การเขียนแบบโครงงานควรคำนึงถึงอะไรบ้าง


����Ԫҡ�����������й��ʹ� �����Ԫ� I20202
�ӹǹ 10 ���
�� �ç���¹�աѹ(�Ѳ�ҹѹ���ػ�����)
����� ��س����͡�ӵͺ���١��ͧ����ش
��ͷ�� 1)
�������������¢ͧ������ç�ҹ��١��ͧ
   �Ըա�÷���֡�����ҧ���к������鹵͹
   ��кǹ����駺����ҳ
   �Ըա�ô��Թ�ҹẺ������ҧẺἹ
   ��кǹ������Ѿ�ҡ÷�ͧ���
��ͷ�� 2)
����ҧἹ������¹�ç�ҹ���������ҡ����
   ������Ǣ���ç�ҹ
   ���ͤ�ٷ���֡���ç�ҹ
   �������Ф����Ӥѭ�ͧ�ç�ҹ
   �ѵ�ػ��ʧ��ͧ����֡�Ҥ鹤���
��ͷ�� 3)
�����Ӥѭ�ͧ�ç�ҹ�������١��ͧ
   ��û�Ժѵԧҹ�Ѵਹ
   ���ҧͤ�Ե�ͺؤ������˹��§ҹ
   ��û�Ժѵ�������ҧ�ջ���Է���Ҿ
   Ŵ�����Ѵ�����Ф�����ӫ�͹�˹�ҷ��
��ͷ�� 4)
���㴡���Ƕ֧��ǹ��Сͺ�ͧ�ç��١��ͧ
   ��ǹ�� ��ǹ���� ��ػ
   ��ǹ�� ��ǹ��ҧ ��ǹ����
   ��ǹ�� ��ǹ���ͤ��� ��ǹ���
   ��ǹ���ͤ��� ��ǹ���� ��ǹ����
��ͷ�� 5)
��鹵͹��÷��ç�ҹ�������§�ӴѺ�١��ͧ
   ��äԴ��С�����͡�������ͧ ����ҧἹ ��ô��Թ�ҹ �����¹��§ҹ ��ù��ʹ�
   ��äԴ��С�����͡�������ͧ ����ҧἹ �����¹��§ҹ ��ô��Թ�ҹ ��ù��ʹ�
   ����ҧἹ ��äԴ��С�����͡�������ͧ ��ô��Թ�ҹ �����¹��§ҹ ��ù��ʹ�
   ����ҧἹ ��äԴ��С�����͡�������ͧ �����¹��§ҹ ��ô��Թ�ҹ ��ù��ʹ�
��ͷ�� 6)
��������͡�������ͧ���������������Ǣ�鹵͹���令�÷ӵ������
   ��ä鹤�������Ǻ���������
   ������º���§��÷���§ҹ
   ��˹��ش���������Тͺࢵ�ͧ����ͧ
   ��¹�������Ф����Ӥѭ�ͧ�ç�ҹ
��ͷ�� 7)
����ʹͼŧҹ���������ٻẺ�������Ѻ�������������ͻ������ç�ҹ�������١��ͧ
   ����ʴ����ҷ���ص�
   ����駺����ҳ��ҧ˹��§ҹ��ҧ��
   ��èѴ�Է��ȡ������ǡѺ�ŧҹ
   ��èѴ�ʴ���С��͸Ժ�´��¤Ӿٴ
��ͷ�� 8)
����ҧἹ��÷��ç�ҹ�������١��ͧ
   ����ҧἹ��������ô��Թ���������ҧ�ͺ�ͺ
   ����ҧἹ������ö������觤鹤��������駺����ҳ��������
   ����ҧἹ����ö��Һ�֧�ش���ʧ������ͧ������з�Һ�֧�ͺࢵ��
   ���ҧἹ�з��ç�ҹ��������������������ͧ���ʹ�����÷�Һ�ҹ��͹
��ͷ�� 9)
�����¹��§ҹ�ç�ҹ�����������¹Ẻ�
   �����¹�ç�ҹ��������ҷ����ҹ���㨧�����еç�����
   �����¹�ç�ҹ���������Ẻ�繡ѹ�ͧ����������㨢ͧ���Ѵ��
   �����¹�ç�ҹ��������Ѩ����������Ѩ����������繷ҧ���͡�������ҹ�Դ���
   �����¹�ç�ҹ��������ٻ�Ҿ�����ʴب�ԧ������ǹ��Сͺ�ͧ�����¹��§ҹ
��ͷ�� 10)
���㴡�������١��ͧ����ǡѺ������º���§��§ҹ
   ���º���§�����ŵ������ʹ������ҡ�͹����ӵ����觷���ҧ���
   �Ӥѭ����ش��͵�ͧ�Ѵ�͡�ŧҹ�����������§�繼ŧҹ�ͧ����ͧ��ͧ�ͺ�س�Ҵ���
   ����ͨ��繵�ͧ�Ѵ�͡��ͤ������͹Ӣ����Ţͧ����������ҧ�ԧ��ͧ�͡���Ѵਹ���Ҩҡ�˹
   ������º���§��¹��§ҹ������ӹǹ���Ңͧ���ͧ����ҡ����ش��Ф���ռ���Ǩ�ͺ���������

