กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

การทำงานของกระเป๋าเงินดิจิทัลมีหลักการง่ายๆคือ การนำเงินสดไปเติม เพื่อเก็บไว้แบบดิจิทัลในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ แล้วสามารถนำเงินดังกล่าวออกไปใช้จ่ายตามที่ต้องการ

บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลที่รู้จักกันดีในบ้านเรา ก็อย่างเช่น บริการของ True Money, AirPay หรือ Rabbit LINE Pay ที่ผู้ใช้บริการสามารถหักเงินจากบัญชีธนาคารของตน เพื่อนำไปเติมในกระเป๋าเงินดิจิทัล แล้วใช้เงินที่มีในกระเป๋านี้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ หรือซื้อสินค้าจากร้านที่ร่วมในระบบ

อย่างเช่นของค่าย True Money สามารถนำไปซื้อสินค้าใน 7-11 ได้ รวมถึงสั่งซื้อของทางออนไลน์ ในลักษณะของบัตรเครดิตเสมือนในร้านค้าที่รองรับ Mastercard ได้อีกด้วย

หรืออย่างบริการของค่าย Alipay ที่เป็นเจ้าตลาดในจีน สามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่ออนไลน์ ไปจนถึงร้านค้าริมทาง แค่กดมือถือ เปิด QR Code ให้ร้านค้าสแกน QR Code เพื่อส่งคำขอเรียกเก็บเงินมาให้ผู้ใช้ยืนยัน หรือผู้ใช้จะสแกน QR Code ของร้านค้า แล้วกดจ่ายมือถือก็ได้เช่นกัน ซึ่งคิดค่าบริการในอัตราที่ต่ำกว่าบัตรเครดิต และใช้จ่ายด้วยมูลค่าน้อยๆ เช่น จ่ายค่าอาหารจานละไม่ถึงหลักร้อยบาท ตามศูนย์อาหารก็ได้ เป็นต้น

แหล่งข่าวผู้หนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่าย Mobile Banking ของธนาคารแห่งหนึ่ง เตือนว่า กระเป๋าเงินดิจิทัล และระบบการโอนเงินแบบโมบายแบงกิ้ง เป็นเทคโนโลยีที่ดีมีประโยชน์ ช่วยลดเวลา และขั้นตอนยุ่งยากในการทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ก็มีจุดอ่อนเกิดขึ้นได้ หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง

ยกตัวอย่าง กรณีผู้ขายสินค้าออนไลน์ ที่มักจะเปิดเผยเลขบัญชีธนาคารของตน เพื่อให้ลูกค้าโอนเงินชำระ อาจถูกคนร้ายสวมรอยทำทีเป็นลูกค้ามาขอซื้อสินค้า ขอเลขประจำตัวประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และข้อมูลส่วนบุคคล แล้วนำข้อมูลเหล่านี้ไปเปิดบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยตั้งค่าบัญชีให้เชื่อมกับบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย

กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

จากนั้นผู้เสียหายจะได้รับการแจ้งเตือน ผ่านทางโทรศัพท์มือถือในทำนองว่า “คุณต้องการที่จะให้บัญชีธนาคารของคุณเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือไม่?” แต่การแจ้งเตือนนั้นมีข้อความที่ต้องอ่านค่อนข้างยาว ทำให้ผู้เสียหายหลายรายขี้เกียจอ่าน และคิดว่าไม่น่าจะเป็นอันตราย

เมื่อผู้ขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งเป็นผู้เสียหายกด “ยอมรับ” หรือ “ตกลง” บน Mobile Banking App การเชื่อมบัญชีระหว่าง Mobile Banking ของผู้เสียหายกับบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของคนร้ายก็จะสมบูรณ์ทันที ทำให้คนร้ายสามารถยักย้ายถ่ายโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย ผ่านช่องทาง Mobile Banking ไปยังบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ของคนร้ายจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่นาที

ทาง Chess Studio รับทำเว็บไซต์ ขอให้ผู้บริการทุกท่านเวลาใช้ พยายามอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวในทุกรูปแบบกับใคร กรณีที่มีการแจ้งเตือนเข้ามาในโทรศัพท์ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน ขอแนะนำว่า ให้ยอมเสียเวลาอ่านข้อความที่แจ้งเตือนมานั้นให้ละเอียด ถ้าอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ ห้ามตอบตกลงใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่แน่ว่าการแตะหน้าจอเพียงครั้งเดียว อาจจะทำให้เงินของท่านถูกถอนออกจากบัญชีธนาคารจนเกลี้ยงภายในพริบตา อกจากชื่อผู้ใช้ (User Name) รหัสผ่าน (Password) และข้อมูลส่วนบุคคล ที่ต้องเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ผู้ใช้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัล ยังควรต้องตระหนักถึงการใช้อุปกรณ์ และแอปพลิเคชันต่างๆอย่างรอบคอบด้วย

กระเป๋าเงินดิจิทัลคืออะไร? และมีกี่ประเภทกันแน่?

กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

หลังจากในปี 2008 ที่ Satoshi Nakamoto สร้างสกุลเงินดิจิทัลที่มีชื่อว่า Bitcoin ขึ้นมาโดยมีจำนวนเหรียญทั้งหมด 21 ล้าน Bitcoin สาเหตุหนึ่งก็เพื่อต้องการสร้างความน่าเชื่อถือในเรื่องของเงินเฟ้อในอนาคต พอเมื่อเวลาผ่านไปความต้องการ Bitcoin ที่เพิ่มมากขึ้นจากหลายเหตุผลในขณะที่จำนวนเหรียญมีอย่างจำกัด ราคา Bitcoin จึงเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ในฐานะของนักลงทุนที่มีความสนใจในสินทรัพย์ชนิดใหม่นี้ การพิจารณาและคำนึงถึงการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลจึงมีความสำคัญไม่แพ้กันครับ

เนื่องจาก Bitcoin เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มี Value มาก การเก็บรักษา การโอน Value ที่มีจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งนั้นสำคัญมาก เพราะเราไม่สามารถนำไปฝากธนาคารและโอนให้กันผ่าน App เหมือนเงินสดที่เราทำกันอยู่ทุกวัน สินทรัพย์ดิจิทัลจะต้องมีที่เก็บรักษาที่แตกต่างออกไป ซึ่งมีวิธีการเก็บในหลายรูปแบบ บทความนี้ของ Zipmex จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกระเป๋าเงินดิจิทัลหรือที่เรียกกันว่า Wallet ครับ

Digital Wallet คืออะไร

ด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป รูปแบบของเงิน หรือตัวกลางที่ใช้แลกเปลี่ยนก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin นั้น เราไม่สามารถใช้วิธีการเก็บเช่นเดียวกับเงินสกุลใด ๆ ก็ตามในอดีต แต่คุณจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า Wallet พูดง่าย ๆ คือกระเป๋าเงินดิจิทัลนั่นแหละครับ ซึ่งอาจจะมาในรูปแบบของ App ในโทรศัพท์ เก็บไว้ที่คอมพิวเตอร์ เก็บไว้ใน Hardware Wallet หรือแม้กระทั่งเก็บไว้ในกระดาษ…โดยที่ Wallet นี้จะมีการเข้ารหัสเอาไว้ Private Key คือสิ่งที่คุณจะต้องรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี ส่วน Public Key หรือ Address คือสิ่งที่คุณจะต้องแจ้งกับผู้อื่นในการจะทำธุรกรรมใด ๆ เปลี่ยนเหมือนเลขที่บัญชีธนาคารของตัวคุณเองนั่นแหละครับ

ประเภทของกระเป๋าเงินดิจิทัล

เราสามารถที่จะเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin ได้อย่างปลอดภัยในหลากหลายรูปแบบ คุณอาจจะเปิดบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล แล้วเลือกที่จะเก็บ Bitcoin ไว้ใน Exchange หรืออาจอีกรูปแบบที่นิยมคือการใช้ Hardware Wallet เช่น Trezor , Ledger หรือใช้ Paper Wallet ก็ได้ คือการเขียนรหัสเอาไว้ในกระดาษแล้วพกติดตัวตลอดเวลาก็สามารถทำได้ครับ

Mobile Wallet

Mobile Wallet เป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินดิจิทัลที่เข้าถึงได้ง่ายกับทุกคนอยู่แล้ว เพราะปฎิเสธไม่ได้เลยว่าแทบทุกคนในเวลานี้มี Smart Phone กันหมด โดยคุณสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ที่ใช้เก็บ Bitcoin ซึ่งตัว Private Key นั้นจะถูกเก็บไว้บนมือถือในรูปแบบของการเข้ารหัส เรื่องความปลอดภัยก็ขึ้นอยู่กับว่ามือถือของเรานั้นมีความปลอดภัยมากแค่ไหน

ข้อดี

  • เข้าถึงได้ง่าย
  • การใช้โหมด Near-Field คือคุณสามารถทำธุรกรรมโดยไม่ต้องใช้รหัสสาธารณะของคุณ
  • สะดวกในการที่จะต้องทำธุรกรรมอยู่ทุกวัน

ข้อจำกัด

  • มีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาด้านความปลอดภัยและถูกแฮ็ก
  • หากคุณทำโทรศัพท์มือถือหายกระเป๋าเงินของคุณอาจถูกขโมยได้

Desktop Wallet

หากคุณต้องการใช้ Desktop เพื่อทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลคุณสามารถดาวน์โหลดกระเป๋าเงินบนคอมพิวเตอร์ของคุณ จากนั้นคุณสามารถจัดเก็บ Private Key ของคุณในฮาร์ดไดรฟ์ ซึ่งหลายคนมองว่าปลอดภัยกว่า Wallet ออนไลน์และมีโอกาสน้อยกว่าที่จะถูกแฮ็ก ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดจะถูกเก็บอยู่ในฮาร์ดไดรฟ์ซึ่งคุณเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้

ข้อดี

  • ปลอดภัยกว่า Mobile Wallet และ Paper Wallet
  • เหมาะสำหรับการเก็บเหรียญในปริมาณน้อย

