เพลงใกล้รุ่ง เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ประเภทใด

สุดท้ายกับเพลงพระราชนิพนธ์ ‘ในดวงใจนิรันดร์’ ซึ่งพูดถึงความรักที่ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถลืมได้ ความรักที่เคยมีในอดีตยังตามแผดเผาจิตใจอยู่ทุกเวลา ถึงแม้ว่าเวลาจะสามารถเยียวยาความเศร้าได้ แต่มันก็ไม่สามารถปัดเป่าความโศกให้หายไปได้อย่างแท้จริง สัมผัสที่มือครั้งนั้นยังอบอวลอยู่ภายใน บทเพลงรักนี้จะไม่มีวันจบเหมือนกับเวลาที่ไม่สามารถหยุดเดินได้ ถึงแม้บทเพลงจะเศร้าสร้อยและแสดงถึงความรักไม่สมหวังเพียงใด แต่ทำนองกลับรื่นเริงสนุกสนาน เปรียบเหมือนกับการทำใจยอมรับความผิดหวังนั้นได้แล้ว และมองมันเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่า ที่อย่างน้อยครั้งหนึ่งความสัมพันธ์นั้นได้เคยเกิดขึ้นและจะตราตรึงใจไปชั่วนิรันดร์

          The Fourth royal composition was written in 1946 while His Majesty was entitled the Royal Younger Brother. He granted it to Professor Dr. Prasert Na Nagara to write the lyrics in Thai, with the assistance of His Royal Highness Prince Chakrabhand Pensiri, and the lyrics in English by Thanpuying Nopakhun Thongyai Na Ayudhya, with His Royal Highness Prince Chakrabhand Pensiri’s help in refining the version. It was granted to the Suntharaporn Band to be performed for the first time on the Radio Broadcasting Station of the Department of Publicity (the present Public Relations Department) in July 1946.

เหตุผลสำคัญอันเข้าใจง่ายยิ่งที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นอัจฉริยะของโลก นั่นเป็นเพราะพระอัจฉริยภาพของพระองค์อย่างแท้จริง เพราะนอกเหนือจากโครงการหลวง และพระราชกรณียกิจทั้งหลายที่ได้ทรงสร้างเอาไว้แล้ว พระองค์ยังทรงมีพระปรีชาสามารถด้านศิลปะอีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดนตรี เพลง jazz ทรงประพันธ์ บทเพลงพระราชนิพนธ์ ไว้มากมาย ซึ่งทุกวันนี้ยังคงนิยมฟังติดหู และมีความหมายดี เชิงสร้างสรรค์ ที่ฟังแล้วจรรโลงใจอย่างที่สุด เช่น เพลงพระราชนิพนธ์ ใกล้รุ่ง ยิ้มสู้ พรปีใหม่ ฯลฯ

คลิกสมัครใช้ ShopBack          รับข่าวสารเงินคืน          แชร์โปร เก็บดีล 

เพลงใกล้รุ่ง เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ประเภทใด

ShopBack Blog เองเชื่อว่าคนไทยหลายคนต่างก็เติบโตมากับบทเพลงพระราชนิพนธ์ บางคนอาจจะร้องเป็นด้วย เพียงแต่อาจจะไม่รู้ว่า เอ๊ะ…นี่คือบทเพลงพระราชนิพนธ์หรือ? เพื่อเป็นการร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เลยเลือกสรร 9 บทเพลงพระราชนิพนธ์ในดวงใจ ที่ฟังเมื่อไหร่ก็ไม่เบื่อ เอามาให้ทุกคนได้ไปหาฟังกัน เคล้าไปกับการเล่าถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย อันเป็นที่มาที่ไปของแต่ละบทเพลงกันค่ะ

เพลงใกล้รุ่ง เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ประเภทใด

ความฝันอันสูงสุด (The Impossible Dream)

 เพลงนี้น่าจะเป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่ไม่ว่าใครก็ต้องเคยได้ยินกัน แค่ขึ้นท่อนแรกมาว่า “ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ” ก็คงพอจะทราบแล้ว ซึ่งที่มาของเพลงพระราชนิพนธ์ “ความฝันอันสูงสุด”

ความฝันอันสูงสุด ต่อยอดมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่มีพระราชประสงค์พระราชทานกำลังพระทัยแก่บรรดาข้าราชการทหาร ตำรวจและพลเรือน มิให้ท้อถอยในการปฏิบัติหน้าที่ต่อชาติบ้านเมือง เนื้อเพลงแต่ละท่อน จึงเป็นอะไรที่สร้างความรู้สึกฮึกเหิมได้เป็นอย่างดี

