อบ้านเป็นผู้ปกครองหลายบ้านรวมกันเป็นเมืองมีพ่อเมือง เป็นผู้ปกครองหลายเมืองรวมกันเป็นประเทศมีพ่อขุนเป็นผู้ปกครอง 4. การยึดหลักธรรมในพุทธศาสนาในการบริหารบ้านเมือง 2.การปกครองสมัยสุโขทัยตอนปลายการปกครองแบบบิดาปกครองบุตรเริ่มเสื่อมลงเนื่องจากสถาบันพระมหากษะตริย์ไม่มั้นคงเกิดความ รำส่ำระสายเมืองต่างๆแยกตัวเป็นอิสระพระมหาธรรมราชาที่ 1จึงทรงดำเนินพระราชกุศโลบายทรงทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา และทรงปฏิบัติธรรมเป็นตัวอย่างแก่ราษฏรเพือ่ให้ราษฎรเลื่อมใสศรัทธาในหลักธรรมของพระพุทธศาสนาสร้างความสามัคคีในบ้านเมือง ลักษณะการปกครองสุโขทัยตอนปลายจึงเป็นแบบธรรมราชาดังนั้นจึงนับได้ว่าพระองค์ธรรมราชาพระองค์แรกและพระมหากษัตริย์องค์ ต่อมาทรงพระนามว่า"พระมหาธรรมราชาทุกพระองค์" การปกครองสมัยสุโขทัย
การเมืองการปกครอง สมัยสุโขทัย แบ่งเป็น 3ลักษณะ คือ 1. การปกครองแบบพ่อปกครองลูกเป็นลักษณะเด่นอขงการปกครองตนเองในสมัยสุโขทัยการปกครองลักษณะนี้พระมหากษัตริย์เปรียบเหมือนพ่อของประชาชน และปลูกฝังความรู้สึกผูกพันระหว่างญาติมิตรการปกครองเช่นนี้เด่นชัดมากในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช 2. การปกครองแบบธรรมราชาหรือธรรมาธิปไตยลักษณะการปกครองทรงยึดหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาและต้องเผยแพร่ธรรมะสู่ประชาชนด้วยการปกครอง แบบธรรมราชานั้นเจริญรุ่งเรืองมากในสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1พระองค์ทรงออกบวชและศึกษาหลักธรรมอย่างแตกฉาน นอกจากนี้ยังทรงพระราชนิพนธ์ หนังสือเตภูมิกถา(ไตรภูมิพระร่วง)ไว้ให้ประชาชนศึกษาอีกด้วย 3. ทรงปกครองโดยยึดหลักสิทธิเสรีภาพเป็นการปกครองที่พระมหากษัตริย์ไม่ได้ทรงใช้อำนาจอย่างเด็ดขาด แต่ให้มีสิทธิเสรีภาพในการประกอบอาชีพด้านต่าง ๆ ตามความถนัดเป็นต้น การปกครองของอาณาจักรสุโขทัย แบ่งการปกครองออกเป็น
1. เมืองหลวงหรือราชธานีเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์พระราชวังและวัดจำนวนมากตั้งอยู่ในและนอกกำแพงเมืองราชธานีเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง การศาสนาวัฒนธรรมศิลปะและขนบประเพณีพระมหากษัตริย์ทางเป็นผู้ปกครองเอง 2. เมืองลูกหลวงเป็นเมืองหน้าด่านตั้งอยู่รอบราชธานีห่างจากเมืองหลวงมีระยะทางเดินเท้าประมาณ 2วัน ได้แก่ เมืองศรีสัชนาลัย เมืองสองแคว เมืองสระหลวง เมืองชากังราว เมืองลูกหลวงเป็นเมืองที่เจ้านายเชื้อพระวงส์ได้รับแการแต่งตั้งจากพระมหากษัตริย์ ความเสื่อมของอาณาจักรสุโขทัย 1. การเปลี่ยนแปลงการปกครองสุโขทัยสมัยแรกๆปกครองแบบพ่อปกครองลูกและได้เปลี่ยนเป็นสมมติเทพในสมัยพญาเลอไทซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ของ พระมหากษัตริย ์กับประชาชนห่างเหินกันมากขึ้นความสัมพันธ์แบบเครือญาติหมดไปพระมหากษัตริย์ต้องปกครองประเทศโดยลำพังทำให้เกิดความขัดแย้งได้ง่าย ถ้าพระมหากษัตริย ์อ่อนแอ 2. การกระจายอำนาจในการปกครองการปกครองแบบนี้ทำให้หัวเมืองต่างๆตั้งตัวเป็นอิสระได้ง่าย เพราะมีอิทธิพลในการปกครองตนเอง 3. การแตกแยกในราชวงศ์สาเหตุนี้ทำให้บ้านเมืองทรุดโทรมและสูญเสียกำลังมากเพราะการฆ่าฟันกัน 4. การสิ้นสุดของอาณาจักรสุโขทัยซึ่งเกิดจากการสถาปนากรุงศรีอยุธยาที่มีความพร้อมและมีความเข้มแข็งมากกว่า