โครงงานเป็นการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือหลายๆสิ่งที่อยากรู้คำตอบให้ลึกซึ้งหรือเรียนรู้ในเรื่องนั้นๆให้มากยิ่งขึ้น โดยใช้วิธีการศึกษาอย่างมีระบบขั้นตอนมีการวางแผนศึกษาอย่างละเอียดปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้จนได้ข้อสรุปหรือผลสรุป ที่เป็นคำตอบในเรื่องนั้นๆโครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์เป็นการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือหลายๆสิ่งที่อยากรู้คำตอบ ให้ลึกซึ้งหรือเรียนรู้ในเรื่องนั้นๆให้มากยิ่งขึ้นโดยใช้วิธีการศึกษาอย่างมีระบบขั้นตอนมีการวางแผนศึกษาอย่างละเอียดปฏิบัติ งานตามแผนที่วางไว้จนได้ข้อสรุปหรือผลสรุปที่เป็นคำตอบในเรื่องนั้นๆ

โครงงานคืออะไร

โครงงานเป็นการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือหลายๆสิ่งที่อยากรู้คำตอบให้ลึกซึ้งหรือเรียนรู้ในเรื่องนั้นๆให้มากยิ่งขึ้น โดยใช้วิธีการศึกษาอย่างมีระบบขั้นตอนมีการวางแผนศึกษาอย่างละเอียดปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้จนได้ข้อสรุปหรือผลสรุป ที่เป็นคำตอบในเรื่องนั้นๆ

โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์

เป็นโครงงานประเภทพัฒนาหรือประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่นำมาใช้ประโยชน์ในการทำงานสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวอาจเป็นสิ่งที่คิดขึ้นมาใหม่ทั้งหมด หรือเป็นการดัดแปลงมาจากของที่มีอยู่แล้วก็ได้เพื่อปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิมหรือสร้างแบบจำลองเพื่ออธิบายแนวคิดบางอย่างเช่นโครงงานการสร้างแบบจำลองบ้านประหยัดไฟแบบจำลองพัดลมไอน้ำเป็นต้น

ขั้นตอนการทำโครงงาน

การทำโครงงานเป็นกิจกรรมที่มีความต่อเนื่องและมีการดำเนินการหลายขั้นตอนแต่จะแบ่งขั้นตอนเป็นข้อหลักได้ดังนี้

1.      การคิดเลือกหัวเรื่องที่จะศึกษา

2.      การศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง

3.      การเขียนเค้าโครงงาน

4.      การลงมือทำโครงงาน

5.      การเขียนรายงาน

                     6. การแสดงผลงานและนำเสนอผลงาน

1..การคิดเลือกหัวข้อโครงงาน

การคิดเลือกหัวข้อเป็นขั้นตอนแรกของการทำโครงงานหัวเรื่องทีศึกษาควรเป็นเรื่องที่เกิดจากจากความสนใจความสงสัยของนักเรียนในเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ครูสอนในห้องเรียนที่อยากค้นหาคำตอบ ควรเป็นเรื่องที่แปลกใหม่แสดงความคิดสร้างสรรค์

ข้อควรคำนึงเกี่ยวกับการคิดเลือกหัวข้อที่จะทำโครงงาน

1. เหมาะสมกับระดับความรู้ของนักเรียน

2.เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน

3.วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้

4.งบประมาณเพียงพอ

5. ระยะเวลาที่ใช้ทำโครงงาน

6.มีคุณครูที่ปรึกษา

7.ความปลอดภัย

8.มีแหล่งความรู้หรือเอกสารเพียงพอที่จะค้นคว้า

9. ความตั้งใจที่จะทำโครงงานให้ประสบผลสำเร็จ

2. การศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง

ในการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องนักเรียนควรมีสมุดจดบันทึกหรือถ่ายเอกสารไว้เป็นหลักฐานควรนำมาแสดงในวันทำโครงงานด้วยการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้นักเรียนเกิดแนวคิด สามารถวางแผนการดำเนินงานได้อย่างเหมาะสมข้อความที่นักเรียนควรนำมาใช้ประกอบการทำโครงงานเช่น