ข้อจำกัด

  • ไม่สะดวกในการพกพา

Hardware Wallet

Hardware Wallet เป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ปลอดภัยที่สุดในตอนนี้ Private Key ของคุณจะถูกเก็บไว้ใน Hardware Wallet และมันสามารถเก็บ Bitcoin จำนวนเท่าไหร่ก็ได้ กระเป๋าเงินชนิดนี้สามารถนำไปใช้ได้โดยตรงและไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะ ซึ่งแตกต่างจากกระเป๋าเงินประเภทอื่น ๆ

Hardware Wallet โดยส่วนใหญ่จะมีหน้าจอแสดงผลข้อมูลต่าง ๆ เช่น จำนวนเหรียญที่มี ทำให้สะดวกในการใช้งานและดูเก๋ไก๋เวลาพกพาไปใช้งานตามที่ต่าง ๆ อีกด้วยครับ

ข้อดี

  • เป็นรูปแบบที่ปลอดภัยที่สุดของ Wallet ในตอนนี้
  • Hardware Wallet ทำให้ทรัพย์สินทั้งหมดของคุณออฟไลน์ไม่เสี่ยงกับการถูกแฮ็ก

ข้อจำกัด

  • มีราคาสูงพอสมควร (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นด้วยครับ)

Paper Wallet

อธิบายง่าย ๆ เลยคือการจดหรือคัดลอก Private Key ไว้บนกระดาษแทนที่จะเก็บไว้ในที่ที่ออนไลน์ เพื่อป้องกันการถูกแฮ็กหรือการโจมตีจากมัลแวร์ต่าง ๆ

แม้ว่า Paper Wallet จะค่อนข้างปลอดภัยในการถูกแฮ็ก แต่สิ่งสำคัญคือความเสี่ยงในการเก็บรักษา หรือความเสี่ยงหากคุณเกิดทำกระดาษใบนั้นหายไปก็แปลว่าสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณจะหายไปหมดในพริบตาครับ

ข้อดี

  • ปลอดภัยจากการโจมตีออนไลน์และมัลแวร์

ข้อจำกัด

  • หากคุณทำหายเท่ากับว่าคุณสูญเสียสินทรัพย์ทั้งหมดไปเลย

ความปลอดภัยของกระเป๋าเงินดิจิทัล

กระเป๋าเงินดิจิทัลสามารถเก็บเหรียญได้หลากหลายชนิด ขึ้นอยู่กับรูปแบบของ Wallet ที่คุณเลือกด้วยนะครับ แต่อย่างไรก็ตาม Wallet ที่จะต้องมีการออนไลน์ในบางช่วงหรือต้องออนไลน์ ตลอดเวลา อาจจะมีความเสี่ยงของการถูกแฮ็กหรือมัลแวร์ใด ๆ ก็ตามซึ่งมันอาจทำให้คุณถูกขโมยสินทรัพย์ทั้งหมดไปในทันที ขณะเดียวกันการเก็บไว้ใน Hardware และ Paper ก็มีความเสี่ยงที่คุณอาจจะทำมันหายด้วยตนเอง ฉะนั้นการจะเลือกเก็บเหรียญในรูปแบบไหน ก็ควรพิจารณาถูกแผนสำรองอยู่เสมอรวมถึงมีการกระจายความเสี่ยงโดยเก็บไว้ในหลาย Wallet ครับ

สิ่งที่ควรทำ

  • หากคุณเลือกเก็บแบบ Paper Wallet ก็ต้องรักษากระเป๋าของคุณให้ปลอดภัยด้วยการเคลือบหรือเก็บกระดาษไว้ในกล่องอย่างดี
  • คุณสามารถเลือกใช้ Hardware Wallet ได้เพราะปลอดภัยที่สุด
  • หากคุณใช้ Desktop Wallet ควรตรวจสอบว่าฮาร์ดไดรฟ์ของคุณได้รับการเข้ารหัสเพื่อให้มั่นใจว่าไวรัสและมัลแวร์ต่าง ๆ จะไม่สามารถละเมิดข้อมูลของคุณ

สิ่งที่ไม่ควรทำ

  • หลีกเลี่ยงการใช้กระเป๋าที่ต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา
  • ระมัดระวังการเก็บรักษา พูดง่าย ๆ คืออย่าทำมันหายด้วยตนเองครับ

ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจเลือกกระเป๋าเงินดิจิทัล คุณต้องทำการค้นคว้าหาข้อมูลให้เพียงพอ พิจารณาข้อดีข้อเสียและที่สำคัญคือตอบโจทย์ความต้องการตัวเองรึเปล่า เพราะกระเป๋าเงินดิจิทัลมีเยอะมากมาย คุณต้องหาความต้องการของตัวเองแล้วค่อยไปเลือกหาเครื่องมือที่จะมา Support  คุณครับ

Zipmex

กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

ผู้เขียน

กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

Zipmex

ซิปเม็กซ์ เป็นผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่มุ่งให้ความรู้กับทุกคนในทุกวัน เพื่อเปิดโอกาสในการลงทุนรูปแบบใหม่ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ โดยผ่านการกำกับดูแลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.)