เพลงใกล้รุ่ง เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ประเภทใด

ไม่ใช่เฉพาะแต่ตำรวจ ทหาร เท่านั้น ข้อคิดดีๆ ในเพลง ยังสามารถเอามาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคนได้ ถ้าเราเชื่อมั่นใน ความฝันอันสูงสุดไม่ท้อถอย ไม่ยอมแพ้แม้ถูกหยัน ที่สุดแล้วทุกคนก็สามารถประสบความสำเร็จได้ค่ะ

ชะตาชีวิต (H.M. Blues)

 เพลงพระราชนิพนธ์เพลงนี้ ความหมายของเนื้อหาภาษาไทยและภาษาอังกฤษนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงค่ะ เนื่องจากคราแรก ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองแล้วโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ประพันธ์คำร้องภาษาอังกฤษ โดยใช้ชื่อว่า “H.M. Blues” ซึ่งทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่าคงจะหมายถึง His Majesty’s Blues

แต่แท้ที่จริง เนื้อหาในเพลงแสดงให้เห็นถึงพระราชอารมณ์ขันของพระองค์ เพราะเหตุว่าในงานรื่นเริงที่ทรงเชิญข้าราชบริพาร นักเรียนไทยไปร่วมงานเป็นการส่วนพระองค์นั้น พระองค์และวงดนตรีต้องบรรเลงเพลงร่วมกันเป็นเวลาครึ่งคืน มิได้ทรงหยุดเพื่อเติมเสบียงกระเพาะเลย ในขณะที่ผู้ได้รับเชิญทุกคนได้รับพระราชทานอาหารอย่างอิ่มหนำสำราญ H.M. Blues  ที่ว่า แท้จริงแล้วจึงหมายถึง “Hungry Men’s Blues” นั่นเอง!

ส่วนเนื้อเพลงในภาษาไทย แปลงเนื้อสะท้อนถึงปรัชญาชีวิตในเรื่อง “ความหวัง” ที่ถึงแม้ชีวิตของเราจะไม่มีอะไรดีเลยก็ตาม เหมือนอย่างนกน้อยในเพลง แต่เราก็ต้องมีความเชื่อมั่นว่า ในวันพรุ่งนี้จะต้องเป็นวันที่สดใส และดีขึ้นอย่างแน่นอน

ShopBack Tips : เรื่องราวพระราชอารมณ์ขันของในหลวงรัชกาลที่ 9 ยังมีอีกมาก ShopBack Blog เคยอ่านเจอจากในหนังสือหลายๆ เล่มที่เขียนถึง มีหนังสือที่รวมรวมเรื่องราวเหล่านี้เอาไว้โดยเฉพาะ อยากหาอ่านเพลินๆ ชวนอมยิ้มกึ่งซึมซับเรื่องราวประวัติศาสตร์ เข้าไปหากันได้ที่ ร้านหนังสือนายอินทร์ เข้าผ่าน ShopBack ด้วยนะอย่าลืม จะได้ได้เงินคืนไงคลิกซื้อร้านหนังสือนายอินทร์ ผ่าน ShopBack

ยามเย็น (Love at Sundown)

เป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 2 ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ด้วยจังหวะแบบ Foxtrot เพลงนี้จึงเหมาะสำหรับการเต้นรำเอามากๆ ทั้งยังเข้ากันดีกับบรรยากาศยามเย็นอีกด้วย

พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา แต่งคำร้องภาษาอังกฤษ และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทย เนื้อหาของเพลงนั้นค่อนไปทางเหงาๆ สะท้อนถึงบรรยากาศในยามที่พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า ท้องฟ้าก็คงต้องเหงาเมื่อขาดแสงอาทิตย์มาคอยสาดส่อง ShopBack Blog หยิบเพลง ยามเย็น เวอร์ชั่น ป็อป ปองกูล มาให้ฟัง เพราะเพลินดีมากๆ เลยค่ะ ยามเย็น เวอร์ชั่นนี้

สายฝน (Fallin Rain)

 “สายฝน” เป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์ในจังหวะวอลต์ซ Waltz ซึ่งมีเมโลดี้ที่ไพเราะเป็นอย่างมาก ชวนให้จินตนาการถึงสายฝนที่กำลังตกพรำๆ โดยเนื้อหาในเพลงก็พรรณนาถึงสายฝนกับธรรมชาติ อันเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ ที่คนเราจะได้รับหลังจากการทำงานอย่างหนัก หรือเมื่อผ่านความยากลำบากมาแล้วนั่นเอง

