การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ปัจจัยความเป็นเลิศในการบริหารวิทยาลัยพยาบาล สังกัด กระทรวงสาธารณสุข 2) ผลการยืนยันปัจจัยความเป็นเลิศในการบริหารวิทยาลัยพยาบาล สังกัดกระทรวง สาธารณสุข ดำเนินการวิจัย 3 ขั้นตอน คือ
ขั้นตอนที่ 1 การกำหนดกรอบแนวคิดการวิจัย ศึกษาค้นคว้าตัวแปร เกี่ยวกับความเป็นเลิศในการบริหารโดยวิเคราะห์ แนวคิดหลักการ และทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง และนำข้อสรุปที่ได้มา วิเคราะห์เนื้อหาเป็นองค์ความรู้เกี่ยวกับปัจจัยความเป็นเลิศในการบริหารวิทยาลัยพยาบาล สังกัดกระทรวง สาธารณสุข และใช้เป็นแนวทางหรือกรอบในการสร้างแบบสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้าง แล้วนำ ไปสัมภาษณ์ผ้ทู รง คุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญ นำข้อมูลทั้งหมดที่สังเคราะห์ได้ไปสร้างเครื่องมือสังเกตชนิดตรวจสอบรายการ การบริหาร วิทยาลัยพยาบาล
เพื่อยืนยันตัวแปรความเป็นเลิศในการบริหาร ขั้นตอนที่ 2 การวิเคราะห์ปัจจัย กลุ่มตัวอย่าง คือ วิทยาลัยพยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 25 แห่ง ใช้วิธีสุ่มตัวอย่าง แบบสุ่มอย่างง่าย ผู้ให้ข้อมูล ประกอบด้วย 1) ผู้บริหาร ได้แก่ ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาล รองผู้อำนวยการ/ผู้ช่วยผู้อำนวยการ 2) หัวหน้า ภาควิชา/หัวหน้างาน ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปฏิบัติงานสอนในวิทยาลัยพยาบาล 3) หัวหน้างาน 4) ประธาน/กรรมการ วิทยาลัย รวมทั้งสิ้น 300 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามความคิดเห็น ผ่านการตรวจสอบความ ตรงเชิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 คน ได้ค่าดัชนีความเที่ยงตรงทั้งฉบับ เท่ากับ .94 หาค่าความเชื่อมั่นโดยใช้ สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค ได้ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ .98 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ ปัจจัยเชิงสำรวจด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยหลัก ใช้วิธีหมุนแกนปัจจัยแบบออโธโกนอลด้วยวิธีแวริแมกซ์ ขั้นตอนที่ 3 การยืนยันปัจจัย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารในสถาบันพระบรมราชชนกและผู้บริหารวิทยาลัยพยาบาลสังกัด กระทรวงสาธารณสุขที่ประสบผลสำเร็จในการบริหารสถาบัน จำนวน 5 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบตรวจสอบรายการ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า 1. ปัจจัยความเป็นเลิศในการบริหารวิทยาลัยพยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย 8 ปัจจัย ที่สำคัญ คือ 1) ภาวะผู้นำของผู้บริหาร 2) การมุ่งเน้นบุคลากร 3) การมุ่งเน้นปฏิบัติการ 4) การบริหารตามหลัก ธรรมาภิบาล 5) กระบวนการจัดการเรียนการสอน 6) ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 7) การวางแผนกลยุทธ์ และ 8) การมุ่งเน้นผลลัพธ์การดำเนินงาน 2. ผลการยืนยันปัจจัยความเป็นเลิศในการบริหารวิทยาลัยพยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 คน มีความเห็นสอดคล้องกัน โดยมีความเห็นว่า ปัจจัยความเป็นเลิศในการบริหารวิทยาลัย พยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้ง 8 ปัจจัย มีความเหมาะสม มีความเป็นไปได้ มีความถูกต้อง และเป็น ประโยชน์ ควรเพิ่มสมรรถนะความเป็นเลิศในการบริหารที่เหมาะสมให้กับบุคลากร และดำเนินการพัฒนาหลักสูตร เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร โดยตามบริบทที่จำเป็นในวิทยาลัยพยาบาล Downloads
Download data is not yet available.
