วิธีการใดสามารถเสริมสร้างระบบไหลเวียนโลหิตได้ดี

แม้ความเกี่ยวพันระหว่างความเครียดกับโรคหัวใจจะยังไม่ชัดเจน แต่ความเครียดมีผลทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ระดับฮอร์โมนความเครียด อาทิ คอร์ติซอล และอะดรีนาลีน เพิ่มสูงจนเป็นอันตราย ทั้งยังส่งผลให้เกิดแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมทำลายสุขภาพ เช่น รับประทานอาหารมากขึ้น สูบบุหรี่มากขึ้น และออกกำลังกายน้อยลง

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ร่างกายและจิตใจรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น ขณะที่การทำสมาธิ นวดผ่อนคลาย เล่นโยคะก็เป็นวิธีผ่อนคลายที่ได้รับความนิยมเช่นกัน
 

 3) งดสูบบุหรี่

ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจประการใดจะร้ายแรงเท่ากับการสูบบุหรี่อีกแล้ว การเลิกบุหรี่ได้จึงเป็นประโยชน์มหาศาลต่อสุขภาพหัวใจ

บุหรี่ประกอบไปด้วยสารเคมีหลายชนิดที่เป็นอันตรายต่อหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต สารเหล่านี้จะเพิ่มความดันให้สูงขึ้น และลดปริมาณออกซิเจนในกระแสเลือดลง ดังนั้นไม่ว่าจะสูบมากหรือสูบน้อยก็เป็นอันตรายต่อร่างกายเช่นเดียวกัน แม้แต่ผู้ที่สูบเป็นบางครั้ง ก็ยังมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจสูงกว่าผู้ที่ไม่สูบเลย

การเลิกสูบบุหรี่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็มีหลายหนทางที่ช่วยให้เลิกได้ โดยควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมเฉพาะรายบุคคล
 

4) ลดน้ำหนักส่วนเกิน

ความอ้วน และน้ำหนักส่วนเกินไม่ส่งผลดีแต่ประการใด โดยเฉพาะกับสุขภาพหัวใจ น้ำหนักเกินนั้นเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ผู้ที่มีรอบเอวหนามีความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งทั้ง สามโรคนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่โรคหัวใจทั้งสิ้น
 

5) ควบคุมความดันโลหิต

ผู้ที่มีปัญหาเรื่องความดันโลหิตสูง มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจสูงโดยอัตโนมัติ เนื่องจากความดันโลหิตสูงเป็น "ส่วนผสม" พื้นฐานของโรคหัวใจ ในระยะยาวความดันโลหิตสูงจะทำให้เกิดการอักเสบ ทำลายผนังหลอดเลือดจนเกิดเป็นผลกระทบที่ร้ายแรงตามมา

มีปัจจัยหลายประการที่ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง ทั้งพันธุกรรม ความอ้วน การรับประทานอาหาร โดยไม่คำนึงถึงสุขภาพ และการขาดการออกกำลังกาย ดังนั้นการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตจึงเป็นวิธีที่ได้ผลดีในระยะยาว ในรายที่มีความดันสูงมาก ๆ เวชภัณฑ์ หลายชนิดก็ใช้ได้ผลดี

ผู้ที่ไม่อ้วนและดูเหมือนจะมีสุขภาพดี ก็อาจมีปัญหาเรื่องความดันโลหิตได้ หลีกเลี่ยงของทานเล่นที่มีไขมันสูง หรืออาหาร ทอดน้ำมันท่วม แล้วหันมารับประทานผัก ผลไม้มากขึ้นจะช่วยให้คุณควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติได้
  

6) รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ชีวิตที่เร่งรีบทำให้หลายคนไม่มีเวลาไตร่ตรองเรื่องการรับประทานอาหารเท่าไรนัก ทั้งฟาสต์ฟู้ด อาหารขยะ และการรับประทานมากเกินพอดี ล้วนเป็นอันตรายต่อสุขภาพและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้

ผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันว่าการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อหัวใจ หมายถึงการลดอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันและไขมันแปลงสภาพ รับประทานผักและผลไม้ประมาณ 5 ถึง 10 ส่วนต่อวัน เน้นธัญพืชไม่ขัดสี และบริโภคโปรตีนไขมันต่ำ อาทิ เนื้อไม่ติดมันและเนื้อปลา โดยเฉพาะปลาที่อุดมด้วยไขมันอย่างปลาแซลมอนที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 อยู่มากซึ่งอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันปาล์มและน้ำมันมะพร้าวในการประกอบอาหาร

นอกจากนี้ การรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉลี่ยผู้ใหญ่ควรรับประทานประมาณ 2,000 แคลอรี่ โดยให้มีสัดส่วนของไขมันไม่เกินร้อยละ 30 ดังนั้น อย่าลืมอ่านฉลากทุกครั้งเมื่อซื้อหาอาหารมารับประทาน
 

7) อย่าอยู่เฉย

การอยู่เฉย ๆ อาจทำให้เสียชีวิตได้ การออกกำลังกาย (อย่างน้อยวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 4 ถึง 5 ครั้ง) ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งยังลดความเสี่ยงต่อโรคอื่น ๆ ได้หลายประการ รวมทั้งโรคร้ายแรงอย่างเช่น โรคมะเร็ง

การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้หัวใจแข็งแรง ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดน้ำหนักส่วนเกิน ผ่อนคลายความเครียด ทำให้อารมณ์ดี และกระดูกแข็งแรงอีกด้วย

แม้ในสัปดาห์หนึ่ง ๆ คุณอาจไม่มีเวลาออกกำลังกายได้มากขนาด 4 หรือ 5 ครั้ง การออกกำลังกายแม้เพียง 1 ถึง 2 ครั้ง ก็ยังเป็นประโยชน์อยู่ดี เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย

คำเตือน: ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเรื่องการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสุขภาพของคุณ
 

8) ตรวจสุขภาพเป็นประจำ

ข้อสุดท้ายนี้อาศัยความพยายามเพียงเล็กน้อย แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นเป็นประโยชน์มาก การตรวจสุขภาพช่วยให้พบปัญหาที่อาจกลายเป็นอันตรายได้ตั้งแต่ในระยะแรกเริ่ม ซึ่งการรักษาจะได้ผลดี และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ทั้งความดันโลหิต และคอเลสเตอรอลเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคหัวใจ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการตรวจวัดความดันและระดับไขมันในเลือดเป็นระยะ ๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ

โดยทั่วไป ควรตรวจสุขภาพหัวใจทุก ๆ 2 ปี แต่สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงควรเพิ่มความถี่ในการตรวจมากขึ้น บางกรณีแพทย์อาจแนะนำให้เข้ารับการตรวจหัวใจขั้นสูง เช่น ทดสอบสมรรถภาพหัวใจบนสายพานวิ่ง แต่ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับอายุและสุขภาพของผู้เข้ารับการตรวจด้วย

ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร และสุขภาพของคุณเป็นอย่างไร การปรึกษาแพทย์ว่าคุณควรตรวจอะไร และเมื่อใดก็เป็นสิ่งจำเป็นที่คุณไม่ควรละเลย

11. สร้างความมันใจ เพียงแค่คุณหันมาสนใจและออกกำลังกายโดยการวิ่ง เป็นประจำ จะทำให้ร่างกายของคุณดูดีขึ้น รูปร่างดีขึ้น สุขภาพแข็งแรงขึ้น นั้นจะทำให้คุณเป็นคนมีบุคลิกภาพที่ดีนำไปสูความมั่นใจในตัวคุณมากขึ้น

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณข้อมูลจาก : Blockdit.com เพจ Club Health Club คนรักสุขภาพ