เพลงสายฝน จึงเป็นบทเพลงที่ฟังง่าย แต่แฝงนัยของความหวัง สร้างกำลังใจ และทำให้รู้สึกสดชื่นได้ ใครที่กำลังเหนื่อย กำลังท้อแท้ เพลงนี้ช่วยเยียวยาจิตใจได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ ShopBack Blog ชอบเพลงนี้ที่ร้องในเวอร์ชั่นของ อิมเมจ สุธิตา มากๆ เลย

ShopBack Tips : คิดถึงพ่อหลวง อยากย้อนไปหาช่วงเวลาดี ไปเที่ยวโครงการหลวงกันสิคะ ดื่มด่ำความชุ่มฉ่ำไปกับสายฝนที่พ่อสร้าง เช่น โครงการหลวงดอยอินทนนท์ และ 5 ที่เที่ยวโครงการหลวง จังหวัดเชียงใหม่ คิดแล้วก็จองตั๋วเครื่องบิน และที่พักได้เลยที่ Agoda พร้อมรับส่วนลดและเงินคืนจาก ShopBack อีกเพียบ ลุยเลยค่ะที่ Agodaคลิกจอง Agoda ผ่าน ShopBack 

เพลงใกล้รุ่ง เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ประเภทใด

ใกล้รุ่ง (Near Dawn)

 บทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 4 เพลงพระราชนิพนธ์ ใกล้รุ่ง ในทำนอง Jazz ฟังสบาย เข้ากันดีกับบรรยากาศในยามเช้า โดยเนื้อเพลงนั้น พระองค์ได้พระราชทานทำนองให้ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ประเสริฐ ณ นคร นำไปประพันธ์คำร้องภาษาไทย โดยมิได้ทรงกำหนดพระราชประสงค์

ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ประเสริฐ ได้เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า แรงบันดาลใจของเนื้อเพลงพระราชนิพนธ์ ใกล้รุ่ง เพลงนี้ มาจาก ”เสียงไก่ขัน” ที่ได้ยินจากข้างบ้าน เนื้อเพลงจึงพรรณนาถึงบรรยากาศตอนใกล้รุ่งสางชนิดได้แบถึงใจ ถึงอารมณ์ กันเลยทีเดียว ทั้งเสียงไก่ขัน กลิ่นดอกไม้หอยฟุ้งที่พัดโชยมาพร้อมกับลมเย็นๆ และการเฝ้ารอพระอาทิตย์ขึ้น ช่างเป็นยามเช้าที่เบิกบานใจจริงๆ ค่ะ เพลงนี้ขับร้องในเวอร์ชั่นคุณ นนทิยา จิวบางป่า ฟังแล้วสนุกมาก

เพลงใกล้รุ่ง เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ประเภทใด

ยิ้มสู้ (Smiles)

 อีกหนึ่งเพลงอันไพเพราะ ความหมายดี ที่ทรงมีพระประสงค์เพื่อเป็นการปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่คนตาบอด ดังที่ได้พระราชทานนำไปบรรเลงในงานสมาคมช่วยคนตาบอดในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อปี 2495

เพลงนี้มีความหมายที่ให้กำลังใจว่า คนเราจะทุกข์หรือจะสุข ก็อยู่ที่ใจตัวเองนี่แหละ ถ้าเราสามารถยิ้มสู้ให้กับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้ แม้ชีวิตจะต้องเผชิญปัญหามากมายขนาดไหน เราก็สู้ไม่ถอยแน่นอน ถ้าอยากสู้ ให้เริ่มจาก “ยิ้มสู้” กันก่อนเลย

พรปีใหม่

 เป็นเพลงที่พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ เมื่อเสด็จนิวัตพระนครและประทับ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องเป็นคำอวยพรปีใหม่ ถือเป็นอีกหนึ่งบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่เรามักได้ยินกันในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี ทำนองเพลงจะค่อนไปในทางสนุกสนาน เป็นเพลงสตริงเก่าเพราะๆ ทว่าฟังแล้วก็รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

คำร้องจะเป็นการอวยพรให้ทุกคนพบเจอแต่สิ่งดีๆ ในปีใหม่ เสมือนว่าพระองค์ท่านพระราชทานพรและความปรารถนาดีให้แก่พสกนิกรชาวไทยทุกคน ตอนนี้ถ้านึกถึงเพลงนี้เวอร์ชั่นสนุกสุดๆ ยกให้เวอร์ชั่นจากภาพยนตร์เรื่อง พรจากฟ้า เลยค่ะ ได้พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตยมาฟีเจอริ่งในเพลงด้วย ดีต่อใจมากๆ