License1. บทความหรือข้อคิดเห็นใด ๆ ที่ปรากฏในวารสารเครือข่าย วิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้ ที่เป็นวรรณกรรมของผู้เขียน บรรณาธิการหรือเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและวิทยาลัยการสาธารณสุขภาคใต้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย 2. บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้ "ประวัติความเป็นมาของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา" วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา ตั้งอยู่ที่ 177 ถนนช้างเผือก ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เริ่มก่อตั้งเมื่อปีพุทธศักราช 2497 โดยดำริของพันโทนายแพทย์หลวงนิตย์ เวชวิศิษฐ์ อธิบดีกรมการแพทย์ขณะนั้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตบุคลากรทางการพยาบาลให้มีจำนวนเพียงพอกับความต้องการของสังคม มีนายแพทย์น่วม เศรษฐจันทร เป็นผู้อำนวยการฯ ท่านแรกเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2498 โดยใช้ชื่อว่า โรงเรียนผดุงครรภ์และอนามัยนครราชสีมา นับเป็นโรงเรียนพยาบาลแห่งที่ 3 ของกระทรวงสาธารณสุข ปี พ.ศ.2517 กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงาน โรงเรียนพยาบาลฯ จึงเข้าไปสังกัดกองงานวิทยาลัยพยาบาล สำนักปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ต่อมาในปี พ.ศ. 2536 มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพื่อความเป็นเอกภาพในการผลิตและพัฒนาบุคลากรสุขภาพ วิทยาลัยฯ จึงได้เข้าสังกัดสถาบันพัฒนากำลังคน ด้านสาธารณสุขซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น สถาบันพระบรมราชชนก ปี พ.ศ. 2537 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานนามใหม่ว่า “วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา” นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยวิทยาลัยฯ ได้พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนทางการพยาบาลอย่างต่อเนื่อง และได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาขอนแก่น รับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมาเข้าเป็นสถาบันสมทบในปีพุทธศักราช 2540 ผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยฯจึงมีศักดิ์และสิทธิในปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยขอนแก่นทุกประการ พ.ศ. 2562 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณมหิศรภูมิพลราชวรางกูรกิติสิริสมบูรณอดุลยเดชสยามินทราธิเบศรราชวโรดมบรมนาถบพิตรพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่าโดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่า ด้วยสถาบันพระบรมราชชนกจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติ สถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. 2562 ขึ้นไว้ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 136 ตอนที่43ก วันที่ 5 เมษายน 2562 ให้ สถาบันพระบรมราชชนกเป็นสถาบันอุดมศึกษาเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของกระทรวงสาธารณสุขแห่งแรก มีสถานะเป็นนิติบุคคล มีภารกิจหลักในการผลิตและพัฒนาบุคลากรทางด้านสุขภาพ และเป็นสถานศึกษาเฉพาะทางด้านสุขภาพที่ จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาด้านการพยาบาล การสาธารณสุขและสหเวชศาสตร์ และให้วิทยาลัยในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขมีฐานะเป็นวิทยาลัยตามพระราชบัญญัตินี้ วิทยาลัยพยาบาลสังกัดอะไรพ.ศ.๒๔๗๔ ถึง พ.ศ. ๒๔๘๙ ได้มีการพัฒนามาเป็นวิทยาลัยพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ปัจจุบันมีวิทยาลัยพยาบาลจำนวน ๓๐ แห่ง กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
พยาบาลบรมมีคณะอะไรบ้างปริญญาตรี. พยาบาลศาสตรบัณฑิต. สาธารณสุขศาสตรบัณฑิต (สาธารณสุขชุมชน). สาธารณสุขศาสตรบัณฑิต (ทันตสาธารณสุข). การแพทย์แผนไทยบัณฑิต (การแพทย์แผนไทย). การแพทย์แผนไทยบัณฑิต (การแพทย์แผนไทยประยุกต์). วิทยาศาสตรบัณฑิต (เวชระเบียน). วิทยาศาสตรบัณฑิต (รังสีเทคนิค). วิทยาศาสตรบัณฑิต (อาชีวอนามัยและความปลอดภัย). คณะพยาบาลที่ไหนดี5 อันดับ สถาบันที่มีจำนวนผู้สมัครมากที่สุด. เรียนพยาบาลบรมที่ไหนดีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กรุงเทพ. |