การสถาปนาอาณาจักรสุโขทัย อาณาจักรสุโขทัยสถาปนาขึ้นประมาณตอนปลายพุทธศตวรรษที่ 18 ในบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งมีปัจจัยที่เอื้อต่อการสถาปนาดังนี้ 1. การเสื่อมอำนาจของอาณาจักรขอม อาณาจักรขอมเคยเจริญรุ่งเรืองอยู่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 16 จนถึงกลางพุทธศตวรรษที่ 18 ในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง ตอนล่าง มีเมืองนครธม(พระนครหลวง) เป็นเมืองหลวงในประเทศกัมพูชาในปัจจุบันและแผ่อิทธิพลเข้ามายังบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย รวมทั้งบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างด้วย ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ( พ. ศ. 1724 – 1761) อาณาจักรขอมเจริญรุ่งเรืองมาก หลังจากนั้นพระมหากษัตริย์องค์ต่อมาอ่อนแอ ไม่สามารถรักษาอำนาจไว้ได้อาณาจักรขอมจึงเสื่อมอำนาจลงเรื่อย ๆจึงเปิดโอกาสให้ชนชาติอื่นที่อาศัย ในบริเวณนั้นตั้งตัวเป็นอิสระอย่างเช่นชนชาติไทยได้สถาปนาอาณาจักรสุโขทัยขึ้นมา 2. ความสามารถของผู้นำชาวไทย ในตอนหลายพุทธศตวรรษที่ 18 ขอมที่มีศูนย์กลางการปกครองที่สุโขทัย เมืองของคนไทยอยู่ภายใต้การปกครองของขอม ได้แก่เมืองศรีสัชนาลัย เมืองบางยาง เมืองรากได้รวมตัวกันอย่างมั่นคงและมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติที่แน่นแฟ้นเมื่อขอมเสื่อมอำนาจจึงร่วมมือกันขับ ไล่ขอมสบาดโขลญลำพงออกจากสุโขทัยได้เป็นอาณาจักรของคนไทยได้สำเร็จ
พระมหากษัตริย์ที่ปกครองอาณาจักรสุโขทัย พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรสุโขทัยเป็นกษัตริย์ราชวงศ์พระร่วงมีจำนวน 9 พระองค์ ดังนี้
ความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์กับประชาชนในสมัยสุโขทัยเป็นแบบใด *ความสัมพันธ์ระหว่างพระมหากษัตริย์กับราษฎร มีลักษณะแบบเจ้ากับข้า การจัดระเบียบการปกครองราชธานี เป็นแบบจตุสดมภ์ เป็นลักษณะผสมระหว่างการปกครองแบบไทยที่ได้รับมาจากสุโขทัยและแบบเขมร ส่วนที่รับมาจากเขมร คือ การที่พระมหากษัตริย์มอบหมายหน้าที่และความรับผิดชอบให้แก่เสนาบดี 4 ตำแหน่ง ซึ่งเรียกว่า จตุสดมภ์ คือ เวียง วัง คลัง นา
การปกครองแบบพ่อปกครองลูกของอาณาจักรสุโขทัยมีลักษณะเป็นอย่างไรระบบพ่อปกครองลูก เป็นคำศัพท์ที่ใช้เรียกลักษณะการปกครองแบบโบราณที่ผู้ปกครองเป็นเสมือน “พ่อ” และประชาชนเปรียบเสมือน “ลูก” ในทางคำศัพท์จะใช้เรียกแทนพฤติกรรมของบุคคล องค์กร หรือการปกครองที่จำกัดสิทธิเสรีภาพและความอิสระของประชาชน ในบางความหมายจะใช้แทนการเรียกระบบสังคมที่จำกัดสิทธิของคนบางกลุ่มและให้คนบางกลุ่มที่เป็นส่วนน้อย ...
พระพุทธศาสนามีความเกี่ยวข้องกับการปกครองในสมัยสุโขทัยอยาง ไรการปกครองที่อาศัยพระพุทธศาสนานี้เรียกว่าการปกครองแบบธรรมราชา พระมหากษัตริย์จะทรงตั้งมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรม การปกครองแบบธรรมราชานี้ถูกนำมาใช้จนประทั่งสิ้นสุดสมัยสุโขทัย การปกครองแบบกระจายอำนาจ
เพราะเหตุใดการปกครองในสมัยสุโขทัยจึงเรียกว่า การปกครองแบบ พ่อปกครองลูก *สำหรับสังคมไทย คำว่าระบบพ่อปกครองลูกจะถูกใช้แทนการปกครองของรัฐบาลที่มีพระมหากษัตริย์เป็นผู้นำในสมัยสุโขทัยนั้น ทำให้เข้าใจได้ว่า มีข้าราชการเกิดขึ้นแล้วเรียกว่า "ลูกขุน" โดยมีพระมหากษัตริย์เป็น "พ่อขุน" และมีประชาชนเป็น "ท่วย" หรือ "ไพร่ฟ้า" เพราะฉะนั้น กษัตริย์ในฐานะพ่อจึงสามารถใช้อำนาจเด็ดขาดในการปกครองลูกได้ เพื่อ ...
|