- ใครเป็นผู้เขียนผู้แต่ง

-ชื่อหนังสือชื่อเรื่อง

-โรงพิมพ์สถานที่ปีที่พิมพ์

- หน้าที่คัดลอกมา

ข้อมูลทั้งหมดนี้นักเรียนสามารถนำไปเขียนเป็นเอกสารอ้างอิง

เช่นพรจันทร์จันทวิมล.การพับกระดาษแสงศิลป์การพิมพ์ .กรุงเทพฯ : 2538 ( 23 37 )

3. การวางแผนในการทำโครงงาน( การจัดทำเค้าโครงงาน )

เป็นขั้นตอนในการเขียนแผนงานซึ่งต้องคิดล่วงหน้าว่าจะทำอะไรอย่างไรโดยการเขียนเป็นโครงร่างหรือเค้าโครงนำเสนอ คุณครูที่ปรึกษา เป็นการกำหนดแผนการปฏิบัติงานอย่างคร่าวๆเพื่อให้มีความเข้าใจในการทำงานอย่างเป็นระบบขั้นตอนไม่สับสนโดยทั่วไปการวางแผนการทำโครงงานก็คือการจัดทำเค้าโครงงานนั่นเองการจัดทำเค้าโครงงานประกอบด้วย

1. ชื่อโครงงานควรเขียนเป็นข้อความที่กระชับชัดเจนสื่อความหมายได้ตรงกับงานที่นักเรียนกำลังศึกษา

2.ชื่อผู้ทำโครงงาน

3.ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน

4. ที่มาและความสำคัญของโครงงานอธิบายถึงความเป็นมาเกี่ยวกับปัญหาที่สนใจจะศึกษานี้ว่ามีความเป็นมาอย่างไร เหตุใดจึงได้เลือกทำโครงงานนี้มีเหตุจูงใจอะไรที่ทำให้สนใจเป็นกรณีพิเศษโครงงานนี้มีความสำคัญอย่างไรเป็นเรื่องที่คิดขึ้นมาใหม่หรือเป็นการศึกษาต่อจากโครงงานเดิมที่มีคนทำไว้แล้ว เพื่อขยายปรับปรุงหรือทำซ้ำเพื่อตรวจสอบผล

5. จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้าเป็นการระบุความต้องการในการศึกษาซึ่งอาจเขียนเป็นข้อๆ โดยต้องเขียนให้ผู้อื่นทราบว่าเราจะทำการศึกษาอะไรอย่างไรแต่ไม่ใช่นำเอาประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการทำโครงงานมาเขียนเป็นจุดมุ่งหมาย

6.สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า(ถ้ามี ) สมมติฐานเป็นคำตอบหรือคำอธิบายที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าซึ่งอาจจะถูกหรือไม่ก็ได้แต่ต้องคำนึงไว้ด้วยว่าการเขียนสมมติฐานนั้นควรมีเหตุผลคือมีทฤษฎีหรือหลักทางวิทยาศาสตร์มารองรับซึ่งมักเขียนเป็นข้อความที่สามารถมองเห็นแนวทางในการดำเนินงานหรือตรวจสอบได้

7.วิธีดำเนินงานประกอบด้วยวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ระบุว่าอุปกรณ์ที่ใช้มีอะไรบ้างมีขนาดเท่าใด อะไรบ้างที่ต้องจัดซื้อสิ่งใดที่ต้องจัดซื้อและสิ่งใดที่ต้องขอยืม

แนวการศึกษาค้นคว้าให้อธิบายว่าจะออกแบบทดลองอะไรทำอย่างไรจะดำเนินการสร้างหรือประดิษฐ์อะไรอย่างไรจะเก็บข้อมูลอะไรบ้างเก็บข้อมูลอย่างไรที่ไหนเมื่อใด

8. แผนปฏิบัติงานอธิบายเกี่ยวกับกำหนดเวลาเริ่มต้นและเวลาเสร็จสิ้นการดำเนินงานในแต่ละขั้นตอน

9.ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการทำโครงงานครั้งนี้ทั้งที่จะได้กับตนเองเพื่อนๆและผู้อื่น

10.เอกสารอ้างอิงเป็นการบอกให้ผู้อื่นทราบว่า

นักเรียนได้ทำการศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากแหล่ง

ใดบ้าง

4. การลงมือทำโครงงาน

เมื่อโครงงานผ่านความเห็นชอบจากที่ปรึกษาโครงงานแล้วนักเรียนเริ่มลงมือทำโครงงานสิ่งที่นักเรียนควรคำนึงถึงคือ