Oh I Say

 ‘Oh I Say’ เพลงนี้เป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่มีคำร้องเป็นภาษาอังกฤษอย่างเดียวเท่านั้น มีจังหวะที่สนุกสนาน พร้อมกับคำร้องที่ติดหู “Oh let me say, just to say, What I’ll say. Or do you say” ซึ่งเป็นการเล่นคำได้สอดคล้องลงตัว สำหรับ ShopBack Blog แล้ว เพลงนี้เป็นเพลงที่ฟังง่าย ฟังได้ตลอดไม่มีเบื่อ แถมได้ฟังทีไร เป็นต้องโยกตัวร้องตามทุกครั้งไปค่ะ ฟีลกู้ดสุดๆ เวอร์ชั่น 3 สาว แก้ม, พรีน, ซิลวี่ เพราะมาก อยากให้ฟัง

ในดวงใจนิรันดร์ (Still on My Mind)

 

สำหรับบทเพลงสุดท้ายที่ ShopBack Blog เลือกมา คือเพลง “ในดวงใจนิรันดร์” หรือ “Still on My Mind เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ทั้งทำนองและคำร้องภาษาอังกฤษด้วยพระองค์เอง ฟังแล้วชวนให้นึกไปถึงภาพความรักความผูกพันระหว่างพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีกลิ่นอายของความโรแมนติกอบอวลอยู่ทั้งในเมโลดี้และคำร้อง

ฟังแล้วก็รู้สึกเคลิบเคลิ้ม ราวกับว่าความทรงจำต่างๆ นั้นยังคงตราตรึงอยู่ในใจดังเช่นชื่อเพลง เวอร์ชั่นขับร้องโดยวง OverMe บอกเลยว่า ชอบมากตั้งแต่หน้าปกเพลงบนยูทูบเลยค่ะ ลองฟังดู

ShopBack Tips : เช่นเดียวกับทุกๆ ปี ในปีนี้ก็ได้มีการแสดงเทิดพระเกียรติพระผู้เป็นอัครศิลปินจัดให้เราได้ชมมากมาย ซึ่งเรารวบรวมมาไว้ให้แล้วที่ 5 การแสดงเทิดพระเกียรติอัครศิลปิน ความงดงามที่อยากให้คนไทยไม่พลาดชม นอกจากนี้ อีกหลากหลายเรื่องราว และสถานที่ที่แสดงถึงความเป็นไทย ยังรอให้คุณค้นพบอีกที่ Klook แหล่งรวมบัตรเข้าชมสถานที่ยอดฮิตจากทั่วทุกมุมโลก เมืองไทยมีอะไรดี เข้าไปหาดูได้ที่นี่ พร้อมรับส่วนลดและเงินคืนจาก

เพลงใกล้รุ่งเป็นเพลงประเภทใด

ใกล้รุ่งเป็นเพลงทำนองแจ๊สที่ฟังสบายๆ เหมาะกับยามเช้า ในบทเพลงพรรณาถึงความสวยงามของบรรยากาศใกล้รุ่ง การเพลิดเพลินใจเมื่อฟังเสียงไก่ขัน หรือแม้แต่การเฝ้ารอพระอาทิตย์ขึ้น ที่ส่องสว่างและให้ความอบอุ่นกับเราทุกคน อีกทั้งยังสื่อถึงความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ และสร้างแรงใจให้คนไทยไม่ละทิ้งความหวัง เหมือนกับพระอาทิตย์ ...

เพลงใกล้รุ่งเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ของรัชกาลใด

KLAI ROONG. ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ

เพลงพระราชนิพนธ์เป็นเพลงแบบใด

เพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หมายถึง เพลงที่พระองค์พระราชนิพนธ์เนื้อเพลงและ ทำนอง หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชปรีชาญาณในเรื่องของดนตรี และทรงพระราชนิพนธ์ทำนองเพลงตั้งแต่ยังทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช รวมบทเพลงพระราชนิพนธ์ ...

เพลงพรปีใหม่เป็นเพลงประเภทใด

เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 13 หากสังเกตในส่วนเนื้อเพลงที่มีคำว่า 'ข้า' นั้นก็เป็นคำสรรพนามบุรุษที่หนึ่งมาจากคำว่า 'ข้าพเจ้า' ซึ่งหมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นั่นเอง เพื่อให้เพลงนี้เสมือนกับพระองค์มาอวยพรให้เหล่าพสกนิกรด้วยพระองค์เองผ่านบทเพลง ส่วนคำว่า 'ปวงท่าน' ในที่นี้ก็หมายถึงพสกนิกร คนไทยทุกหมู่เหล่า