4.1 เตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อม

4.2มีการบันทึกการทำกิจกรรม

4.3ปฏิบัติการทดลองด้วยความละเอียด รอบคอบ

4.4คำนึงถึงความประหยัดและปลอดภัย

4.5 ทำตามแผนที่วางไว้

4.6ควรปฏิบัติซ้ำๆเพื่อปรับปรุงผลงาน

4.7ควรแบ่งงานให้ชัดเจน

4.8สิ่งประดิษฐ์ต้องคำนึงถึงความคงทนแข็งแรง

5. การเขียนรายงาน

การเขียนรายงานเกี่ยวกับโครงงาน เป็นวิธีบอก

ความหมายที่มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่ง

เพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจแนวคิดวิธีดำเนินงานการศึกษาค้นคว้าข้อมูลต่างๆที่รวบรวมได้ผลของการศึกษาตลอดจนประโยชน์และข้อเสนอแนะต่างๆที่ได้จากโครงงาน

การเขียนรายงานควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายชัดเจนและครอบคลุมหัวข้อดังนี้

1.ชื่อโครงงาน

2.ชื่อผู้ทำโครงงาน

3.ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน

4. บทคัดย่ออธิบายถึงที่มาและความสำคัญของโครงงานวัตถุประสงค์วิธีดำเนินการและผลที่ได้ตลอดจนข้อสรุปอย่างย่อ

5.กิตติกรรมประกาศคือการเขียนกล่าวขอบคุณผู้ที่ให้ความสนับสนุนในด้านต่างๆจนโครงงานประสบผลสำเร็จได้แก่ที่ปรึกษา ให้คำปรึกษาต่างๆผู้ปรกครอง อาจให้คำปรึกษา หรือสนับสนุนค่าใช้จ่ายงบประมาณต่างๆเป็นการให้เกียรติคนที่ช่วยเหลือเขียนชื่อสกุลจริงได้

6.ที่มาและความสำคัญ(เหมือนที่เขียนไว้ในเค้าโครงหรืออาจเพิ่มเติม)

7.จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า(เหมือนกับที่เขียนไว้ในเค้าโครง)

8. สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า (ถ้ามีเหมือนกับที่เขียนไว้ในเค้าโครงวิธีดำเนินงาน(เขียนบอกตั้งแต่ใช้อุปกรณ์ใดบ้างลำดับ ขั้นตอนในการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบทุกขั้นตอน)

9.ผลการศึกษาค้นคว้า เป็นการระบุผลที่ได้จากการสร้างสิ่งประดิษฐ์

10.สรุปผลของการศึกษาค้นคว้า เขียนอธิบายผลสรุปของการศึกษาค้นคว้าว่าได้ผลเป็นอย่างไรมีข้อบกพร่องหรือข้อจำกัดใดบ้าง

11.ข้อเสนอแนะให้ข้อเสนอแนะต่างๆที่คิดว่าควรปรับปรุงแก้ไขและได้ประโยชน์อะไรบ้างจากการทำโครงงานครั้งนี้

12.เอกสารอ้างอิงบอกชื่อหนังสือที่ใช้ศึกษาในงานครั้งนี้

6.การนำเสนอผลงาน

จัดเตรียมผลงานที่จะนำเสนอโดยมีการประชุมตกลงวางแผนการนำเสนองานตามหัวข้อสำคัญโดยทั่วไป แล้วจะประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้

- ชื่อเรื่อง

- ชื่อผู้จัดทำ

-ชื่อที่ปรึกษา

- ที่มาและความสำคัญของโครงงาน

- สมมติฐาน (ถ้ามี )

- วิธีดำเนินการ (ถ้ามีรูปประกอบด้วยจะดีมาก )

-ผลการทดลอง

- สรุปผล

- ข้อเสนอแนะ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv แปลภาษาอาหรับ-ไทย แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ค้นหา ประวัติ นามสกุล ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง ไทยแปลอังกฤษ ประโยค Terjemahan เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษาจีน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ่้แปลภาษา Google Translate ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย พร บ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 วิธีใช้มิเตอร์วัดไฟดิจิตอล สหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครอง ส่วนท้องถิ่น ห่อหมกฮวก แปลว่า Bahasa Thailand Thailand translate mu-x มือสอง รถบ้าน การวัดกระแสไฟฟ้า ด้วย แอมมิเตอร์ การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน แคปชั่น พจนานุกรมศัพท์ทหาร ภูมิอากาศ มีอะไรบ้าง สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น อาจารย์ ตจต อเวนเจอร์ส ทั้งหมด เขียน อาหรับ แปลไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน Google map Spirited Away 2 spirited away ดูได้ที่ไหน tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง กินยาคุมกี่วัน ถึง ปล่อยในได้ ธาตุทองซาวด์เนื้อเพลง บช.สอท.ตำรวจไซเบอร์ ล่าสุด บบบย มิติวิญญาณมหัศจรรย์ ตอนจบ รหัสจังหวัด อําเภอ ตําบล ศัพท์ทางทหาร military words สอบ O หยน